ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1334 วิกฤติที่อันตรายมากๆ(2)
ในใจของหยวนหยูได้มีคำตอบแล้ว ด๊อกเตอร์กู่แน่ๆที่เป็นคนช่วยเธอไว้ แบบนี้เรื่องนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว
ตามวิธีการของโจ๋วอันหนานแล้ว โจ๋วอันหนานไม่มีทางให้เธอฟื้นขึ้นมาแน่นอน และโจ๋วอันหนานเล่นสกปรกคนทั่วไปยากที่จะพบเห็น ถึงพบเห็นก็ไม่มีวิธีช่วยเธอ เกรงว่ามีแค่ด๊อกเตอร์กู่เท่านั้นที่มีความสามารถแบบนี้
เมื่อก่อนหยวนหยูเคยเห็นเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้องกับด๊อกเตอร์กู่ เธอเลื่อมใสด๊อกเตอร์กู่มาก
นาทีนี้ในใจของหยวนหยูตื่นเต้นมากจนไม่รู้จะพูดอะไรในชั่วขณะ แต่นาทีนี้หยวนหยูก็ได้เห็นว่าในห้องยังมีอีกคนๆนึงอยู่ หยวนหยูดูออกว่าเป็นถังหลิน
เพราะเมื่อก่อนโจ๋วชิงเคยพาเธอไปเจอถังหลินอยู่ ก่อนจะเจอถังหลิน หยวนหยูรู้สึกว่าถังหลินเป็นคนที่เย็นชาและเคร่งขรึมมาก แต่พอครั้งนั้นได้เจอกับถังหลินแล้ว เธอถึงพบว่าถังหลินเป็นเหมือนพี่ชายข้างบ้านที่รู้สึกมีความใกล้ชิดมาก
หยวนหยูรู้ว่าสำหรับโจ๋วชิงแล้ว ถังหลินก็เหมือนผู้ปกครองยังไงอย่างงั้น หยวนหยูก็รู้ว่าการเจอหน้ากันของครั้งนั้นถังหลินได้ยอมรับเธออยู่
เป็นแบบที่ยอมรับโดยตรง แต่ไม่เหมือนคนของตระกูลโจ๋ว คนของตระกูลโจ๋วพวกนั้น ภายนอกดูสนิทสนมและเป็นกันเองกับเธอมาก แต่หยวนหยูสามารถรู้สึกได้ถึงการดูถูกของพวกเขา
ตอนแรกหยวนหยูยังอยู่ว่าตัวเองเซนซิทีฟเกินไป คิดมากไป จนกระทั่งโจ๋วอันหนานมาหาเธอ เธอถึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าไม่ใช่เธอคิดมาก แต่ล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น
หยวนหยูนึกถึงก่อนหน้านี้เธอเป็นคนเอาซองเอกสารที่ใส่เครื่องดักฟังไปให้โจ๋วชิง จากนั้นถึงทำให้การสนทนาของตระกูลถังได้ถูกคนรู้เข้า จึงก่อให้เกิดข่าวเสียๆหายๆเหล่านั้นของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
นึกถึงพวกนี้ หยวนหยูค่อนข้างละอายใจจนไม่ค่อยกล้าสู้หน้าถังหลิน อีกอย่างเธอกลัวถังหลินจะถามเธอเรื่องเครื่องดักฟังด้วย
หยวนหยูไม่อยากโกหกถังหลินจริงๆ แต่พ่อของเธอตกอยู่ในมือของโจ๋วอันหนาน เธอไม่รู้ว่าถ้าถังหลินถามเธอ เธอควรจะตอบยังไงดี
“เธอพักผ่อนดีๆนะ”แต่ถังหลินไม่ได้ถามเรื่องเครื่องดักฟังเลย ถังหลินรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จึงเข้าใจความลำบากใจของหยวนหยูอยู่แล้ว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เขาจะไม่ทำให้หยวนหยูลำบากใจแน่นอน
