ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1276 บุคคลที่เหนือการคาดหมาย (1)
ทุกคนแค่คอมเมนต์ด้วยความอยากรู้ อาทิ อยากรู้สถานะสามีของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง อยากรู้หน้าตาลูกชายลูกสาวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคู่ว่าเป็นยังไง
ทว่าเวลาต่อมา ความคิดเห็นก็ค่อยๆแปรเปลี่ยน กลายเป็นถล่มด่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังที่ทอดทิ้งสามีผู้จับมือฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน กล่าวคือมีแต่คนตำหนิติเตียนคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจสร้างกระแสนี้ขึ้นมา
“ซือเฉินพูดถูก ตามหลักแล้ว ถึงแม้จะมีข่าวอย่างนี้เปิดเผยออกมา แต่คนหมู่มากก็จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น คงไม่สมัครสมานสามัคคีกันแอนตี้คนคนหนึ่งหรอก”ถังหลินได้ยินเย่ซือเฉินกล่าวก็รีบอ่านคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว และแล้วก็พบปัญหานี้
“ใครกันนะ?ฝีมือถังไป๋เชียนหรือเปล่า?ถ้าเป็นถังไป๋เชียนจริงๆก็ควรสับเป็นหมื่นๆชิ้นเลย”ตอนนี้เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกชิงชังถังไป๋เชียนถึงจุดสูงสุด หากเวลานี้ถังไป๋เชียนยืนข้างกายเธอ เธอก็จะถือมีดพุ่งกระโจนเข้าใส่แน่
เวินลั่วฉิงกะพริบตาเร็วๆ มุมปากขยิบขึ้นเล็กน้อย คล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าสุดท้ายก็กล้ำกลืนวาจา อีกฝ่ายทำเรื่องอย่างนี้ขึ้น รุ่นพี่ของเธอก็ไม่ใช่รุ่นพี่ที่เธอรู้จักอีกต่อไป ดังนั้นถังไป๋เชียนจะทำอะไรต่อจากนี้ เธอไม่อาจล่วงรู้ได้เลย
“สืบหาคนที่สร้างกระแสนี้ก่อน ควบคุมสถานการณ์ในโซเชียลก่อน ปล่อยให้แย่กว่านี้ไม่ได้”น้ำเสียงของถังหยุนเฉิงเย็นยะเยือกจนสามารถแช่คนให้แข็งตายได้ ใบหน้าเย็นเยียบจนน่าประหวั่นพรั่นพรึง ท่านถังไม่เคยเป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว
“หนูจะโทรหามู่หรงดัวหยางก่อนนะคะ ให้เขาช่วยสืบดูค่ะ”เวินลั่วฉิงรู้ว่าไม่มีใครสืบเรื่องนี้เร็วกว่ามู่หรงดัวหยางอีกแล้ว
เวินลั่วฉิงล้วงมือถือออกมาหาเบอร์ของมู่หรงดัวหยาง จากนั้นก็โทรออกไป
เสียงเรียกเข้าพึ่งจะดังไม่ถึงหนึ่งเสียง มู่หรงดัวหยางก็รับสายในวินาทีต่อมาแล้ว“ฉิงฉิง ผมเห็นข่าวบนโลกออนไลน์แล้ว ผมรู้ว่าคุณโทรหาผมทำไม ผมรู้ว่าคอมเมนต์พวกนั้นมีคนจงใจสร้างกระแส ผมกำลังสืบอยู่นะ สืบIP Aaddressเจอสองเครื่อง เดี๋ยวไม่กี่นาทีผมจะสืบผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังให้ ผมสืบได้แล้วจะส่งให้คุณ”
ไม่รอให้เวินลั่วฉิงเอ่ยปาก มู่หรงดัวหยางก็กล่าวทุกอย่างเรียบร้อย
“ไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วยเหรอ?”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของมู่หรงดัวหยาง พลางย่นคิ้วเล็กน้อย
“อืม อีกฝ่ายมีคนเยอะเล็กน้อย ไม่รู้ว่าใครว่าจ้าง แต่ดูจาก IPล้วนเป็นคนในประเทศ คงไม่ใช่คนของลูกพี่จ้างวาง ลูกพี่จะโหดแค่ไหนก็คงไม่ทำลายชื่อเสียงของคุณให้ป่นปี้อย่างนี้หรอก”มู่หรงดัวหยางพูดไปพลาง ตรวจสอบอย่างรวดเร็วไปพลาง ดังนั้นเสียงจึงไม่คงที่เล็กน้อย
“ฉิงฉิง ครั้งนี้ถังไป๋เชียนทำเกินไปจริงๆ คุณวางใจเถอะ ผมจะอยู่ฝ่ายคุณเอง”จากนั้นมู่หรงดัวหยางก็รีบแสดงจุดยืนของตน อันที่จริงไม่เพียงแต่ครั้งนี้ มู่หรงดัวหยางจะอยู่ข้างเวินลั่วฉิงเสมอ อย่างไม่อิดออดแม้แต่ครั้งเดียว!
