ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1240 จุดจบซับซ้อนมาก (1)
ตอนนี้เด็กคนนี้ดันบอกว่ากู่หยูจะมาถึงภายในหนึ่งชั่วโมง มันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดที่ท่านเคยฟังมาช่วงนี้เลย!
เด็กคนนี้ถือดีจังเลย ไม่รู้จักประมาณตนเสียเลย
หากเชิญกู่หยูมาไม่ได้ เรื่องนี้ก็คึกคักซะแล้ว ท่านสามารถบอกได้ว่าเด็กคนนี้ทำตัวเหลวไหล เด็กอายุแค่ห้าขวบ ท่านไม่เชื่อว่าจะรับมือเด็กอมมือไม่ไหว
เวลานี้คุณย่าเย่ยิ่งคิดก็ยิ่งได้ใจ รู้สึกผ่อนคลายมากจนเกือบหัวเราะออกมาแล้ว
คุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงก็เหมือนกับคุณย่าเย่ไม่มีผิดเพี้ยน คุณปู่เย่ก็มั่นใจว่าเด็กคนนี้เชิญกู่หยูมาไม่ได้
ลุงของเด็กคนนี้คงไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก คนรู้จักของเวินลั่วฉิงไม่มีสักคนที่มากฝีมือถึงเพียงนั้น กระทั่งเย่ซือเฉินก็ทำไม่ได้
การที่จะเชิญกู่หยูได้ ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับกู่หยูมาก่อน ทว่าได้ยินว่ากู่หยูเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับผู้ใด ได้ยินว่ากู่หยูไม่มีเพื่อนเลย
อย่าว่าแต่เด็กคนนี้เลย ถึงแม้พ่อแท้ๆของเขาไปเชิญก็ยังไม่ได้
ถึงแม้คนแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลไปเชิญก็ยังไม่ชัวร์ ถึงแม้กู่หยูจะทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ก็ไม่ใช่จะฟังคำพูดของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล
ทว่า ได้ยินมาว่า การที่กู่หยูไปทำงานในโรงพยาบาลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล เพราะมีบุคคลที่มีบารมีคนหนึ่งในนั้นเชิญเขาไปทำงาน คงมีเพียงบุคคลที่ว่าเท่านั้นที่จะเชิญกู่หยูได้
ทว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกของเวินลั่วฉิง ด้วยเส้นสายของเวินลั่วฉิง ไม่มีทางรู้จักคนในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลอย่างแน่นอน จึงไม่มีทางขอความช่วยเหลือจากแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลได้ สำหรับบุคคลที่มีบารมีในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล คนทั่วไปไม่อาจได้พบเจอ สถานะอย่างเวินลั่วฉิงยิ่งไม่ติดปลายเล็บเลยด้วยซ้ำ
คุณปู่เย่นึกถึงพวกนี้ก็ยิ่งวางใจ หากเด็กคนนี้เชิญกู่หยูมาได้จริงๆ เขาก็ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี
ณ บ้านตระกูลถัง
“จื่อโม่สุดที่รักให้ถังหลินเชิญกู่หยู จะได้เหรอ?นิสัยอย่างกู่หยู ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ไว้หน้าถังหลินด้วย”ท่านย่าถังอดกังวลไม่ได้
“งั้นคุณช่วยไปเชิญเองหน่อยไหม”ท่านย่าถังหันไปมองท่านปู่ถัง“คุณเป็นคนเชิญเขามาทำงานในโรงพยาบาลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล คุณไปอาจจะ……”
“คุณคิดว่าเขาจะฟังผมเหรอ?”ท่านปู่ถังส่ายหัว“ตอนนั้นผมใช้ทุกวิถีทางกว่าจะเชิญเขามาได้ ตอนนี้เขาคงไม่ฟังผมหรอก”
“แม้แต่เขาก็ไม่ให้เกียรติ แล้วถังหลินจะเชิญได้ยังไง?”ท่านย่าถังได้ยินท่านปู่ถังพูดก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้น “ทำให้เรื่องของถังจื่อโม่เสียไม่ได้ คุณดูท่าทางของคุณย่าเย่สิ ตอนนี้ก็เริ่มได้ใจแล้ว คุณย่าเย่คงมั่นใจว่าจื่อโม่เชิญกู่หยูไม่ได้ หากถังหลินเชิญกู่หยูไปที่โรงพยาบาลตี้อีไม่ได้ จื่อโม่ของพวกเราต้องถูกคุณย่าเย่รังแกแน่”
ท่านย่าถังรู้ว่าคุณย่าเย่ทำอย่างนั้นได้แน่
“ผมเข้าใจที่คุณพูดดี ทว่านิสัยของกู่หยู ผมไปหรือไม่ไปก็ไม่ต่างกันเลย ผมรู้จักเขาดี”ท่านปู่ถังไม่ใช่ไม่อยากไป แต่เขารู้ดีว่าไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
“แล้วตอนนี้ทำยังไงดี?”ท่านย่าถังร้อนใจจนลุกขึ้นจากโซฟา“หรือต้องรอให้คุณย่าเย่รังแกจื่อโม่ของพวกเรา?”
