ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1226 เผยพิรุธแล้วรึ (1)
คุณย่าเย่หยุดคุณหมอเอาไว้ได้ แต่กลับไม่สามารถหยุดถังจื่อโม่ได้ จู่ๆถังจื่อโม่ที่อยู่ด้านหลังคุณย่าเย่ร้องตะโกนเสียงดัง “อั๊ยย๊า นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เวลานี้ถังจื่อโม่ตั้งใจพูดเสียงดัง อีกทั้งเสียงของเขายังเคล้าไปด้วยความตกตะลึงและคาดไม่ถึง ชั่วขณะหนึ่งดึงดูดความสนใจจากทุกคน
คุณย่าเย่ที่ตอนแรกกำลัง ‘เล่นละคร’ ได้ยินเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของถังจื่อโม่ ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าหงุดหงิดแสดงออกมาชัดเจน เด็กคนนี้ทำไมน่ารำคาญจริงๆ สร้างความปั่นป่วนไม่หยุด
แต่ว่าคุณย่าเย่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น ก็แค่วุ่นวายไปหน่อย แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมาได้
แต่ว่า คุณย่าเย่ก็ยังคงหันหลัง มองไปทางถังจื่อโม่ เธออยากจะดูนักว่าเด็กคนนี้ก่อความวุ่นวายอะไรอีก?
แค่ว่าคุณย่าเย่หันหลัง หลังจากเห็นเรื่องที่เกิดขึ้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างในชั่วพริบตา ชั่วขณะหนึ่งตกตะลึงอย่างมาก เกือบจะกรีดร้องเสียงดัง
ดวงตาคู่นั้นของเธอจ้องเขม็งไปที่ถังจื่อโม่ เวลานี้เธออยากจะบีบคอถังจื่อโม่ให้ตายจริงๆ นี่เป็นเด็กเปรตจากไหนกันแน่? เขาทำแบบนี้ได้ยังไง? ได้ยังไง?!
เวลานี้ถังจื่อโม่เบิกดวงตากลมโตที่ตาขาวและตาดำแยกกันอย่างชัดเจนจนกว้าง สบตากับคุณย่าเย่ด้วยความไร้เดียงสา:“ผมแค่เห็นว่าปากของคุณปู่สกปรกมาก ช่วยคุณปู่เช็ด”
ขณะที่ถังจื่อโม่พูดอยู่นั้น ก็ยกกระดาษเปียกในมือขึ้นมา ยื่นไปตรงหน้าคุณย่าเย่ แน่นอนว่าในเวลาเดียวกันก็สามารถทำให้นักข่าวเห็น:“คุณย่าดูสิครับ สกปรกมาก ผมแค่เช็ดเบาๆ กระดาษเปียกก็ดำหมดแล้ว”
สีหน้าของถังจื่อโม่ในเวลานี้ไร้เดียงสาอย่างมาก ไร้เดียงสาจนทำให้คนไม่สามารถทำใจที่จะสงสัยในตัวเขาได้
หลังจากนั้นถังจื่อโม่ก็ชี้ไปยังคุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียง พูดด้วยความสดใส:“คุณย่าดูสิครับพอผมเช็ดให้คุณปู่ ริมฝีปากของคุณปู่ก็สะอาดขึ้นมาก”
เวลานี้ริมฝีปากของคุณปู่เย่ด้านที่ถูกถังจื่อโม่เช็ด ไม่ได้ม่วงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับมาเป็นสีปกติ
กู้หวูอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากขึ้น ท่าทีแกล้งไร้เดียงสาของคุณชายน้อยไม่มีใครสู้ได้จริงๆ เขารู้ดี่วาคุณชายน้อยตั้งใจทำ อีกทั้งคุณชายน้อยยังมีแผนการอีกด้วย คุณชายน้อยเตรียมกระดาษเปียกเอาไว้แต่แรกแล้ว
อีกทั้งกู้หวูอยู่ใกล้กับถังจื่อโม่ ได้กลิ่นบางอย่างรอยมาจางๆ ดังนั้นกู้หวูมั่นใจอย่างมาก คุณชายน้อยต้องผสมน้ำยาพิเศษบางอย่างลงไปในกระดาษเปียกแน่นอน ซึ่งน้ำยานั้นใช้ดียิ่งกว่าคลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางทุกอย่าง
ใช้น้ำยาแบบนี้เช็ดรับประกันว่าเช็ดเครื่องสำอางทุกชนิดได้ ดังนั้นที่เมื่อกี้คุณชายน้อยบอกว่าเขาแค่เช็ดเบาๆคือความจริง
ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่าคุณชายน้อยรอบคอบมาก ตอนแรกตั้งใจทำให้คุณย่าเย่โมโห ทำให้คุณย่าเย่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากนั้นก็ใช้ข้อดีของตนในการเข้าใกล้เตียงของคุณปู่เย่อย่างไม่ทิ้งร่องรอย เตรียมน้ำยาเอาไว้ล่วงหน้า แค่ลงมือก็สามารถเช็ดเครื่องสำอางบนริมฝีปากของคุณปู่เย่ได้สำเร็จ
เวลานี้คุณปู่เย่ยังคงนอนอยู่บนเตียง ‘หมดสติ’ต่อไป เพราะถึงอย่างไรเขาตื่นขึ้นมาในตอนนี้ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่
ดังนั้นนักข่าวทุกคนจึงตกตะลึง ชั่วขณะหนึ่งดึงสติกลับมาไม่ทัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?
