ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1304 ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเทพธิดาเวิน (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1304 ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเทพธิดาเวิน (2)
เย่ซือเฉินเอ่ยพูดขึ้นมา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ที่ต้องพยายามก็คือความเร็ว ตอนนี้หยวนหยูเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว พวกเขาจะไม่ป้องกันไม่ได้!!
ถ้าหากให้คนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นรู้ว่าพวกเราสืบเรื่องโทรศัพท์มือถือได้ชัดเจนแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นอาจจะลงมือกับคนไข้คนนั้นก็ได้
“ซือเฉินพูดถูก” ถังหลินพยักหน้า : “ถ้าอย่างนั้นก็ให้กู้หวูไปหา กู้หวูไปหา จะให้คนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นรู้สึกตัวก็คงไม่ง่ายหรอก”
“เพื่อไม่ให้คนนั้นพบเข้า ให้กู้หวูไปหาตัวคน พวกเราก็ตรวจสอบคลิปจากกล้องวงจรปิดกันต่อ เพราะถึงอย่างไรสถานการณ์ตอนนี้ของหยวนหยูก็ยังไม่ชัดเจน เบาะแสเดียวที่พวกเราหาได้ก็อยู่ที่คนๆนี้ จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกไม่ได้แล้ว” ถังหลินทำอะไรก็จะรอบคอบมาโดยตลอด และคนที่อยู่เบื้องหลังครั้งนี้ก็เก่งมากจริงๆ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ป้องกันไว้ไม่ได้
“ได้ สถานการณ์ในตอนนี้ รอบคอบไว้บ้างก็ไม่ผิด เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็เสียเปรียบศัตรูที่อยู่ในที่มืดอยู่แล้ว” เย่ซือเฉินเห็นด้วยกับถังหลินเป็นอย่างมาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรออกหากู้หวูอย่างรวดเร็ว แล้วมอบหมายเรื่องราวทั้งหมดกับกู้หวูอย่างชัดเจน
“ก่อนหน้านี้ผมให้ฉิงถิงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเมื่อวานนี้ทั้งหมดตลอดทางจากโรงพยาบาลตระกูลโจ๋วจนถึงโรงพยาบาลตี้อี” หลังจากที่เย่ซือเฉินโทรเสร็จแล้ว จู่ๆก็เอ่ยขึ้นมา
“คุณสงสัยว่าคนนั้นจะเป็นคนของโรงพยาลตระกูลโจ๋วหรือคะ?” จู่ๆเวินลั่วฉิงก็หันไปมองยังเย่ซือเฉิน ด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูแปลกๆอยู่บ้าง
เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้วก็อึ้งไปเล็กน้อย : “เดิมทีผมคิดว่ามีคนสะกดรอยตามโจ๋วชิง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรงถนนบางทีอาจจะพบอะไรได้บ้าง”
“อ๋อ” เวินลั่วฉิงตอบรับเบาๆ แล้วไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก เธอคิดว่าเย่ซือเฉินมีขอบเขตที่จำกัดกำหนดเอาไว้แล้ว
“ในเมื่อคนนั้นหาคนไข้ของโรงพยาบาลมาช่วย อีกทั้งเมื่อวานนี้จากที่จื่อโม่พูดว่าที่ให้โจ๋วชิงมาจนถึงที่โจ๋วชิงได้พบกับหยวนหยูใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นจะต้องอยู่บริเวณใกล้ๆโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นกล้องวงจรปิดรอบๆนี้ก็อาจจะถ่ายเอาไว้ได้? ในเมื่อตอนนี้เราไม่สะดวกออกไป ถ้าไม่อย่างนั้นก็ให้ฉิงถิงเอากล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆโรงพยาบาลส่งมาให้พวกเรา ดูว่าจะเจออะไรบ้างหรือเปล่า” เย่ซือเฉินไม่อยากจะเอาแต่นั่งรออยู่ที่นี่ จะต้องทำอะไรบ้างอยู่แล้ว
