ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1314 เห็นธาตุแท้ของเธอ (2)
ถึงแม้ว่าจะเป็นขณะนี้ สมองของเธอก็หมุนแล่นเร็วมาก อีกอย่าสมองของเธอหมุนแล่นได้เร็วเกินไปแล้ว!!
เพราะว่าโจ๋วอันหนานกระวนกระวาย และในที่สุดก็มีความกลัว ดังนั้นการตอบสนองแรกในสมองก็คืออยากจะปฏิเสธ เพราะว่าเมื่อกี้เธอกระวนกระวาย และเป็นเพราะว่าเรื่องของเย่ซือเฉิน ในที่สุดก็เหม่อลอยแล้ว
ทว่า เขาได้สติกลับมาทันที เธอนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของถังหลิน แล้วก็สิ่งที่ได้ยินตรงนอกประตูเมื่อกี้
“ไม่สนิท” หลังจากที่โจ๋วอันหนานได้สติกลับมาแล้ว ก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที และเปลี่ยนได้สมเหตุสมผลมากๆ ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติใดๆ ทว่าถังหลินก็ยังฟังออกมาว่าหลังจากคำว่าไม่เธอได้หยุดชะงักไปสักพัก ดังนั้นถังหลินรู้ ก่อนหน้านี้สิ่งที่โจ๋วอันหนานจะพูดไม่ใช่คำว่าไม่สนิทแน่นอน
ทว่าหลังจากนั้นโจ๋วอันหนานก็เปลี่ยนแล้ว ทำไมถึงต้องเปลี่ยน เกรงว่าจะเป็นเพราะกลัวแล้วสินะ?!
อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่กับฉิงฉิงนานมาแล้ว เขาเองก็ฝึกความสามารถจากฉิงฉิงมาบ้างแล้ว
เมื่อกี้ถังหลินเองก็ใช้การลองใจกับโจ๋วอันหนานเช่นกัน เขาเองก็ใช้เวลาที่โจ๋วอันหนานเสียสติจึงจะตั้งใจถามไป
ตอนนี้ดูแล้วผลลัพธ์ถือว่าไม่เลว ตอนนี้ในใจของถังหลินมีคำตอบพอสมควรแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนาน
ในใจของถังหลินอดโมโหไม่ไหวจริงๆ โจ๋วอันหนานชอบซือเฉิน สามารถไปสารภาพรักได้ สามารถไปจีบได้ ว่าทำไมถึงต้องใช้วิธีที่ร้ายกาจแบบนี้อยู่เบื้องหลัง? ทำไมถึงต้องทำร้ายฉิงฉิงเช่นนี้?
ถังหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะถังหลินรู้ถึงความฉลาดของโจ๋วอันหนาน เขารู้ว่าโจ๋วอันหนานในขณะนี้ต้องระมัดระวังแล้ว เขาไม่สามารถลองใจอะไรได้อีกแล้ว
อีกอย่างคำตอบที่เขาอยากได้ก็มีแล้ว เขาไม่ได้หวังให้โจ๋วอันหนานยอมรับกับปากในสิ่งเหล่านั้นที่ตัวเองทำ!!
