ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1223 ถังจื่อโม่บุกมาถึงที่ (2)
คงจะเขียนว่าเป็นบุคคลปริศนาขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้รึเปล่า?!
สำหรับคำถามแบบนี้แน่นอนว่าถังจื่อโม่ไม่มีวันตอบ เขาไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ปลอมตัวให้ยุ่งยาก แน่นอนว่าเขาไม่อยากโกหก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่ตอบ
“หนูน้อย หนูรู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไหมครับ?” นักข่าวอีกคนคิดหาวิธีถามรูปแบบใหม่ อยากจะใช้วิธีนี้เพื่อสืบตัวตนของถังจื่อโม่
ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่านักข่าวคนนี้ฉลาดมาก ถ้าหากถังจื่อโม่รู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าอย่างนั้นฐานะของถังจื่อโม่ในองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องไม่ต่ำต้อยแน่นอน
ถังจื่อโม่ชำเลืองมองนักข่าวคนนั้น จากนั้นตอบเสียงเบาสั้นๆ:“ไม่รู้จักครับ”
“ห๊ะ? ไม่รู้จัก? หนูไม่รู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้?” นักข่าวตกตะลึงกันหมด พวกเขาดูท่าทียิ่งใหญ่ของเด็กคนนี้ คิดว่าเด็กคนนี้ต้องมีฐานะไม่ธรรมดาในองค์กรโกสต์ซิตี้ อีกทั้งเด็กคนนี้ยังมาทวงคืนความยุติธรรมให้กับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนแรกเขาคิดว่าไม่แน่เด็กคนนี้อาจจะเป็นลูกชายขององค์กรโกสต์ซิตี้ หรือไม่ก็เป็นหลานชาย
คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้กลับไม่รู้จักหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้
“แปลกเหรอครับที่ผมไม่รู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้? หรือว่าพวกพี่ๆนักข่าวรู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้?” ถังจื่อโม่ตอบอย่างมีเหตุมีผล
“แน่นอนว่าผมไม่รู้จักหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ ผมไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ว่าหนูเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ อีกทั้งหนู……” นักข่าวคนนั้นได้ฟังคำพูดของถังจื่อโม่ จึงโต้เถียง
ในเวลานี้เอง ถังจื่อโม่เห็นกู้หวูเดินออกมาจากโรงพยาบาล พยักหน้าให้ถังจื่อโม่จากที่ไกลๆ ความหมายของเขาชัดเจนมาก คุณย่าเย่อนุญาตให้เขาเข้าไปแล้ว
“ใครบอกพี่นักข่าวว่าผมเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้? ผมได้บอกเหรอครับว่าผมคือคนขององค์กรโกสต์ซิตี้?” เป้าหมายของถังจื่อโม่บรรลุแล้ว ได้ประโยชน์แล้วเขี่ยทิ้ง
นักข่าวคนนั้นถึงกับตาค้าง ไม่เพียงแต่นักข่าวคนที่ถามคำถามเมื่อกี้เท่านั้นที่ตาค้าง นักข่าวทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตาค้างเหมือนกัน เด็กคนนี้ไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เหรอ?
เมื่อกี้เด็กคนนี้พูดชัดเจนว่า……
ทุกคนครุ่นคิดอย่างละเอียด เด็กคนนี้ไม่ได้บอกว่าตนเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ เด็กคนนี้แค่ถามพวกเขาว่ารู้จักองค์กรโกสต์ซิตี้ไหม?
เด็กคนนี้ไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เนี่ยนะ แล้วสิ่งที่เขาถามเมื่อกี้หมายความว่าอะไร?
เด็กคนนี้ไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เนี่ยนะ แล้วตอนนี้เขามาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่หมายความว่าอะไรกันแน่?
เวลานั้นนักข่าวทุกคนต่างงุนงงเพราะถังจื่อโม่
กู้หวูเดินออกมาจากโรงพยาบาล แน่นอนว่าได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่เป็นธรรมดา กู้หวูอดไม่ได้ที่จะยิ้ม คุณชายน้อยของเขาเก่งที่สุดจริงๆ
ก่อนหน้านี้คุณชายน้อยของเขาจงใจพูดถึงองค์กรโกสต์ซิตี้ ให้ทุกคนเข้าใจผิด เห็นได้ชัดว่าคุณชายน้อยแสดงละครตบตาคุณย่าเย่
เมื่อกี้เขาเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย แค่พูดว่าคุณชายน้อยของเขาอยากจะมาเยี่ยมคุณปู่เย่ คุณย่าเย่ก็ตอบตกลงทันที
เห็นได้ชัดคุณย่าเย่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพยาบาลแล้ว คุณย่าเย่ต้องเข้าใจว่าคุณชายน้อยเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้แน่นอน
ในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าคุณย่าเย่ไม่กล้ามีปัญหากับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ และไม่กล้าปล่อยให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รออยู่ด้านนอก
แต่ว่าคุณชายเย่เขี่ยทิ้งเร็วเกินไปแล้ว พวกเขายังไม่ได้เจอคุณปู่เย่เลย คุณชายน้อยไม่กลัวว่าถึงเวลาคุณย่าเย่จะปล่อยให้พวกเขารออยู่ด้านนอกเหรอ?
