ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1273 ความห้าวหาญของคุณชายสามเย่ (2)
ชั่วพริบตา บรรยากาศกลายเป็นเงียบงัน เพราะทุกคนไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากอย่างไร?ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร?
เวลานี้ห้วงอารมณ์ของแต่ละคนแข่งกันสับสนปนความยุ่งเหยิ่ง แน่นอน ครั้งนี้ทุกคนจับจ้องไปยังเย่ซือเฉินด้วยแววตาโชนแสงซับซ้อนอย่างพร้อมเพรียงกัน
ซึ่งรวมถึงท่านปู่ถังก็มองเย่ซือเฉินด้วย มุมปากท่านปู่ถังขยับคล้ายอยากพูดอะไรสักอย่าง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดสักคำ
“ทำไมเหรอ?ทำไมเหรอ?เกิดอะไรขึ้น?พวกหนูพูดสิ”มือถือของท่านย่าถังไม่อยู่ข้างกาย และไม่ได้พกแว่นสายตายาวด้วย ท่านใจข่อนๆ ไม่มีอารมณ์ไปหยิบมือถือของตน จึงมองทุกคนด้วยใบหน้าร้อนรน
“ข่าวครั้งนี้คือ เด็กๆไม่ใช่ลูกของซือเฉินครับ”ถังหลินเป็นห่วงคุณย่าของตน ไม่อยากให้ท่านร้อนใจ จึงเป็นคนเอ่ยขึ้นมาคนแรก ทว่าคำพูดมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้
“หลานพูดเหลวไหลอะไร?อะไรคือเด็กๆไม่ใช่ลูกของซือเฉิน?เด็กต้องเป็นลูกของซือเฉินอยู่แล้ว ซือเฉินคือพ่อของเด็ก เรื่องนี้ไม่ผิดแน่”ท่านย่าถังทำตาขวางใส่ถังหลินแวบหนึ่ง“เรื่องแบบนี้หลานพูดมั่วได้ที่ไหน”
“คุณย่าครับ ผมไม่ได้พูดมั่วครับ สิ่งที่พูดคือข่าวที่ออกใหม่นี่แหละครับ แถมยังมีหลักฐานด้วยครับ”ถังหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ โทษเขาได้ยังไง ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด?หลักฐานอะไร?ของปลอม ของปลอมแน่ๆ”ท่านย่าถังไม่เชื่อเรื่องนี้อย่างหัวชนฝา ถึงแม้จะมีหลักฐาน แต่ท่านก็ไม่เชื่อ หลักฐานพวกนั้นต้องเป็นของปลอมแน่นอน
ท่านเชื่อฉิงฉิงของท่าน
“ตอนนี้ในข่าวบอกว่าเด็กๆเป็นลูกของคนอื่น แถมยังมีหลักฐานผลตรวจดีเอ็นเอด้วยครับ”ถังหลินรู้ว่าหลักฐานที่เผยแพร่นั้นไม่มีมูลจริง เพราะเขาเคยตรวจถังจื่อโม่กับเย่ซือเฉินมานั้น ซึ่งผลก็คือพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน จุดนี้ไม่ผิดแน่นอน
สถานการณ์ตอนนี้ ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นของปลอมก็ไม่มีประโยชน์ ข่าวใหม่นี้แพร่สะพัดออกมา ทุกคนต้องเชื่อเนื้อหาในนั้นอยู่แล้ว เพราะสื่อที่ทำข่าวออกมามีความน่าเชื่อถือมาก
ถังไป๋เชียนใช้งานบริษัทสื่อสารมวลชนแห่งนี้ได้ เกรงว่าคงใช้แผนร้ายไปไม่น้อย ช่างร้ายกาจจริงๆ!!
“ผลตรวจดีเอ็นเออะไร ทำไมมีผลตรวจอย่างนี้ได้?”ท่านย่าถังได้ยินคำว่า ผลตรวจดีเอ็นเอก็อึ้ง “พวกเขาไปเอาผลตรวจนี้มาจากไหน?เด็กๆทั้งสองเป็นลูกของซือเฉินชัดๆ ทำไมถึงมีผลตรวจพิสูจน์ว่าเป็นลูกกับคนอื่น?”
