ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1227 เผยพิรุธแล้วรึ (2)
แต่ว่าคุณปู่เย่แต่งหน้าแบบนี้ เหมือนแต่งหน้าคนตายจริงๆ
คุณย่าเย่โมโหจนตัวสั่น เกือบจะยืนไม่มั่นแล้วล้มลง โชคดีที่บอดี้การ์ดข้างๆพยุงตัวเธอเอาไว้ได้ทัน
ถังจื่อโม่มองไปที่คุณย่าเย่ หลังจากนั้นก็มองไปที่คุณปู่เย่ ส่ายหน้าไม่หยุด:“ใครกันที่ขาดศีลธรรมแบบนี้? คุณปู่เย่ยังไม่ตาย ก็มาแต่งหน้าคนตายให้คุณปู่เย่แล้ว? นี่เป็นการแช่งคุณปู่เย่ไม่ใช่เหรอ? คนที่แต่งหน้าคนตายให้คุณปู่เย่ขาดศีลธรรมจริงๆ เหี้ยมโหดเกินไปแล้ว”
สีหน้าของถังจื่อโม่ตอนที่พูดประโยคนี้นั้นใสซื่ออย่างมาก จะบอกว่าสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ผิด คุณปู่เย่ยังมีชีวิต แต่กลับแต่งหน้า ‘แต่งหน้าคนตาย’ ไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไร
ชั่วขณะหนึ่งคุณย่าเย่โมโหจนหน้าดำหน้าแดง มือของเธอสั่นเทาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ตัวของเธอก็สั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด มองดูแล้วเหมือนกำลังจะเป็นลมหมดสติ
“คุณย่าเย่ คุณย่ารู้ไหมครับว่าใครเป็นคนแต่งหน้าคนตายให้คุณปู่เย่? คนๆนี้ไร้ศีลธรรมจริงๆ คุณย่าห้ามปล่อยคนแบบนี้ไปนะครับ” ถังจื่อโม่กลับทำเหมือนดูไม่ออกว่าคุณย่าเย่กำลังโมโห พูดเสริมอีกหนึ่งประโยค
แน่นอนว่าถังจื่อโม่ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว คุณปู่เย่ไม่มีวันแต่งหน้าเองแน่นอน ผู้ชายคนหนึ่งไม่มีวันแต่งหน้าได้เนียนแบบนี้ แต่งได้สมบูรณ์แบบแบบนี้ แต่เรื่องที่คุณปู่เย่แกล้งหมดสติห้ามให้คนนอกรู้เด็ดขาด ดังนั้นคุณย่าเย่จึงเป็นคนแต่งหน้าให้คุณปู่เย่แน่นอน
“หนู? หนู……” เวลานี้สีหน้าของคุณย่าเย่ซีดเผือด ใบหน้าของเธอซีดขาวมากจริงๆโดยไม่ต้องแต่งหน้า เวลานี้เธอมีความคิดอยากจะฆ่าเด้กตรงหน้าแล้ว
“คุณย่าเย่ ตอนนี้คุณย่าเองก็อยากจะหาตัวคนที่แต่งหน้าคนตายให้คุณปู่เย่ใช่ไหมครับ แล้วสั่งสอนคนๆนั้นสักครั้งหนึ่ง? คุณย่าเย่อย่าใจร้อนเลยนะครับ ผมช่วยคุณย่าหาตัวคนๆนั้นได้นะครับ” ถังจื่อโม่มองคุณย่าเย่พร้อมกับกะพริบตาปริบๆ แววตายังคงความไร้เดียงสา
กู้หวูมองคุณชายน้อยของตนเอง เวลานี้ตกตะลึงไปแล้วเขารู้ว่าคุณชายน้อยของเขาเก่งมาก แต่เขาคิดไม่ถึงว่าคุณชายน้อยของเขาจะเก่งขนาดนี้ คำพูดไม่กี่คำแทบจะทำให้คุณย่าเย่เครียดตายแล้ว
กู้หวูนึกถึงสิ่งที่ก่อนหน้านี้คุณชายน้อยทำกับพวกเขา ทันใดนั้นเองก็ตระหนักได้ว่าคุณชายน้อยดีกับพวกเขามาก มีเมตตามากแล้ว
วันนี้เขาเพิ่งเห็นฝีมือการต่อสู้ของคุณชายน้อย คุณชายน้อยทำให้คนเครียดตายได้จริงๆ!!
