ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1238 สะใจกับผลลัพธ์นี้มาก (1)
ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่เป็นลมก็ทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้แล้ว คุณย่าเย่จึงแกล้งเป็นลมไม่ได้อีก และท่านก็ไม่กล้าทำ ไม่งั้นเด็กคนนี้หาหมอมาตรวจสุขภาพท่านกับตาเฒ่าของท่านขึ้นมา ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้แล้ว ท่านก็จะโต้เถียงอะไรไม่ได้อีก!!
เมื่อตอนนั้นมาเยือนท่านก็จะเป็นฝ่ายรับมากขึ้น ดังนั้นคุณย่าเย่รู้ว่าตนต้องยืนหยัดต่อไปให้ได้
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นคุณย่าเย่จุกจนพูดไม่ออก และท่าทางสั่นคลอนของคุณย่าเย่ในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่าโกรธจัดมาก คาดว่าคงร้อนใจไม่เป็นท่าซะแล้ว
คุณย่าเย่คุ้นเคยกับสถานที่ใหญ่โต และเคยพบเจอมรสุมมากมาย ปกติคุณย่าเย่เป็นบุคคลฉลาดหลักแหลมมาก ตอนนี้กลับพ่ายแพ้แก่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
แน่นอน ไม่มีใครรู้สึกว่าแรงต่อสู้ของคุณย่าเย่อ่อนลง ไม่มีใครรู้สึกว่าคุณย่าเย่ไม่เก่ง ในใจทุกคนตอนนี้ก็คือ เด็กคนนี้เก่งเหลือเกิน!!
“คุณย่าเย่เชื่อถือโรงพยาบาลไหน?เชื่อมั่นหมอคนไหน?เชื่อถืออุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาลไหน คุณย่าเย่บอกมาได้เลย ผมจะสนองข้อเรียกร้องของคุณย่าเย่ทั้งหมด”ถังจื่อโม่มองข้ามใบหน้าบูดบึ้งของคุณย่าเย่อย่างสิ้นเชิง และละเลยแววตาที่อยากกินเขาของคุณย่าเย่ ถึงแม้คุณย่าเย่จะโหดและดุร้ายเพียงใดก็ไม่อาจทำให้เขาเกรงกลัวได้
สิ่งที่ควรพูดเขาก็จะพูดไปตามนั้น สิ่งที่ควรทำก็จะทำเช่นนั้นด้วย
เรื่องมาถึงขั้นนี้ ถังจื่อโม่ไม่ให้คุณย่าเย่มีทางถอยได้อีก เพราะถังจื่อโม่รับรู้แล้วว่าคุณย่าเย่หน้าด้านเพียงใด หากเขาเว้นช่องว่างให้คุณย่าเย่แม้แต่เพียงนิดเดียว คุณย่าเย่ก็จะเถียงไม่จบไม่สิ้น ทำให้คุณย่าเย่มีวิธีสวนกลับอย่างแน่นอน
คุณย่าเย่ทอดถอนใจแรงๆ จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามสุดความสามารถในการให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ ทว่าท่านกลับทำไม่ได้ ท่านโกรธเด็กสมควรตายคนนี้เต็มประดาเสียแล้ว
“ทำไม?คุณย่าเย่ไม่รู้ว่าควรเลือกยังไงหรือ?หากคุณย่าเย่ไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงดี งั้นก็ใช้วิธีที่สองตามที่ผมบอกไว้ นั่นก็คือเชิญหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาหลายๆคน โดยเชิญหมอที่เก่งที่สุดในเมืองAมา คุณย่าเย่จะได้ไม่สงสัยในผลตรวจ?”ถังจื่อโม่เห็นคุณย่าเย่ไม่แสดงความคิดเห็น ก็ไม่ได้ร้อนใจ วิธีแรกใช้ไม่ได้ งั้นก็ใช้วิธีที่สอง สรุปแล้ววันนี้ต้องสะสางเรื่องนี้ให้ได้
คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ก็กระตุกมุมปากยิ้มเย็น เด็กคนนี้พูดจาโอหังนัก ยังคิดจะเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในเมือง Aมาด้วย?เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน?
ถึงแม้เขาเป็นลูกชายของเย่ซือเฉิน ทว่าก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินประกาศว่าตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว เช่นนั้นเย่ซือเฉินก็อย่าได้ใช้เส้นสายของตระกูลเย่เลย
แน่นอน เขายังเป็นคุณชายน้อยขององค์กรยมบาล?ระหว่างคิ้วของคุณย่าเย่กระตุก ท่านพบว่าท่านมองข้ามเรื่องนี้ไปถนัด
เด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงมั้ง?แต่ทำไมเด็กคนนี้กลายเป็นคุณชายน้อยแห่งองค์กรยมบาลได้ล่ะ?
