ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1222 ถังจื่อโม่บุกมาถึงที่ (1)
กู้หวูเห็นท่าทีของกู้หวูแล้วรู้สึกกลัว ไม่กล้าถามกู้หวู จึงยื้อแย้งกันไปถามถังจื่อโม่ พวกเขามั่นใจว่าสามารถได้รับคำตอบที่อยากจะได้จากปากเด็กอายุห้าขวบอย่างง่ายดาย
กู้หวูไม่กังวลแม้แต่น้อย เขาอยากจะลวงคำตอบจากปากคุณชายน้อยยังเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ นักข่าวพวกนี้อยากจะลวงคำตอบจากปากคุณชายน้อยของเขา? ฝันไปเถอะ
กู้หวูคิดว่าคุณชายน้อยของเขาต้องไม่สนใจนักข่าวพวกนี้แน่นอน ต้องไม่ต้องคำถามของพวกนักข่าวแน่นอน
ทว่าถังจื่อโม่กลับหยุดลง เขาหันไปมองนักข่าวพวกนั้นอีกครั้ง มุมปากกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นพูดทีละคำอย่างช้าๆ:“เคยได้ยินชื่อขององค์กรโกสต์ซิตี้ไหม?”
ทันทีที่ถังจื่อโม่พูดออกไป ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง แม้แต่กู้หวูที่ยืนอยู่ข้างถังจื่อโม่ก็ตกตะลึงอย่างมาก
นี่มันเรื่องอะไรกัน? คุณชายน้อยพูดถึงองค์กรโกสต์ซิตี้หมายความว่าอะไร?
หรือว่าคุณชายน้อยอยากจะปลอมตัวเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้?
ตกลงกันแล้วว่าเขาคือคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลของพวกเขาไม่ใช่เหรอ?
กฎระเบียบขององค์กรโกสต์ซิตี้เข้มงวดมาก
“แน่นอนว่าเคยได้ยิน องค์กรโกสต์ซิตี้สุดยอดขนาดนั้น ต้องเคยได้ยินอยู่แล้ว” นักข่าวแต่ละคนคิดขึ้นได้แล้วตอบคำถาม
แน่นอน ตอนนี้นักข่าวทุกคนต่างมองไปที่ถังจื่อโม่ อยากจะฟังดูว่าต่อจากนี้ถังจื่อโม่จะพูดเรื่องน่าตกตะลึงอะไร
“อืม ดูท่าจะรู้กันหมดแล้ว” ถังจื่อโม่พยักหน้าด้วยความจริงจัง จากนั้นหันไปมองกู้หวู:“ดูท่าชื่อเสียงขององค์กรโกสต์ซิตี้โด่งดังอย่างมาก”
มุมปากของกู้หวูอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมา แน่นอนว่าชื่อเสียงขององค์กรโกสต์ซิตี้โด่งดังอย่างมาก แต่ว่าเกี่ยวอะไรกับเป้าหมายการมาที่นี่ในวันนี้ของพวกเขา อีกทั้งคุณชายน้อยพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?
คุณชายน้อยอยากจะสื่ออะไรกันแน่?
กู้หวูไม่เข้าใจความคิดของคุณชายน้อยถังจื่อโม่ แต่ว่ากู้หวูก็รีบพยักหน้าด้วยความร่วมมือ:“ใช่”
ถังจื่อโม่พยักหน้าด้วยความจริงจังอีกครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ว่าเดินตรงเข้าไปในโรงพยาบาล
“หนูน้อย อย่าเพิ่งไปสิครับ สิ่งที่หนูพูดเมื่อกี้หมายความว่าอะไร? หรือว่าหนูเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้?” ต่อมความอยากรู้ของนักข่าวถูกถังจื่อโม่กระตุ้นขึ้นมา เห็นถังจื่อโม่กำลังจะไป ก็ร้อนใจ
“หนูน้อย หนูเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้เหรอครับ? แล้วหนูเป็นใครในองค์กรโกสต์ซิตี้ครับ?” สำหรับเรื่องภายในองค์กรโกสต์ซิตี้คนนอกไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ ดังนั้นตอนนี้ทุกคนจึงยิ่งอยากจะรู้ว่าเด็กน้อยเป็นใคร
เห็นเด็กน้อยวางมาดยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน?!
