ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1291 ซ่อนได้ลึกมาก (3)
หรือเด็กคนนั้นเป็นลูกหลานตระกูลถัง?หรือว่าเป็นลูกชายของถังหลิน?โจ๋วชิงเลยพากลับบ้านตระกูลถัง?!
ไม่ถูกสิ หากเป็นลูกของถังหลินจริง คงไม่มีเหตุผลปิดบังหลังเด็กกลับเข้าบ้านตระกูลถังแล้ว ทว่าไม่เคยได้ยินถังหลินบอกว่ามีลูกเลย!!
ทันใดนั้นหยวนหยูนึกถึงข่าวด่วนข่าวใหม่ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ดวงตาหยวนหยูเบิกโพลง ดังนั้นเด็กเป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง?
แล้วใครเป็นพ่อของเด็ก?
คือถังไป๋เชียนตามข่าวหรือเปล่า?
หากเป็นเช่นนั้นจริง โจ๋วชิงคงไม่ใช่น้ำเสียงฉุนเฉียวมาซักไซ้เธอหรอก ดังนั้น เด็กเป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง แต่ไม่ใช่ลูกของถังไป๋เชียน
ทว่าตอนนี้ในข่าวเปิดเผยว่าถังไป๋เชียนเป็นพ่อของเด็ก ทั้งยังมีผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันด้วย
วันนี้เกิดข่าวเช่นนี้ขึ้นกะทันหัน ทำให้ตกตะลึงพรึงเพริดกันทั่วหน้า มันเกิดขึ้นกระชั้นชิดเกินไป เหนือความคาดหมายเกินไป
ดูแล้วเด็กน่าจะอายุห้าขวบ ทำไมข่าวไม่เปิดเผยเวลาอื่น แต่ดันเป็นวันนี้?
ดังนั้นจึงเกี่ยวกับอุปกรณ์ดักฟัง เมื่อวานคนตระกูลถังปรึกษาหารือกันในบ้าน จากนั้นก็มีคนดักฟัง วันนี้จึงมีข่าวนี้ออกมา
ดังนั้น ข่าวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังวันนี้เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดักฟัง มิน่าล่ะโจ๋วชิงถึงถามเธอด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน
เธอรู้ความสัมพันธ์ของโจ๋วชิงกับถังหลินดี สำหรับโจ๋วชิงแล้ว ถังหลินสำหรับกว่าญาติพี่น้องของโจ๋วชิงเสียอีก
ตอนนี้หยวนหยูรับรู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้ว
“หยวนหยู คุณอย่าบอกผมนะว่า คุณไม่รู้ว่ามาก่อนว่าผมจะไปบ้านตระกูลถัง”เสียงโจ๋วชิงต่ำเล็กน้อย เขาได้ยินเธอพูดแล้วก็รู้สึกผิดหวังในใจหลายส่วน
หรือเธออาจจะไม่รู้เรื่องด้วย หรือเธออาจจะโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือ
พี่ใหญ่พูดถูก หยวนหยูไม่มีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลถัง ไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่ถัง ส่วนตระกูลถังก็ปิดเรื่องของเด็กๆได้ดี กระทั่งพี่น้องเพื่อนพ้องอย่างพวกเขาก็พึ่งจะรู้จากปากของน้องสามช่วงนี้เอง คนอื่นไม่มีทางรู้เด็ดขาด ดังนั้นหยวนหยูไม่มีทางรู้ว่าความสัมพันธ์ของจื่อโม่กับตระกูลถังแน่นอน
ดังนั้นคำซักไซ้ของโจ๋วชิงไม่ได้มีความกราดเกรี้ยวที่รันแต่บีบให้ตอบท่าเดียวแล้ว
เขาอยากฟังเธออธิบาย
ขอเพียงเธออธิบาย เขาก็จะรับฟัง และจะเชื่อด้วย ถึงแม้แปดปีก่อนเธอเคยหลอกเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ทว่าตอนนี้เขายังยินดีที่จะเชื่อใจเธอ
หยวนหยูปิดปากเงียบอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคุณหนูถังจริงๆ และเธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อวานโจ๋วชิงจะไปบ้านตระกูลถังด้วย ทว่าหยวนหยูตระหนักว่าคนผู้นั้นต้องรู้เรื่องเหล่านี้แน่
คนผู้นั้นต้องรู้ว่าเมื่อวานโจ๋วชิงจะไปบ้านตระกูลถัง จึงให้เธอคืนจดหมายอะไรนั้นให้โจ๋วชิง ที่จริงแล้วคืนจดหมายเป็นแค่ข้ออ้าง เป้าหมายของคนผู้นั้นอยู่ที่การดักฟังด้วยอุปกรณ์นั่นเอง
เพียงแต่ทำไมคนผู้นั้นต้องแอบฟังเรื่องของตระกูลถังด้วย?
หรือว่าคนผู้นั้นจะสร้างข่าววันนี้ขึ้นมา?
หยวนหยูกระพริบตาปริบๆ เธอรู้ดีว่า คนผู้นั้นมีความสามารถเช่นนี้จริง
เพียงแต่หยวนหยูไม่เข้าใจว่าคนผู้นั้นปฏิบัติดีกับเธอขนาดนี้เพื่ออะไร มีผลประโยชน์อะไร คนผู้นั้นมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่?