“ฉันไปหาซือเฉินกับฉิงฉิงก่อน ไปสืบเรื่องในวันนี้ให้ชัดเจนก่อน จะต้องหาคนร้ายที่ทำร้ายหยวนหยูให้เจอ อีกอย่างทั้งสองคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อวานต่างก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว คนหนึ่งเข้าโรงพยาบาล คนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว เกี่ยวโยงมาถึงชีวิตคนแล้ว เรื่องนี้ก็คงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแล้ว ทางฉิงถิงเองก็ต้องส่งคนไปสืบแน่นอน พวกเราต้องจับคนร้ายได้แน่นอน” ถังหลินไม่ได้ลองใจอะไรอีกแล้ว ทว่าคำพูดนี้กลับตั้งใจพูดให้โจ๋วอันหนานฟัง
เรื่องพวกนั้นที่โจ๋วอันหนานทำเธอคิดว่าปกปิดได้ดีมาก ทว่าคนที่ทำผิดล้วนต้องได้รับการลงโทษ เรื่องพวกนั้นที่โจ๋วอันหนานทำจำเป็นต้องได้รับผลที่ตามมา
“อื้ม ขอบคุณครับพี่ใหญ่” ขณะนี้โจ๋วชิงไม่สามารถไปตามหาคนร้ายด้วยตัวเอง เพราะว่าเขาต้องอยู่กับหยวนหยู ทว่าโจ๋วชิงเชื่อว่าพี่ใหญ่กับซือเฉินไปสืบ บวกกับฉิงถิงอีก ในไม่ช้าเรื่องนี้ต้องได้มีผลลัพธ์แน่นอน
ถังหลินออกจากห้องผู้ป่วยไป ในตอนที่ถังหลินจากไปไม่ได้มองโจ๋วอันหนานเลยแม้แต่แวบเดียว
หลังจากถังหลินออกจากห้องผู้ป่วยแล้ว ในที่สุดสีหน้าที่เย็นชาของโจ๋วอันหนานก็เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามควบคุมสุดความสามารถ ทว่าบนใบหน้าก็ยังมีความตกใจและความกลัวเล็กน้อย
ทุกๆ เรื่องที่ทำเธอล้วนระมัดระวังมาก ละเอียดรอบคอบมาก เธอวางแผนไว้อย่างดีทุกครั้ง ทว่าตอนนั้นมีคนไปสืบมากมายขนาดนั้น ซือเฉิน ถังหลิน บวกกับฉิงถิงอีก หากสืบออกแล้ว……
นึกถึงความเป็นไปได้นี้แล้ว สีหน้าของโจ๋วอันหนานก็แย่มาก ไม่ ไม่มีทาง พวกเขาไม่มีทางสืบเจอแน่นอน ไม่มีทางสืบมาถึงบนตัวเธอแน่นอน
ทว่า เมื่อกี้คำพูดของถังหลินกำลังลองใจเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองปกปิดได้ ถังหลินน่าจะจับอะไรไม่ได้ ทว่าในเมื่อถังหลินลองใจเธอ แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่ถังหลินสงสัยมาถึงตัวเธอแล้ว
ถังหลินสงสัยเธอ แสดงว่าซือเฉินก็สงสัยเธอแล้วใช่ไหม?
สีหน้าของโจ๋วอันหนานเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ซือเฉินสงสัยเธอแล้ว?
ซือเฉินจะสงสัยเธอไหม?
ซือเฉินจะมาสืบเรื่องเธอไหม?
จู่ๆ หัวใจของโจ๋วอันหนานก็รู้สึกรนเป็นพิเศษ เธอเองก็ไม่กลัวว่าคนอื่นๆ จะไปสืบ ทว่าเธอกลัวว่าซือเฉินจะสืบเจอ
ความสามารถของเธอซือเฉินเธอเข้าใจดี
ทันใดนั้นโจ๋วอันหนานก็รู้สึกหายใจลำบากเล็กน้อย ราวกับว่าจะหายใจไม่ทัน
ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ทำไมพวกเขาถึงสงสัยมาถึงบนตัวของเธอ? ทำไมล่ะ?