“คุณชายน้อย คุณย่าเย่ให้พวกเราเข้าไปด้านในครับ” กู้หวูไม่อยากให้คุณย่าเย่มีโอกาสได้เปลี่ยนใจ เขาจึงจงใจพูดเสียงดัง
แต่ว่า เวลานี้นักข่าวที่อยู่ด้านนอกไม่ได้เปิดถ่ายทอดสด ภายในห้องพักผู้ป่วยของคุณปู่เย่ก็ไม่ได้เปิดโทรทัศน์ อีกทั้งเป็นไปไม่ได้ที่คุณย่าเย่จะดูโทรศัพท์ตลอดเวลา เพราะถึงอย่างไรตอนนี้คุณปู่เย่ยังคง ‘หมดสติ’
คุณย่าเย่เองก็ไม่ได้รู้เร็วขนาดนั้นว่าเมื่อกี้คุณชายน้อยพูดอะไร ก่อนหน้านี้คุณย่าเย่น่าจะให้คนเฝ้าอยู่ด้านนอก หลังจากคุณชายน้อยมา คนพวกนั้นก็รายงานสถานการณ์ให้คุณย่าเย่ฟัง คุณย่าเย่จึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอก
ตอนที่เขาไป เห็นบอดี้การ์ดกำลังรายงานสถานการณ์ให้คุณย่าเย่รู้
“คุณชายน้อยครับ พวกเราเข้าไปก่อนเถอะครับ” แต่ว่า เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดคิด กู้หวูรู้สึกว่าควรจะรีบเข้าไป เลี่ยงไม่ให้มีเรื่องแทรกขึ้นมา
“อืม” ถังจื่อโม่พยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง พวกนักข่าวไม่กล้าขวางถังจื่อโม่ แต่ก็เดินตามถังจื่อโม่ไปติดๆ
เวลานี้นักข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุสงสัยอย่างมาก มีคำถามหลายอย่างอยากจะถาม แต่ไม่รู้ว่าจะถามอะไร
ถามว่าเด็กคนนี้เป็นใคร? เด็กคนนี้ไม่ยอมตอบคำถามแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาถามถึงตัวตนของเด็กคนนี้ เด็กคนนี้ไม่พูดออกมาแม้แต่คำเดียว
ถามถึงองค์กรโกสต์ซิตี้? แต่ว่าเมื่อกี้เด็กคนนี้บอกว่าเขาไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้
“หนูน้อย ทำไมหนูต้องมาหาคุณปู่เย่? ระหว่างหนูกับคุณปู่เย่มีปัญหาอะไรกัน? ครอบครัวของหนูมีปัญหากับคุณปู่เย่ใช่ไหมครับ?” ยังคงเป็นนักข่าวคนเดิม ถามคำถามอีกครั้ง ไม่พูดไม่ได้ นักข่าวคนนี้มีทักษะในการถามคำถามจริงๆ
“พี่นักข่าวอยากจะรู้ขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปกับผมเถอะครับ” ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้นมองนักข่าว นักข่าวคนนี้ฉลาดจริงๆ สิ่งที่เด็กน้อยถังจื่อโม่จะทำก็ต้องการความช่วยเหลือจากนักข่าว
ถังจื่อโม่รู้ เวลานี้ด้านนอกห้องคุณปู่เย่ต้องมีนักข่าวแน่นอน แต่คุณย่าเย่กลับอนุญาตให้นักข่าวพวกนั้นเข้าไป นักข่าวพวกนั้นต้องเข้าข้างคุณย่าเย่ไม่มากก็น้อยแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นสู้เขาเอานักข่าวเข้าไปเองยังดีกว่า
“จริงเหรอครับ? ผมเข้าไปกับหนูน้อยได้จริงๆเหรอครับ?” นักข่าวคนนั้นตกตะลึง ตามด้วยรู้สึกดีใจอย่างมาก ชั่วขณะหนึ่งเพราะดีใจอย่างมาก เสียงจึงสั่นเทา
เข้าไปด้านในต้องได้ข่าวใหญ่แน่นอน โอกาสดีขนาดนี้ตกมาถึงเขาได้ยังไง?