คิดถึงความยิ่งใหญ่ขององค์กรโกสต์ซิตี้ เวลานี้นักข่าวสงบเสงี่ยมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าจะทำให้คุณชายน้อยคนนี้ไม่พอใจ เพราะถึงอย่างไรไม่มีใครอยากมีปัญหากับองค์กรโกสต์ซิตี้
เด็กน้อยถังจื่อโม่ไม่ตอบคำถาม เดินตรงเข้าไปในโรงพยาบาลต่อ เพราะกลัวองค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นตอนนี้นักข่าวจึงไม่กล้าขวางทางถังจื่อโม่ตรงๆ ทำได้เพียงรีบตามถังจื่อโม่ไปเท่านั้น
“หนูน้อย หนูเป็นใครกันแน่? ทั้งหมดนี้คือบอดี้การ์ดของหนูเหรอครับ?” นักข่าวเห็นถังจื่อโม่ไม่ตอบคำถาม จึงเปลี่ยนรูปแบบการถาม อยากจะเก็บข่าวให้ได้มากขึ้นจากการถามอ้อมๆ
แค่ว่าถังจื่อโม่ยังคงไม่ตอบคำถาม
“หนูน้อย เมื่อกี้หนูบอกว่ามาหาคน? แล้วหนูมาหาใครครับ?” นักข่าวคนนั้นเห็นว่าไม่ได้รับคำตอบเรื่องตัวตนของถังจื่อโม่ จึงคิดถึงสิ่งที่ถังจื่อโม่พูดเมื่อก่อนหน้านี้ ถังจื่อโม่บอกว่ามาหาคน ในเมื่อมาหาอย่างเปิดเผยขนาดนี้ น่าจะพูดได้รึเปล่า
เป็นจริงตามนั้น ถังจื่อโม่ได้ยินคำพูดของนักข่าวคนนั้น หยุดเดินอีกครั้ง:“ผมมาหาคุณปู่เย่ พวกคุณรู้ไหมว่าคุณปู่แย่พักอยู่ห้องไหน?”
มุมปากของกู้หวูอดไม่ได้ที่จะกระตุกอีกครั้ง คุณชายน้อยของเขากลัวจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่มากพอจริงๆ มาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ แล้วยังจะบอกให้ทุกคนรู้อีก
“คุณปู่เย่? หนูมาหาคุณปู่เย่เหรอครับ?” นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง เด็กคนนี้มาหาคุณปู่เย่เนี่ยนะ หลังจากตกตะลึงไปแล้ว นักข่าวทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะดีใจขึ้นมา
พวกเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลเพื่อจะขุดคุ้ยข่าวที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ให้มากขึ้น คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะรอแล้วได้ข่าวมากขึ้นจริงๆ
เดิมทีพวกเขาคิดว่าคุณชายสามเย่ต้องมาก ความเป็นจริงพวกเขากำลังรอคุณชายสามเย่
ทว่าคิดไม่ถึงกลับมีเด็กคนหนึ่งมาแทน ตัวตนของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา ดูเหมือนจะเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้
คนขององค์กรโกสต์ซิตี้มาหาคุณปู่เย่ตอนนี้? อีกทั้งคำพูดตรงไปตรงมาเมื่อกี้ของเด็กคนนี้คือมาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่อย่างนั้นเหรอ?!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
หรือว่าเป็นเพราะเรื่องงานแต่งงานของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้? คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่ คุณปู่เย่เป็นคนตัดสินใจเรื่องงานแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้แทนคุณชายสามเย่ แน่นอนว่าคุณชายสามแย่สามารถไม่รักษาสัญญา
ซึ่งเท่ากับว่าตระกูลเย่ปฏิเสธงานแต่งงาน
อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งานแต่งงานของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ใช่ว่าคิดอยากจะปฏิเสธแล้วปฏิเสธได้ แน่นอนว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับเจ้าหญิงของพวกเขา
คุณปู่เย่เป็นคนตอบตกลงเรื่องงานแต่งงาน องค์กรโกสต์ซิตี้ต้องมาหาคุณปู่เย่แน่นอน
เมื่อคาดเดากันแบบนี้ เรื่องทั้งหมดก็ถือว่ามีเหตุและผล
“หนูมาหาคุณปู่เย่เพราะเรื่องแต่งงานขององค์กรโกสต์ซิตี้ใช่ไหมครับ?”
“หนูมาทวงคืนความยุติธรรมให้กับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกหนูใช่ไหมครับ?”
“ไม่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง”
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์มีคำถามมากมายอยากจะถาม
“ตอนนี้ผมไม่สามารถตอบคำถามพี่ๆนักข่าวได้ เรื่องทั้งหมดต้องรอให้ผมเจอกับคุณปู่เย่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน แน่นอนว่าถ้าคุยกันได้ก็คุย ถ้าคุยกันไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีอื่นจัดการ” ถังจื่อโม่ขยับแว่นกันแดดของตนเอง ดูทรงพลังอย่างมาก
ชั่วขณะหนึ่งพวกนักข่าวลืมไปสนิทว่าเขาเป็นแค่เด็กอายุห้าขวบ ตอนนี้ทุกคนต่างเชื่อคำพูดของถังจื่อโม่
“ตอนนี้หนูจะเข้าไปคุยกับคุณปู่เย่เหรอครับ? หนูจะคุยอะไรกับคุณปู่เย่? คุยยังไงครับ?” นักข่าวแต่ละคนถามคำถามหลายอย่างที่ตนต้องการถาม
“ดูจากท่าทีของหนูแล้วเตรียมพร้อมมาอย่างดี องค์กรโกสต์ซิตี้โมโหเพราะเรื่องงานแต่งงานแล้วใช่ไหมครับ?”