ถึงแม้ถังไป๋เชียนจะเป็นลูกพี่ใหญ่ของเขา ทว่าเวินลั่วฉิงเป็นน้องสาวของเขา ถึงแม้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ทว่าเขาก็ให้ความสำคัญกว่าน้องสาวแท้ๆเสียอีก ไม่เพียงเท่านี้ ตระกูลเหว้ยของพวกเขาทุกคน ล้วนเห็นฉิงฉิงเป็นคนในครอบครัวทั้งหมด
ตอนมู่หรงดัวหยางรู้เรื่องของเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉิน เขาเลือกที่จะช่วยเวินลั่วฉิงปิดบังข่าวนี้กับถังไป๋เชียน ไม่เช่นนั้นเรื่องระหว่างเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินยังไม่ทันเริ่มต้นก็โดนทำลายแล้ว
เป็นเพราะถังไป๋เชียนรู้ช้าไป ประกอบกับเวินลั่วฉิงเป็นคนยึดมั่นในหลักการ แน่นอนยังมีอีกหนึ่งจุดก็คือ หลังเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินอยู่ด้วยกันแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยตอนนั้นเวินลั่วฉิงเชื่อมั่นในตัวเย่ซือเฉิน ดังนั้นเวลาต่อมาถังไป๋เชียนคิดจะยุแยงเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินให้แตกคอกัน ทว่าก็ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า
ซึ่งตอนนั้นถังไป๋เชียนกลัวเวินลั่วฉิงสงสัย และยิ่งกลัวเวินลั่วฉิงต่อต้านตน จึงได้แต่ข่มกลั้นไว้
หากมู่หรงดัวหยางบอกทุกอย่างให้ถังไป๋เชียนรู้แต่แรก เรื่องคงไม่พัฒนาถึงขั้นนี้
“ฉิงฉิง คุณโทรถามสถานการณ์กับถังไป๋เชียนบ้างไหม?”ระหว่างสนทนา มู่หรงดัวหยางเปลี่ยนคำเรียกขานต่อถังไป๋เชียนโดยไม่รู้ตัวแล้ว จากที่เมื่อก่อนเรียกว่า ลูกพี่ใหญ่ ตอนนี้กลายเป็นเรียกชื่อตรงๆ
“ยัง”เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย“เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเขาแน่”
ลำพังทะเบียนสมรสก็เพียงพอต่อการยืนยันย่าถังไป๋เชียนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะเมื่อก่อนถังไป๋เชียนเคยทำขึ้นมา และตอนนั้นถังไป๋เชียนยังหลอกเธอว่าเป็นปลอมอีกด้วย
ในเมื่อถังไป๋เชียนสรรหาสารพัดวิธีในการจดทะเบียนสมรส จึงไม่มีทางปล่อยให้ทะเบียนสมรสตกอยู่ในมือผู้อื่นง่ายๆแน่นอน ดังนั้น ถังไป๋เชียนต้องเป็นคนเปิดเผยทะเบียนสมรสใบนั้นแน่นอน
“ผมรู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับเขา ผมก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำอย่างนี้ ผมรู้ว่าเขาชอบคุณ แต่ผมคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำอะไรแบบไม่เลือกวิธีเช่นนี้”เวลานี้น้ำเสียงของมู่หรงดัวหยางเจือความกราดเกรี้ยวหลายส่วน
เวินลั่วฉิงกะพริบตาเลาๆ ไม่เลือกวิธี เรื่องวันนี้ถังไป๋เชียนทำโดยไม่เลือกวิธีจริงๆ อันที่จริงไม่เพียงแต่เรื่องวันนี้ ถังไป๋เชียนเคยขัดขวางถังหลินเพื่อไม่ให้เธอกลับบ้านตระกูลถังด้วย เพื่อแยกเธอกับเย่ซือเฉินจากกัน เขาวางแผนร้ายทุกอย่างจริงๆ
ตอนนี้ถังไป๋เชียนไม่ใช่รุ่นพี่ที่เธอรู้จักอีกต่อไป
“ฉิงฉิง พวกเราทำงานกับเขานานขนาดนี้ คุณรู้จักความสามารถเขาดี เขาจะทำอะไรต้องวางแผนอย่างแยบยล ไม่ให้มีพิรุธเด็ดขาด ดังนั้นผมกังวลว่าต่อจากนี้จะมีเหตุการณ์อื่นร่วมด้วย”น้ำเสียงของมู่หรงดัวหยางมีความกังวลหลายส่วน ไม่รู้นึกอะไรออกหรือเปล่า?
“คุณอยากพูดอะไรเหรอคะ?หรือว่าคุณรู้อะไรมา?”เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดเฉลียว เป็นคนช่างสังเกต ชั่วพริบตาเดียวก็ดูออกว่าน้ำเสียงมู่หรงดัวหยางเปลี่ยนไป
“พวกเราทำงานกับเขาตั้งนาน เมื่อก่อนพวกเราเชื่อใจเขา ไม่เคยปิดบังอะไรเขาเลย เรียกได้ว่าเขารู้จักพวกเรา โดยเฉพาะรู้เรื่องคุณอย่างทะลุปรุโปร่ง และในมือเขามีข้อมูลของพวกเรา ผมกลัวว่า ……”มู่หรงดัวหยางรู้ว่าปิดบังเวินลั่วฉิงไม่ได้ จึงบอกความกังวลของตน
“คิก……”เวินลั่วฉิงหัวเราะเบาๆ ระคนความเย้นหยันไว้หลายส่วน“ยังมีอะไรร้ายแรงกว่านี้อีก?”
เวินลั่วฉิงรู้ว่ามู่หรงดัวหยางพูดความจริง ไม่นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อีกแล้ว เธอจึงไม่กังวลว่าถังไป๋เชียนจะเปิดโปงเรื่องของเธออะไรอีก
“ฉิงฉิง คุณอย่าพึ่งร้อนใจ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่ข้างคุณ ผมจะช่วยคุณเอง ไม่ว่าเวลาไหน ตระกูลเหว้ยคือครอบครัวฝ่ายแม่ของคุณ เป็นเกราะกำบังคุณ”มู่หรงดัวหยางได้ยินน้ำเสียงของเวินลั่วฉิงก็รู้สึกทนไม่ไหว!!