คุณย่าเย่รู้ดีที่สุดว่าคือเรื่องอะไร สีหน้าของคุณย่าเย่ในตอนนี้น่าเกลียดอย่างมาก หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลง เห็นได้ชัดว่าโมโหอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้มีนักข่าวอยู่ด้วยจำนวนมาก เธอไม่กล้าพูดจริงๆว่าตนจะทำอะไรลงไป
“ทำไมพวกคุณต้องมองผมแบบนี้ด้วยครับ? ผมเห็นว่าปากของคุณปู่สกปรกมาก ก็เลยช่วยคุณปู่เช็ดเท่านั้น” ถังจื่อโม่กะพริบตาปริบๆ แล้วกะพริบปริบๆ สีหน้าของเขายิ่งไร้เดียงสา
“พวกคุณดูสิครับว่าหน้าของคุณปู่สกปรกนิดนึงด้วยใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นผมช่วยเช็ดหน้าให้คุณปู่สักหน่อยแล้วกัน” ถังจื่อโม่เห็นว่าทุกคนต่างไหวตัวไม่ทัน จจึงหยิบกระดาษเปียกขึ้นมาแล้วยื่นมือไปเช็ดหน้าคุณปุ่เย่อีกครั้ง
“หนูจะทำอะไร?” คุณย่าเย่เห็นการกระทำของถังจื่อโม่ ดวงตาคู่นั้นหรี่เล็กอย่างรวดเร็ว แววตาเหี้ยมโหด ฉายไปทางถังจื่อโม่ ตอนนี้เธออยากจะบีบคอเด็กคนนี้ให้ตายจริงๆ
“ช่วยคุณปู่เช็ดไงครับ ปากของคุณปู่ หน้าของคุณปู่สกปรกมาก คุณปู่เอาแต่หมดสติ อาจจะเป็นเพราะที่ปาก ที่หน้าสกปรกมากก็ได้ ไม่แน่ว่าพอผมช่วยคุณปู่เช็ดจนสะอาดคุณปู่อาจจะฟื้นขึ้นมาก็ได้นะครับ” ถังจื่อโม่เบิกดวงตากลมโตที่ตาดำและตาขาวแยกกันอย่างชัดเจน เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่ใสซื่อและไร้เดียงสา
“ไม่ต้อง หนูออกไปได้แล้ว” คุณย่าเย่ถอนหายใจ แล้วสูดลมหายใจเข้า พยายามบอกให้ตนเองใจเย็น ตอนนี้มีนักข่าวอยู่เยอะ เธอไม่สามารถทำอะไรเด็กคนนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ยังเป็นถึงคุณชายน้อยขององค์กรยมบาล เธอเองก็ไม่กล้ามีปัญหากับองค์กรยมบาล
ดังนั้น สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือรีบไล่เด็กคนนี้ออกไป
“ผมไม่ได้โกหกนะครับ ผมพูดความจริง คุณย่าดูสิครับที่คอกับที่หน้าของคุณปู่ไม่ใช่สีเดียวกัน ต้องเป็นเพราะปากสกปรกเกินไปเลยส่งผลกระทบต่อการหายใจ ก็เลยทำให้คอกลายเป็นสีแดง” ถังจื่อโม่ไม่มีวันออกไปทั้งแบบนี้แน่นอน วันนี้เขามาแก้แค้นให้กับน้องสาวและแม่ และยังจะระบายความโกรธแทนคุณพ่อ
ดังนั้นอย่างน้อยเขาต้องเปิดเผยการหลอกลวงของคุณปู่เย่
นักข่าวที่อยู่ต่างได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ มองไปที่คุณปู่เย่ พูดให้ถูกคือมองใบหน้าและคอของคุณปู่เย่อย่างพิจารณา
ก่อนหน้านี้หน้าและคอของคุณปู่เย่ไม่ใช่สีเดียวกัน แต่ว่าไม่ได้ชัดเจนขนาดนี้ อีกทั้งการที่หน้าและคอของคนเราคนละสี ถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นก่อนหน้านี้ทุกคนจึงไม่ได้สังเกตถึงความแตกต่าง
แต่สีหน้าของคุณปู่เย่ในตอนนี้กับคอแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะคอของคุณปู่เย่ในตอนนี้แดงมาก แน่นอน ไม่ได้แดงเพราะที่ถังจื่อโม่บอกว่าหายใจไม่ออก แต่แดงเพราะโมโหถังจื่อโม่
เวลานี้คุณปู่เย่นอนบนเตียง โมโหเพราะถังจื่อโม่ไม่น้อย อีกทั้งเวลานี้คุณปู่เย่จะฟื้นขึ้นมาก็ไม่ถูก แกล้งหมดสติต่อไปก็ไม่ใช่ ทรมานจริงๆ
เวลานี้คุณย่าเย่เองก็เห็นสีผิวที่แตกต่างบนใบหน้าและคอของคุณปู่เย่ ดังนั้นสีหน้าของคุณย่าเย่เหยเกยิ่งกว่าเดิม
“หนูออกไปได้แล้ว พวกนายออกไปให้หมด คนป่วยต้องการพักผ่อน” คุณย่าเย่รู้ดีว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปทุกอย่างต้องจบแน่ ถึงแม้สถานการณ์ในตอนนี้จะทำให้ทุกคนสงสัย แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็แค่สงสัยเท่านั้น ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ดังนั้นคุณย่าเย่จึงอยากจะไล่ทุกคนออกไปให้หมดก่อนที่จะเผยพิรุธออกมา
ดังนั้นเป็นเพราะเจ้าเด็กที่สมควรตายคนนี้ เจ้าเด็กคนนี้เอาความซวยมาให้เก่งจริงๆ เกลียดจริงๆ น่ารังเกียจมาก!!