หรือว่าองค์กรยมบาลเป็นของเย่ซือเฉิน?ก่อนหน้านี้คุณย่าเย่มัวแต่คิดกลบเกลื่อนเรื่องคุณปู่เย่แกล้งเป็นลม จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แน่นอนประเด็นสำคัญก็คือ คุณย่าเย่ไม่กล้าเชื่อว่าองค์กรยมบาลเป็นของเย่ซือเฉิน ไม่กล้าเชื่อว่าเย่ซือเฉินมีธุรกิจใหญ่โตที่ปิดบังพวกท่านอยู่
ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่พึ่งพูดหมาดๆว่าถึงแม้เย่ซือเฉินจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทว่าก็ไม่ใหญ่โตนัก อีกอย่างธุรกิจของเย่ซือเฉินที่กระจายอยู่นั้นไม่อาจสร้างคลื่นอะไรได้
ทำไมจู่ๆองค์กรยมบาลก็กลายเป็นของเย่ซือเฉินล่ะ
ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ หากองค์กรยมบาลเป็นของเย่ซือเฉินจริงๆ หากเย่ซือเฉินมีธุรกิจส่วนตัวใหญ่ขนาดนั้นจริง วันหลังพวกท่านก็ควบคุมเย่ซือเฉินไม่ได้แล้ว
ตอนนี้คุณย่าเย่ตะลึงพรึงเพริดเกินไป จึงลืมพูดไปชั่วขณะ
“ในเมื่อคุณย่าเย่ไม่มีข้อคัดค้าน เรื่องนี้ก็ทำตามนี้เลย”ถังจื่อโม่เห็นคุณย่าเย่ไม่พูดก็ถือว่าคุณย่าเย่เห็นด้วยซะเลย
“ในเมื่อคุณย่าเย่เห็นด้วย งั้นผมก็เชิญหมอเฉพาะทางแล้วนะ”ถังจื่อโม่เน้นย้ำอีกรอบ เพื่อกันคุณย่าเย่เบี้ยวอีกครั้ง
คุณย่าเย่ได้สติกลับคืนมา ทว่าด้วยหัวใจที่ตะลึงลาน มุมปากท่านขยับ แต่ก็พูดไม่ออกมา
“คุณชายน้อยครับ ต้องการให้ผมติดต่อกับหมอไหมครับ?”กู้หวูได้ยินว่าคุณชายน้อยของตนจะติดต่อแพทย์เฉพาะทาง จึงไม่อาจนิ่งเงียบได้อีก คุณชายน้อยเก่งเพียงใดก็ยังคงเป็นแค่เด็กห้าขวบคนหนึ่ง คุณชายน้อยคงไม่รู้จักแพทย์พวกนั้น
สถานการณ์ตอนนี้ลูกพี่ใหญ่ไม่สะดวกออกหน้า ไม่งั้นจะเป็นขี้ปากชาวบ้านได้
“ไม่ต้อง หากคุณติดต่อคงจะช้า เสียเวลาเกินไป”ถังจื่อโม่กลับปฏิเสธกู้หวู เห็นได้ชัดว่าถังจื่อโม่มีความคิดในใจแล้ว
“คุณชายน้อยให้ใครช่วยประสานงานครับ อันที่จริงผมก็ได้นะครับ ไม่ต้องหาคนอื่นก็ได้”กู้หวูตะลึงงัน คุณชายน้อยไม่ใช่หาลูกพี่ใหญ่นะ กู้หวูรู้สึกว่างทางที่ดีอย่าได้ดึงลูกพี่เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้เลย มิฉะนั้นจะถูกคุณย่าเย่จับจุดอ่อนได้ ด้วยนิสัยของคุณย่าเย่ก็ไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก
คุณย่าเย่ไม่มีทางออมมือเพราะลูกพี่เป็นหลานแท้ๆของท่านหรอก
คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมเพื่อใส่ร้ายลูกพี่ก็ดูออกแล้ว
ประโยคนี้ของกู้หวูถือเป็นการเตือนถังจื่อโม่ กู้หวูคิดว่าคุณชายน้อยฉลาดเช่นนี้ คงเข้าใจเจตนาเขา
ถังจื่อโม่เข้าใจกู้หวู ทว่าถังจื่อโม่ไม่แยแสกู้หวู เพราะถังจื่อโม่ไม่คิดจะหาเย่ซือเฉินให้ช่วย เขามีตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าเย่ซือเฉิน
ถังจื่อโม่เอามือถือขึ้นมาหาหมายเลขหนึ่งออกมา จากนั้นก็โทรออก
ชั่วขณะนั้นทุกคนต่างจ้องมองถังจื่อโม่ อยากรู้ว่าถังจื่อโม่โทรหาใคร