“ฉันไม่ต้องการให้หนูช่วย ฉันแค่ต้องการให้หนูหยุดก่อปัญหาได้แล้ว” ปกติคุณย่าเย่มีความอดทนสูงมาก แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าตนอดทนถึงขีดสุดแล้ว แทบจะระเบิดออกมาแล้ว
“ได้ยังไงครับ องค์กรยมบาลของพวกเรามีเมตตาและผดุงความยุติธรรมมาโดยตลอด ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับคุณปู่เย่ ผมจะต้องช่วยพวกคุณย่าสืบแน่นอนครับ จนถึงตอนนี้คุณปู่เย่ยังหมดสติไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการแต่งหน้าคนตายก็ได้นะครับ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนอยากทำร้ายคุณปู่เย่ ดังนั้นต้องหาตัวคนร้ายให้เจอครับ” ปากเล็กๆของถังจื่อโม่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด พูดอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่สื่อออกมากลับชัดเจน ผ่านการคิดวิเคราะห์อย่างละเอียด
คุณปู่เย่แกล้งหมดสติแล้วอยากจะโทษคุณพ่อ แน่นอนว่าเขาจะไปทั้งที่เป็นแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเขาไปแล้ว กลัวว่าคุณย่าเย่จะพูดเปลี่ยนจากดำเป็นขาวอีก
กู้หวูได้ยินคุณชายน้อยของตนคุยโว ชั่วขณะหนึ่งแทบจะสำลักลิ้น ถึงแม้กฎระเบียบขององค์กรยมบาลของพวกเขาจะเข้มงวดมาก พี่ใหญ่ไม่อนุญาตให้พวกเขาทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่พวกเขาองค์กรยมบาลไม่สามารถเรียกได้ว่ามีเมตตา และพวกเขาองค์กรยมบาลก็ไม่เคยผดุงความยุติธรรม
ข้อนี้คุณชายน้อยคุยโวเกินไปแล้ว
“จริงด้วย พวกเราองค์กรยมบาลมีเมตตาและผดุงความยุติธรรมมาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องนี้พวกเราต้องยุ่งแน่นอนครับ” ไม่ว่าภายในใจของกู้หวูจะคิดแบบนั้น แต่ปากของเขากลับให้ความร่วมมือกับคุณชายน้อยของตนอย่างดี ไม่มีวันปล่อยให้คุณชายน้อยเสียหน้า
นักข่าวได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ แต่ละคนตกตะลึงอีกครั้ง เด็กคนนี้เก่งจริงๆ มองดูแล้วเด็กคนนี้น่าจะอายุประมาณห้าขวบเท่านั้น เด็กอายุประมาณห้าขวบโดยทั่วไปยังไม่สามารถแสดงความคิดของตนออกมาได้ชัดเจน แต่เด็กคนนี้กลับพูดเป็นชุด ทั้งยังทำให้คนไม่สามารถโต้เถียงได้
อีกทั้งใบหน้าของเด็กคนนี้ยังไร้เดียงสา มองดูแล้วใสซื่อ แต่คำพูดของเขากลับเป็นลูกโซ่ ที่คอยเผยพิรุธของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่
นักข่าวเป็นคนฉลาด ถึงเวลานี้แล้ว ถังจื่อโม่พูดขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าต้องเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
สีหน้าซีดขาวของคุณปู่เย่เป็นของปลอม ปากม่วงดำของคุณปู่เย่ก็เป็นของปลอม ทั้งหมดนี้เป็นการแต่งหน้าหมดเลยเหรอ?
ทำไมต้องแต่งหน้าแบบนี้ด้วย?
เห็นได้ชัดว่าแต่งให้คนนอกดู ถ้าคุณปู่เย่หมดสติจริงๆไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าแบบนี้ อีกทั้งถ้าคุณปู่เย่หมดสติ ก็ไม่มีทางมีอารมณ์และเวลาในการแต่งหน้าให้กลายเป็นแบบนี้
ดังนั้นคุณปู่เย่ไม่ได้หมดสติจริงๆ
สำหรับ’แต่งหน้าคนตาย’บนใบหน้าของคุณปู่เย่ใครเป็นคนแต่งนั้น? เรื่องนี้นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเดาได้ นอกจากคุณย่าเย่แล้วไม่มีทางเป็นใครอื่น
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้ไม่รู้ว่าคุณย่าเย่เป็นคน’แต่งหน้าคนตาย’ให้กับคุณปู่เย่ เด็กคนนี้จงใจ
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เด็กคนนี้ฉลาดมาก เก่งมาก แต่ละเรื่องซ้ำซ้อนติดต่อกัน แม้แต่พวกเขาที่เป็นผู้ใหญ่ยังไม่สามารถวางแผนได้รอบคอบแบบนี้
