ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1252 เปิดเผยฐานะ (1)
“ใช่แล้ว ตลอดหลายปีมานี้คุณชายสามเย่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ช่างลำบากมากจริงๆ สามารถพูดได้เลยว่าไม่มีความอิสระเลยแม้แต่นิด แม้กระทั่งงานแต่งงานของตัวเองคุณชายสามเย่ก็ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่กำหนดงานแต่งของคุณชายสามเย่กับตระกูลกู่เพื่อผลประโยชน์ ตอนนี้ก็กำหนดงานแต่งกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ คุณชายสามเย่มีคนที่ตัวเองชอบอยู่แล้วแท้ๆ กลับต้องถูกคุณปู่เย่บีบบังคับให้แต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ชอบ”
“ตอนนี้ดีแล้ว ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็หลุดพ้นจากความโหดร้ายของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่แล้ว ต่อจากนี้คุณชายสามเย่ก็อิสระแล้ว อยากจะชอบใครก็สามารถชอบใครได้ อยากจะแต่งงานกับใครก็แต่งงานกับใครได้แล้ว”
“ครั้งก่อน คุณชายสามเย่เปิดงานแถลงข่าวว่าทั้งชีวิตนี้จะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียว ตอนนี้คุณชายสามเย่อิสระแล้ว จะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงอีกครั้งแล้วใช่ไหม”
“เอาความจริงแล้วเวินลั่วฉิงไม่ค่อยสวยเลย อีกอย่างก็ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ได้ข่าวว่าโง่ด้วย ไม่รู้ว่าทำไมคุณชายสามเย่ถึงชอบเวินลั่วฉิงได้ ช่างน่าอิจฉาริษยาจริงๆ”
“ไม่ว่ายังไงแล้ว คุณชายสามเย่เขาชอบก็พอแล้ว หรือไม่เวินลั่วฉิงอาจจะมีเสน่ห์ที่พวกเราไม่รู้ก็เป็นได้”
“มองไม่ออกเลยจริงๆ รูปถ่ายของเวินลั่วฉิงพวกเราก็เคยเห็น ช่างจนปัญญาจริงๆ!!”
“ตัวจริงก็ไม่สวย ฉันเคยจริงเวินลั่วฉิงตัวจริง กระเต็มหน้าเลย ตาก็ตก ใบหน้าก็ออกเหลือง ยากที่จะพูดจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมคุณชายสามเย่ถึงชอบเธอได้?”
“อย่าอิจฉา ทุกคนอย่าอิจฉา ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งแสดงว่าคุณชายสามเย่รักจริง อีกอย่างในวันนี้คุณชายสามยิ่งตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่เพื่อเวินลั่วฉิง ทิ้งทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป สังคมปัจจุบันนี้คงจะยากที่จะเจอรักแท้แบบนี้แล้ว ดังนั้น เพียงแค่รักนี้ พวกเราก็ยินดีด้วยแล้ว”
“พวกเราก็มีเพียงแค่ความยินดีและคำอวยพร ถึงแม้ว่าฉันจะสวยกว่าเวินลั่วฉิง ทว่าคุณชายสามเย่ก็ไม่มีทางชอบฉัน สู่ขอฉัน ดังนั้นยินดีกับคุณชายสามเย่ด้วย!!”
“ฉันว่าชาติที่แล้วเวินลั่วฉิงต้องช่วยกาแล็กซีทางช้างเผือกไว้แน่นอน ชาตินี้ถึงได้พบเจอกับคุณชายสามเย่ ผู้ชายที่หล่อขนาดนั้น ผู้ชายที่มีเสน่ห์ขนาดนั้น ผู้ชายที่มีความสามารถขนาดนั้น ยังคลั่งรักขนาดนั้นอีกด้วย ตอนแรกฉันคิดว่าผู้ชายที่ดีแบบนี้จะมีแค่ในความฝัน คิดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะพบเจอแล้ว”
“ฉันว่าเวินลั่วฉิงสามารถไปทำศัลยกรรมได้ แค่ความชอบเฉยๆนะ ไม่ได้มีความหมายอื่น”
“คุณชายสามเย่ไม่ว่าอะไรก็พอแล้ว”
“ฉันคิดไม่ออกจริงๆ คิดไม่ออก เพราะอะไร? ทำไมผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ขนาดนั้นอย่างคุณชายสามเย่ถึงชอบเวินลั่วฉิง ยังจะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียวด้วย”
“หรือว่าเวินลั่วฉิงจะมีความสามารถที่เหนือกว่าคนอื่นจริงๆ”
“ความสามารถที่เหนือกว่าคนอื่น!! คอมเมนต์บนคงจะเข้าใจประโยคนี้ผิด ไม่ใช่ว่าฉันมีความเห็นอะไรกับเวินลั่วฉิง แต่ว่าคิดไม่ออกจริงๆว่าเวินลั่วฉิงมีความสามารถอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น เวินลั่วฉิงก็กลับบ้านเวินไปหลายปีแล้ว ก็ยังโง่ๆ ซื่อๆ มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ถูกบ้านเย่ยกเลิกงานแต่ง จากนั้นก็สลบในงานแต่ง ได้ข่าวมาว่าอาการกำเริบ หลังจากนั้นห้าปีก็ถูกคุณปู่เวินส่งไปรักษาแล้ว คนที่มีตาต่างก็รู้ว่าสถานการณ์ของเวินลั่วฉิงเป็นยังไง คอมเมนต์บนจะอวยเวินลั่วฉิงขนาดนั้นเพราะชอบคุณชายสามเย่ไม่ได้นะ”
“ขอพูดคำที่ไม่น่าฟังหน่อยนะ จริงๆแล้วเวินลั่วฉิงมีปัญหาด้านสมองมาโดยตลอด ที่เรียกว่าโรคประสาท ดังนั้นฉันเห็นด้วยกับคำพูดของคอมเมนต์บน หากเวินลั่วฉิงมีความสามารถเหนือกว่าคนอื่นจริงๆ ฉันคงสามารถบินไปนอกโลกได้แล้ว”
“ดังนั้น ทำไมคุณชายสามเย่ถึงชอบเวินลั่วฉิง?”
