ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1267 เปิดเผยสถานะ สั่นสะเทือนมากเกินไป!! (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1267 เปิดเผยสถานะ สั่นสะเทือนมากเกินไป!! (2)
“ครับ” เย่ซือเฉินเห็นรอยยิ้มของลูกสาวตัวเองแล้วก็พยักหน้าลงติดๆกัน!!
หลังจากนั้นฉากต่อมาก็คือถังจื่อซีนอนอยู่ตรงกลาง คุณชายสามเย่กับเวินลั่วฉิงนอนกันคนละฝั่ง อีกทั้งถังจื่อซียังดูตื่นเต้นดีใจอย่างเห็นได้ชัด เป็นเวลานานที่ไม่หลับ
เพราะฉะนั้นคุณชายสามเย่คิดอยากจะจูบภรรยาตัวเองก็ไม่มีโอกาสแล้ว รอจนกระทั่งถังจื่อซีหลับ เวินลั่วฉิงก็หลับไปแล้วเช่นกัน คุณชายสามเย่ทำได้เพียงต้องมากลัดกลุ้มใจอยู่เพียงคนเดียว
วันรุ่งขึ้น เวินลั่วฉิงตื่นขึ้นมา ตอนที่เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลานั้น เห็นมีข่าวส่งมา เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจมากนัก ปกติแล้วเธอเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกนี้อยู่แล้ว แต่ตอนที่เห็นเนื้อหาของหัวข้อแล้ว เวินลั่วฉิงก็ตกตะลึงไป หลังจากนั้นจึงกดเปิดอ่าน
หัวข้อข่าวนั้นสะดุดตามาก คุณหนูใหญ่ตระกูลถังแต่งงานแล้ว อีกทั้งมีลูกแฝดชายหญิงอีกด้วย
คิ้วของเวินลั่วฉิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อวานนี้ตอนที่พวกเขาประชุมกันอยู่ข้างล่างมีพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่ เพราะฉะนั้นตัดสินใจว่าจะเปิดเผยถึงสถานะของเธอกับลูก ดังนั้นได้เห็นข่าวนี้แล้วเวินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดมากเช่นกัน
เธอคิดว่านี่เป็นข่าวที่ถังหยุนเฉิงตั้งใจจะเปิดเผยขึ้น เมื่อคืนนี้ถังหยุนเฉิงบอกว่าจะนัดนักข่าว แล้วจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เวินลั่วฉิงคิดไม่ถึงเลยว่าถังหยุนเฉิงจะรวดเร็วขนาดนี้ เธอยังไม่ได้ตื่นนอนเลย เพิ่งจะหกโมงกว่าๆเท่านั้นเองข่าวก็ออกมาแล้ว
เพียงแต่ที่เวินลั่วฉิงไม่รู้คือ เวลานี้ถังหยุนเฉิงยังอยู่ในห้องของตัวเอง เขาเองก็เพิ่งจะตื่นขึ้นเช่นกัน ยังไม่ได้รู้เรื่องนี้เสียเลยด้วยซ้ำ
ไม่เพียงแค่ถังหยุนเฉิง เวลานี้ทุกคนของตระกูลถังยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้กันเลย เย่ซือเฉินเองก็ยังไม่รู้เช่นกัน เมื่อวานนี้เย่ซือเฉินนอนดึกมาก ดังนั้นคุณชายสามเย่จึงยังไม่ตื่น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน!!
แต่ถังจื่อซีที่กอดเย่ซือเฉินอยู่นั้นขยับตัว เย่ซือเฉินก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เย่ซือเฉินลืมตาขึ้น เห็นเวินลั่วฉิงกำลังจ้องมองโทรศัพท์มือถืออยู่ เขาลุกขึ้นมาอย่างระวัง แล้วเข้าไปใกล้ข้างๆหูเธอ แล้วจูบลงเบาๆ : “ดูอะไรอยู่ครับ?”
