ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1323 หลักฐาน (1)
ถึงแม้จะรู้ว่าเธอกำลังแสดงละครตบตาอยู่ แต่เขาชอบฟัง เขาไม่ถือสาที่เธอจะเรียกหลายๆคำ อยากให้ใช้น้ำเสียงแบบนี้เรียกสักหลายๆครั้ง!!
แน่นอน เขาคิดว่าหากเธอใช้น้ำเสียงแบบนี้เรียกเขาอีก เขาต้องควบคุมอารมณ์ใคร่ไม่อยู่แน่
“คุณถามกู้หวูดูว่าสืบเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์หรือยังไง?”เวินลั่วฉิงเสริมประโยคของตนจบ เธอไม่ได้เรียกผัวจ๋าเปล่าๆ เมื่อเรียกแล้วต้องเกิดคุณค่าภายในตัวของมันอยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงกลัวโจ๋วอันหนานได้สติแล้วจะจับพิรุธได้ จึงชิงก่อกวนจิตใจโจ๋วอันหนาน อีกฝ่ายจะได้ไม่มีเวลาไตร่ตรองให้ลึกซึ้ง
เย่ซือเฉินเข้าใจเจตนาของเธอ เอามือถือออกมาโทรหากู้หวูแต่โดยดี
ในใจโจ๋วอันหนานอดระส่ำระสายไม่ได้ เพราะตอนเธอซื้อหมายเลขมือถือไม่ได้จัดการอะไร
โจ๋วอันหนานเห็นเย่ซือเฉินที่กำลังโทรออก หัวใจก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ เพียงแต่เมื่อเธอมองใบหน้าอันสมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติของเย่ซือเฉินแล้วหัวใจก็อดหวั่นไหวไม่ได้ เขาสูงยาวเข่าดีโดยแท้
เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจสายตาของโจ๋วอันหนาน เพื่อให้ความร่วมมือกับฉิงฉิงของเขา เขาได้แต่อดกลั้นไว้ชั่วคราว
เย่ซือเฉินโทรติดอย่างรวดเร็ว
“สืบไปถึงไหนแล้ว?”เย่ซือเฉินไม่ชักช้า เอ่ยปากถามทันที
โจ๋วอันหนานได้ยินเขาถาม หัวใจก็รู้สึกถูกยกขึ้นไปแขวนสูงกว่าเดิม
เย่ซือเฉินไม่ได้เปิดลำโพงมือถือและยืนห่างจากโจ๋วอันหนานพอสมควร โจ๋วอันหนานจึงไม่ได้ยินเสียงในสาย
“เจ้าของร้านยังจำหน้าตาของคนซื้อได้ไหม?”จากนั้นเย่ซือเฉินก็ถามอีกหนึ่งประโยค ฟังจากรูปประโยคแล้วก็คือสืบร้านขายหมายเลขโทรศัพท์ได้แล้ว
ร่างกายโจ๋วอันหนานแข็งค้าง ถึงแม้จะพยายามสุดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้ ทว่าสีหน้าก็ยังคงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ได้เรียบเฉยและเย่อหยิ่งเฉกเช่นก่อนหน้านี้แล้ว
“ออ ผมรู้แล้ว”จากนั้นเย่ซือเฉินขานรับเสียงเบา
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางเย่ซือเฉินแล้วอดขำในใจไม่ได้ เห็นทีคุณชายสามเย่จะมีทักษะด้านการแสดงสูงไม่เบา
เวินลั่วฉิงรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีการสืบเบอร์อะไรเจอทั้งนั้น เพราะพวกเธอไม่มีเบอร์ที่ติดต่อกับหยวนหยูจริงๆ ความจริงแล้วซิมการ์ดมือถือที่หยวนหยูใช้ติดต่อมันโดนทิ้งลงท่อน้ำเรียบร้อยแล้ว
พวกเธอทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการตบตาโจ๋วอันหนานเฉยๆ
เย่ซือเฉินวางสาย จากนั้นก็มองไปยังเวินลั่วฉิง“กู้หวูบอกว่าหาร้านขายเบอร์มือถือได้แล้ว เจ้าของร้านบอกว่ายังจำลูกค้าที่ซื้อหมายเลขนั้นได้ บอกว่าอีกฝ่ายหน้าตาดีมาก ดูแล้วหยิ่งยโสและมีความเป็นผู้ดีมาก เจ้าของร้านเลยจำได้ดี”เย่ซือเฉินเหมือนพูดให้เวินลั่วฉิงฟัง ทว่าอันที่จริงคือพูดให้โจ๋วอันหนานฟัง ซึ่งจุดนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาวิเคราะห์แล้วร่วมกันวางแผนก่อนมายังห้องคนไข้แห่งนี้
โจ๋วอันหนานทำอะไรก็มักจะระมัดระวังและรอบคอบเสมอ และโจ๋วอันหนานก็ไม่เชื่อใจใครด้วย ไม่เช่นนั้นเธอก็จะไม่จัดการสามคนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดักฟังเมื่อวานเด็ดขาด ดังนั้นเรื่องที่ไม่ค่อยเสี่ยงมากนัก โจ๋วอันหนานต้องไปทำด้วยตัวเองแน่
