ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1228 ถังจื่อโม่โต้กลับอย่างเทพ (1)
กู้หวูได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้วตกตะลึง ถึงแม้คุณชายน้อยจะฉลาด ไหวตัวเร็ว แต่ว่าคุณชายน้อยไม่พูดโกหก ตอนนี้คุณย่าเย่ถามออกมาแบบนี้ คุณชายเย่คงจะเผยพิรุธแล้ว คุณย่าเย่ร้ายกาจมากจริงๆ!!
คุณย่าเย่วางแผนได้แม้กระทั่งกับเด็ก!!
อีกทั้งคำพูดของคุณย่าเย่ในตอนนี้นักข่าวทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างได้ยินแล้ว และต่างก็มองไปทางถังจื่อโม่ อยากฟังว่าถังจื่อโม่จะตอบยังไง
การปรากฏตัวของถังจื่อโม่แปลกจริงๆ ปกติองค์กรยมบาลไม่ชอบเรื่องยุ่งของคนอื่น คำพูดที่ถังจื่อโม่บอกว่าผดุงความยุติธรรมนี้ฟังไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ อีกทั้งตอนที่อยู่ข้างนอกโรงพยาบาล ถังจื่อโม่พูดว่ามาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ชัดๆ
ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมีคนคอยสั่งการอยู่เบื้องหลังแน่นอน ถ้าอย่างนั้นคนที่สั่งการอยู่เบื้องหลังคือเวินลั่วฉิงหรือไม่?
ถ้าเป็นเวินลั่วฉิงจริงๆ เรื่องนี้สนุกแน่
เวลานี้ภายในใจของถังจื่อโม่เหมือนกระจกใส เขามองจุดประสงค์ของคุณย่าเย่ทะลุปรุโปร่ง เขารู้ดี ทันทีที่ให้คนอื่นรู้ว่าแม่ของเขาคือเวินลั่วฉิง ถึงตอนนั้นคุณย่าเย่ต้องโหมไฟกระหน่ำแน่นอน โยนความผิดทุกอย่างไปที่คุณแม่
ถังจื่อโม่ไม่มีวันปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด
คำพูดของคุณย่าเย่กะทันหันเกินไป ร้อนใจเกินไป ปฏิกิริยาแรกของถังจื่อโม่ตอนที่ได้ยินนั้นเผยความตกตะลึงเล็กน้อย แต่ถังจื่อโม่ไม่ได้ซ่อนเร้น คุณแม่เคยบอกว่า ถ้าเราเผยพิรุธแล้วซ่อนเร้นต่อไป เท่ากับบอกกับคนอื่นโดยตรงว่าเราร้อนตัว
ดังนั้นถังจื่อโม่จึงไม่ได้ซ่อนเร้นความตกตะลึงของตนเอง ในทางตรงกันข้ามเขาแสดงความตกตะลึงให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
“ดูท่าฉันจะพูดถูกแล้ว แกเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงจริงๆ? เวินลั่วฉิงกับแกเกี่ยวข้องกันยังไง?” คุณย่าเย่เห็นสีหน้าตกตะลึงของถังจื่อโม่ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น ถูกเธอเล่นสักหน่อย เด็กก็เผยพิรุธแล้ว
“คุณย่าเย่อยากจะให้ตัวตนอะไรกับผมครับ?” จู่ๆถังจื่อโม่ก็หัวเราะ เขามองไปที่คุณย่าเย่ พูดช้าๆทว่าชัดถ้อยชัดคำ:“ความเป็นจริงคุณย่าไม่จำเป็นต้องฝืนให้ตัวตนกับผมหรอกครับ ความเป็นจริงแล้วผมคือคนของตระกูลเย่ ไม่สิ ควรจะบอกว่าในตัวของผมมีเลือดของตระกูลเย่ไหลเวียนอยู่”
ถังจื่อโม่ไม่ชอบพูดโกหก ถึงแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้จะต้องเผชิญกับคนอย่างคุณย่าเย่ เขาก็ไม่ชอบพูดโกหก แต่ตอนนี้ถ้าเขาไม่ตอบคำถามคุณย่าเย่ คุณย่าเย่ต้องหาว่าเขาร้อนตัวแน่นอน
คุณย่าเย่ต้องเอาคุณแม่เข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังกจากนั้นก็ใส่ร้ายคุณแม่ยกใหญ่
ถังจื่อโม่ไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดังนั้นเวลานี้เขาจึงให้คำตอบอีกแบบหนึ่ง อีกทั้งตอนนี้เขาก็พูดความจริงทั้งหมด ไม่ได้โกหก บนตัวเขามีเลือดตระกูลเย่ไหลเวียนอยู่จริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้คุณพ่อจัดงานแถลงข่าวแล้วประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ เขาเป็นคนตระกูลเย่จริงๆ
กู้หวูตกตะลึง ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย แววตาที่มองไปทางถังจื่อโม่เคล้าไปด้วยความนับถืออย่างเห็นได้ชัด คุณชายน้อยของเขาไหวตัวเร็วจริงๆ คำตอบนี้เขาให้คะแนนเต็ม
คำพูดของคุณชายน้อยในตอนนี้เป็นความจริง ไม่หลอกลวงแม้แต่น้อย แต่ว่ากู้หวูรู้ดีว่าคุณชายน้อยพูดแบบนี้ในตอนนี้ คุณย่าเย่ต้องไม่เชื่อแน่นอน แน่นอนว่าคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่มีวันเชื่อ ต้องคิดว่าคุณชายน้อยพูดเหลวไหลแน่นอน