เพิ่งจะตื่นขึ้นมา น้ำเสียงของเขาฟังดูแหบพร่าอยู่บ้าง แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ปกปิดความพอใจเอาไว้ไม่มิด เขาคิดถึงวันแบบนี้มานานมากแล้ว
ตอนเช้าลืมตาขึ้นมา ก็สามารถเห็นเธอได้เป็นคนแรก สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องที่มีความสุขมากที่สุด อีกทั้งเวลานี้ในอ้อมกอดก็ยังกอดลูกสาวตัวนุ่มนิ่มเอาไว้ แน่นอนว่า ถ้าหากเวลานี้ลูกชายมาอยู่ข้างๆเขาด้วยก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่เด็กนั่นคาดว่าคงจะไม่ยอมรับเขาได้เร็วขนาดนั้น
“คุณลุงให้คนลงข่าวเปิดเผยแล้วค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณลุงจะรวดเร็วขนาดนี้” เวลานี้เวินลั่วฉิงเสียงเบา ราวกับว่าไม่ได้แน่ใจมากขนาดนั้น
เมื่อคืนถังหยุนเฉินบอกว่าวันนี้จะเรื่องของเธอกับลูกทั้งสองคน เพียงแต่เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตรงไหนที่ดูผิดปกติไป
“เช้าขนาดนี้เลยหรือครับ? ตอนนี้เพิ่งจะกี่โมงเอง?” เย่ซือเฉินเองก็ดูอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน เขามองดูเวลา : “ตอนนี้เพิ่งจะหกโมงกว่า ทำไมถึงเร็วขนาดนี้?”
“คุณเองก็รู้สึกว่ารีบร้อนเกินไปใช่ไหมคะ? รู้สึกแปลกๆใช่หรือเปล่า?” เวินลั่วฉิงหันไปมองเย่ซือเฉิน คิ้วขมวดเข้าหากัน เธอเองก็รู้สึกว่าดูรีบร้อนเกินไปหน่อยเช่นกัน
“จากที่ผมเข้าใจลุงถางนั้น ลุงถางทำอะไรก็จะสุขุมและมั่นคงมาโดยตลอด ต่อให้เขาจะรีบเปิดเผยสถานะของคุณกับลูก ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้คนเอาข่าวประกาศออกไปแต่เช้าแบบนี้ เขารู้ว่าวันนี้พวกเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน จากสไตล์ของเขาแล้วคงจะรอให้พวกเราจดทะเบียนกันก่อนแล้วถึงค่อยเปิดเผยออกไป” เย่ซือเฉินวิเคราะห์ แล้วก็รู้สึกแปลกๆด้วยเช่นกัน
“ฉันเองก็รู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่เหมือนกันค่ะ” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น เย่ซือเฉินเองก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องเช่นกัน หรือว่าจะมีตรงส่วนไหนที่เกิดปัญหาขึ้นอย่างนั้นหรือ
“แต่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ผมรู้สึกว่าผมจะต้องเปลี่ยนแปลงความเข้าใจที่มีต่อลุงถางกับคุณปู่ถังแล้วล่ะครับ” เย่ซือเฉินนึกถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วรีบเอ่ยพูดเสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว : “คนตระกูลถังจะทำอะไรบางครั้งก็ทำให้คนคาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ”
เวินลั่วฉิงได้ยินเขาเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืนนี้แล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูแล้วคุณชายสามเย่จะยังผูกพยาบาทอยู่บ้างเล็กน้อยแล้วสิ
“ฉันไปถามคุณลุงก่อนนะคะ ดูว่าคุณลุงจัดการเอาไว้อย่างไรบ้าง พวกเราก็จะได้ให้ความร่วมมือได้” เวินลั่วฉิงเห็นข่าวแบบนี้ตั้งแต่เช้าตู่ก็รู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ รู้สึกว่ากะทันหันไปหน่อย ดังนั้นเธออยากจะรู้ถึงแผนการของถังหยุนเฉิงให้ชัดเจน
