ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1322 พลังสังหารจากการพลอดรัก (2)
ระหว่างที่เวินลั่วฉิงพูดก็เดินไปหาเย่ซือเฉิน ก่อนจะเข้ากอดแนบติดกับเย่ซือเฉิน พร้อมกันนั้น มือข้างหนึ่งยังล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงของเย่ซือเฉิน
โจ๋วอันหนานได้ยินเวินลั่วฉิงเรียกเย่ซือเฉินหวานแหววปานนั้น แววตาก็เปลี่ยนไป และเมื่อเธอเห็นเวินลั่วฉิงเอาตัวแนบติดกับเย่ซือเฉิน แล้วก็เห็นเวินลั่วฉิงล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงของเย่ซือเฉิน ดวงตาโจ๋วอันหนานก็อดหรี่ขึ้นไม่ได้
เย่ซือเฉินรู้ว่าเวินลั่วฉิงทำเพราะต้องการให้โจ๋วอันหนานหลงกล ทว่าเธอเรียกเขาว่าที่รัก มันทำให้หัวใจเขาพองโต บวกกับเอาตัวมาติดกับเขาอีก ยังไม่พอ ยังมามือล้วงกระเป๋ากางเกงเขา อุณหภูมิจากมือเธอ โดยที่มีเนื้อผ้ากางเกงกั้นบางๆ ความอุ่นนี้กำลังแผดเผาผิวบริเวณขาของเขาให้รุ่มร้อน หัวใจของเขายิ่งกระเจิดกระเจิงไปไกล
เวินลั่วฉิงล้วงในกระเป๋ากางเกงเย่ซือเฉินตั้งนาน แต่ก็ยังไม่หยิบมือถือออกมาสักที
เย่ซือเฉินขบฟัน“โอเค ผมเอง ผมล้วงเอง……”
เวลานี้เสียงของเย่ซือเฉินแหบแห้งเล็กน้อย……
เธอช่างรู้จักทรมานจิตใจเหลือเกิน หากตอนนี้ไม่ใช่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาล และยังมีคนรายล้อมหลายคน เขาก็จะเอาเธอซะตรงนี้เลย
“โทษฉันไม่ได้นะ กระเป๋ากางเกงคุณลึกเกินไป”เวินลั่วฉิงยกมุมปากขึ้น เสียงยิ่งออดอ้อนขึ้นมาอีก
“ครับ ครับ ผมเอง ต้องโทษผม”เวลานี้เย่ซือเฉินไม่มีทางบอกว่าเธอผิดเด็ดขาด คนที่ผิดเป็นเขา ภรรยาของเขาถูกเสมอ
“อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉินด้วยรอยยิ้มสดใสกว่าเดิม
เย่ซือเฉินก็มองเวินลั่วฉิงที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน แววตาของเขาอ่อนโยนคล้ายกับสามารถละลายหัวใจได้เลยทีเดียว
โจ๋วอันหนานเห็นภาพฉากนี้ พลางรู้สึกหัวใจหล่นลงหม้อน้ำมันเดือด มันช่างทรมานเสียเหลือเกิน
และเวลานี้เอง เย่ซือเฉินล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งเครื่อง แต่เย่ซือเฉินไม่ได้แบมือออก ยังคงกุมมือถือไว้
“คุณโจ๋ว คุณรู้มือถือเครื่องนี้ใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงรีบมองไปยังโจ๋วอันหนาน ไม่ให้โจ๋วอันหนานมีโอกาสโต้ตอบ รีบเสริมต่อว่า“ไม่ผิดหรอก อันที่คือมือถือเครื่องที่คนใช้ให้คนอื่นเอาไปให้หยวนหยู เป็นมือถือที่คุณติดต่อกับหยวนหยู”
หัวใจของโจ๋วอันหนานกำลังทนทุกข์ทรมานอยู่ในหม้อน้ำมันเดือด เมื่อได้ยินเสียงเวินลั่วฉิง เธอก็หลุดออกจากภวังค์นั้น จากนั้นก็มองไปยังมือถือในมือของเย่ซือเฉิน เพราะเย่ซือเฉินกำมือถืออยู่ เธอจึงไม่เห็นหน้าตามือถือทั้งหมด เห็นแค่บริเวณที่โผล่ออกมาเท่านั้น
ซึ่งส่วนที่โผล่ออกมาเหมือนกับมือถือที่เธอกับหยวนหยูติดต่อกันจริงๆ
โจ๋วอันหนานประหวั่นพรั่นพรึง หรือว่าหยวนหยูไม่ได้ทำลายมือถือทิ้ง?
