ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1348 เด็กในท้องของเธอคือลูกของเขา (2)
“หลายวันมานี้รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย” หลินเป้ยแอบถอนหายใจ เธอเข้าใจองค์ชายใหญ่ดี เธอรู้ดีว่าหากเธอไม่พูดให้ชัดเจน องค์ชายใหญ่ไม่มีทางปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน
เรื่องที่ตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้อย่างแน่นอน หลิยเป้ยจึงจำเป็นต้องหาข้ออ้าง
“ไม่สบาย ? ป่วยหรือ ? ไม่สบายก็ไปโรงพยาบาลสิ จะรอให้ฉันส่งนายไปโรงพยาบาลหรืออย่างไร” องค์ชายใหญ่ฟังออกว่าน้ำเสียงของหลินเป้ยนั้นอ่อนแรง อีกทั้งเข้าก็รู้จักหลินเป้ยดี ช่วงนี้หลินเป้ยไม่ยอมปรากฏตัว เกรงว่าอาจเป็นเพราะกำลังป่วยหนัก
“ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก” หลินเป้ยรู้สึกตกใจ เธอจะไปโรงพยาบาลไม่ได้เด็ดขาด หากไปโรงพยาบาล ทุกอย่างจะต้องถูกเปิดเผยแน่นอน
“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมนายถึงได้กลัวโรงพยาบาลนัก” องค์ชายใหญ่ไม่คิดอะไรมาก เพราะก่อนหน้านี้หลินเป้ยก็กลัวโรงพยาบาลมาโดยตลอด
“ฉันจะให้หมอส่วนตัวเข้ามาตรวจดูอาการให้นายก็แล้วกัน” องค์ชายใหญ่รู้สึกเป็นห่วงหลินเป้ยจริง ๆ หลายปีมานี้ หลินเป้ยคอยช่วยเหลืองานมากมายอยู่ข้างกายเขาไม่ห่าง ตอนนี้ยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งเชื่อใจหลินเป้ยมากขึ้น ถึงขนาดบางครั้งก็รู้สึกว่าขาดหลินเป้ยไม่ได้
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่เป็นไรจริง ๆ พักผ่อนสักเดี๋ยวก็คงหายดี” หลินเป้ยรู้สึกประหม่า เสียงของเธอสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอจะไปโรงพยาบาลไม่ได้ และจะให้หมอส่วนตัวเข้ามาตรวจไม่ได้เช่นกัน
องค์ชายใหญ่เสนอที่จะจัดหาหมอส่วนตัวมาให้เธอหลายครั้ง แต่หลินเป้ยก็ปฏิเสธทุกครั้ง
ผู้หญิงที่ปลอมตัวมาเป็นผู้ชายอย่างเธอ นอกจากแม่แล้ว เธอจะปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาด หากมีคนรู้เพิ่มขึ้นหนึ่งคน ก็เท่ากับมีอันตรายเพิ่มมากขึ้น
“นายเป็นอะไรกันแน่ สองวันก่อนฉันเห็นสีหน้าของนายไม่สู้ดีนัก ไม่ได้ นายจะต้องไปหาหมอ ฉันจะพาหมอไปหานายเดี๋ยวนี้” องค์ชายใหญ่ไม่สนใจคำปฏิเสธของหลินเป้ย เขารู้ว่าหลินเป้ยกลัวโรงพยาบาลมาโดยตลอด และไม่ยินดีที่จะพบหมอ มีอาการป่วยก็มักจะฝืนทน แต่เขารู้สึกว่าครั้งนี้อาการของหลินเป้ยนั้นน่าเป็นห่วงจริง ๆ”
“ไม่ต้องจริง ๆ ตอนนี้ผมฉันกำลังนอนพักอยู่ ไม่ค่อยสะดวกนัก ผมหลับสักพักก็ดีขึ้นแล้ว……” เมื่อหลินเป้ยได้ยินคำพูดขององค์ชายใหญ่ก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้น โดยปกติแล้ว เธอเสแสร้งเพียงเล็กน้อยก็พอจะหลอกทุกคนได้ แต่ครั้งนี้เธอตั้งครรภ์ ถ้าหากถูกหมอตรวจพบเข้าล่ะ ?
หลินเป้ยไม่กล้าจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเลยจริง ๆ ! !
“มีอะไรไม่สะดวกกัน นายเป็นผู้ชาย มีอะไรต้องระวังมากมายนักหรือ” องค์ชายใหญ่พูดตัดบทหลินเป้ย และไม่สนใจฟังคำปฏิเสธของหลินเป้ย
หลินเป้ยรู้จักองค์ชายใหญ่ดี เธอรู้ดีว่าเรื่องที่องค์ชายใหญ่ตัดสินใจแล้วยากที่จะเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเธอรู้ดีว่ายิ่งเธอปฏิเสธ องค์ชายใหญ่จะยิ่งอยากเอาชนะ
“พี่ใหญ่ ช่วงนี้มีเรื่องอะไรที่สำคัญเป็นพิเศษบ้างไหม ?” หลินเป้ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา : “ช่วงนี้จะไปต่างประเทศบ้างไหม ?”
