ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1229 ถังจื่อโม่โต้กลับอย่างเทพ (2)
หลังจากเย่ซือเฉินประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้มีท่าทีอะไร เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่ได้มีการเค้นถามอะไร หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้มีการกล่าวโทษแต่อย่างใด ดังนั้นคุณย่าเย่จึงเข้าใจอย่างใสซื่อว่าการแต่งงานในครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไร
แม้กระทั่งถึงตอนนี้ คุณย่าเย่ยังคิดอยากจะฝันสูงเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นต่อให้ถังจื่อโม่เป็นลูกของเย่ซือเฉินจริงๆ มีสายเลือดของตระกูลเย่จริงๆ คุณย่าเย่ก็ไม่มีวันยอมรับ อย่างน้อยก็ไม่มีวันยอมรับต่อหน้าสาธารณะ
“เย่ซือเฉินตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ไม่ใช่คนของตระกูลเย่ของพวกคุณย่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเย่ของพวกคุณย่าอีกแล้ว” ตอนที่ถังจื่อโม่ได้ยินคุณย่าเย่พูดคำว่าลูกนอกสมรส สีหน้าของเขาหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงมีความเยือกเย็นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ถังจื่อโม่เป็นเด็กที่มีมารยาทอย่างมาก ในสถานการณ์ทั่วไป เขาไม่มีวันพูดอะไรเกินกว่าเหตุ ไม่มีวันพูดอะไรทำร้ายจิตใจคนอื่นเกินไป แต่เขาเองก็มีขีดจำกัด คำพูดของคุณย่าเย่เมื่อกี้ท้าทายขีดความอดทนของเขาแล้ว
เขากับน้องสาวไม่ใช่ลูกนอกสมรส คุณพ่อกับคุณแม่ของเขากำลังจะแต่งงานกันแล้ว เขากับน้องสาวมีตัวตนถูกทำนองคลองธรรมและเปิดเผย
แน่นอน ความเป็นจริงถังจื่อโม่ก็มองความคิดอื่นของคุณย่าเย่ออก ถึงแม้เขาจะอายุยังน้อย แต่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ตระกูลถังท่านปู่ถังและท่านย่าถึงได้วิเคราะห์เอาไว้แล้ว ดังนั้นภายในใจของถังจื่อโม่จึงรู้ดี คุณย่าเย่ปฏิเสธตัวตนของเขาด้วยความร้อนใจเป็นเพราะกลัวส่งผลกระทบต่อการแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ตอนนี้ถังจื่อโม่จึงรู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องเกรงใจคุณย่าเย่แล้ว
“แก……เกินไปแล้ว!!” คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ กัดฟันแน่น ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เธอโมโหที่สุดก็คือเย่ซือเฉินตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ แต่ว่าตอนนี้ถังจื่อโม่กลับจงใจพูดแบบนี้ต่อหน้าเธอ เกินไปแล้วจริง!!
“เด็กตัวเล็กแค่นี้กลับพูดหยาบคายแบบนี้ แม่ของแกสอนแกยังไง ไม่มีการศึกษาเลยสักนิดหรือไง?” ตอนนี้คุณย่าเย่โมโหเพราะถังจื่อโม่จนตัวแทบระเบิดแล้ว แน่นอนว่าสิ่งสำคัญเป็นเพราะคำพูดของถังจื่อโม่เมื่อกี้ที่ทำให้เธอตะลึงงัน
ก่อนหน้านี้เธอมั่นใจว่าถังจื่อโม่ไม่มีทางเป็นลูกของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิง เพราะเมื่อก่อนเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงเคยนอนด้วยกันแค่คืนเดียว ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีลูกสองคน
แต่ว่าคุณย่าเย่มองดูอายุของเด็กผู้ชายคนนี้แล้วนึกความเป็นไปได้บางอย่างขึ้นมากะทันหัน หรือว่าเวินลั่วฉิงจะมีลูกแฝด? เป็นแฝดชายหญิงหรือเปล่า? ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง?
ถึงแม้โอกาสจะน้อยมาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้
แน่นอน คุณย่าเย่ตั้งใจพูดออกไปแบบนั้นเพราะคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เธอกำลังตีวัวกระทบคราดด่าเวินลั่วฉิงว่าไม่อบรมสั่งสอนลูก!!
