ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1339 ความโกรธกริ้วของคุณชายสามเย่(1)
“อืม”ผู้ชายเหม่อเล็กน้อย จากนั้นได้ตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำและได้ขับรถไปยังทิศทางของวิลล่า ในขณะที่ขับรถอยู่ มือของเขากลับมีปืนเพิ่มขึ้นหนึ่งกระบอก……
เขารู้ถึงความอันตรายของเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังรับปากอีก บางครั้งคนเรามันก็แปลกจริงๆ เรื่องที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ก็ดันยังจะไปทำอีก
ก็เหมือนที่เขาชอบเธอมานานหลายปี รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่ชอบเขา รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่มีทางยอมรับเขา รู้ทั้งรู้ว่าเธอแค่หลอกใช้เขา มีแค่ตอนที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังถึงถามหาเขา
แต่เขาก็ยังไม่อาจปฏิเสธเธออีก ไม่อาจปฏิเสธทุกการเรียกร้องของเธอ เมื่อก่อนช่วยเธอแก้ไขปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ตอนนี้ไปตายเพื่อเธอ
แต่เขาทำแบบนี้แล้วแลกมาด้วยอะไร?
ยังคงแลกมาด้วยท่าทีที่เย็นชาของเธอ ยังคงแลกมาด้วยการทิ้งๆขว้างๆของเธอ
บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เขาทำเพื่อเธอแล้ว!!
พอคิดแบบนี้ ทันใดนั้นเขาได้เพิ่มความเร็วของรถกะทันหัน ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ในเมื่อรับปากเธอแล้ว งั้นเขาก็ต้องทำให้ได้
เมื่อครู่ระเบิดเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย ครั้งนี้จะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายไม่ได้อีกเด็ดขาด
เดิมทีเขาก็อยู่ไม่ไกลจากวิลล่าอยู่แล้ว แถมเขายังได้ขับรถด้วย ความเร็วของรถไม่ช้าเลย เพราะฉะนั้นไม่นานก็ได้มาถึงหน้าวิลล่า
นาทีนี้ เวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิงและพวกเพิ่งลุกขึ้นมาจากพื้น รถที่พวกเขาขับมาก่อนหน้านี้ได้จอดอยู่ที่หน้าวิลล่านี้เอง เมื่อครู่อานุภาพของระเบิดแรงเกินไป รถที่พวกเขาจอดอยู่ด้านนอกได้ถูกโจมตีจนรูปทรงเปลี่ยน ตอนนี้ใช้งานไม่ได้แล้ว
ที่นี่เป็นชานเมือง ปกติไม่มีรถขับผ่านมาเลยด้วยซ้ำ โบกรถไม่สะดวกเลย เวินลั่วฉิงจึงหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมโทรหาเย่ซือเฉิน
แต่เสี้ยววินาทีที่เธอโทรศัพท์ออกไป เธอได้เห็นรถคันนึงเลี้ยวมาจากทางเลี้ยวของด้านหน้า ถึงจะเลี้ยวก็ตาม ความเร็วที่ขับยังคงเร็วมาก และวินาทีที่เวินลั่วฉิงเห็นรถเลี้ยวมา กระจกรถได้มีหัวปืนโผล่ออกมาหนึ่งกระบอก