ทำไมซือเฉินถึงสงสัยเธอ? ซือเฉินสงสัยเธอได้ยังไง? เรื่องทั้งหมดที่เธอทำต่างก็เพื่อซือเฉิน
ต้องเป็นเพราะเวินลั่วฉิงแน่นอน เวินลั่วฉิงสงสัยเธอแน่นอน ต้องเป็นเวินลั่วฉิงที่ให้ซือเฉินไปสืบแน่นอน
โจ๋วอันหนานกัดฟันแน่น สีหน้ายิ่งแย่กว่าเดิม ให้จิวยี่มาเกิดเเล้ว ไฉนขงเบ้งต้องเกิดมาด้วย ทำไมถึงต้องให้เวินลั่วฉิงปรากฏอยู่ข้างกายของซือเฉิน
ตอนแก ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือเฉินสนิทสนมกันที่สุดแล้ว เป็นเพราะว่าการปรากฏตัวของเวินลั่วฉิง ตอนนี้ซือเฉินไม่ติดต่อกับเธอแล้ว
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
ขณะนี้ความสนใจของโจ๋วชิงต่างก็อยู่บนตัวของหยวนหยู ไม่ได้เงยหน้าไปมองโจ๋วอันหนานเลย ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของโจ๋วอันหนาน
“พี่ ผมติดต่อกงฮั๋วแล้ว เขาบอกว่าจะรีบกลับมาจากประเทศM ในด้านหัวใจกงฮั๋วเองก็……” จู่ๆ โจ๋วชิงก็นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาโทรหากงฮั๋ว ถึงแม้เขาจะรู้ว่าโจ๋วอันหนานเก่งมากในด้านหัวใจ ทว่าเขาก็ยังอยากหาความหวังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
กงฮั๋วถนัดเรื่องการผ่าตัดหัวใจที่สุดแล้ว หรือไม่อาจจะมีวิธีอื่น
“นายไม่เชื่อใจฉัน” โจ๋วอันหนานกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ อารมณ์เริ่มหงุดหงิดแล้ว ได้ยินคำพูดของโจ๋วชิงแล้ว ก็โมโหทันที
“พี่ พี่เป็นอะไร?” โจ๋วชิงตกใจมาก เขาเงยหน้าขึ้นไปมองสีหน้าของโจ๋วอันหนาน ตกใจไปเลย ทำไมเธอถึงสีหน้าแบบนี้ สีหน้าราวกับว่าจะกินคนเลย
เขาก็แค่อยากได้ความหวังเพิ่มขึ้น อีกอย่างตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีวิธีอะไร หาคุณหมอท่านอื่นมาช่วยก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเธอถึงตื้นตันขนาดนั้น? ทำไมถึงต้องโมโหขนาดนั้น?
โจ๋วชิงมองเธอด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง
“ในเมื่อนายไม่เชื่อใจฉัน งั้นต่อจากนี้ไม่ต้องหาฉันอีกแล้ว นายอยากหาใครก็ไปหาใครเถอะ” โจ๋วอันหนานเองก็รับรู้ถึงความลืมตัวของตัวเองแล้ว ตอนแรกเธอรู้สึกหงุดหงิดในเรื่องที่เย่ซือเฉินสงสัยเธอ แล้วได้ยินว่าโจ๋วชิงเชิญกงฮั๋วมาอีก
โจ๋วชิงกลับเชิญกงฮั๋วมาโดยที่เธอไม่รู้?
แน่นอนว่าโจ๋วอันหนานรู้สึกหงุดหงิดเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพราะว่าโจ๋วชิงไม่เชื่อในฝีมือการแพทย์ของเธอ โจ๋วอันหนานกลัวว่ากงฮั๋วเข้ามาแล้วจะทำลายเรื่องของเธอ
ในเมื่อลืมตัวแล้ว จะปกปิดอีกก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ดังนั้น โจ๋วอันหนานก็ไม่ได้ตั้งใจไปปกปิด เพราะว่าโจ๋วอันหนานต่างก็เข้าใจหมดแล้ว หากขณะนี้เธอยังตั้งใจไปปกปิดอีกเกรงว่าจะทำให้โจ๋วชิงสงสัยกว่าเดิม
“พี่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ปกติเหรอ? ทำพี่ถึงหงุดหงิดขนาดนั้น?” โจ๋วชิงมองไปทางเธอ ยิ่งรู้สึกตกตะลึงไปใหญ่
“ฉันบอกปล้ว หากนายจะหาเขาก็ไม่ต้องมาหาฉันอีก ต่อจากนี้ก็ให้กงฮั๋วมาช่วยเธอเถอะ” ภายในใจของโจ๋วอันหนานในขนาดนี้ก็รนและหงุดหงิดมากเช่นกัน จู่ๆเธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว เธอจะกลับไป
ตอนนี้พวซือเฉินไปสืบเรื่องของเธอแล้ว เธอจำเป็นต้องกลับไปคิดดีๆ ว่าก่อนหน้านี้เรื่องที่เธอทำมีข้อบกพร่องอะไรหรือเปล่า หากมี เธอจำเป็นต้องรีบคิดหาวิธีไปชดเชย
สำหรับหยวนหยู เธอไม่ได้กังวลมากเกินไป ถึงแม้กงฮั๋วจะมาแล้ว ก็ไม่มีทางช่วยให้หยวนหยูฟื้นง่ายขนาดนั้น
โจ๋วอันหนานพูดจบแล้ว ก็รีบออกจากห้องผู้ป่วยไป
“พี่ พี่……” โจ๋วชิงตะโกนไปไม่กี่เสียง โจ๋วอันหนานไม่ได้สนใจ เดินจากไปโดยตรงเลย
สีหน้าของโจ๋วชิงเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาก็เคยเชิญหมอคนอื่นมา ทำไมถึงทำเอาโจ๋วอันหนานหงุดหงิดล่ะ?