“คุณยายใจเย็นๆค่ะ พี่ใหญ่รู้จักประเมินสถานการณ์ค่ะ พี่ใหญ่รับปากจื่อโม่แล้ว พี่ใหญ่ต้องทำได้แน่นอนค่ะ หนูเชื่อมั่นพี่ใหญ่ค่ะ”เวินลั่วฉิงเชื่อมั่นในตัวถังหลิน เธอรู้ว่าถังหลินไม่ใช่คนพูดพล่อยๆไปวันๆ
ถังหลินก็รู้ว่าสถานการณ์ที่จื่อโม่อยู่ในโรงพยาบาลตี้อีเป็นอย่างไร สิ่งที่ท่านย่าถังคิดถึง ถังหลินก็ต้องนึกได้แน่นอน ถังหลินไม่มีทางให้จื่อโม่ถูกกลั่นแกล้งแน่นอน ยิ่งไม่ทางปล่อยให้ถังจื่อโม่ต้องรับความอยุติธรรมเด็ดขาด
“คุณตาหนูยังไม่มีปัญญาเลย แล้วถังหลินจะไหวเหรอ ถังหลินคงไม่รู้จักนิสัยของกู่หยู คิดง่ายเกินไป”เห็นได้ชัดว่าท่านย่าถงไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนเวินลั่วฉิง ท่านรู้สึกว่าถังหลินรู้จักกู่หยูไม่พอ
“ผมไม่มีปญญาก็ไม่หมายความว่าถังหลินไม่มีปัญญา คุณต้องเชื่อมั่นถังหลินสิ”ท่านปู่ถังปลอบใจท่านย่าถัง และเป็นการเชื่อมั่นในตัวถังหลินอีกด้วย“คุณอย่าพึ่งใจร้อน พวกเราดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้”ท่านย่าถังได้ยินท่านปู่ถังพูดพลันพยักหน้าช้าๆ ใจร้อนกับเรื่องนี้ไม่ได้ ใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ ดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าถังหลินอาจมีวิธีเชิญกู่หยูมา
ภายในโรงพยาบาลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล
“ไป ไปโรงพยาบาลตี้อีกับผม”ถังหลินเดินเข้าห้องทำงานของกู่หยูโดยตรง เขาเห็นกู่หยูอยู่ในห้องทำงาน แถมยังไม่มีคนไข้ก็โล่งอกอย่างฉายชัด สถานการณ์เช่นนี้มันเอื้ออำนวยต่อเขามาก
“คุณรู้ว่าวันนี้ผมไม่รับผ่าตัด”กู่หยูเงยหน้ามองถังหลินด้วยแววตาที่มืดครึ้มเล็กน้อย ทุกวันที่สิบห้าของเดือน เขาจะไม่รับเคสผ่าตัด หากคนที่เขามาในตอนนี้เป็นคนอื่น คาดว่าเขาต้องใช้มีดผ่าตัดต้อนรับบุคคลที่มาเยือนแน่
“ผมรู้ ไม่ให้คุณผ่าตัดหรอก แค่ให้คุณช่วยอะไรนิดหน่อย แค่ช่วยตรวจสุขภาพคนคนหนึ่ง”ถังหลินดูออกว่าสีหน้ากู่หยูไม่สู้ดีนัก ดังนั้นจึงรีบอธิบายทันควัน
พูดตามตรง เหมือนทุกๆวันที่สิบห้าของเดือน กู่หยูจะอารมณ์เสียเสมอ หากวันนี้จื่อโม่สุดที่รักไม่ขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็ไม่อยากมาหากู่หยูเวลานี้จริงๆ
หากทำให้กู่หยูเคืองใจจริงๆ มีดผ่าตัดของกู่หยูก็สามารถบินมาได้ตลอดเวลา
“ตรวจสุขภาพ?”กู่หยูยกหางคิ้วขึ้น พลางกวาดสายตามองถังหลินแวบหนึ่ง“ตอนนี้ใช้อุปกรณ์ตรวจสุขภาพกันทั้งนั้น ใครก็ทำได้”
“แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงของคุณ”ถังหลินก็รู้ว่าตอนนี้ใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายก็ตรวจสุขภาพได้แล้ว ขอแค่ดูอุปกรณ์เป็นก็จะรู้ผลตรวจทันที แต่ตอนนี้กำลังฉีกหน้ากากของคุณปู่เย่ มีเพียงกู่หยูผู้มีความน่าเชื่อถือออกโรงถึงจะสยบคำพูดของคุณย่าเย่ได้