“หลบเร็ว” เวินลั่วฉิงโทรศัพท์ไปถึงครึ่งนึง ก็ไม่ได้ดูว่าโทรติดหรือเปล่า ในขณะที่เธอตะโกนด้วยความตกใจก็ได้หมอบลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้กลิ้งไปอีกด้านนึงอย่างรวดเร็ว
ยังไงซะกู้หวูก็เป็นคนรับผิดชอบดูแลองค์กรยมบาล สถานการณ์แบบนี้เขาไม่ใช่เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก จึงมีปฏิกิริยาที่เร็วมาก ที่จริงก่อนที่เวินลั่วฉิงจะส่งเสียงเขาก็เห็นแล้ว เขาจึงได้หลบไปอย่างไว
มีแค่โจ๋วชิงที่มีปฏิกิริยาช้าหน่อย แต่ก่อนที่กู้หวูจะหมอบลงได้ดึงโจ๋วชิงอย่างไวทีนึง ดึงจนโจ๋วชิงล้มลงโดยตรง แต่ก็หลบยังไม่ทันอยู่ดี ไหล่ของโจ๋วชิงได้ถูกยิงเข้านัดนึง
คนๆนั้นถือปืนไว้และยิงอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าเตรียมจะกำจัดพวกเขาทิ้งให้หมด
ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่กว้างมาก เป็นโพรงหญ้าทั้งผืน ไม่มีสิ่งบดบังเลย ถึงตอนแรกหลบได้ ต่อจากนี้ก็ไม่มีที่จะซ่อน ก็ยากที่จะหลบได้เช่นกัน
กู้หวูตีลังกามาถึงที่ตรงหน้าของเวินลั่วฉิงโดยตรง มาบังเวินลั่วฉิงเอาไว้ กู้หวูรู้แค่ว่าไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องคุ้มกันคุณหญิงดีๆ ถ้าคุณหญิงเป็นอะไรไป ลูกพี่ของเขาจะต้องเป็นบ้าแน่ๆ หลายปีมานี้กว่าลูกพี่ของเขาจะเจอคนที่ชอบไม่ใช่ง่ายๆเลย
เพราะไม่มีสิ่งบดบังเลย แถมในใจของกู้หวูก็คิดแต่จะคุ้มกันเวินลั่วฉิง ไม่คำนึงถึงตัวเองเลย ดังนั้นเขาจึงถูกยิงเหมือนกัน แต่กู้หวูไม่สนใจเลยสักนิด แม้กระทั่งไม่ร้องแม้แต่คำเดียว นาทีนี้เขาคุ้มกันเวินลั่วฉิงไว้อย่างแน่นหนา อยากช่วยเวินลั่วฉิงบังลูกกระสุนไว้ทั้งหมด
แน่นอนว่ากู้หวูไม่มีทางอยู่เฉยนั่งรอความตายอย่างเดียวแน่นอน ในขณะที่เขาคุ้มกันเวินลั่วฉิงก็ได้หลบหลีกอย่างไวด้วย ดีที่เวินลั่วฉิงก็ไม่ช้า สามารถตามทันความเร็วของกู้หวูหมด ต่อมาทั้งสองล้วนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
“กู้หวู แบบนี้ไม่ได้” เวินลั่วฉิงซาบซึ้งใจมาก แต่เธอจะให้กู้หวูเกิดเรื่องเนื่องจากคุ้มกันเธอไม่ได้ เธอจะต้องคิดหาวิธีถึงจะได้
“ที่นี่ไม่มีสิ่งบดบัง ลูกกระสุนของคนๆนั้นยิงไปมั่ว อีกอย่างคนๆนั้นใกล้กับพวกเรามาก ไม่มีวิธีที่จะหลบหลีกเลยด้วยซ้ำครับ”กู้หวูก็รู้อยู่ว่าแบบนี้ไม่โอเค แต่สถานการณ์ของตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นเลย
ที่จริงกู้หวูก็รู้ว่าถึงตอนนี้เขาช่วยคุณหญิงบังกระสุน มันก็แค่ชั่วขณะ พอเขาตายไป คนๆนั้นก็ไม่ยอมปล่อยคุณหญิงไปอยู่ดี
นาทีนี้โจ๋วชิงได้ถูกยิงเข้าอีกนัดนึง ไอ้หัวโตก็ถูกยิงเหมือนกัน แต่ละคนล้วนน่าอนาถมาก