ปกติโจ๋วอันหนานไม่เป็นแบบนี้เลย?
นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อกี้โจ๋วชิงรู้สึกว่าการตอบสนองของโจ๋วอันหนานแปลกเกินไปแล้ว ประหลาดเกินไปแล้ว ทว่าโจ๋วชิงก็ไม่ได้คิดไปทางอื่น
หลังจากที่โจ๋วอันหนานออกจากห้องผู้ป่วยแล้วก็ได้สติขึ้นมา เธอนึกถึงว่าถังหลินสงสัยในตัวเธอ ถังหลินจะส่งคนมาจับตาดูเธอหรือเปล่า?
อีกอย่างถังหลินก็พึ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปไม่นาน ยังเดินไปไม่ไกลหรือเปล่า? เธอรีบออกมาขนาดนี้ หากถังหลินจับได้แล้ว งั้นก็เผยข้อบกพร่องออกมาแล้วจริงๆ
โจ๋วอันหนานนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ก็พยายามให้ตัวเองเงียบสงบลง เธอห้ามเผยความผิดปกติใดๆ ต่อหน้าคนนอกเด็ดขาด
ทว่าสิ่งที่โจ๋วอันหนานไม่รู้คือ ก่อนหน้านี้ถังหลินแค่สงสัย ทว่าตอนนี้แน่ใจมากๆ แล้ว
โจ๋วอันหนานคิดว่าก่อนหน้านี้เธอปกปิดได้ดีมาก เธอคิดว่าถังหลินจะจับไม่ได้ ทว่าถังหลินจับได้หลิน ช่วงเวลานี้ถังหลินอยู่กับเวินลั่วฉิง ฝึกฝนมาจากเวินลั่วฉิงไม่น้อย ทักษะการสังเกตก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
หลังจากถังหลินออกจากห้องผู้ป่วยแล้วก็โทรหาเย่ซือเฉินเลย
“ซือเฉิน มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโจ๋วอันหนานจริงๆ” พอได้รับโทรติดแล้ว ถังหลินก็พูดเลย จากการสังเกตของพวกเขาแล้ว อย่างน้อยตอนนี้ถังหลินมีความมั่นใจประมาณแปดในสิบแล้ว
พูดตามจริงถังหลินไม่หวังจริงๆ ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบนี้ ทว่าความจริง ก็โหดร้ายแบบนี้แหละ
“ฉันไปสืบเดี๋ยวนี้เลย” เสียงของเย่ซือเฉินดูต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเจน มีความเย็นชาที่น่าตกใจอีกด้วย โจ๋วอันหนานก่อเรื่องไปมากมายขนาดนั้น เขาก็ไม่เชื่อว่าโจ๋วอันหนานจะไม่เหลือข้อบกพร่องไว้แม้แต่น้อยเลย
ขอแค่เขาให้คนไปสืบ ก็ต้องสืบเจอแน่นอน