“เอ่อ ปกติแล้วตารางการเดินทางของฉัน นายรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือ ? ตอนนี้ทำไมกลับมาถามฉันล่ะ ?” องค์ชายใหญ่ผงะไป แต่นี่ก็ถือว่าสามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้สำเร็จ
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีสมาธิ ช่วงนี้พี่ใหญ่มีแผนการจะเดินทางไปต่างประเทศบ้างไหม ?” หลินเป้ยรู้ดีว่าช่วงนี้ตัวเธอเองไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำมากนัก ช่วงนี้เธอรู้สึกหดหู่ใจอย่างช่วยไม่ได้
“เดิมทีตั้งใจที่จะเดินทางไปประเทศD แต่ถังหลินจะเดินทางมาที่นี่ ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแผนอย่างกะทันหัน” องค์ชายใหญ่ไม่คิดอะไรมาก จึงได้เล่าสถานการณ์ทั้งหมดออกไป องค์ชายใหญ่เชื่อใจหลินเป้ย ดังนั้นจึงไม่คิดปิดบัง
“ถังหลินจะมาที่นี่ ?” เมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชายใหญ่ หลินเป้ยก็รู้สึกตกใจทันที อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกตกใจอย่างกะทันหัน ทำให้เสียงของเธอสูงขึ้นเท่าตัว
ปกติแล้วหลินเป้ยเป็นคนใจเย็น ไม่ว่าต้องพบเจอกับเรื่องใดเธอก็มักจะไม่ประหม่า แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าถัหลินจะมา เธอกลับรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
ไม่รู้เป็นเพราะเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ทำให้เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอในช่วงนี้แปรปรวนอย่างง่ายดาย จู่ ๆ เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และไม่สามารถใจเย็นได้ดังเช่นแต่ก่อนอีก
“เป็นอะไรไป ? ถังหลินมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ?” เมื่อองค์ชายใหญ่ได้ยินน้ำเสียงที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันของเธอก็รู้สึกสงสัย ดูเหมือนหลินเป้ยจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่มากเกินไปเมื่อได้ยินว่าถังหลินกำลังจะมา ?
แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลมีธุรกิจอยู่ในประเทศRมากมาย อีกทั้งยังเป็นธุรกิจใหญ่ ตอนนี้นับวันถังหลินจะยิ่งมีอิทธิพลในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลมากยิ่งขึ้น การที่ถังหลินมาที่นี่ ก็ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ ?
“เปล่าครับ ก็แต่รู้สึกว่ากะทันหันเท่านั้น เมื่อก่อนถังหลินเองก็ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้” หลินเป้ยรู้ตัวว่าตนเองนั้นแสดงออกมากเกินไป จึงได้แอบสูดหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อสงบสติอารมณ์ เธอบอกกับตัวเองว่าห้ามตื่นตระหนกเด็ดขาด ถังหลินไม่มีทางรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ที่ถังหลินมาก็ด้วยเหตุผลอื่น
“ครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเล็กน้อย ไม่เพียงแค่ถังหลินเท่านั้น แต่ยังมีเย่ซือเฉินอีกคน” องค์ชายใหญ่ไม่ได้ปิดบัง เขาบอกเรื่องที่ตนเองรู้มาให้หลินเป้ยฟังทั้งหมด
“ปัญหา ? ปัญหาของถังหลินกับเย่ซือเฉิน ?” อารมณ์ของหลินเป้ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเคร่งขรึมขึ้น เธอรู้ถึงความสามารถของเย่ซือเฉินมานานแล้ว ครั้งก่อนที่ไปประเทศZ เธอก็ได้รับรู้ถึงความสามารถของถังหลิน ดังนั้นเรื่องที่จะเป็นปัญหาของถังหลินและเย่ซือเฉินได้ ? จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน
องค์กรโกสต์ซิตี้อย่างไรล่ะ” องค์ชายใหญ่เข้าใจความหมายของหลินเป้ยดี ดังนั้นจึงพูดอธิบายออกมาทันที : “ช่วงนี้องค์กรโกสต์ซิตี้คอยหาเรื่องพวกเขามาตลอด และทำการโจมตีพวกเขาหลายครั้ง”
หลิยเป้ยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอรู้จักองค์กรโกสต์ซิตี้ดี หากเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป
เพียงแต่ปกติแล้ว เย่ซือเฉินและแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วทำไมองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงต้องโจมตีพวกเขาด้วย ?
“นายรู้สึกว่ามันแปลกใช่ไหม ?” หลินเป้ยยังไม่ทันจะเอ่ยถาม องค์ชายใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอธิบาย : “ได้ยินมาว่าเย่ซือเฉินทำผิดต่อเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ นิสัยของเย่ซือเฉินไม่เปลี่ยนจริง ๆ ปกติที่เขาชอบวางมาดต่อหน้าฉันก็ยังพอว่า แต่นี่กลับไปมีเรื่องกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เพื่ออะไรกัน ? นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวชัด ๆ หรือ ?”