ถึงแม้เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำพวกนั้น พวกเขายังตรวจสอบไม่เจอหลักฐานใดๆ ถึงแม้คำให้การของหยวนหยูคือพยานที่ทรงพลังที่สุด แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่มีทางบีบหยวนหยูหรอก
หยวนหยูอึ้งค้างพร้อมกับเบิกตากว้าง มองถังหลินด้วยสีหน้าข้องใจ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดว่าถังหลินจะไม่ถามอะไรเลย
“เธอเกิดเรื่อง โจ๋วชิงใกล้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว รักษาร่างกายดีๆ อย่าทำเรื่องโง่ๆอีก”ถังหลินรู้มาโดยตลอดว่าหยวนหยูเป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและจิตใจดีงาม เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะกับโจ๋วชิงมากจริงๆ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าคำพูดของถังหลินได้พูดเพื่อโจ๋วชิง
ถังหลินหวังว่าระหว่างหยวนหยูกับโจ๋วชิงอย่าแยกจากกันเพราะเรื่องอื่นๆอีกเลย
หยวนหยูตกใจ:“เขา?”
หยวนหยูมีคำถามมากมายที่อยากจะถามในชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถามออกมาสักคำถาม
“เขาล่ะคะ?”หยวนหยูไม่เห็นโจ๋วชิง ตามที่ถังหลินพูดเมื่อครู่ ตอนนี้โจ๋วชิงควรจะอยู่ที่ห้องผู้ป่วยสิถึงจะถูก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
“เขามีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”ถังหลินดูออกว่าหยวนหยูกังวล นานๆทีที่จะอธิบายให้เธอฟังอย่างอ่อนโยน
ถังหลินพอจะเดาได้แล้วว่าโจ๋วชิงไปทำอะไร แต่เขาไม่ได้พูดกับหยวนหยู
“พี่ถัง ฉัน……ฉัน……”นาทีนี้หยวนหยูอยากพูดเรื่องทั้งหมดออกมาจริงๆ เธอไม่อยากช่วยโจ๋วอันหนานปิดบัง ไม่อยากเลยจริงๆ
แต่ว่าพ่อของเธอ……
ถ้าเธอแฉโจ๋วอันหนานออกมาจริงๆ โจ๋วอันหนานจะฆ่าพ่อของเธอหรือเปล่า หยวนหยูรู้ว่าตามความโหดเหี้ยมอำมหิตของโจ๋วอันหนานแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมาก สำหรับโจ๋วอันหนานแล้วชีวิตของคนอื่นไม่มีค่าอะไรเลย
ไม่งั้นโจ๋วอันหนานก็ไม่บีบให้เธอฆ่าตัวตายหรอก อีกอย่างเธอยังรู้ด้วยว่าที่จริงคนที่โจ๋วอันหนานฆ่าไม่ได้มีแค่คนเดียว
เพราะฉะนั้น โจ๋วอันหนานที่อยู่ภายใต้ความโกรธอาจจะฆ่าพ่อของเธอได้จริงๆ พ่อของเธอได้‘ตาย’ไปกับอุบัติเหตุของเมื่อแปดปีที่แล้ว ถึงตอนนี้โจ๋วอันหนานฆ่าพ่อของเธอก็ไม่มีคนรู้หรอก
ถึงเวลา ถึงเธอไปฟ้องโจ๋วอันหนานก็ฟ้องไม่ได้
หยวนหยูคิดถึงพวกนี้ คำพูดที่มาถึงปากกลับไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ
ถังหลินย่อมรู้ความลำบากใจของหยวนหยูอยู่แล้ว:“เอาล่ะ เธอพักผ่อนดีๆ รอโจ๋วชิงกลับมา เธอมีอะไรก็พูดกับโจ๋วชิงโดยตรงเลย”