หากหยวนหยูไม่ได้ทำลายมือถือทิ้ง เวินลั่วฉิงคงได้เบาะแสการบันทึกสนทนาในมือถือ ถึงแม้เธอจะไม่ใช้มือถือของตัวเอง ถึงแม้เธอจะพึ่งซื้อมาใช้ชั่วคราวเท่านั้น
แต่สำหรับบทสนทนาระหว่างสาย เธอไม่ได้จัดการให้หมดจด ดังนั้นอาจจะสืบสาวถึงตัวเธอได้
ใบหน้าเรียบเฉยของโจ๋วอันหนานแหลกสลาย รู้สึกกระวนกระวายในท้ายที่สุด
เวินลั่วฉิงมองออกว่าใบหน้าเธอมีความตื่นตระหนก เวินลั่วลอบยิ้มในใจ ในที่สุดอีกฝ่ายก็เสแสร้งไม่ได้อีกต่อไป
เพียงแต่โจ๋วอันหนานก็ได้สติกลับมาอย่างเร็วไว ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่หยวนหยูจะไม่เชื่อฟังเธอ ชีวิตพ่อหยวนหยูอยู่ในกำมือเธอ ไม่มีทางที่หยวนหยูจะไม่สนใจชีวิตของผู้เป็นพ่อ
มิฉะนั้นหยวนหยูคงไม่ฉีดยาเข้าร่างกายตัวเองหรอก หยวนหยูต้องเชื่อฟังเธอ ต้องทำลายมือถือทิ้งแล้วแน่ๆ
“คุณให้หยวนหยูทำลายมือถือทิ้ง หยวนหยูก็เชื่อฟังคุณจริง แต่หยวนหยูไม่ใช่ผู้ชำนาญการในด้านนี้ หยวนหยูโยนมือถือออกทางหน้าต่าง เลยทำให้พวกเราเห็นหล่นใส่ในสวนดอกไม้ด้านล่าง”เวินลั่วฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา อารมณ์ทางสีหน้าโจ๋วอันหนานจึงหนีไม่พ้นสายตาของเธอ และเธอก็มองความคิดของโจ๋วอันหนานในตอนนี้ออก
แน่นอน สาเหตุที่ตอนนี้โจ๋วอันหนานเผยพิรุธมากมายเช่นนี้ สาเหตุหลักมาจากเมื่อเพราะเธอกับเย่ซือเฉินพลอดรักกัน โจ๋วอันหนานเป็นคนชอบเอาชนะอย่างนั้น ในเมือหล่อนชอบเย่ซือเฉิน เช่นนั้นการที่เธอกับเย่ซือเฉินพลอดรักกัน ต้องสะเทือนจิตใจหล่อนแน่
เมื่อครู่ เวินลั่วฉิงจงใจทำแบบนั้น เพราะมือถือที่เย่ซือเฉินกำไว้ไม่ใช่เครื่องที่โจ๋วอันหนานเอาให้หยวนหยู
มือถือในมือเย่ซือเฉินตอนนี้กับมือถือที่โจ๋วอันหนานให้หยวนหยูนั้นไม่ได้เหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว เครื่องที่อยู่ในมือเย่ซือเฉิน พวกเขาถอดแบบมาจากกล้องวงจรปิดและชิ้นส่วนเศษเล็กเศษน้อยที่อยู่ในห้องตรวจของหยวนหยู จากนั้นก็ปลอมแปลงขึ้นมา
เพราะในกล้องวงจรปิด คนไข้คนนั้นกุมมือถือไว้ มือถือที่พวกเขาสวมรอยขึ้นมาเครื่องนี้ จึงเหมือนส่วนที่เห็นเท่านั้น และวิธีกุมมือถือของเย่ซือเฉินก็เหมือนกับคนไข้เมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน
ซึ่งทั้งหมดนี้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินร่วมกับวางแผนก่อนจะมาห้องคนไข้ห้องนี้
เพียงแต่พวกเขารู้ว่าโจ๋วอันหนานฉลาดมาก ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงกระตุ้นสภาพจิตใจโจ๋วอันหนานก่อนจะเอามือถือออกมา โดยตกลงกันว่าสุดท้ายให้เย่ซือเฉินเป็นผู้นำมือถือออกมา
เวินลั่วฉิงรู้ว่าเมื่อเย่ซือเฉินนำมือถือออกมา โจ๋วอันหนานก็จะไม่ตรวจตราอย่างละเอียด เพราะเมื่อโจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉิน ความคิดส่วนหนึ่งของเธอก็จะหวั่นไหวกับเย่ซือเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการ
หัวใจที่รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยของโจ๋วอันหนานแขวนขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ว่าหยวนหยูต้องเชื่อฟังเธอแน่ ทว่าก็เป็นไปได้ที่หยวนหยูทำลายมือถือไม่แนบเนียน
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่”โจ๋วอันหนานให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ อย่าตื่นตระหนกเด็ดขาด ตื่นตระหนกไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะหามือถือเจอก็ไม่ใช่จะหาหลักฐานได้เสมอไป เพราะมือถือที่เธอติดต่อหยวนหยูนั้นพึ่งซื้อมาใช้เอง ซึ่งไม่ได้ใช้บัตรประชาชนของเธอเลย แค่ซื้อมาจากร้านค้าเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้น และตอนนั้นเธอสำรวจแล้ว ไม่พบกล้องวงจรปิดเลย