หลินเป้ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะไม่ได้ทำความรู้จักกับเย่ซือเฉินมากนัก แต่เป็นเพราะนับวันอิทธิพลของเย่ซือเฉินในประเทศRยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอเคยสืบค้นเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเย่ซือเฉิน จึงรู้จักเย่ซือเฉินเป็นอย่างดี
เธอรู้ดีว่าเย่ซือเฉินไม่ใช่คนมุทะลุ ดังนั้นน่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นแน่นอน
“หลินเป้ย นายเป็นอะไรกันแน่ ? ปกติแล้วเรื่องพวกนี้นายมักจะรู้ดีกว่าฉันเสมอ แต่ทำไมตอนนี้กลับไม่รู้ ?” เมื่อองค์ชายใหญ่ตั้งสติกลับมาได้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่” หลินเป้ยรู้ดีว่าช่วงนี้เธอดูเลื่อนลอย แต่เป็นเพราะเธอไม่มีสมาธิจริง ๆ เธอไม่สนใจกับเรื่องใดทั้งสิ้น เธอแค่อยากจะนอนหลับเท่านั้น
“ถังหลินจะมาเมื่อไหร่” หลิยเป้ยเอ่ยถามต่อทันที ตอนที่เธอเอ่ยถามประโยคนี้ หลินเป้ยรู้สึกว่ามือที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้น ดูเหมือนจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ถึงแม้เธอจะบอกกับตัวเองว่าอย่าตื่นตระหนก ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าที่ถังหลินเดินทางมาครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเธอ และถังหลินก็ไม่รู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
“เดิมทีบอกเอาไว้ว่าจะมาวันนี้ แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่าง ดังนั้นจึงจะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้ เครื่องบินของวันพรุ่งนี้จะมาถึงในช่วงเย็น
คืนพรุ่งนี้ฉันจึงจัดเตรียมงานเลี้ยงเอาไว้ ถึงตอนนั้นนายไปกับฉันนะ” องค์ชายใหญ่จัดการเรื่องของวันพรุ่งนี้เอาไว้เรียบร้อย เหตุผลที่เขาโทรศัพท์มาหาหลินเป้ยก็เพราะเรื่องนี้
เพราะครั้งก่อนตอนที่ไปประเทศZ หลินเป้ยเองก็ได้รู้จักกับถังหลินแล้ว อีกทั้งหลินเป้ยยังเคยช่วยถังหลินอีกด้วย ดังนั้นถังหลินเดินทางมาครั้งนี้ ให้หลินเป้ยคอยอยู่เป็นเพื่อนจึงจะเหมาะสมที่สุด
ดังนั้นองค์ชายใหญ่จึงอยู่ต้อนรับถังหลินด้วยตัวเอง ประการแรกเป็นเพราะมิตรภาพอันดีกับถังหลินที่ประเทศZเมื่อครั้งก่อน ประการที่สองเป็นเพราะเหตุผลเรื่องเย่ซือเฉิน ประกาศที่สามเป็นเพราะอิทธิพลของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลที่มีต่อประเทศR มิเช่นนั้นองค์ชายใหญ่คงไม่เปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางเพียงเพราะถังหลินอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า เดิมทีเขาคิดที่จะเดินทางไปยังประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่ง อีกทั้งประเทศเล็ก ๆ ประเทศนั้นก็เป็นปฏิปักษ์กับพวกเขามาโดยตลอด ประเทศเล็ก ๆ ประเทศนั้นได้ประโยชน์ไปจากประเทศของพวกเขาไม่น้อย แต่กลับคอยแทงข้างหลังพวกเขามาโดยตลอด
เดิมทีองค์ชายใหญ่ไม่อยากไป แต่ประเทศเล็ก ๆ ประเทศนั้นกลับแสร้งแสดงมิตรไมตรี พระราชาเชิญให้เขาไป เขาจึงจำต้องรับปาก
แต่ว่า ประจวบเหมาะกับที่ถังหลินจะเดินทางมา เขาจึงใช้โอกาสนี้ ข่มขู่ประเทศเล็ก ๆ ประเทศนั้น
“พี่ใหญ่ ช่วงนี้ผมไม่สบาย เกรงว่าพรุ่งนี้จะไปไม่ไหว” เมื่อหลินเป้ยได้ยินคำพูดขององค์ชายใหญ่ เธอก็รู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ตอนนี้เธอจะต้องพยายามหลบหน้าถังหลินให้ถึงที่สุด แล้วเธอจะไปพบกับถังหลินได้อย่างไร
สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ เธอกลัวว่าถังหลินจะสังเกตเห็นความผิดปกติเข้าจริง ๆ กลัวว่าถังหลินจะรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์เข้า
เพราะถังหลินรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นดีกว่าใคร อีกทั้งในตอนนั้นถังหลินยังเคยเตือนเธอเรื่องที่อาจจะตั้งครรภ์ แต่ตอนนั้นเธอบอกกับถังหลินไปว่าเธอกินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งตอนนั้นก็ดูเหมือนถังหลินจะเชื่อเธอ แต่ถ้าหากอาการแพ้ท้องของเธอถูกถังหลินสังเกตเห็นเข้าล่ะ….