เพราะหากมีคนรู้เพิ่มมากขึ้นหนึ่งคนก็จะยิ่งเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปด้วย หากโจ๋วอันหนานให้คนอื่นไปลงทะเบียนซิมการ์ดมือถือ หากคนนั้นแพร่งพรายเรื่องนี้ ต้องนำซึ่งความสงสัยให้กับตัวเธอ ไม่สู้เธอไปทำเองเสียจะดีกว่า
เวินลั่วฉิงมั่นใจว่าโจ๋วอันหนานไม่แปลงโฉมก่อนซื้อแน่ เพราะหากปกปิดอำพราง จะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยหนักกว่าเดิม ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงกล้าให้เย่ซือเฉินพูดละเอียดมากขนาดนี้
ดังคาด เวินลั่วฉิงพบว่าเย่ซือเฉินยังไม่ทันพูดจบ แววตาโจ๋วอันหนานก็มีความกระวนกระวายเพิ่มขึ้นหลายส่วน
เห็นได้ชัดว่าที่เธอวิเคราะห์จัดแจงก่อนหน้านี้นั้นถูกต้องทุกประการ
“ตอนนี้กู้หวูยังอยู่ในร้าน”เย่ซือเฉินหยุดพูด จากนั้นก็หันไปมองโจ๋วอันหนาน“คุณโจ๋ว ยืมรูปถ่ายคุณใช้หน่อย”
ถึงแม้เย่ซือเฉินไม่ได้พูดกระจ่างแจ้ง ทว่าความหมายกลับชัดเจนมาก เขาจะเอารูปถ่ายให้เจ้าของร้านดูว่าใช่หรือไม่
สีหน้าโจ๋วอันหนานเปลี่ยนไป ทว่าโจ๋วอันหนานไม่ใช่คนธรรมดา เธอกลับมาใจเย็นอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็มีความใจเย็นทางสีหน้าอยู่
เวลานี้โจ๋วอันหนานก็ไม่มีเวลาสนใจกับคำเรียกขานเธอของเย่ซือเฉินที่แสนจะห่างเหินยิ่งนัก ตอนนี้เธอคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้กลบเกลื่อนเรื่องนี้
โจ๋วอันหนานไม่มั่นใจว่าเมื่อกี้เย่ซือเฉินพูดจริงหรือเปล่า เธอยังไปถึงว่าเวินลั่วฉิงกำลังหลอกเธออยู่ ทว่าโจ๋วอันหนานไม่กล้าลงพนัน หากเย่ซือเฉินสืบได้จริงๆขึ้นมา หากเจ้าของร้านจำเธอได้จริงๆ ……
“ในมือถือฉันไม่มีรูปถ่าย”วิธีเดียวของโจ๋วอันหนานในตอนนี้คือถ่วงเวลา หาวิธีปลีกตัวออกไปก่อน จากนั้นเธอค่อยตรวจสอบว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นจริงหรือไม่
หากเย่ซือเฉินสืบได้จริงๆ เธอจะคิดหาวิธีคลี่คลาย หากสิ่งที่เย่ซือเฉินกล่าวไม่มีมูลความจริง เธอก็จะถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มือถือผมมี”โจ๋วชิงมองโจ๋วอันหนานแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปยังเย่ซือเฉิน เขาปลดล็อกมือถือเสร็จก็ยื่นให้เย่ซือเฉินดู
ถึงตอนนี้โจ๋วชิงก็พอจะดูออกแล้ว พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว
ถึงแม้โจ๋วอันหนานไม่ยอมรับ ทว่าโจ๋วชิงรู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับโจ๋วอันหนานแน่
และเมื่อครู่โจ๋วอันหนานบอกว่าไม่มีรูปถ่ายก็ยิ่งทำให้โจ๋วชิงมั่นใจมากขึ้น เพราะโจ๋วชิงรู้ว่าในมือถือของโจ๋วอันหนานมีรูปถ่ายไม่น้อยเลย
ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะเป็นคนเย็นชา แต่เธอนั้นก็ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ
“โจ๋วชิง นายจะทำอะไร”โจ๋วอันหนานลุกลนทันที รีบไปแย่งมือถือจากโจ๋วชิงมา
เพราะโจ๋วอันหนานไม่อาจรู้ได้เลยว่าเย่ซือเฉินพูดจริงหรือมั่วกันแน่ ดังนั้นเธอไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ และสถานการณ์เมื่อครู่ไม่มีพื้นที่ให้เธอพินิจพิจารณาเลย
ทว่าหลังจากโจ๋วอันหนานยื้อแย่งมือถือจากโจ๋วชิงก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดแล้ว การกระทำของเธอถือว่าเปิดโปงเธอชนิดหนึ่งแล้ว
วันนี้เธอใจเย็นไม่พอ ไม่มีสติเพียงพอ วู่วามแล้วจริงๆ