แต่คนๆนั้นกลับยิงอย่างไร้ความปราณี แถมนาทีนี้คนๆนั้นยังได้ขับรถเข้ามาใกล้ด้วย ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้พวกเขามากขึ้น คนๆนั้นยิ่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่ เปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาจะหลบทันก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
“พวกเราคุ้มกันฉิงฉิง ให้ฉิงฉิงไป”โจ๋วชิงมองมาที่เวินลั่วฉิงกับกู้หวู เขาจะให้เวินลั่วฉิงเกิดเรื่องไม่ได้ ฉิงฉิงเป็นน้องสาวแท้ๆของพี่ใหญ่ เป็นคนที่พี่สามรักสุดหัวใจ อีกอย่างคนที่ก่อให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้คือโจ๋วอันหนาน พี่สาวแท้ๆของเขา เขาจะต้องคุ้มกันเวินลั่วฉิงไว้ ถึงเขาตาย เขาก็ให้เวินลั่วฉิงเกิดเรื่องไม่ได้
พวกเขาสามคนร่วมด้วยช่วยกัน บางทีอาจจะสามารถคุ้มกันให้เวินลั่วฉิงหนีไปได้ อย่างน้อยสามารถช่วยเวินลั่วฉิงหาสิ่งบดบังเจออย่างนึง ถึงเวลาอย่างน้อยก็มีโอกาสที่จะรอดชีวิตเพิ่มขึ้น
“ไม่ได้” เวินลั่วฉิงย่อมเข้าใจความหมายของโจ๋วชิงอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาสามคนล้วนอันตรายมาก พวกเขาสามคนอาจจะถูกยิงได้ทุกเมื่อ
เธอไม่มีทางเพื่อตัวเองแล้วไม่คำนึงชีวิตของพวกเขาสามคนหรอก
“โอเค ตามนี้เลยครับ”แต่กู้หวูกลับรับปากอย่างไว ตอนที่กู้หวูมองไปที่โจ๋วชิง แววตามีความซาบซึ้งใจ
ไอ้หัวโตยิ่งแล้วใหญ่ได้เดินมาบังอยู่ที่ตรงหน้าเวินลั่วฉิงอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดโดยตรง ความหมายนั้นชัดเจนมาก
นาทีนี้ไม่มีใครสนใจคำปฏิเสธของเวินลั่วฉิงเลย
แต่พอแบบนี้ เป้าหมายทั้งหมดล้วนรวมตัวอยู่ด้วยกัน ยิ่งสะดวกให้คนๆนั้นยิงเลย แรงกระสุนทั้งหมดล้วนโจมตีมาพร้อมกัน
แต่ทั้งสามคนที่คุ้มกันเวินลั่วฉิงกลับไม่มีการลังเลและการยึกยักเลยสักนิด แม้กระทั่งไม่ขมวดคิ้วเลย ยังคงเดินหน้าไปกับทุกคน เหมือนบาดแผลไม่เจ็บเลยสักนิด
“คุณหญิง ไปข้างหน้าครับ ข้างหน้ามีที่หลบ”กู้หวูเหลือบเห็นข้างหน้ามีที่ที่ไม่เลว สามารถหลบได้ เขาอยากส่งเวินลั่วฉิงไป
เวินลั่วฉิงรู้ว่าตอนนี้ไม่มีเวลามาพูดมาก กู้หวูถึงขั้นกุมแขนของเธอไว้ ให้เธอไม่มีโอกาสที่จะปฏิเสธเลย
ทั้งสามคนล้วนบังอยู่ที่ตรงหน้าของเวินลั่วฉิง ครั้งนี้ทั้งสามคนไม่ได้กลิ้งอยู่บนพื้นเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ได้ลุกขึ้นมาคุ้มกันเวินลั่วฉิงไว้ พร้อมวิ่งไปข้างหน้า
พอแบบนี้ พวกเขาสามคนก็เท่ากับได้เปิดเผยตัว นาทีนี้คนๆนั้นก็ยิ่งใกล้เข้ามามากขึ้น แรงกระสุนที่ยิงยังคงไม่ลดลงเลย ทั้งสามคนแทบจะเป็นเป้านิ่งอยู่แล้ว
