ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1280 ตกลงเด็กเป็นลูกใครกันแน่ (3)
ดังนั้นถังหลินช่วยคุณชายสองโจ๋วแก้ต่างด้วยจิตใต้สำนึก!!
“ระหว่างที่เขาพูดว่า……เจอคนรู้จักคุ้นเคยคนหนึ่ง เขาหยุดพูดแป๊บหนึ่ง ตอนนั้นเขาไม่คิดพูดคำว่าคนคุ้นเคย ตอนแรกเขาอยากบอกชื่อของคนนั้น แต่เขาเปลี่ยนใจกะทันหัน”สิ่งที่เวินลั่วฉิงวินิจฉัยล้วนมีหลักฐานเสมอ เธอยึดหลักฐานเป็นหลักอยู่แล้ว
ถังหลินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงก็ชะงัก เขาขยับมุมปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เขาก็พบพิรุธตามที่เวินลั่วฉิงบอก
“ตอนพี่ถามว่าคนนั้นเป็นใคร เขาไม่ได้ตอบตรงๆ และเขาปัดความน่าสงสัยบนตัวคนนั้นออกด้วย จนสุดท้ายเขาก็ยังไม่บอกชื่อคนนั้น”เวินลั่วฉิงเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว ประโยคนี้ก็มีพิรุธเช่นกัน หากตั้งใจฟังแล้วก็รับรู้ไม่ยาก
เวลานี้ถังหลินยิ่งหมดคำจะพูด ก่อนหน้านี้เพราะเขาไว้วางใจโจ๋วชิง จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเลย จึงไม่พบพิรุธพวกนั้น
ทว่าเมื่อได้ยินฉิงฉิงวิเคราะห์เช่นนี้แล้ว เขาก็รับรู้ได้ถึงปัญหา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าฉิงฉิงถนัดด้านนี้เลย ฉิงฉิงพูดไม่ผิดแน่นอน
“แต่ทำไมโจ๋วชิงถึงโกหกล่ะ?ทำไมต้องโกหกพวกเรา?”เห็นได้ชัดว่าถังหยุนเฉิงก็เชื่อใจคุณชายสองโจ๋ว ดังนั้นจึงไม่เข้าใจปัญหานี้อย่างยิ่งยวด
แน่นอน ไม่ใช่แค่ถังหยุนเฉิงไม่เข้าใจ คนอื่นก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ด้วยความสัมพันธ์ของคุณชายสองโจ๋วกับถังหลินและเย่ซือเฉิน และเท่าที่พวกเขารู้จักคุณชายสองโจ๋ว คุณชายสองโจ๋วไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่นอน
“ประเด็นสำคัญอยู่ที่คนที่เขาเจอหน้าประตูโรงพยาบาล หากหนูเดาไม่ผิด ความสัมพันธ์ของเขากับอีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่ เขาคงรับรู้ปัญหาอะไรได้ จึงปกป้องคนคนนั้นด้วยสัญชาตญาณ”เวินลั่วฉิงถนัดเรื่องจิตวิทยา เธอเดาใจคุณชายสองโจ๋วไม่ยาก
“ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับโจ๋วชิง จนปกป้องอย่างนี้ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถและมีอิทธิพลสูงแน่ๆ?”ถังหลินพูดต่อเวินลั่วฉิงอย่างรวดเร็ว พลางจัดแจงประเด็นสำคัญออกมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สืบง่ายแล้ว อย่างนั้นก็มีทิศทางแล้ว!!
ดวงตาส่วนลึกของเย่ซือเฉินสะท้อนแสง ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ทว่าเย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร!!
“ไปสืบกล้องวงจรปิดของเมื่อวาน ทั้งโรงพยาบาลตี้อี และโรงพยาบาลตระกูลโจ๋ว กล้องวงจรปิดระหว่างทางจากโรงพยาบาลตระกูลโจ๋วไปยังโรงพยาบาลตี้อีด้วย”ถังหยุนเฉิงเป็นคนปฏิบัติการชั้นเยี่ยมจริงๆ สั่งการได้อย่างครอบคลุมมาก
“ตรวจสอบที่โรงพยาบาลตี้อีก่อนครับ โจ๋วชิงบอกว่าเจอคนนั้นที่หน้าประตูโรงพยาบาลตี้อี ดูว่าตรวจสอบอะไรเจอหรือเปล่า?”ถังหลินก็ได้สติ ถึงแม้เขาไม่ยอมสงสัยพี่น้องของเขา ทว่าฉิงฉิงวิเคราะห์ถูก สถานการณ์อย่างนี้ต้องสืบให้กระจ่างแจ้งอยู่แล้ว
“โจ๋วชิงช่วยคนนั้นปิดบัง เป็นไปได้ไหมที่กล้องวงจรปิดจะ……”เฟิ่งเหมียวเหมียวได้สติก็กล่าวสิ่งที่ตนกังวลใจออกมา หากโจ๋วชิงมีใจช่วยเหลือคนนั้น จึงทำลายหลักฐานทิ้ง เกรงว่าจะแก้ไขปัญหายากขึ้น!!