แต่ว่าคุณชายน้อยของเขาไม่เคยพูดจาเหลวไหลจริงๆ
“เจ้าเด็กคนนี้พูดจาเหลวไหล แกจะเป็นคนตระกูลเย่ได้ยังไง? เห็นชัดว่าแกกำลังปลิ้นปล้อน เวินลั่วฉิงเป็นคนส่งแกมาแน่นอน แกกำลังแก้ตัวให้เวินลั่วฉิงแน่นอน” คุณย่าเย่ไม่เชื่อสิ่งที่ถังจื่อโม่พูด ไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว ไม่เชื่อแม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนเดียว
เธอรู้สึกว่าเด็กคนนี้กำลังโกหกแน่นอน เพื่อปกป้องเวินลั่วฉิงแน่นอน
ชั่วขณะหนึ่งนักข่าวตกตะลึง มองไปทางถังจื่อโม่ด้วยความตะลึงงัน พูดตามความจริงพวกเขาเองก็ไม่เชื่อคำพูดของถังจื่อโม่ แต่สีหน้าของถังจื่อโม่เมื่อกี้ตอนที่พูดจริงจังมาก ไม่เหมือนว่ากำลังโกหก เด็กอายุห้าขวบถ้าพูดโกหก เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาตั้งหลายคนซึ่งเป็นผู้ใหญ่จะดูไม่ออก?
“ผมไม่ได้โกหก สิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้เป็นความจริงทั้งหมด ในตัวของผมมีเลือดของตระกูลเย่ไหลเวียนอยู่จริงๆ” สีหน้าของถังจื่อโม่ในตอนนี้เคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม จริงจังยิ่งกว่าเดิม หลังจากนั้นเขาก็ยกมือเล็กๆของตนเองขึ้นมา:“ผมรับประกันได้ ผมสาบานได้”
คำพูดของถังจื่อโม่ในตอนนี้บวกกับสีหน้าของเขาในเวลานี้ ทำให้ทุกคนไม่สามารถสงสัยได้ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแค่เด็กอายุห้าขวบ ท่าทีของเด็กห้าขวบเวลาพูดโกหกไม่มีทางเป็นแบบนี้ อีกทั้งถังจื่อโม่ยังบอกว่าสามารถรับประกันได้ สามารถสาบานได้ เท่ากับว่าเป็นความจริงแน่นอน
แต่ว่าน้ำหนักของคำพูดถังจื่อโม่ในตอนนี้หนักมาก ทำให้นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ดึงสติกลับมาไม่ทัน
เด็กคนนี้บอกว่าในตัวของเขามีเลือดของตระกูลเย่ไหลเวียนอยู่ เป็นคนของตระกูลเย่ ถ้าอย่างนั้นพ่อของเขาคือใครกันแน่?
คุณชายสามเย่เหรอ?
เหมือนว่าตระกูลเย่จะมีแค่คุณชายสามเย่เท่านั้นที่เหมาะจะเป็นพ่อของเด็กคนนี้
จะบอกว่าเป็นคุณชายสองตระกูลเย่ที่ตอนหลังเพิ่งกลับมายอมรับก็คงไม่ได้ ดูเหมือนว่าวันนี้คุณชายสองตระกูลเย่เพิ่งอายุสิบแปดสิบเก้า ไม่มีทางมีลูกที่โตขนาดนี้
แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะเป็นลูกของเย่โป๋เหวิน เย่โป๋เหวินพิการสองปีกว่าแล้ว พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาโดยตลอด ปกติเย่โป๋เหวินไม่ยอมเจอแม้แต่คนของตระกูลเย่ แม้แต่ลูกชายแท้ๆของตนเองยังไม่ยอมเจอ รอบตัวยิ่งไม่มีทางที่จะมีผู้หญิง แน่นอนว่าไม่มีทางมีลูก
ดังนั้นเมื่อครุ่นคิดวิเคราะห์แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีแค่คุณชายสามเย่เท่านั้นที่มีความเป็นไปได้
“พูดจาเหลวไหล พูดจาเหลวไหล แกเป็นลูกใครกันแน่ ทำไมอายุน้อยแค่นี้ก็พูดโกหกแล้ว” คุณย่าเย่มองดูสีหน้าของถังจื่อโม่ เกือบเชื่อไปแล้ว แต่ว่าเธอรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้
ซือเฉินมีลูกคนหนึ่ง เป็นลูกที่เกิดจากเวินลั่วฉิง แต่เป็นเด็กผู้หญิง ไม่ใช่เด็กผู้ชาย เด็กผู้หญิงคนนั้นเธอเคยเจอมาก่อน
หลังจากเจอเด็กผุ้หญิงคนนั้น เธอก็สั่งให้คนไปสืบโดยเฉพาะ ตอนหลังเพิ่งรู้ว่าเมื่อห้าปีก่อนเวินลั่วฉิงจับพลัดจับผลูได้กับซือเฉิน แต่ก็แค่คืนเดียวเท่านั้น และเพราะคืนนั้นทำให้เวินลั่วฉิงตั้งท้องเด็กผู้หญิงคนนั้น
เมื่อห้าปีก่อนหลังจากเกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นเวินลั่วฉิงก็ไปต่างประเทศ ตลอดห้าปีที่เวินลั่วฉิงไปต่างประเทศเวินลั่วฉิงกับซือเฉินไม่ได้ติดต่อกัน อีกทั้งก่อนจะเกิดเรื่องเมื่อห้าปีก่อนขึ้นเวินลั่วฉิงกับซือเฉินไม่รู้จัก และไม่เคยเกี่ยวข้องกัน
ดังนั้นซือเฉินกับเวินลั่วฉิงไม่มีทางมีลูกด้วยกันสองคน ไม่มีทางมีลูกชายอีกคน
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!