แค่พริบตาเดียว ไอ้หัวโตกับโจ๋วชิงก็ถูกยิงอีกคนละนัด
เวินลั่วฉิงตาแดงก่ำ รู้สึกบีบหัวใจ เวินลั่วฉิงรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่ไหวแล้ว
ไม่รอให้พวกเขาได้ไปถึงที่หลบซ่อนของข้างหน้า พวกเขาสามคนก็อาจจะตายก่อนแล้ว
แต่ภายใต้สถานการณ์ของตอนนี้ เวินลั่วฉิงกลับหมดหนทาง หมดหนทางจริงๆ
ถ้าเธอปฏิเสธในเวลานี้ บ่ายเบี่ยงในเวลานี้ กลับยิ่งเสียเวลา กลับกันจะยิ่งขัดขวางความเคลื่อนไหวของพวกเขา มีแต่จะยิ่งทำให้พวกเขาอันตรายมากยิ่งขึ้น
ขาของไอ้หัวโตถูกยิงไปนัดนึง แต่เขายังคงบังอยู่ที่ตรงหน้าของเวินลั่วฉิง ยังคงเดินหน้าไปกับทุกคน เหมือนบาดแผลไม่เจ็บเลยสักนิด
“เยี่ยมมากไอ้น้อง”กู้หวูมองไอ้หัวโตแว๊บนึง น้ำเสียงมีความตื้นตันเพิ่มมากขึ้น:“เพื่อลูกพี่แล้ว วันนี้ถึงฉันจะถูกยิงเป็นรังผึ้งฉันก็ยอม”
“ไอ้น้อง งั้นนายต้องเตรียมใจไว้นะว่าวันนี้นายอาจจะถูกยิงเป็นรังผึ้งได้จริงๆ”ไม่นึกเลยว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้คุณชายสองโจ๋วยังพูดเล่นขึ้นมาอย่างหาได้ยากอีก
“คุณก็พอๆกันแหละครับ”กู้หวูอดหัวเราะไม่ได้ อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่กระสุนปลิวไปมาและ อาจจะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อแบบนี้ ยังขำออกอีกก็เป็นความห้าวหาญอย่างนึง
“ฉิงฉิง ถ้าผมตายไป ฝากบอกหยวนหยูด้วยว่าผมรักเธอ ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย”คุณชายสองโจ๋วดูสถานการณ์แบบนี้แล้ว ในใจรู้ดีว่าตัวเองคงจะไม่น่ารอดแล้ว อยู่ในเวลานี้มักจะมีเรื่องมากมายที่คิดถึงและเป็นห่วงจนไม่อาจวางใจได้ และมีเรื่องมากมายที่รู้สึกเสียใจ แต่สิ่งที่คุณชายสองโจ๋วเสียใจที่สุดก็คือไม่ได้บอกกับหยวนหยูด้วยตนเองว่าเขารักเธอมาโดยตลอด
“คุณเป็นคนไปบอกกับเธอเอง” เวินลั่วฉิงไม่อยากรับงานนี้ เธออยากให้คุณชายสองโจ๋วมีชีวิตอยู่ต่อ เธออยากให้ทุกคนมีชีวิตอยู่ต่อ
“คุณชายสองโจ๋ว ตอนนี้หยวนหยูอาจจะฟื้นแล้ว เธออาจจะกำลังรอคุณอยู่ คำพูดเหล่านี้คุณควรจะเป็นคนไปบอกกับเธอเอง” เวินลั่วฉิงรู้ว่าตอนนี้ห้ามปรามการตัดสินใจของพวกเขาสามคนไม่ได้ งั้นเธอก็ได้แค่ให้แรงบันดาลใจให้ทุกคนยืนหยัดต่อไป
“โอเค ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อ ผมจะเป็นคนไปบอกกับเธอเอง”แววตาของคุณชายสองโจ๋วมีแสงแวบวับเพิ่มมากขึ้น เขากับหยวนหยูจากกันแปดปี จากกันแปดปีเพราะความเข้าใจผิด เขากับเธอทรมานมาแปดปี เขาควรจะเป็นคนไปบอกเรื่องพวกนี้กับเธอเองจริงๆ