ตอนที่ถังหลินพูดคำนี้ น้ำเสียงยังคงอ่อนโยนมาก เหมือนพี่ชายข้างบ้านยังไงอย่างงั้น ถังหลินเห็นโจ๋วชิงเป็นน้องชายแท้ๆ เพราะฉะนั้นสำหรับเขาแล้ว หยวนหยูก็เหมือนคนในครอบครัวเหมือนกัน
“ขอโทษค่ะ”หยวนหยูได้ยินคำพูดของถังหลินแล้ว หัวใจทั้งดวงได้บีบแน่นขึ้นมา ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ในชั่วขณะ และอดร้องไห้ไม่ได้:“ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ ฉันเห็นแก่ตัวเกินไป ฉันไม่ดีเอง”
นาทีนี้เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใจของหยวนหยูได้พังทลายลง เรื่องที่เธอทำในเมื่อวานได้ทำร้ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ถึงแม้เธอถูกโจ๋วอันหนานหลอกใช้ก็จริง แต่เธอก็เป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ
อีกอย่างจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ให้คำอธิบายกับถังหลิน ถังหลินไม่เพียงไม่โทษเธอ แถมยังปฏิบัติกับเธอเหมือนเมื่อก่อน นาทีนี้หยวนหยูรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเกินไปจริงๆ
“ไม่ใช่ความผิดเธอ วางใจเถอะ โจ๋วชิงจะจัดการทุกอย่างให้ดีเอง”พูดตามตรงที่จริงถังหลินเห็นหยวนหยูจู่ๆร้องไห้ฟูมฟายแล้วค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ถังหลินปลอบคนไม่ค่อยเป็น โดยเฉพาะปลอบผู้หญิง
แต่ว่า นาทีนี้คำพูดของถังหลินกลับได้ผลยิ่งกว่าคำพูดปลอบโยนใดๆ
หลังจากถังหลินบอกว่าโจ๋วชิงจะจัดการเรื่องราวให้ดี พริบตาเดียวก็ได้ช่วยหยวนหยูแบ่งเบาภาระทางใจไปกว่าครึ่งเลย
อีกอย่างคำนี้ของถังหลินได้เปลี่ยนคุณลักษณะของเรื่องทั้งเรื่องไปจนหมด
หยวนหยูได้อึ้งค้างโดยตรงจนลืมร้องไห้ในชั่วขณะ ได้เหม่อมองถังหลินด้วยน้ำตานองหน้า
คำพูดที่ถังหลินพูดเธอเข้าใจ น้ำใจของถังหลินเธอก็เข้าใจ เพราะเข้าใจถึงยิ่งตกตะลึงและยิ่งละอายใจ ถังหลินไม่เพียงไม่โทษเธอ แต่ยังปลอบเธออย่างนี้อีก
“ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ เธอพักผ่อนดีๆนะ”ถังหลินยังเป็นห่วงเรื่องของเวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิง ในเมื่อหยวนหยูฟื้นแล้ว โจ๋วอันหนานก็ไปจากโรงพยาบาลตั้งนานแล้ว ทางนี้เขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว
ตอนนี้ถังหลินค่อนข้างกลัวว่าโจ๋วชิงกับเวินลั่วฉิงจะมีอันตราย แต่ถังหลินไม่ได้บอกหยวนหยู เพราะหยวนหยูเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา แถมก่อนหน้านี้ยาที่หยวนหยูฉีดก็เป็นยาที่ทำลายหัวใจ ถังหลินกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจิตใตของหยวนหยู
“อ๋อ ค่ะ”หยวนหยูตอบอย่างเหม่อลอย เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้ดึงสติกลับมาหมด