คำถามที่ท่านย่าถังตั้งขึ้นมา ทุกคนล้วนอยากทราบด้วยกันทั้งนั้น อยากรู้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอชุดนี้มาจากไหน
“ผลตรวจดีเอ็นเอฉบับออกโดยโรงพยาบาลที่ได้รับความน่าเชื่อถือที่สุดในประเทศครับ แถมยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นเลิศลงนามยืนยันผลตรวจอีกด้วยครับ ดังนั้น ไม่ว่าใครที่เห็นผลตรวจชุดนี้ก็ไม่สงสัยแน่นอนครับ”ถังหลินอ่านข่าวละเอียดมาก สิ่งที่ควรสังเกตก็ทำได้หมดแล้ว ดังนั้นเขายิ่งรับรู้ถึงความรุนแรงของเรื่อง
“ถังหลินพูดถูกมาก ดังนั้นเรื่องนี้คงจะรุนแรงมากๆเลยครับ”ถังหยุนเฉิงก็สังเกตเห็นแล้ว สีหน้าเขามืดครึ้มเล็กน้อย
“เป็นไปได้ยังไง?ผลโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือที่สุดทำผลตรวจปลอมออกมา?แพทย์ที่คำพูดมีน้ำหนักก็ยืนยันผลตรวจปลอม ยังมีจรรยาบรรณแพทย์เหลืออีกไหม”ท่านย่าถังได้ยินลูกชายกับหลานชายพูดถึงความรุนแรงของเรื่องอย่างนี้ก็ยิ่งรู้สึกอนาทรร้อนใจกว่าเดิม
“โรงพยาบาลไหน?หมอคนไหน?มีปัญหาหรือเปล่า?”ท่านปู่ถังเลิกคิ้ว ความขึงขังจริงจังอัดแน่นบนใบหน้าอย่างท่วมท้น
“คงไม่ใช่หรอกครับ เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง หมอก็ใช่ครับ คงไม่กล้าเสี่ยงอย่างนี้หรอกครับ หากสืบความจริงได้ จะทำให้โรงพยาบาลมีประวัติด่างพล่อย หมอคนนั้นก็ต้องสูญเสียอนาคตด้วยครับ ดังนั้น ถึงแม้อีกฝ่ายมีอะไรที่ดีมากๆ พวกเขาคงไม่ให้ความร่วมมือในการปลอมแปลงเอกสารเด็ดขาดครับ พวกเขาต้องถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างไม่รู้ตัวแน่ๆครับ”ถังหลินวิเคราะห์จัดแจงอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิเคราะห์ได้สมเหตุสมผลมาก ทว่ายิ่งเป็นเช่นนี้ ยิ่งหมายถึงความรุนแรงของเรื่องก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย หากโรงพยาบาลกับแพทย์ร่วมมือกันทำผลปลอมขึ้น คงจะสืบง่ายกว่าเล็กน้อย
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายระมัดระวังตัวมาก
“แล้วพวกเขาเอาอะไรไปตรวจล่ะ ช่วงนี้จื่อซีกับจื่อโม่ก็อยู่ในบ้านตระกูลถังตลอดนี่ ……”ท่านย่าถังหยุดพูดกลางคัน “พ่อในข่าวคือคนที่ชื่อเชียนอะไรนั้นใช่ไหม”
“ครับ ถังไป๋เชียนครับ”ถังหลินกระตุกมุมปาก รู้สึกตะลึงตะไลกับความรู้สึกช้าของคุณย่า ข่าวแรกเปิดเผยว่าถังไป๋เชียนเป็นสามีของฉิงฉิง งั้นข่าวที่สอง พ่อของเด็กก็ต้องเป็นถังไป๋เชียนอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเรื่องราวก็จะยิ่งวุ่นวายกันไปใหญ่กว่านี้อีกมาก!!
ทันใดนั้นท่านย่าถังไม่พูดอีกต่อไป หากเป็นคนอื่นคงทำผลตรวจอย่างนี้ไม่ได้หรอก ทว่าเมื่อเป็นถังไป๋เชียนก็มีความเป็นไปได้สูง
เพราะเด็กสองคนนี้อยู่กับฉิงฉิงที่ประเทศMตลอด และมีถังไป๋เชียนอยู่ด้วย ซึ่งฉิงฉิงเชื่อใจรุ่นพี่คนนี้มาก เด็กๆก็มีความสัมพันธ์อันดีงามกับถังไป๋เชียนด้วย ปกติจึงไม่ระวังตัวจากเขาเลย ดังนั้นถังไป๋เชียนอยากได้เลือดหรืออะไรของจื่อซีกับจื่อโม่ก็ล้วนทำได้ทั้งนั้น
ท่านย่าถังนึกความเป็นไปได้นี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมมาก“เกินไปจริงๆ เกินไปจริงๆ ทำไมเขาทำของปลอมออกมาได้ ทำไมเขาถึงสร้างเรื่องหลอกลวงเก่งอย่างนี้ เขาคงจงใจยุแยงความสัมพันธ์ของฉิงฉิงกับซือเฉินแน่ๆ ……”
ท่านย่าถังหยุดพูดอีกครั้ง ท่านรีบปรายตามองไปยังเย่ซือเฉิน รีบกล่าวว่า “ซือเฉินไม่ต้องเชื่อพวกนั้นนะ เด็กๆทั้งสองคนต้องเป็นลูกของนายอยู่แล้ว หรือว่าพวกเราก็ไปผลดีเอ็นเอด้วย”
ตอนนี้ท่านย่าถังรู้สึกกระวนกระวายใจมาก ท่านกลัวพวกเขาทั้งสองคนจะเข้าใจผิดเพราะเรื่องนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน ขออย่าให้เกิดเรื่องที่แยกพวกเขาจากกันเลย
เย่ซือเฉินที่นิ่งขรึมตลอด เมื่อได้ยินท่านย่าถังพูด เขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมองท่านย่าถังทันที “ไม่ต้องครับ ผมรู้ว่าเป็นลูกของผมครับ”
เย่ซือเฉินไม่เคยสงสัยจุดนี้เลย ถึงถังไป๋เชียนจะทำสมจริงขนาดไหน เขาก็ไม่เชื่อเลยสักนิด และไม่อาจกระทบเขาได้ด้วย
เด็กๆเป็นลูกของเขา จุดนี้เขามั่นใจมากๆ เขามองถังจื่อซีแวบแรกก็รู้สึกใกล้ชิดมาก มีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจและมีความสุขมาก ถึงแม้ถังจื่อโม่จะไม่ค่อยยอมรับเขามากนัก แต่ตอนที่เขาเจอหน้าถังจื่อโม่ ความรู้สึกนั้นชัดเจนมาก ซึ่งถังจื่อโม่ไม่ได้บอกอะไรเลย แต่แค่มองปราดเดียวเท่านั้น เขาก็รู้ว่าเป็นลูกชายของเขา ไม่มีทางผิดแน่นอน!!