ทว่าจะโทษโจ๋วอันหนานไม่ได้ เพราะทุกอย่างโดนเวินลั่วฉิงวางกับดักไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเวลาไหน โจ๋วอันหนานก็จะตั้งสติได้ดีเยี่ยม มีสติใจเย็นจนกระทั่งไม่นับญาติกันได้เลย ทว่ามีเพียงอยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉินเท่านั้นที่เธอทำไม่ได้
เพราะความแอบรักสิบกว่าปี เพราะสิ่งที่ปรารถนาไม่อาจได้ครอบครอง โจ๋วอันหนานจึงมีความยึดมั่นต่อความแอบรักเย่ซือเฉินอย่างดื้อรั้น จนตัวเธอเกือบจะเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ดังนั้นเย่ซือเฉินจึงมีผลต่อสภาพจิตใจของโจ๋วอันหนานมาก
ก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินกระหนุงกระหนิงต่อหน้าเธอหลายต่อหลายครั้ง มันกระทบกระเทือนจิตใจเธออย่างสูง
ตอนนี้โจ๋วอันหนานสามารถให้ตัวเองครุ่นคิดได้ตามปกติถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว
“พี่ไม่ใช่บอกว่าไม่มีรูปถ่ายหรอกหรือ มือถือผมมี ผมจะให้ซือเฉินเอารูปไปตรวจสอบ”โจ๋วชิงเห็นการกระทำของโจ๋วอันหนาน หัวใจก็หล่นวูบ คงเป็นฝีมือเธอจริงๆ
หากไม่ใช่เธอ เธอก็ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจเพียงนี้ ยิ่งไม่จำเป็นต้องแย่งมือถือของเขาเลย
“รูปถ่ายของพี่ นายมีสิทธิ์อะไรตัดสินใจให้คนอื่น”โจ๋วอันหนานรู้ตัวว่าพลาดท่าเสียทีเข้าแล้ว จึงทำให้เกิดความสงสัยแน่นอน ทว่าอีคิวของเธอสูงมากจริงๆ เวลานี้ยังทำหน้าไม่ยินดียินร้ายได้อีก
โจ๋วอันหนานเอามือถือของโจ๋วชิงมา จากนั้นก็ลบรูปถ่ายทั้งหมด
“โจ๋วอันหนาน คิดว่าลบรูปถ่ายก็ไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ?ซือเฉินหารูปถ่ายพี่ได้อยู่แล้ว ทำอย่างนี้ก็เหมือนช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด เปิดเผยว่ากำลังกินปูนร้อนท้องอยู่”น้ำเสียงโจ๋วชิงเย็นเยียบ ถึงแม้โจ๋วอันหนานไม่ยอมรับ ทว่าโจ๋วชิงก็รู้คำตอบแล้ว
โจ๋วชิงคิดถึงคำตอบนี้ทีไร ก็รู้สึกหายใจไม่ออกทุกที เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าพี่สาวแท้ๆของตนจะทำร้ายหยวนหยูแบบนี้
โจ๋วอันหนานไม่เพียงทำให้เขากับหยวนหยูแยกจากกันเท่านั้น ตอนนี้ยังทำร้ายหยวนหยูไม่ได้สติอีก โจ๋วอันหนานรู้ทั้งรู้ว่าเขามีใจให้หยวนหยู โจ๋วชิงไม่รู้ว่าการที่โจ๋วอันหนานทำแบบนี้เคยคิดถึงความรู้สึกเขาบ้างไหม
“โจ๋วอันหนานกินปูนร้อนท้องอะไร?พี่ทำผิดอะไรมาถึงได้เผยพิรุธอย่างนี้?”โจ๋วชิงหรี่ตามองโจ๋วอันหนาน ดวงตามีกระแสเย็นยะเยือกแวบผ่าน โจ๋วอันหนานทำเรื่องมากมาย ตอนนี้ยังไม่สำนึกผิดอีก แถมยังทำหน้าราวกับเป็นสิ่งที่ถูกต้องอีก?
ทว่าถึงแม้โจ๋วอันหนานจะปกปิดดีเพียงใด แต่ก็ไม่อาจปกปิดอาการกินปูนร้อนท้องได้
“ฉันมีอะไรให้กินปูนร้อนท้องกัน”โจ๋วอันหนานลบรูปถ่ายในมือถือของโจ๋วชิงหมด เวลานี้สีหน้ากลับคืนสู่ความหยิ่งยโสอีกครั้ง ถึงแม้คำพูดของโจ๋วชิงจะทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด ทว่าก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติทางสีหน้า
“ในเมื่อไม่ได้กินปูนร้อนท้อง แล้วทำไมถึงกลัวผมเอารูปถ่ายให้ซือเฉินล่ะ?”โจ๋วชิงเห็นเธอปากแข็ง สีหน้าก็เย็นยะเยือกมากขึ้นอีกหลายส่วน“ถ้าพี่หากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ตอนนี้ก็เอารูปถ่ายให้ซือเฉิน ให้เจ้าของร้านชี้ตัวว่าใช่หรือไม่”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจกับพวกนาย ฉันไม่มีเวลามาเสียเวลากับพวกนาย”โจ๋วอันหนานมองโจ๋วชิงราบเรียบปราดหนึ่ง