ดวงตาคู่นั้นของคุณย่าเย่จ้องมองไปที่ถังจื่อโม่ แววตานั้นเคล้าไปด้วยการพิจารณา เด็กคนนี้ใส่หมวก ใส่แว่นกันแดด ความเป็นจริงมองไม่เห็นหน้าตาของเขา แต่เธอไม่ยอมรับไม่ได้จริงๆว่าเด็กคนนี้ฉลาดมาก หลักแหลมมาก สิ่งนี้เหมือนซือเฉินตอนเด็กๆมาก
ถ้าเมื่อก่อนรู้ว่าซือเฉินมีลูกชายลูกสาวแบบนี้ คุณย่าเย่ต้องดีใจมากแน่นอน หรือไม่เธอก็ไม่มีวันขัดขวางไม่ให้เย่ซือเฉินคบกับเวินลั่วเฉิงอย่างหนักแน่นอีกแล้ว
แต่ว่าตอนนี้……
ตอนนี้พวกเขาจะแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้ สำหรับเรื่องงานแต่งงานก่อนหน้านี้พวกเขาได้ประกาศไปแล้ว อีกทั้งหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ได้ลงนามบนหนังสือหมั้นหมายแต่งงานแล้ว ดังนั้นตอนนี้เย่ซือเฉินต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้
ถึงแม้เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงจะมีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน เย่ซือเฉินก็ต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่งงานกับเวินลั่วฉิงไม่ได้เด็ดขาด
สำหรับลูกชายและลูกสาวคู่นี้ ตระกูลเย่ของพวกเราเลี้ยงได้ เลี้ยงเอาไว้ก็จบแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นต้องส่งทิ้งแน่นอน
สำหรับเด็กผู้ชายคนนี้ถ้าเป็นไปได้ ก็สามารถคิดหาวิธีเก็บเอาไว้ได้
เด็กคนนี้ฉลาดขนาดนี้ หลักแหลมขนาดนี้ ถึงเวลานั้นสามารถให้เขาเข้าไปทำงานในบริษัท ต้องมีประโยชน์มากแน่นอน
“เจ้าเด็กคนนี้ควรได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดี” ตอนนี้ถึงแม้คุณย่าเย่จะคิดได้ว่าถังจื่อโม่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นลูกของเย่ซือเฉิน เธอถึงขั้นคิดว่าจะใช้ประโยชน์ถังจื่อโม่อย่างไร แต่สำหรับคำพูดของถังจื่อโม่เธอยังคงรู้สึกแย่มาก
คุณย่าเย่รู้สึกว่าเด็กแบบนี้ควรได้รับการสั่งสอนอย่างเข้มงวด แน่นอนครั้งนี้เธอกำลังลอบด่าว่าเวินลั่วฉิงสั่งสอนลูกไม่เป็น
เวินลั่วฉิงสอนลูกทั้งสองคนจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ตอนนั้นตอนที่ลูกสาวอยู่ในบริษัทก็เถียงกับพวกเธอ เด็กคนนี้ก็ยังหาเรื่องเธอทุกอย่าง ตอนนี้ยังจงใจก่อความวุ่นวายอีก
ตอนนี้ภายในใจของคุณย่าเย่มั่นใจยิ่งขึ้นว่าเวินลั่วฉิงสั่งให้ถังจื่อโม่มาก่อความวุ่นวาย
แต่ว่า ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของซือเฉินจริงๆ เรื่องนี้จำเป็นต้องวางแผนระยะยาว เพราะถึงอย่างไรเธอไม่มีวันปล่อยให้เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้ว่าซือเฉินมีลูกสองคนแล้วเด็ดขาด
“คุณแม่ของผมสั่งสอนผมยังไงคุณย่าไม่จำเป็นต้องวิจารณ์” ถังจื่อโม่ทนเห็นคนอื่นต่อว่าคุณแม่ของเขาไม่ได้ที่สิด คำพูดตีวัวกระทบคราดของคุณย่าเย่ถังจื่อโม่ฟังออกทั้งหมด
ในเวลาเดียวกันถังจื่อโม่ก็เข้าใจเรื่องหนึ่ง ความเป็นจริงคุณย่าเย่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้แล้ว คุณย่าเย่เชื่อว่าเขาคือลูกของเย่ซือเฉิน คุณย่าเย่เองก็คิดถึงแม่ของเขาเวินลั่วฉิง ดังนั้นคุณย่าเย่จึงด่าแบบตีวัวกระทบคราด
ถังจื่อโม่มองดูสีหน้าของคุณย่าเย่ในตอนนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยือกเย็นในใจ คุณย่าเย่เชื่อคำพูดของเขาแล้ว รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร แต่กลับมีปฏิกิริยาแบบนี้
เย็นชา นิ่งเงียบ ถึงขั้นวางแผนแล้ว ถังจื่อโม่นึกถึงปฏิกิริยาแรกของท่านปู่ถังและท่านย่าถัง
คุณแม่ไม่ได้แต่งงาน อย่างน้อยตอนนั้นคุณแม่ยังโสด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่รู้ว่าพ่อของเขากับน้องสาวคือใคร ตอนที่ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังเห็นพวกเขานั้นดีใจมาก ตื้นตันมาก มีความสุขมาก ทั้งหมดนั้นเป็นความรู้สึกที่แท้จริง เขากับน้องสาวสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน
ท่านปู่ถังและท่านย่าถังไม่สนใจสถานการณ์อื่นๆ แค่ชอบพวกเขา ชอบพวกเขา!!