“อืม ความคิดนี้ไม่เลวเลย ถ้าอย่างนั้นก็ให้ฉิงถิงส่งคลิปวิดีโอมาให้ พวกเราจะได้ดูด้วยกัน ถ้าหากเป็นอย่างที่ซือเฉินคาดการณ์ไว้ คนๆนั้นจะต้องหาคนตัวคนไข้คนนั้นเจอแถวๆโรงพยาบาลอย่างแน่นอน” ถังหลินเห็นด้วยกับเย่ซือเฉินเป็นอย่างมาก
“กลัวว่าคนๆนั้นจะเลี่ยงกล้องวงจรปิดไปน่ะสิคะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้คาดหวังเอาไว้มากนักกับเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าคนที่ฉลาดกับการวางแผนของคนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น จะต้องเลี่ยงจากกล้องวงจรปิดอย่างแน่นอน
“แต่ กล้องวงจรปิดก็จำเป็นที่จะต้องดูเหมือนกันค่ะ ดูว่าจะมีคนน่าสงสัยอะไรบ้างหรือเปล่า? หรือคนที่รู้จัก” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าถึงแม้คนๆนั้นกับคนไข้ตอนที่ติดต่อกันนั้นจะเลี่ยงจากกล้องวงจรปิดไป แต่ลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวไม่มากก็น้อยจะต้องมีความผิดปกติอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าอาจจะพบอะไรก็ได้
เวินลั่วฉิงคาดเดาว่าคนๆนั้นอาจจะเป็นคนรู้จัก เนื่องจากว่าสถานะของจื่อโม่ยังไม่ได้มีการเปิดเผย คนที่รู้สถานะของจื่อโม่นั้นมีไม่มาก และคนที่รู้ว่าจื่อโม่พักอยู่ที่ตระกูลถังนั้นก็น้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก
แต่ไม่คิดว่าคนๆนั้นจะติดเครื่องดักฟังเอาไว้ที่ร่างของโจ๋วชิง จะต้องเดาได้ว่าโจ๋วชิงจะไปที่ตระกูลถังอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นแล้วคนๆนั้นก็อาจจะรู้ถึงสถานะที่แท้จริงของจื่อโม่แล้ว
ดังนั้น คนๆนั้นไม่เพียงแค่จะเป็นคนรู้จักเพียงเท่านั้น และยังเป็นไปได้ที่จะเป็นคนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างมากอีกด้วย
“คุณสงสัยว่าจะเป็นคนรู้จักอย่างนั้นหรือ?” เย่ซือเฉินฟังเข้าใจความหมายของเวินลั่วฉิง ตอนที่เย่ซือเฉินเอ่ยถามออกมานั้น น้ำเสียงก็ดูแปลกไป ความจริงแล้วเขาเองก็สงสัยว่าจะเป็นคนรู้จักมาโดยตลอดเช่นกัน
“มีความเป็นไปได้นี้ค่ะ อีกทั้งมีความเป็นไปได้สูงอีกด้วย” เวินลั่วฉิงมองไปยังเย่ซือเฉิน : “คุณเองก็ไม่ใช่ว่าสงสัยแบบนี้เหมือนกันหรอกหรือคะ?”
“ใช่ ผมสงสัยความเป็นไปได้นี้จริงๆ เพราะผมรู้สึกว่าคนนั้นดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องของพวกเราเป็นอย่างดี หลายๆเรื่องที่คนนอกไม่รู้ คนๆนั้นก็ดูเหมือนจะรู้” เย่ซือเฉินไม่ได้ปฏิเสธ ความจริงแล้วเขาคิดถึงปัญหานี้อยู่ตลอด แม้กระทั่งเขานึกถึงคนที่รู้จักเอาไว้คร่าวๆแล้วด้วย เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร
“รู้เรื่องของพวกเราตระกูลถังเป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นคนที่มีความแค้นกับพวกเราอีกด้วยอย่างนั้นหรือ?” เห็นได้ชัดว่าถังหลินเองก็มีความสงสัยแบบนี้เช่นกัน ถังหลินเจาะจงอยู่ตรงสองจุดนี้ และเขาเองก็ยังไม่มีคนที่รู้สึกมั่นใจด้วยเช่นกัน