“แล้วตอนนี้ท่าทีขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นอย่างไรครับ?”
“องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่คิดจะยกโทษให้ตระกูลเย่แล้วใช่ไหมครับ?”
ชั่วขณะหนึ่งคำถามของนักข่าวคนหนึ่งถามแล้วอีกคนถามอีก เวลานี้ไม่มีใครมองถังจื่อโม่เป็นเด้กแล้ว เพราะคำพูดเมื่อกี้ของถังจื่อโม่ ท่าทีของถังจื่อโม่ รวมถึงความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆของถังจื่อโม่ทำให้พวกเขาตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า ถึงแม้เด็กคนนี้จะอายุยังน้อย แต่ไม่ธรรมดาแน่นอน
ไม่อย่างนั้นองค์กรโกสต์ซีตี้ไม่มีวันปล่อยให้เด็กคนหนึ่งมาจัดการเรื่องนี้
“ผมบอกแล้ว เรื่องทุกอย่างค่อยว่ากันหลังจากที่ผมเจอคุณปู่เย่ แน่นอนว่าเรื่องในอนาคตจะจัดการยังไง ก็ต้องรอผมเจอคุณปู่เย่ก่อนค่อยว่ากัน” ดวงตาคู่นั้นของถังจื่อโม่มองไปรอบๆ ถึงแม้เสียงของเขาจะอ้อแอ้เล็กน้อย แต่น่าเกรงขามอย่างมาก
“แต่ว่าตอนนี้คุณปู่เย่หมดสติไปแล้ว อาจจะยังไม่ได้สติ ตอนนี้หนูไปหาคุณปู่เย่คงไม่สะดวกเท่าไหร่รึเปล่าครับ?”
“ผมได้ยินว่าคุณปู่เย่หมดสติ ดังนั้นผมจึงอยากมาดูอาการของคุณปู่เย่” คำพูดนี้ของถังจื่อโม่กำลังดี
น้ำเสียงของถังจื่อโม่ชะงักไปเล็กน้อย หันไปมองกู้หวูอีกครั้ง:“ถ้าอย่างนั้นนายเข้าไปถามก่อน ถามดูว่าพวกเราสามารถเข้าไปได้หรือไม่”
“ห๊ะ? ครับ!” กู้หวูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ชั่วขณะหนึ่งไหวตัวไม่ทัน
คุณชายน้อย พวกเขามาคิดบัญชี มาคิดบัญชีแล้วยังต้องถามคนอื่นอีกเหรอว่าให้พวกเขาเข้าไปไหม?
มีการคิดบัญชีแบบนี้ด้วยเหรอ?
แต่ว่าหลังจากกู้หวูดึงสติกลับมาเขาก็เข้าใจความหมายของถังจื่อโม่ทันที ที่แท้ถังจื่อโม่จงใจพูดถึงองค์กรโกสต์ซิตี้เพราะมีจุดประสงค์นี้นี่เอง
ถ้าพวกเขาบุกเข้าไปกับคุณชายน้อย คุณย่าเย่ต้องให้คนมาขวางเอาไว้แน่นอน ถึงเวลานั้นต้องเป็นปัญหาใหญ่โต อีกทั้งต่อให้เป็นปัญหาใหญ่โตก็ใช่ว่าพวกเขาจะได้เจอกับคุณปู่เย่อย่างราบรื่น
แต่ว่าคุณชายน้อยจงใจพูดถึงองค์กรโกสต์ซิตี้ จงใจทำให้คนเข้าใจว่าเขาคือคนขององค์กรโกสต์ซิตี้
คุณย่าเย่ต้องไม่กล้าแน่ๆ และไม่มีวันขวางทางคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาก็จะสามารถเข้าไปอย่างราบรื่น ทั้งยังมีคนเชิญเข้าไป
“ครับ ผมไปเดี๋ยวนี้” หลังจากกู้หวูเข้าใจ เขาไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียวแล้วรีบเข้าไปในโรงพยาบาลทันที ตอนนี้กู้หวูรู้สึกนับถือคุณชายน้อยของเขามากจริงๆ ดังนั้นคำสั่งของคุณชายน้อย เขาไม่มีวันชักช้าแม้แต่น้อย
“หนูน้อย หนูช่วยบอกชื่อของหนูให้พวกเรารู้หน่อยได้ไหมครับ?” นักข่าวเห็นกู้หวูเข้าไปในโรงพยาบาล จึงพุ่งเป้ามาที่ถังจื่อโม่อีกครั้ง ถึงแม้ท่าทีของถังจื่อโม่เมื่อกี้จะเย็นชา ไม่ตอบคำถามของพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคงอยากจะลวงคำตอบออกมาจากปากของถังจื่อโม่
อย่างน้อยต้องรู้ก่อนว่าเด็กคนนี้เป็นใคร ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเขียนข่าวยังไง?