“ในมือถือมีบันทึกการโทรเข้าออก พวกเราสืบเบอร์เจอแล้ว”เวินลั่วฉิงมองเธอด้วยรอยยิ้ม“พวกเราสืบผู้จดทะเบียนซิมการ์ดมือถือเครื่องนี้ได้แล้ว ชื่อหลี่เฉียง แต่พวกเราไปหาหลี่เฉียง หลี่เฉียงบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย”
ประโยคนี้เวินลั่วฉิงพูดเพื่อแดกดันโจ๋วอันหนาน เพราะไม่ได้หามือถือเจอเลย ไม่มีเบอร์อะไรทั้งนั้น
ทว่าเวินลั่วฉิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานไม่ใช้มือถือของตัวเองติดต่อหยวนหยูแน่ โจ๋วอันหนานต้องซื้อซิมการ์ดตอนนั้น และไม่มีทางใช้บัตรประชาชนของโจ๋วอันหนานด้วย
แต่หมายเลขโทรศัพท์ทุกเครื่องในตอนนี้ต้องลงทะเบียนเข้าใช้งาน โจ๋วอันหนานต้องไม่ลงทะเบียนในร้านค้าถูกต้องตามกฎหมายแน่ ต้องซื้อตามร้านค้าเล็กๆ
ซึ่งปกติร้านค้าเล็กๆเจอสถานการณ์เช่นนี้ จะใช้บัตรประชาชนคนอื่นลงทะเบียน ดังนั้นโจ๋วอันหนานเองก็ไม่รู้ว่าใช้บัตรประชาชนของใครลงทะเบียนแน่นอน
เวลานี้เวินลั่วฉิงยิ่งพูดได้ละเอียด ยิ่งพูดเห็นภาพมากขึ้นเท่านั้น ความน่าเชื่อถือในคำพูดก็จะมีมากเท่านั้น และจะยิ่งทำให้โจ๋วอันหนานหลงกลง่ายขึ้น
ดังคาด เวินลั่วฉิงเห็นสีหน้าโจ๋วอันหนานเปลี่ยนไปมา
“พวกเรารีบมา เลยให้คนไปสืบว่าลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ที่ไหนแล้ว เชื่อว่าไม่นานคงได้คำตอบ เพราะอย่างไรเสียเบอร์ใหม่ทุกเบอร์จะมีการบันทึกไว้ว่า เบอร์ไหนส่งไปขายที่ไหน มันสืบไม่ยากเลย”เวินลั่วฉิงเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ตอนนี้เธอต้องคิดหาหนทางค่อยๆทำลายความคลาบแคลงใจของโจ๋วอันหนานทีละนิดทีละหน่อย
ตอนนี้ร่างกายโจ๋วอันหนานแข็งทื่อ ตอนนี้เธอไม่ได้เฉยเมยกับผ่อนคลายเฉกเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“พวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน ไม่เข้าใจจริงๆ”ทว่าสุดท้ายโจ๋วอันหนานไม่ใช่คนทั่วไป ถึงแม้ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกแล้ว แต่ก็ยังคงใจเย็นอยู่
เธอเชื่อมั่นหัวชนฝาเลยว่าพวกเขาไม่มีทางหาหลักฐานเจอง่ายๆ ขอแค่เวินลั่วฉิงหาหลักฐานไม่เจอ อีกฝ่ายก็จะทำอะไรเธอไม่ได้
เวินลั่วฉิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่เผยรอยยิ้มให้ลุ่มลึกขึ้นหลายส่วน
“ผัวจ๋า”เวินลั่วฉิงไม่แยแสโจ๋วอันหนาน หันไปมองเย่ซือเฉินอีกครั้ง คำว่าผัวจ๋า เวินลั่วเรียกได้อ่อนโยนมาก
นัยน์ตาโจ๋วอันหนานมืดครึ้ม ผัวเหรอ?
เวินลั่วฉิงเรียกเย่ซือเฉินว่า ผัว?
พวกเขาแต่งงานกันแล้วเหรอ?
วันนี้เกิดข่าวใหญ่ข่าวดังขนาดนั้น เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินยังไปจดทะเบียนสมรสกันอีกเหรอ?
มันเป็นไปได้ยังไง?เป็นไปได้ยังไง?
ชั่วขณะนี้โจ๋วอันหนานรู้สึกตัวเองหายใจเร็ว คล้ายกับใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว
เย่ซือเฉินได้ยินเวินลั่วฉิงเรียกว่า ผัวจ๋า ร่างกายก็ถูกกระตุ้น หัวใจไหวหวั่น ความรู้สึกนี้ช่าง……
ตัวเย่ซืเฉินเองก็ไม่อาจบรรยายได้ว่าความรู้สึกนี้เป็นอย่างไรในเวลาอันสั้นๆนี้
ถึงแม้จะรู้ว่าเธอกำลังแสดงละครตบตาอยู่ แต่เขาชอบฟัง เขาไม่ถือสาที่เธอจะเรียกหลายๆคำ อยากให้ใช้น้ำเสียงแบบนี้เรียกสักหลายๆครั้ง!!