ในทางตรงกันข้ามปฏิกิริยาของคุณย่าเย่ทำให้ห่อเหี่ยวใจจริงๆ รวมถึงคุณปู่เย่ เขารู้ดีว่าคุณปู่เย่แกล้งหมดสติ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเอากระดาษเปียกเช็ดปากคุณปู่เย่ คุณปู่เย่มีปฏิกิริยา ตอนนั้นเขาเห็นคุณปู่เย่ยกมือขึ้น ตอนนั้นคุณปู่เย่อยากจะห้ามเขาแน่ๆ แต่เพราะไม่สามารถเผยไต๋ได้ดังนั้นสุดท้ายคุณปู่เย่จึงอดทนเอาไว้
สิ่งที่คุณย่าเย่สามารถคิดได้คุณปู่เย่ก็สามารถคิดได้เหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้คุณปู่เย่ต้องรู้ตัวตนของเขาแล้วแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้คุณปู่เย่กลับนอนนิ่งบนเตียง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ สีหน้าของคุณปู่เย่ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
ถังจื่อโม่ไม่รู้ว่าควรจะบอกว่าคุณปู่เย่แกล้งหมดสติได้เหมือนมาก หรือว่าคุณปู่เย่เย็นชาเกินไป ถ้าเปลี่ยนเป็นท่านปู่ถัง ท่านปู่ถังคงเด้งตัวขึ้นมาจากบนเตียงนานแล้ว
ไม่แปลกที่คุณพ่อตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ คิดว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงปฏิบัติแบบนี้กับคุณพ่อของเขาแน่นอน
วินาทีนี้ ถังจื่อโม่รู้สึกว่าคุณพ่อน่าสงสารจริงๆ โชคดีที่ตอนนี้คุณพ่อตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว หลังจากนี้เขากับคุณพ่อไม่ต้องถูกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่วางแผนอีก
ถังจื่อโม่คิดถึงเรื่องพวกนี้ ภายในใจรู้สึกเย็นวาบ ใบหน้าของเขาหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของเขาทอดมองไปทางคุณปู่เย่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ขยับมุมปากเล็กน้อย:“คุณแม่บอกผมว่าเป็นคนต้องซื่อสัตย์ ห้ามโกหก ห้ามหลอกลวง”
ถังจื่อโม่หยุดพูดครู่หนึ่ง ดวงตาคู่นั้นมองไปทางนักข่าวอย่างรวดเร็ว แววตาของเขาหม่นหมองเล็กน้อย ทันใดนั้นเองเขาก็พูดขึ้นอีก:“แต่ว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กลับหลอกลวงทุกคน……”
“แกพูดเหลวไหลอะไร?” คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่หน้าเปลี่ยนสีทันที พูดแทรกถังจื่อโม่ทันควัน
“ทุกคนต่างก็สายตาดี มองเห็นทุกอย่างชัดเจน ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย” ตอนนี้สีหน้าของถังจื่อโม่มีความไร้เดียงสาและใสซื่อเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ในทางกลับกันมีความเย็นชามากขึ้น
ถังจื่อโม่ไม่ได้ใช้วิธีการอ้อมค้อมเหมือนก่อนหน้านี้อีก ตอนนี้เขาอยากจะใช้วิธีที่ตรงและรวดเร็วที่สุดในการจัดการเรื่องนี้
“เด็กคนนี้ทำไมไม่รู้ความเลยห๊ะ” คุณย่าเย่ร้อนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะคิดขึ้นได้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของซือเฉิน คุณย่าเย่อยากจะเตะเด็กคนนี้ออกไป เด็กคนนี้ไม่มีมารยาทมาก ไม่รู้ความแบบนี้ ล้วนเป็นเพราะเวินลั่วฉิงสอนได้ไม่ดี ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของเวินลั่วฉิง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเวินลั่วฉิง