ถังหลินชะงัก พลางหยุดก้าวเดิน“ไม่หรอก โจ๋วชิงไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ”
ถึงแม้ก่อนหน้านี้โจ๋วชิงปิดบังสถานะคนคนนั้น แต่ถังหลินยังเชื่อใจเขา ถังหลินเชื่อว่าโจ๋วชิงไม่ทำเรื่องปิดบังความจริงแน่นอน
“งั้นก็ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลก่อน หากเจอความที่โจ๋วชิงพบหน้าก็จะดีที่สุด หากไม่เจอก็สืบที่อื่นต่อ”ถังหยุนเฉิงสั่งการอย่างฉับพลันและเฉียบขาด“ถังหลินไปสืบ ไปโรงพยาบาลเมื่อวานเพราะเรื่องคุณปู่เย่ ซือเฉินไม่สะดวกออกหน้า”
“ครับ ผมจะไปสืบเดี๋ยวนี้ครับ”ถังหลินรีบตอบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวเท้าจากไป
“ผมโทรบอกฉิงถิงตรวจดูกล้องวงจรปิดระหว่างทางเดินทางไปครับ ส่วนที่โรงพยาบาลตระกูลโจ๋ว รอให้พี่ใหญ่กลับมาก่อนค่อยว่ากันครับ”เย่ซือเฉินไม่อยากไปสืบที่โรงพยาบาลของตระกูลโจ๋วโดยตรง เขาไม่อยากขัดแย้งกับเพื่อนสหายด้วยเรื่องนี้
“ก็ดี สิ่งที่ซือเฉินระแวงก็มีเหตุผล”ถังหยุนเฉิงเข้าใจความหมายของเย่ซือเฉิน จึงพยักหน้าหงึกๆเห็นด้วยกับข้อเสนอของเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินจึงโทรหาฉิงถิง สาเหตุที่เย่ซือเฉินสืบตามกล้องข้างทาง เพราะอยากรู้ว่านอกจากคุณชายสองโจ๋วแล้ว มีใครที่เดินทางจากโรงพยาบาลโจ๋วไปที่โรงพยาบาลตี้อีในช่วงเวลานั้น หากถังหลินสืบอะไรในโรงพยาบาลตี้อีกไม่ได้ งั้นกล้องวงจรปิดตามข้างทางคงจะได้เบาะแสอะไรเล็กน้อย
เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงวิเคราะห์ว่าคนคนนั้นมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับคุณชายสองโจ๋ว ดังนั้นถังหลินคาดเดาว่าน่าจะเป็นคนในโรงพยาบาลตระกูลโจ๋ว
“ไม่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้หรือเปล่า ?”ท่านปู่ถังเห็นถังหลินกับเย่ซือเฉินไปสืบกันแล้ว แต่สีหน้าก็ไม่ได้ดีขึ้น ทางกลับกัน ยิ่งหนักอึ้งกว่าเดิม ท่านปู่ถังกังวลว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้ด้วย
ถังหยุนเฉิงตะลึง ใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย“หวังว่าจะไม่มีนะครับ”
ถังหยุนเฉิงกล่าวว่า หวังว่าไม่มี ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้มั่นใจอะไรเลย เขาแค่หวังว่าองค์กรโกสต์ซิตี้อย่าได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้เลย มิฉะนั้นก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้น
“แต่สถานการณ์ของพวกเรากับองค์กรโกสต์ซิตี้ จึงต้องระวัง ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ร่วมมือด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายถึงพวกเขาจะไม่ก่อกวนภายหลัง ดังนั้นยังต้องป้องกันตัวจากองค์กรโกสต์ซิตี้ด้วย”ท่านปู่ถังคิดในวงกว้าง แน่นอนความกังวลของท่านก็ไม่ได้ไร้เหตุผล
“ครับ ผมรู้แล้วครับ”ถังหยุนเฉิงรีบพยักหน้าในสิ่งที่พ่อตัวเองพูด คนอื่นก็กังวลองค์กรโกสต์ซิตี้ด้วย
เวินลั่วฉิงได้ยินทั้งสองคุยกัน ดวงตาพลันกะพริบปริบๆ เธอรู้สึกว่าถึงแม้องค์กรโกสต์ซิตี้จะมีร่วมมือ แต่ก็เป็นคนของไป๋หยิงที่เล่นไม่ซื่อ หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่ซ้ำเติมพวกเธอหรอก
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่คนประเภทนั้น
ที่พักอาศัยของซ่างกวนหง
“หัวหน้าครับ มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังครับ”ผู้ดูแลจ้งรีบลงมาจากชั้นบน เมื่อเห็นหัวหน้าของตนนั่งเล่นมือถืออยู่ในห้องโถงก็อึ้ง
หายากมาก หายากมากจริงๆ หัวหน้าไม่ได้อยู่ห้องวาด แต่นั่งอยู่ในห้องโถง และยังดูมือถืออย่างตั้งใจอีกด้วย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากเรื่องตามหาคุณนายกับตอนวาดภาพ หัวหน้าไม่เคยตั้งใจและขึงขังเพียงนี้เลย
ดังนั้น…