กู้หวูแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก รู้สึกว่าหัวใจแขวนขึ้นอย่างวิตกกังวล หวังว่าคุณชายน้อยจะไม่โทรหาลูกพี่ใหญ่นะ
คุณย่าเย่กะพริบตารัวๆ ท่านคิดว่าถังจื่อโม่โทรหาเย่ซือเฉิน
ถึงแม้คุณย่าเย่ไม่อยากให้คนนอกรู้ว่าเป็นลูกของเย่ซือเฉิน ไม่อยากให้เด็กส่งผลกระทบต่อเรื่องเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่าตอนนี้คุณย่าเย่ไม่ได้ขัดขวางถังจื่อโม่
คุณย่าเย่รู้สึกว่าถังจื่อโม่ฉลาดเช่นนี้ ไม่มีทางเปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับเย่ซือเฉินเด็ดขาด เพราะให้เย่ซือเฉินเป็นคนเชิญแพทย์เฉพาะทางมา งั้นท่านก็มีเหตุผลสงสัยผลตรวจได้แล้ว ถึงเวลานั้นท่านสามารถพูดว่าเย่ซือเฉินจงใจจัดหามา สถานการณ์ก็จะเอื้ออำนวยต่อพวกท่านมากขึ้น
ดังนั้นคุณย่าเย่รู้สึกว่าถึงแม้ถังจื่อโม่จะโทรหาเย่ซือเฉินก็คงไม่พูดถึงความสัมพันธ์กับเย่ซือเฉินหรอก หากเป็นเช่นนั้นจริง ……
ในใจคุณย่าเย่พลันบังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา มีแผนการหนึ่งในใจ ซึ่งท่านสามารถใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ได้
“คุณลุงครับ”ทว่าถังจื่อโม่กลับเอ่ยคำว่า คุณลุง หนึ่งคำ
เมื่อเปล่งคำว่าคุณลุงออกมา สีหน้าคนส่วนมากพลันแปรเปลี่ยนไป
กู้หวูโล่งอกอย่างแจ่มชัด ที่แท้คุณชายน้อยจะโทรหาคุณชายถัง คุณชายน้อยพูดถูก คุณชายถังจัดการเรื่องนี้จะเร็วกว่าเขา ได้ผลลัพธ์ดีกว่าเขาแน่นอน
คุณชายน้อยเก่งกาจอย่างที่คาดการณ์ไม่มีผิดเพี้ยน คุณชายน้อยคิดได้ครอบคลุมมาก เมื่อกี้เขากังวลโดยไร้ประโยชน์
คุณย่าเย่ชะงักอย่างเด่นชัด คุณลุง?ใครคือลุงของเด็กคนนี้?
เด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกของซือเฉินกับเวินลั่วฉิง แต่เวินลั่วฉิงมีพี่ชายหรือน้องชายด้วยเหรอ?
เท่าที่รู้ เหมือนมีน้องชายฝ่ายพ่อที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง วันๆเอาแต่เที่ยวเถลไถล หลังจากที่บ้านตระกูลเวิน ครอบครัวส่วนเมียน้อยเกิดเรื่อง ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็ไม่รู้มุดหัวอยู่ซอกไหนแล้ว
เด็กคนนี้โทรหาน้องชายฝ่ายพ่อของเวินลั่วฉิงเพื่อขอความช่วยเหลือ?เด็กคนนี้คิดง่ายเกินไปหรือเปล่า คนไม่เอาถ่านคนนั้นช่วยอะไรเขาได้?
ทว่าเวลานี้คุณย่าเย่ไม่ได้พูดอะไร ท่านฟังถังจื่อโม่คุยโทรศัพท์ต่อ อยากฟังว่าถังจื่อโม่จะพูดยังไง
“คุณลุงครับ ผมต้องการหมอมาช่วยตรวจสุขภาพคุณปู่เย่หลายคนครับ คุณลุงหาแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาให้ผมได้ไหมครับ?”ระดับเสียงของจื่อโม่ไม่สูงมากนัก ทว่าบัดนี้ห้องคนไข้เงียบมาก ดังนั้นทุกคนได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่เต็มสองหู
“ได้สิ นายอยากเชิญหมอโรงพยาบาลไหนล่ะ?มีคนที่อยากเชิญไหม?”อีกฝั่งหนึ่งของสาย ถังหลินอดหัวเราะไม่ได้ เด็กคนนี้แน่มาก ทำเป็นระบบเป็นทอดๆได้ ยังรู้สึกขอความช่วยเหลือจากเขาอีก