“หยวนหยู คุณพูดสิ คุณอธิบายให้ผมฟังด้วย?”โจ๋วชิงไม่ได้ยินเสียงของหยวนหยู ใบหน้าก็บูดเบี้ยว
“ฉันไม่มีอะไรต้องอธิบายค่ะ”หยวนหยูถอนหายใจยาวๆ พลางแอบขบฟัน ตอนนี้เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว แต่เธอกลับอธิบายไม่ได้
ชีวิตของเธออยู่ในกำมือคนผู้นั้น ดังนั้นถึงแม้เธอจะรู้ทุกอย่าง แต่ก็พูดไม่ได้แม้แต่คำเดียว เธอจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งของคนผู้นั้น เมื่อแปดปีเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ก็ไม่แตกแต่งกัน
เธอไม่มีทางเลือกเลย
“ไม่มีคำอธิบาย?ความหมายของคุณก็คือคุณวางอุปกรณ์ดักฟังที่ซองเอกสารอย่างนั้นหรือ?คุณวางแผนเองทุกอย่างงั้นเหรอ?”โจ๋วชิงได้ยินเธอพูดก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โกรธจนตับไตไส้พุงระเบิดเป็นเสี่ยงๆแล้ว ชั่วขณะนี้ระดับเสียงจึงสูงขึ้นหลายเท่าตัว
ไม่มีอะไรต้องอธิบาย?
ความหมายของเธอคือ เธอยอมรับว่าเป็นฝีมือเธอ
“คุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณ”หยวนหยูหลับตาลง ซ่อนเร้นความเจ็บปวดรวดร้าวในแววตา เธออธิบายไม่ได้ ไม่มีทางอธิบายได้เลย เธอพูดอะไรไม่ได้
“หยวนหยู……”โจ๋วชิงที่ปกติเป็นคนใจเย็น ตอนนี้ตะคอกเสียงดังลั่น
อีกฝั่งหนึ่งของสาย เสียงของเขาทำให้หยวนหยูหูเฉื่อยชา เธอรู้ว่าเขาโกรธ และโกรธมากโข ทว่าเธอก็อับจนหนทางจริงๆ
“ได้ ถ้าเป็นฝีมือคุณทั้งหมด เหตุผลล่ะ?เหตุผลคืออะไร?คุณบอกเหตุผลให้ผมฟังสิ”ถึงแม้โจ๋วชิงจะรู้สึกโกรธขึ้ง ทว่าก็ยังไม่ลืมเลือนเจตนาที่เขาโทรครั้งนี้ ซึ่งก็คือเขาจะช่วยพี่ใหญ่สืบเรื่องนี้
“คุณบอกผมสิ ทำไมคุณต้องใส่อุปกรณ์ดักฟังบนตัวผมด้วย?ทำไมคุณต้องแอบฟังคนตระกูลถังคุยกัน?”โจ๋วชิงถามเสียงเคร่งขรึมอีกหนึ่งประโยค หากเธอไม่อธิบายให้รู้เรื่อง เขาก็จะไม่ยอมเลิกรา
“ไม่มีเหตุผล”หยวนหยูลืมตาอย่างแช่มช้า ความเจ็บแปลบยังคงโชนแสงประกายออกมา เธอก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ ไม่อยากจริงๆ ทว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น
เธอรักเขา รักมาก รักมากๆ เธอไม่เคยคิดจะแยกจากเขา ทว่าแปดปีก่อน เธอจำใจต้องรับปากเงื่อนไขคนผู้นั้น จากนั้นก็ร่วมแสดงละครให้โจ๋วชิงเข้าใจเธอผิด จากนั้นก็เลิกคบกับโจ๋วชิง
ตลอดแปดปีมานี้ ไม่มีเวลาไหนที่เธอจะไม่คิดถึงเขาเลย เธออยากเจอหน้าเขา อยากเจอแทบขาดใจตาย ทว่าเธอก็ไม่กล้าไปเจอหน้าเขา
แปดปีผ่านไป ในที่สุดเธอก็มีโอกาสเจอหน้าเขาอีกครั้ง ทว่าคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะยิ่งแย่กว่าเดิม
ระยะเวลาแปดปีนี้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาโทรหาเธอ เธอได้ยินเสียงของเขาก็รู้สึกรื่นรมย์ใจยิ่งนัก ทว่าคาดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะจบลงเช่นนี้
โจ๋วชิง ขอโทษ ขอโทษจริงๆ
เวลานี้หยวนหยูใช้แรงกัดริมฝีปากตัวเอง พยายามควบคุมตัวเองสุดขีด เพื่อไม่ให้ตัวเองสะอื้นไห้ออกมา
“ไม่มีเหตุผล?”โจ๋วชิงหัวเราะเสียงหยัน“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ คุณบอกผมว่าไม่มีเหตุผล?หยวนหยู คุณหลอกให้ดีกว่านี้อีกได้ไหม?”
ณ ตอนนี้ คุณชายสองโจ๋วเดือดดาลมาก มือถือของเขาเกือบถูกเขาบีบเสียสภาพแล้ว
“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?ถ้าไม่มีเรื่องอื่น ฉันวางสายแล้ว……”หยวนหยูที่จับมือถือไว้สั่นระริกไม่หยุดหย่อน เธอไม่อยากวางสาย เธอยังอยากได้ยินเสียงเขาอีก ถึงแม้น้ำเสียงจะระคนความโกรธอย่างเต็มเหวี่ยงก็ตามที แต่เธอก็ยังอยากฟัง
ทว่าเธอกลัวตัวเองจะข่มอารมณ์ไม่อยู่ เธอกลัวว่าตัวเองจะอดใจร้องไห้ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงคิดจะวางสาย
เดิมทีคุณชายสองโจ๋วมีไฟโทสะเต็มทั่วท้อง เมื่อได้ยินหยวนหยูพูดเช่นนี้ก็แทบอยากโยนมือถือทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดเลย!!