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดแล้วนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ : “ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความแค้นเลยค่ะ”
เรื่องราวหลายๆเรื่องในโลกนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพราะมีความแค้นถึงจะทำร้ายกันได้เสียหน่อย
“ไม่ใช่ว่ามีความแค้นกับพวกเราถึงได้กล้าให้ร้ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถังหรอกหรือ?”ถังหลินรู้สึกอึ้งไป มุมปากมีรอยยิ้มเย็นชาขึ้นมา : “ถ้าอย่างนั้นเขาก็อยากจะผูกความแค้นกับตระกูลถังของพวกเราสิ”
“ผมโทรหาฉิงถิง ให้ฉิงถิงส่งคลิปวิดีโอมาให้ ถ้าหากเป็นคนที่รู้จักจริงๆ ก็จะได้ตรวจสอบง่ายด้วย” เย่ซือเฉินโทรหาฉิงถิง ให้ฉิงถิงส่งคลิปกล้องวงจรปิดทั้งหมดบริเวณรอบๆโรงพยาบาลมาให้
เดิมทีฉิงถิงก็ไปหากล้องวงจรปิดตามที่เย่ซือเฉินบอกอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากที่เย่ซือเฉินโทรมาหา ฉิงถิงก็ส่งคลิปวิดีโอมาให้ได้อย่างรวดเร็ว
ฉิงถิงส่งคลิปวิดีโอบริเวณรอบๆโรงพยาบาลมาให้ ดังนั้นคลิปวิดีโอจึงมีเป็นจำนวนมาก พวกเขาทั้งสามคนแบ่งกันดู
ทั้งสามคนดูกันอย่างตั้งใจมาก และละเอียดมาก สำรวจรายละเอียดกันทีละนิดๆ ไม่กล้าพลาดรายละเอียดไปเลยแม้แต่นิดเดียว แต่หลังจากที่ทั้งสามคนดูคลิปทั้งหมดเสร็จแล้วนั้น ก็ไม่พบคนรู้จักปรากฏตัวออกมาเลย แล้วก็ไม่พบบุคคลที่น่าสงสัยด้วยเช่นกัน
“ฉันดูเสร็จแล้ว ไม่พบอะไรเลย” ถังหลินหยุดการเคลื่อนไหว แล้วมองมายังเวินลั่วฉิง : “ฉิงฉิง เธอเจออะไรไหม?”
“ไม่มีเลยค่ะ” เวินลั่วฉิงส่ายหน้า ดวงตาคู่นั้นยังคงมองไปยังภาพกล้องวงจรปิดตรงหน้า แต่คนที่เข้าออกโรงพยาบาลในแต่ละวันนั้นมากเหลือเกิน เธอดูจนตาลายแล้ว
คนที่มาโรงพยาบาลไม่ใช่คนป่วย ก็เป็นญาติของคนป่วย ดังนั้นลักษณะท่าทางของแต่ละคนที่มานั้นก็ล้วนแต่ดูเป็นกังวล ร้อนใจ เครียด ไม่สบายใจ ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ยิ่งยากกับการจะวินิจฉัยได้ว่าใครมีปัญหา
“ทางผมก็ไม่เจอเหมือนกัน” เย่ซือเฉินเองก็ดูคลิปในมือจบแล้ว ไม่พบอะไรเช่นกัน
“ดูแล้วคนๆนั้นจะมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมากจริงๆ หรือบางทีเขาจะเลี่ยงกล้องวงจรปิด หรือไม่ก็แสร้งทำให้มีลักษณะท่าทางเหมือนกับคนอื่นๆเพื่อทำให้พวกเรางง และกล้องวงจรปิดข้างนอกก็ไม่ได้ชัดเจนเหมือนของโรงพยาบาลด้วย ดูได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่” ถังหลินแอบถอนหายใจออกมา ดูแล้ว ครั้งนี้พวกเขาจะเจอเข้ากับเซียนจริงๆแล้ว “การวางแผนแต่ละขั้นของคนๆนั้นเก่งมากจริงๆ”
“สำรวจกันตรงๆก็หาปัญหาไม่เจอ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ใช้วิธีโง่ๆดูแล้วกันนะคะ” เวินลั่วฉิงยกมุมปากขึ้น ความถี่ถ้วนก็มักจะมีความประมาทบ้างอยู่แล้ว เธอไม่เชื่อว่าคนๆนั้นจะสามารถออกแบบทุกอย่างได้อย่างไม่มีข้อบกพร่องเลยจริงๆ
“วิธีโง่ๆอะไรหรือ?”ถังหลินกับเย่ซือเฉินมองไปยังเวินลั่วฉิง ในสถานการณ์แบบนี้จะมีวิธีอะไรได้อีกกัน?