เวลานี้คุณย่าเย่อยากจะจับตัวถังจื่อโม่มาแล้วโยนออกไป แต่ว่าเธอกำมือแน่นแล้วปล่อย เธอไม่สามารถสูญเสียการควบคุมได้ ไม่สามารถสูญเสียการควบคุมได้อีกแล้ว
“เฮ้อ ทำไมหน้าของคุณปู่เย่ถึงสกปรกแบบนี้?” ถังจื่อโม่รู้ว่าคุณย่าเย่ไม่กล้าแตะต้องเขา ดังนั้น จึงยืนอยู่ตรงเตียงคุณปุ่เย่อย่างเปิดเผย ไม่มีทีท่าจะออกไปแม้แต่น้อย
เขาไม่เพียงแต่ไม่ออกไป แต่ยังจงใจพูดเน้นย้ำถึงหน้าที่สกปรกของคุณปู่เย่
ขณะที่ถังจื่อโม่พูดประโยคนี้ เขาก็ส่งสายตาให้กู้หวู
“คุณชายน้อยครับ หน้าของคุณปู่เย่ไม่ได้สกปรกครับ แต่มีคนแต่งให้เป็นแบบนี้ครับ” กู้หวูได้รับสัญญาณจากคุณชายน้อยของตน รีบตอบรับทันที ร่วมมือกับคุณชายน้อยของตน
กู้หวูไม่กลัวคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ กู้หวูไม่กังวลอะไรทั้งนั้น ดังนั้นกู้หวูจึงพูดความจริงออกมา
คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของกู้หวู ดวงตาคู่นั้นหม่นหมองลงถึงที่สุด หลังจากนั้นถลึงตามองกู้หวู ดูท่าคนพวกนั้นจงใจมาหาเรื่อง
ความเป็นจริงก่อนหน้านี้นักข่าวก็เริ่มสงสัยแล้ว เพราะถึงอย่างไรถังจื่อโม่เช็ดริมฝีปากม่วงของคุณปู่เย่ทิ้ง สีหน้าซีดขาวกับสีคอของคุณปู่เย่แตกต่างกันมาก แค่มองก็รู้แล้วว่ามีปัญหา แค่ว่าเมื่อกี้ทุกคนไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น
ทางด้านคุณย่าเย่โมโหและพยายามไล่อย่างเห็นได้ชัดยิ่งทำให้นักข่าวสงสัยว่าต้องมีเลศนัยอะไรแน่ๆ
เวลานี้กู้หวูพูดแบบนี้ออกมา นักข่าวไม่รู้สึกแปลกใจ แต่รู้สึกตกตะลึง เพราะดูเหมือนเรื่องจะชัดเจนแล้ว
“อั๊ยย๊า ทำไมคนดีๆต้องแต่งหน้าให้เป็นแบบนี้ด้วย?” ถังจื่อโม่ร้องตะโกนด้วยความตกใจอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาโอเวอร์อย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาคู่นั้นของถังจื่อโม่มองไปที่หน้าของคุณปู่เย่ หลังจากนั้นก็ส่ายหัว:“นี่คือการแต่งหน้าอะไร? แต่งหน้าคนตายเหรอ?”
นักข่าวได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ต่างตะลึง แต่งหน้าคนตาย? คุณชายน้อยขององค์กรยมบาลใจกล้าจริงๆ แต่ว่าคุณปู่เย่แต่งหน้าแบบนี้ เหมือนแต่งหน้าคนตายจริงๆ