ครั้งนี้กู่หยูแค่เหล่ตาใส่ถังหลินเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร ทว่าความหมายชัดเจนมาก ไม่ไป
“หลายปีมานี้คุณกำลังหาคนสืบทอดวิชาแพทย์อยู่ไม่ใช่เหรอ?ผมช่วยคุณหาได้แล้วคนหนึ่ง รับรองว่าคุณต้องพอใจแน่ คุณไม่อยากไปดูหรอก”ถังหลินรู้นิสัยของกู่หยู เขารู้ว่ากู่หยูเชิญยาก ทว่ามีเรื่องนี้ที่สามารถล่อตาล่อใจกู่หยูได้
ดังคาด กู่หยูได้ยินถังหลินพูดแล้วสีหน้าพลันเปลี่ยนไป ตอนนี้มองถังหลินดีๆแล้ว “คุณรู้ว่าผมเรียกร้องสูง คุณคิดจะหาคนมาหลอกล่อผมสุ่มสี่สุ่มห้าเหรอ?ผมไม่ถือสาที่จะลองใช้มีดผ่าตัดของผมนะ”
เห็นได้ชัดว่ากู่หยูไม่เชื่อ ผู้สืบทอดที่เขาต้องการจะหาได้ง่ายอย่างไร?!
“ผมจะกล้าหลอกได้ไง ผมเคยหลอกใครที่ไหน”ถังหลินได้ยินกู่หยูเอ่ยถึงมีดผ่าตัดก็รู้สึกขนลุกซู่
“ใคร?”กู่หยูเชื่อในคุณธรรมของถังหลิน ถึงแม้ตอนนี้ถังหลินมีเรื่องขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ก็ไม่ถึงกับหลอกเขาด้วยเรื่องนี้ ถังหลินรู้ว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน
“คนตระกูลถังของพวกผมเอง”ระหว่างที่ถังหลินพูดก็เชยคางขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงมีความภาคภูมิใจหลายส่วน
“คนตระกูลถัง?”กู่หยูกะพริบตาระยิบระยับ“ดีเอ็นเอตระกูลถังของพวกคุณไม่เลว ตอนนั้นผมพอใจในตัวคุณมาก แต่คุณไม่ยินดีด้วย ตอนนี้คุณอายุปูนนี้แล้วก็ช่างมันเถอะ ตระกูลถังของพวกคุณมีคุณหนูใหญ่ผู้เก่งกาจที่พึ่งหาตัวเจอ แต่อายุก็ไม่น้อยแล้ว ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ผมต้องการ นอกจากคุณกับคุณหนูถัง ตอนนี้ตระกูลถังของพวกคุณเหมือนไม่มีทายาทนี่?”
“ใครบอกว่าตระกูลถังของพวกเราไม่มีทายาท?”สีหน้าถังหลินเคร่งขรึม“ผมจะบอกอะไรคุณให้รู้ คนที่ผมเสนอเป็นหลานชายของผม อายุห้าขวบ ฉลาดปราดเปรื่อง ไหวพริบดีเหนือคนทั่วไป หากคุณเห็นแล้วไม่พอใจ ถังหลินอย่างผมจะใช้แซ่ตามคุณ”
ถังหลินมั่นใจเหลือเกินว่า หากกู่หยูเจอเด็กๆทั้งสองคนแล้วต้องพอใจแน่ๆ
เพราะถังหลินรู้ว่าคงปิดบังสถานะของถังจื่อโม่ไม่นานแล้ว เนื่องจากตอนนี้เย่ซือเฉินตัดขาดกับตระกูลเย่เพื่อฉิงฉิง ตอนนี้เย่ซือเฉินคงอยู่กับฉิงฉิง เรื่องของเด็กจึงต้องประกาศสู่สาธารณชนแน่นอน
ดังนั้นเขาบอกกู่หยูก่อนก็คงไม่เป็นอะไร เขาเชื่อในจรรยาบรรณความเป็นคนของกู่หยู กู่หยูไม่มีทางปากพล่อย รั่วไหลความลับเด็ดขาด
“หลานชาย?ใคร?!”สีหน้ากู่หยูจริงจังมากขึ้นอีกหลายส่วน ได้ยินว่าเป็นเด็กบ้านตระกูลถังเขาก็เกิดความสนใจขึ้นมา เพราะดีเอ็นเอบ้านตระกูลถังนั้นดีจริง!!
ไม่ยอมก็ไม่ได้ซะแล้ว!!