“อืม ดีเหมือนกันครับ” เย่ซือเฉินโอบกอดเธอเข้ามา แล้วจูบลงบนหน้าผากของเธอ : “ผมจะรีบตื่นเดี๋ยวนี้เลย หลังจากนั้นเราไปจดทะเบียนกันนะครับ”
เวินลั่วฉิงมองเขา อดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง
ครั้งที่แล้ว เธอไม่ได้ยินยอม เป็นการถูกเขาบีบบังคับ แต่ครั้งนี้เธอเต็มใจ ครั้งที่แล้วพวกเขาแต่งงานกันนั้นมีจุดประสงค์มากมายเหลือเกิน ครั้งนี้กลับเป็นเพราะความรัก ความรู้สึกแบบนี้ดีมากเสียจริงๆ
เวินลั่วฉิงเป็นฝ่ายจูบกลับเขาเอง เดิมทีคุณชายสามเย่เพียงคิดจะจูบเบาๆแล้วพอ เพียงแค่เวินลั่วฉิงเป็นฝ่ายเริ่ม คุณชายสามเย่ก็มีความฮึกเหิมขึ้นมา รีบเพิ่มความลึกซึ้งให้กับจูบนั้นทันที
ถ้าหากไม่ใช่เพราะถังจื่อซีอยู่ข้างๆ คุณชายสามเย่เกรงว่าจะเป็นจูบที่ดุเดือดมากขึ้นเสียอีก
ตอนที่เวินลั่วฉิงออกมาจากห้องใบหน้าของเธอแดงก่ำ เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูพักหนึ่ง ให้อารมณ์ของตัวเองสงบลง หลังจากนั้นถึงได้เดินลงไปทางด้านล่าง
“ฉิงฉิง ทำไมถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ? ทำไมไม่นอนต่ออีกซักหน่อย” เวลานี้เอง เฟิ่งเหมียวเหมียวเปิดประตูห้อง แล้วเห็นเวินลั่วฉิงก็อึ้งไป
“คุณป้า คุณลุงอยู่ข้างล่างหรือว่าไปบริษัทแล้วคะ?” เวินลั่วฉิงอยากจะไปหาถังหยุนเฉิง เห็นเฟิ่งเหมียวเหมียวแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
“ลุงของเธอยังอยู่ในห้องอยู่เลย เพิ่งจะตื่น นี่ยังเช้าอยู่เลยนะ เธอตื่นเช้าขนาดนี้ทำไมกัน? จะรีบไปจดทะเบียนสมรสหรือ? แต่ตอนนี้สำนักงานกิจการพลเรือนเขายังไม่ทำงานนะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวล้อเล่นอย่างทีเล่นทีจริง
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียวกลับรู้สึกงงอย่างเห็นได้ชัด ถังหยุนเฉิงยังอยู่ในห้อง? ถังหยุนเฉิงเพิ่งจะตื่นอย่างนั้นหรือ?
ในเมื่อถังหยุนเฉิงเพิ่งจะตื่น ถ้าอย่างนั้นให้นักข่าวเปิดเผยเรื่องนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หรือว่าถังหยุนเฉิงติดต่อนักข่าวเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ทำให้พวกเขาเปิดเผยข่าวออกมาได้ตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้?
“ฉิงฉิง เธอเป็นอะไรไป?” เฟิ่งเหมียวเหมียวเห็นเวินลั่วฉิงดูนิ่งไป ไม่ได้เอ่ยพูดออกมา จึงรู้สึกแปลกๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันอยากจะรู้เรื่องที่คุณลุงจะเปิดเผยเรื่องฉันกับลูกว่าจะจัดการอย่างไรบ้าง พวกเราเองก็จะได้ให้ความร่วมมือได้” เวินลั่วฉิงมองไปยังเฟิ่งเหมียวเหมียว ไม่รู้ทำไม เปลือกตาของเธอกระตุกขึ้นด้วยจิตใต้สำนึก
“ลุงเธอบอกแล้ว ว่ารอให้เขาไปบริษัทเขาก็จะติดต่อนักข่าว ลุงเธอบอกว่าเรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ บอกว่ารอเธอกับเย่ซือเฉินจดทะเบียนสมรสกันแล้วค่อยเปิดเผยออกไป ถึงตอนนั้นเรื่องราวก็จะยิ่งถูกต้องตามหลักธรรมนองคลองธรรมอีกด้วย ใช่แล้ว เธอกับเย่ซือเฉินจดทะเบียนสมรสกันแล้วก็บอกกับลุงเธอหน่อยแล้วกันนะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้คิดอะไรมาก ตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดเลยว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นรู้ดีถึงการจัดการนี้ของถังหยุนเฉิง