กู้หวูลอบถอนหายใจ คุณชายใหญ่ยังจะพานักข่าวเข้าไปด้วยตนเองอีก ดูเหมือนคุณชายน้อยคงกลัวเรื่องไม่ใหญ่มากพอ
กู้หวูตกตะลึงก็ส่วนตกตะลึง กลัวก็ส่วนกลัว แต่เขาไม่พูดห้ามถังจื่อโม่แม้แต่คำเดียว
เวลานี้ ต้องให้เกียรติคุณชายน้อย แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลนั้นเป็นกู้หวูนับถือในตัวถังจื่อโม่จริงๆ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าไม่ว่าคุณชายน้อยจะทำอะไร เขาล้วนสนับสนุน
ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้พี่ใหญ่ก็กำชับเอาไว้แล้ว
“สิ่งที่ผมจะทำเป็นเรื่องถูกทำนองคลองธรรมและเปิดเผย ไม่กลัวคนอื่นรู้ และไม่กลัวพวกพี่ๆนักข่าวรายงานข่าว ขอแค่พี่นักข่าวรายงานอย่างเป็นธรรมตามความจริงก็พอแล้ว” เห็นได้ชัดว่าถังจื่อโม่เตรียมใจมาแต่แรก เขามองไปที่นักข่าวพวกนั้น แล้วเรียกนักข่าวอีกสองคน:”พวกพี่สามคนแล้วกัน พวกพี่สามคนตามผมเข้าไป ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล พาคนเข้าไปเยอะไม่ดีเท่าไหร่”
“เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลย ผมเองก็ตามเข้าไปด้วยได้” นักข่าวสองคนที่ถูกเรียกดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดหาวิธีแทบตายก็ไม่สามารถเข้าไปได้
หนึ่งเป็นเพราะพวกเขาอยู่ในสำนักข่าวเล็กๆ สองเป็นเพราะปกติพวกเขาไม่ได้ติดต่อกับตระกูลเย่ คุณย่าเย่จึงไม่เชื่อพวกเขา
ตอนนี้มีโอกาสเข้าไปแล้ว พวกเขาดีใจแน่นอน อีกทั้งตอนนี้เด็กคนนั้นก็พูดชัดเจนว่ามาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ หลังจากนี้ต้องมีข่าวใหญ่แน่ๆ จะไม่ให้พวกเขาดีใจได้ยังไง?
คนที่ถูกเรียกให้เข้าไปดีใจอย่างมาก คนที่ไม่ถูกเรียกก็เสียใจเป็นพิเศษ
“หนูน้อย ให้พี่เข้าไปด้วยได้ไหมครับ……” มีคนอยากจะเข้าไป พูดยังไม่ทันจบ ถังจื่อโม่กวาดตามองเขา นักข่าวคนนั้นถึงกับกลืนคำพูดลงคอ เสี้ยววินาทีนั้น เขารู้สึกว่าสายตาของเด็กน้อยคนนี้น่ากลัวอย่างมาก เหมือนว่าเขาจะตกใจกับสายตานั้น
กู้หวูเข้าใจความคิดของคุณชายน้อย จึงส่งสายตาไปให้กับพวกคนที่อยู่ด้านหลังถังจื่อโม่ หลังจากนั้นพวกเขาก็กันให้พวกนักข่าวอยู่ด้านนอก
พวกเขาเคยเจออะไรมามากมาย เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเขา
ถังจื่อโม่พานักข่าวสามคนที่เขาเลือกมาเข้าไปในโรงพยาบาล เมื่อกี้กู้หวูเจอกับคุณย่าเย่แล้ว รู้ว่าห้องพักผู้ป่วยของคุณปู่เย่อยู่ที่ไหน ดังนั้นกู้หวูจึงเป็นคนนำทาง
เมื่อมาถึงห้องพักผู้ป่วย ถังจื่อโม่เคาะประตูอย่างมีมารยาท แม่บอกเขาว่า ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็ห้ามทิ้งการวางตัวของตนเด็ดขาด ถึงแม้จะมาคิดบัญชีกับคนอื่น เขาก็ต้องมีมารยาทขั้นพื้นฐาน
กู้หวูเห็นถังจื่อโม่เคาะประตู มุมปากกระตุกขึ้นอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะยิ้ม คุณชายน้อยของเขาน่ารักจริงๆ
กู้หวูมั่นใจอย่างหนักแน่นอีกครั้ง วันข้างหน้าติดตามคุณชายน้อยต้องมีความหมายมากแน่ๆ
“เข้ามา” เสียงคุณย่าเย่ดังออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ฟังแล้วน้ำเสียงอิดโรยอย่างมาก
ถังจื่อโม่จึงเปิดประตูเข้าไป คุณย่าเย่ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันไปมอง ตอนที่เห็นท่าทีของเขา ถึงกับชะงักด้วยความตะลึงงัน