ถึงเวลานี้แล้ว คุณปู่เย่ยังสามารถนอนอยู่บนเตียงและแกล้งหมดสติได้ ถือว่าเก่งจริงๆ แต่ว่าถ้าคุณปู่เย่ตื่นขึ้นมาตอนนี้ ก็คงน่ากระอักกระอ่วนอย่างมาก
“คุณย่าเย่ ขอถามหน่อยครับตอนนั้นคุณปู่เย่หมดสติยังไงครับ? ตอนที่คุณปู่เย่หมดสติคุณย่าเย่ได้อยู่กับคุณปู่รึเปล่าครับ?” ดวงตากลมโตที่ตาดำและตาขาวแยกกันชัดเจนของถังจื่อโม่จับจ้องไปที่คุณย่าเย่ เวลานี้เขาไม่มีสีหน้าไร้เดียงสาเหมือนเมื่อกี้แล้ว แต่มีความเคร่งขรึมจริงจังมากขึ้น
“พวกแกเป็นใครกันแน่? พวกแกมาทำอะไรกันแน่? ใครเป็นคนส่งพวกนายมาก่อความวุ่นวาย? เวินลั่วฉิงใช่ไหม?” สีหน้าของคุณย่าเย่ในตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นหน้าดำหน้าแดง เทียบกับ’แต่งหน้าคนตาย’ของคุณปู่เย่แล้วน่ากลัวยิ่งกว่า
เวลานี้คุณย่าเย่โมโหขั้นสุด แต่ว่าถึงอย่างไรคุณย่าเย่ก็ผ่านอะไรมาเยอะ เธอรู้ว่าเวลานี้ห้ามกระวนกระวาย ดังนั้นคุณย่าเย่จึงอยากใส่ความยัดเยียดความผิดให้กับพวกเขา
แน่นอน เวลานี้คุณย่าเย่พูดซ้ำคำเดิมอีกแล้ว เธออยากจะโยนความผิดนี้ไปให้เวินลั่วฉิง ทั้งยังสามารถคลี่คลายสถานการณ์อึดอัด แล้วยังสามารถใส่ร้ายเวินลั่วฉิงได้อีกแล้ว
“คุณย่าเย่ ตอนนี้ผมกำลังช่วยคุณย่าอยู่นะครับ ช่วยคุณย่าสืบดูให้แน่ชัดว่าใครเป็นคนร้ายที่ทำให้คุณปู่เย่เป็นแบบนี้ ดังนั้นคุณย่าช่วยตอบคำถามผมด้วยครับ” ถังจื่อโม่ฉลาดมาก เข้าใจจุดประสงค์ของคุณย่าเย่
ถังจื่อโม่เห็นคุณย่าเย่อยากจะโยงเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับแม่ของเขาอีก ดวงตาคู่นั้นหม่นหมองลงเล็กน้อย น้ำเสียงเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด
“แกมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับเรื่องของตระกูลเย่ องค์กรยมบาลของพวกแกอยากจะเอาเปรียบและรังแกคนอื่นเหรอ?” คุณย่าเย่กัดฟันแน่น เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตนจะไม่สามารถเถียงชนะเด็กคนหนึ่งได้
เด็กคนนี้ทั้งดื้อดึงและไม่มีเหตุผล!!
เด็กคนหนึ่งทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้?
ต้องมีผู้ใหญ่แน่ๆ!!
แต่ว่าใครกันแน่ที่ให้เด็กคนนี้มาก่อความวุ่นวาย? หรือจะเป็นเวินลั่วฉิงจริงๆ?!
ถ้าเวินลั่วฉิงเป็นคนสอนเด็กคนนี้และให้เด็กคนนี้มาก่อความวุ่นวายจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเธอก็สามารถใช้โอกาสนี้โต้กลับ
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือลวงความจริงจากปากเด็กคนนี้ ขอแค่เด็กคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง เรื่องนี้ก็จัดการง่ายแล้ว
เธอไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถเอาชนะเด็กคนหนึ่งได้ ขอแค่เด็กคนนี้หลุดพูดมานิดหน่อย เธอก็สามารถโต้กลับได้ทันที
“แกรู้จักเวินลั่วฉิงใช่ไหม? แกกับเวินลั่วฉิงเป็นอะไรกัน?” ถึงอย่างไรคุณย่าเย่ก็เป็นจิ้งจอกเฒ่า ทันทีที่เธอไหวตัวทัน ก็เก่งมากเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้เธอประเมินถังจื่อโม่ต่ำเกินไป เพราะถังจื่อโม่เป็นเด็ก ดังนั้นจึงไม่ได้ป้องกัน ทำให้ถังจื่อโม่สบโอกาส
คำพูดของคุณย่าเย่ในตอนนี้ทั้งเร็วและร้อนใจ ไม่ให้ถังจื่อโม่มีโอกาสได้หลบเลี่ยง อีกทั้งดวงตาคู่นั้นของเธอยังจับจ้องไปที่ถังจื่อโม่ สังเกตสีหน้าของถังจื่อโม่ ขอแค่ถังจื่อโม่มีท่าทีผิดปกติ เธอก็รู้ทันที
ถึงเวลานั้นเธอก็สามารถมั่นใจได้ว่าเด็กคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงกันแน่
กู้หวูได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้วตกตะลึง ถึงแม้คุณชายน้อยจะฉลาด ไหวตัวเร็ว แต่ว่าคุณชายน้อยไม่พูดโกหก ตอนนี้คุณย่าเย่ถามออกมาแบบนี้ คุณชายเย่คงจะเผยพิรุธแล้ว คุณย่าเย่ร้ายกาจมากจริงๆ!!