“ความหมายของหนูคือ……หนูคือลูกชายของคุณชายสามเย่?” คุณย่าเย่ไม่เชื่อ แต่นักข่าวกลับเชื่อคำพูดของถังจื่อโม่แล้ว เพราะสีหน้าของถังจื่อโม่ดูไม่เหมือนกำลังโกหก ทำให้พวกเขาไม่สามารถสงสัยได้
พวกเขารู้สึกว่าคุณย่าเย่ปฏิเสธด้วยความมั่นใจเกินไปแล้ว ถึงอย่างไรคุณชายสามเย่ก็ใกล้จะอายุสามสิบแล้ว เป็นไปได้ที่จะมีลูกโตขนาดนี้
อีกทั้งทุกคนรู้สึกว่าท่าทีของคุณย่าเย่หลังจากได้ยินเรื่องนี้แปลกมาก ปกติแล้วคนแก่อยากจะอุ้มหลาน อยากจะอุ้มเหลนมากไม่ใช่เหรอ?
ถังจื่อโม่บอกว่าตนเป็นคนของตระกูลเย่ ปฏิกิริยาแรกของคุณย่าเย่ควรจะเป็นดีใจไม่ใช่เหรอ? ถึงแม้จะไม่มั่นใจ แต่ปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณควรจะเป็นดีใจไม่ใช่เหรอ? นี่คือปฏิกิริยาของคนทั่วไป?
เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนในครอบครัวที่มีสายเลือดเดียวกัน คนที่อายุเท่าคุณย่าเย่ต้องอยากจะมีเหลนมากไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ยังฉลาดขนาดนี้ ใครเห็นก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดู
แต่ว่าปฏิกิริยาแรกของคุณย่าเย่ตอนที่ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่กลับเป็นการปฏิเสธอย่างหนักแน่น คุณย่าเย่ถึงขั้นมองด้วยความโมโห ทำไมคุณย่าเย่ต้องโมโหขนาดนี้?
ทุกคนรู้สึกว่าปฏิกิริยาของคุณย่าเย่แปลกเล็กน้อย!!
ในสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้คุณย่าเย่จะไม่เชื่อคำพูดของถังจื่อโม่ ภายในใจมีความเคลือบแคลงสงสัย อย่างน้อยก็ควรถามอย่างละเอียด แต่คุณย่าเย่กลับไม่เพียงไม่ถามอย่างละเอียด ก็เชื่ออย่างหนักแน่นแล้วว่าถังจื่อโม่กำลังโกหก
“เป็นไปได้ยังไง? พวกคุณอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของเด็กคนนี้ เด็กคนนี้จะเป็นลูกชายของซือเฉินได้ยังไง? ตอนนี้ซือเฉินยังโสด แล้วจะมีลูกนอกสมรสได้ยังไง” ยังไม่พอให้ถังจื่อโม่ตอบคำถามนักข่าว คุณย่าเย่ก็พูดขัดขึ้นมาก่อน ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่น อีกทั้งเธอยังพูดอีกว่าถังจื่อโม่คือลูกนอกสมรส
ตอนนี้คุณย่าเย่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นด้วยความร้อนใจ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ซึ่งก็เป็นเพราะก่อนหน้านี้ได้ตกลงเรื่องงานแต่งงานกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินจะจัดงานแถลงข่าวแล้วประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ แต่เธอจะคิดหาวิธีทำให้เย่ซือเฉินกลับมาให้ได้ ดังนั้นการแต่งงานนี้ยังไม่เป็นโมฆะ!!
ต้องไม่เป็นโมฆะ!!