หลังจากถังหลินออกมาจากห้องผู้ป่วย สีหน้าที่เมื่อครู่ยังถือว่าอ่อนโยนอยู่ได้ซีเรียสขึ้นมาทันที เขาหยิบมือถือออกมา ก่อนอื่นได้โทรเบอร์ของเวินลั่วฉิงก่อน แต่ว่าเบอร์ของเวินลั่วฉิงโทรไม่ติด
จากนั้นเขาได้โทรหาโจ๋วชิงอีก ก็โทรไม่ติดเช่นกัน สีหน้าของถังหลินยิ่งซีเรียสขึ้นไปอีก ตอนที่อยู่ในห้องผู้ป่วย เขาก็รู้สึกว่าเรื่องไม่ค่อยดีแล้ว ดูท่าเขาเดาถูกจริงๆด้วย
ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ปกติ มือถือของเวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิงไม่มีทางโทรไม่ติด นี่จะต้องเกิดเรื่องแน่เลย จะต้องเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนานแน่นอน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าโจ๋วอันหนานได้ทำเรื่องอะไรอีก
ถังหลินได้โทรหาเบอร์ของเย่ซือเฉินอย่างไว ทางฝั่งเย่ซือเฉินแทบจะรับสายในทันที
“หาฉิงฉิงเจอหรือยัง?”พอรับสายปุ๊บ ถังหลินก็อดถามไม่ได้
“ยัง โทรศัพท์ไม่ติด มือถือของโจ๋วชิงก็โทรไม่ติด แม้กระทั่งเบอร์ของกู้หวูก็โทรไม่ติดเหมือนกัน ฉันได้ถาม
คนขององค์กรยมบาลแล้ว กู้หวูได้พาไอ้หัวโตออกไปหลังจากที่ได้รับสายของเวินลั่วฉิง”นาทีนี้เย่ซือเฉินกระวนกระวายใจมาก ได้รีบพูดสถานการณ์ที่เขารู้อย่างไว
เย่ซือเฉินหยุดชะงักไปครู่นึง จากนั้นได้เสริมอีกคำว่า:“ไอ้หัวโตถนัดไขกุญแจที่สุด พวกเขาจะต้องไปหาพ่อของหยวนหยูแน่นอน”
“แล้วรู้มั้ยว่าพวกเขาไปไหนกัน?”จุดนี้ถังหลินคิดได้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือหาพวกเขาให้
เจอ
“ฉันให้ฉิงถิงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พวกเขาได้ไปที่ชานเมืองฝั่งเหนือ ตอนนี้ฉันอยู่ระหว่างทางแล้ว”นาทีนี้เย่ซือเฉินกำลังขับรถอยู่ รถได้ซิ่งเร็วมาก ไม่รู้ว่าเกินความเร็วตั้งเท่าไหร่แล้ว
“นายแชร์โลเคชั่นมาให้ฉันหน่อย ฉันจะรีบตามไปเดี๋ยวนี้เลย”ถังหลินรู้สถานที่ที่เวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิงไปแล้ว ถือว่ายังโล่งอกหน่อย
ขอแค่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน เรื่องก็ง่ายแล้ว ตามความสามารถของเขากับเย่ซือเฉินจะต้องหาฉิงฉิงกับโจ๋วชิงเจอแน่นอน
เขาจะไม่ให้โจ๋วอันหนานได้ทำร้ายฉิงฉิงอีกเด็ดขาด
โจ๋วอันหนานก็เพิ่งไปจากห้องผู้ป่วย ถึงโจ๋วอันหนานไวกว่าพวกเขาหน่อย ก็เร็วสู้เย่ซือเฉินไม่ได้ ดังนั้นฉิงฉิงคงไม่เป็นไรหรอก
แต่เห็นได้ชัดว่าถังหลินประเมินโจ๋วอันหนานต่ำเกินไป บางทีควรจะพูดว่าถังหลินประเมินความโหดเหี้ยมและความเลือดเย็นของโจ๋วอันหนานต่ำเกินไป ถังหลินยังไงก็คิดไม่ถึงว่าโจ๋วอันหนานอยากเอาชีวิตของเวินลั่วฉิง