“ฉันไม่อยากรู้ว่าทำไมคุณชายสามเย่ถึงชอบเวินลั่วฉิง ฉันแค่อยากรู้ว่าเจ้าน่ารักคือใคร? ฉันอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเจ้าน่ารักคือใครกันแน่”
“ฉันก็อยากรู้ว่าเจ้าน่ารักเป็นลูกบ้านใคร น่ารักมากเลย ฉันชอบมาก!!”
“ก่อนหน้านี้นักข่าวถามว่าเจ้าน่ารักนามสกุลเย่หรือเปล่า ตอนนั้นในสมองของฉันก็ปิ๊งขึ้น วินาทีนั้นฉันยังคิดว่าเจ้าน่ารักเป็นลูกของคุณชายสามเย่ซะอีก”
“ตอนแรกฉันก็คิดแบบนี้ ไม่ว่ายังไงแล้ววันนี้เจ้าน่ารักไปทวงความยุติธรรมกับคุณปู่เย่ก็เพื่อเย่ซือเฉิน คืนความบริสุทธิ์ให้เย่ซือเฉิน ดังนั้นตอนนั้นฉันคิดว่าเจ้าน่ารักเป็นลูกของคุณชายสามเย่จริงๆ”
“คอมเมนต์บนหากเจ้าน่ารักเป็นลูกของคุณชายสามเย่จริงๆ งั้นแม่ของเจ้าน่ารักคือใคร? คุณชายสามเย่พึ่งแต่งงานกับเวินลั่วฉิงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เอง อีกอย่างทั้งสองก็หย่ากันแล้ว เย่ซือเฉินเปิดงานแถลงข่าวว่าจะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียว ดังนั้นเจ้าน่ารักไม่มีทางเป็นลูกของคุณชายสามเย่แน่นอน”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ไม่แน่เจ้าน่ารักอาจจะเป็นลูกของคุณชายสามเย่และเวินลั่วฉิงก็ได้ นี่ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่าทำไมคุณชายสามเย่ถึงจะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียว อาจจะเป็นเพราะเด็ก คุณชายสามเย่เป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ”
พอคอมเมนต์นี้ออกมา ช่องคอมเมนต์ก็เงียบไปเลย ผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีที่ไม่มีคอมเมนต์ใหม่ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทุกคนต่างก็ตกใจกับคอมเมนต์นี้
“คอมเมนต์บนพูดได้มีเหตุผล ไม่แน่เธออาจจะเดาความจริงถูกแล้ว”
“บอกว่าเป็นรักแท้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลายเป็นเพื่อลูกแล้วล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง? คุณชายสามเย่พึ่งแต่งงานกับเวินลั่วฉิงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เอง”
“หรือคนอื่นอาจจะแต่งตั้งนานแล้วก็ได้? บ้านเศรษฐีชอบแต่งงานแบบลับๆไม่ใช่หรอ? ตอนนั้นคุณชายสามเย่แต่งงานกับเวินลั่วฉิงก็เพราะว่าหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป แต่ว่าต่อมาเวินลั่วฉิงคลอดลูกให้คุณชายสามเย่แล้ว คุณชายสามเย่ก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว”
“เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้าน่ารักบอกแล้วว่าเขาไม่ได้นามสกุลเย่ อีกอย่างเจ้าน่ารักก็ไม่ได้ใช้นามสกุลตามแม่ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นลูกของคุณชายสามเย่”
“ถูก ก่อนหน้านี้คุณย่าเย่ไม่เห็นด้วยที่เวินลั่วฉิงจะคบกับคุณชายสามเย่ เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือเวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้ หากเจ้าน่ารักเป็นลูกของคุณชายสามเย่และเวินลั่วฉิง ก่อนหน้านี้คุณย่าเย่ต้องไม่มีเหตุผลแบบนี้แน่นอน”
“อีกอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณย่าเย่ไม่รู้จักเจ้าน่ารัก หากเป็นลูกของคุณชายสามเย่ เป็นไปไม่ได้ที่คุณย่าเย่จะไม่รู้จัก”
ทันใดนั้นชาวเน็ตต่างก็พลิกแพลงคอมเมนต์ก่อนหน้านี้
หลังจากการวิเคราะห์นี้แล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าน่ารักบอกว่าเขาไม่ได้นามสกุลเย่ อีกอย่างก็ไม่ได้ใช้นามสกุลตามแม่ด้วย
ไม่ได้ใช้นามสกุลตามแม่ งั้นก็ต้องใช้นามสกุลตามพ่อ ทว่าเจ้าน่ารักไม่ได้นามสกุลเย่ ไม่นามสกุลเย่ ดังนั้นจึงไม่ใช่ลูกของคุณชายสามเย่
ในเน็ตพูดคุยโด่งดังมากในหัวข้อนี้ บรรยากาศในบ้านถังกลับดีมาก
“ฉันบอกแล้วว่าจื่อโม่บ้านเราเก่งที่สุดแล้ว ต้องสามารถเปิดโปงได้แน่ว่าคุณปู่เย่แกล้งเสแสร้งอยู่” ในที่สุดใบหน้าของท่านย่าถังก็มีรอยยิ้มแล้ว สำหรับผลลัพธ์นี้ท่านย่าถังพอใจมาก
“ความผิดพวกนั้นที่คุณย่าเย่และคุณปู่เย่ทำเอง พวกเขาก็ควรจะลิ้มลองผลที่ตามมาแล้ว หวังว่าพวกเขาจะสามารถกลับใจได้” ท่านย่าถังนึกถึงสิ่งที่คุณย่าเย่และคุณปู่เย่ทำ ก็อดส่ายหัวไม่ได้
“หวังว่าพวกเขาจะรู้ว่าไม่ดีแล้วถอยกลับไป ไม่ต้องสร้างเรื่องอื่นขึ้นมาอีก ไม่เช่นนั้น……” นัยน์ตาของท่านปู่ถังหรี่ลงเล็กน้อย หากคุณปู่เย่และคุณย่าเย่สร้างเรื่องอีก เขาจะไม่เกรงใจแล้ว
“นายดูสินักข่าวพวกนั้นจะกินคุณย่าเย่เข้าไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ คุณปู่เย่และคุณย่าเย่คงจะเก็บตัวแล้ว ช่วงนี้น่าจะไม่สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาแล้ว” ท่านย่าถังนั้นค่อนข้างมองโลกในแง่ดี ท่านย่าถังคุ้นชินกับการที่ไม่มองคนอื่นให้ดูร้ายเกินไป
ท่านปู่ถังมองไปทางท่านย่าถังหนึ่งที ไม่ได้พูดอะไรอีก
เย่ซือเฉินมองดูคุณย่าเย่ในรายการถ่ายทอดสด นัยน์ตาคู่หนึ่งหม่นหมองลง ตลอดหลายปีมานี้เขารู้จักคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ดีเกินไปแล้ว ตามนิสัยของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน
“จริงด้วย ถังหลินเชิญกู่หยูไปได้ยังไงเนี่ย? กู่หยูเป็นคนที่ไม่ให้หน้าใครมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้นายบอกว่าเชิญกู่หยูไม่ไหวเลย แล้วถังหลินใช้วิธีอะไรกันแน่เนี่ย” สำหรับจุดนี้ท่านย่าถังก็สงสัยมาก
ท่านปู่ถังได้ยินคำพูดนี้ของท่านย่าถังแล้วก็หัวเราะขึ้น “เมื่อกี้ฉันเห็นท่าทีของกู่หยูเป็นมิตรกับถังจื่อโม่มาก”
“ใช่แล้ว ฉันก็เห็นแล้ว กู่หยูโด่งดังเรื่องนิสัยที่แย่ ปกติเจอใครก็มักจะชักสีหน้าตลอด ทำไมถึงเป็นมิตรกับจื่อโม่ของเราขนาดนี้? ถึงแม้ว่าจื่อโม่ของพวกเราจะน่ารัก ทว่าฉันมักจะรู้สึกว่ากู่หยูเป็นมิตรกับจื่อโม่เกินไปแล้ว รู้สึกแปลกเล็กน้อย นายว่ากู่หยูอยากทำอะไรกับจื่อโม่ของพวกเราหรือเปล่า?”
“ปัญหานี้เดี๋ยวเธอสามารถรอถามกู่หยูเองได้” ท่านปู่ถังไม่ได้ตอบตรงๆ ทว่าใบหน้าที่ยิ้มแฉ่งนั้นสามารถยืนยันได้แล้วว่าท่าปู่เย่รู้คำตอบแล้ว
ไม่ว่ายังไงแล้วเขาเป็นคนเชิญกู่หยูมาเอง สำหรับเรื่องของกู่หยูท่านปู่ถังรู้ดีที่สุดแล้ว
“นายนี่ ทำไมถึงเล่นตัวขึ้นมาแล้วล่ะ นายรู้ก็บอกฉันสิ” ท่านย่าถังจ้องไปทางท่านปู่ถังทันที