ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1362 คุณชายถังอยากต่อยหน้าคน (2)
ถังหลินคิดว่าจากท่าทางของเธอตอนนี้หากจะสืบเรื่องราวดูก็คงจะไม่ยากอะไร
แน่นอนว่าต่อให้เป็นหลินเป้ยที่สุขุมนุ่มลึกแบบเมื่อก่อน หากเขาคิดจะสืบก็คงจะสืบได้เช่นกัน
เมื่อเกิดขึ้นเรื่องขึ้นอย่างนี้แล้ว คนขับรถก็ยิ่งระวังมากขึ้น จึงขับรถนิ่ม แต่เพราะขับนิ่มความเร็วจะช้าลงกว่าเดิมมาก
ถังหลินไม่ได้เร่ง เพราะเขาเองก็อยากให้เธอพักผ่อนต่ออีกหน่อย
เมิ่งหลินไม่อยากหันหน้าไปมอง ทำได้เพียงเหล่มองคุณชายถังนั่งโอบคนในอกเอาไว้จากกระจกมองหลังราวกับกอดสิ่งมีค่าที่สุดบนโลกนี้เอาไว้
เมิ่งหลินรู้สึกทนดูไม่ได้ เขาดูไม่ไหวจริงๆ และคิดว่าจะนำเรื่องนี้ไปรายงานให้ท่านถังทราบ
เขาได้รับการคัดเลือกโดยท่านถังก่อนจะเข้ามาในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลและมีผลงานอย่างเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นเขาจึงซาบซึ้งในบุญคุณของท่านถังตลอดมา
ท่านถังมีหลานชายเพียงคนเดียวคือคุณชายถัง หากคุณชายถังถูกผู้ชายคนนี้ล่อลวงเข้าจริง สุดท้ายผลที่เกิดตามมาจะต้องร้ายแรงมากแน่
เมิ่งหลินไม่กล้าเข้าไปยุ่งเรื่องราวของคุณชายถัง แต่เขาคิดว่าท่านถังควรจะต้องจัดการเรื่องนี้ เพราะมีเพียงคำพูดของท่านถังที่คุณชายถังจะฟัง
หากท่านถังออกหน้าไม่แน่อาจจะพอช่วยคุณชายถังกลับมาได้
ตอนนี้เมิ่งหลินมองเหตุการณ์ทุกอย่างออกแล้วว่าทั้งหมดนี้เกิดจากผู้ชายคนนี้ที่ล่อหลอกคุณชาย เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับคุณชายถัง
เวลาเดียวกันในเมือง A
เวลาของเมือง A แตกต่างจากญี่ปุ่น ตอนนี้ที่เมือง A จึงเป็นเวลาเช้า
ที่บ้านตระกูลถังมีแขกมาเยือนแต่เช้าตรู่
คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ อดนอนทั้งคืน และมาถึงบ้านตระกูลถังตั้งแต่เช้าตรู่ พวกเขาต้องการพบเวินลั่วฉิง เพื่อขอความเห็นใจแทนโจ๋วอันหนาน
เมื่อวานนี้โจ๋วอันหนานถูกนำตัวเข้าไปในองค์กรยมบาล หลังจากเย่ซือเฉินกลับไปแล้วก็ไม่ได้ไปจัดการเรื่องของโจ๋วอันหนานต่อ
ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว สามารถยืนยันได้แล้วว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นฝีมือของโจ๋วอันหนาน แต่เขายังต้องการเก็บรวบรวมหลักฐานต่อ เรื่องราวทั้งหมดที่โจ๋วอันหนานทำเพียงพอที่จะตัดสินโทษได้แล้ว
คราวนี้เย่ซือเฉินจะไม่ยอมออมมืออย่างเด็ดขาด เขาเก็บรวบรวมหลักฐานอีกทั้งยังมีเส้นสายของเขา แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้โจ๋วอันหนานติดคุกไปตลอดชีวิต
อีกทั้งสิ่งที่โจ๋วอันหนานทำ ถ้าเขาคิดจะจัดการให้โจ๋วอันหนานมีโทษถึงประหารก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่หากปล่อยให้โจ๋วอันหนานตายง่ายๆ ก็จะใจดีกับเธอเกินไป
หากเป็นเรื่องเมื่อก่อนที่โจ๋วอันหนานทำ เขาอาจจะพอออมมือเอาไว้บ้าง แต่เรื่องที่โจ๋วอันหนานคิดจะฆ่าเวินลั่วฉิงนั้น ครั้งแรกวางระเบิดเวินลั่วฉิงไม่สำเร็จ โจ๋วอันหนานถึงขั้นส่งคนไปตามฆ่าเวินลั่วฉิงซ้ำอีก
ตอนนั้นหากเขาตามไปไม่ทัน หากตอนนั้นเขาไม่ชนนักฆ่าคนนั้นจนกระเด็นในช่วงเวลาที่เสี่ยงอันตรายที่สุด ป่านนี้เวินลั่วฉิงอาจจะโดนระเบิดตายไปแล้วก็ได้
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ช่วงนั้นขึ้นมาอีก เย่ซือเฉินก็อดที่จะรู้สึกกลัวอีกไม่ได้ เขาอายุปูนนี้แล้วจึงมีเรื่องให้กลัวน้อยมาก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขากลัวอย่างยิ่ง
ดังนั้นเขาจะไม่มีทางปล่อยโจ๋วอันหนานให้หลุดรอดออกไปได้แม้สักทาง
เมื่อวานเมื่อคุณชายโจ๋วกลับมา คนอื่นๆ ในตระกูลก็รู้เรื่องโจ๋วอันหนานกันหมดแล้ว ตอนนั้นโจ๋วชิงจึงอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ โดยเล่าว่าโจ๋วอันหนานทำอะไรไปบ้าง แน่นอนว่ารวมถึงเรื่องที่โจ๋วอันหนานเกือบฆ่าเขาตาย
เรื่องเหล่านี้ทำให้คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ตกใจมาก และไม่เชื่อเลยสักนิด พวกเขาไม่เชื่อคำพูดของโจ๋วชิงจึงอยากติดต่อโจ๋วอันหนานและถามให้รู้เรื่อง แต่โทรศัพท์ของโจ๋วอันหนานไม่สามารถไม่สามารถติดต่อได้
โจ๋วชิงยังเล่าอีกว่า โจ๋วอันหนานถูกเย่ซือเฉินนำตัวกลับมายังองค์กรยมบาล
ตอนนั้นคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ทั้งตกใจทั้งร้อนใจ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของตนจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ลูกชายแท้ๆ ของตนเล่าให้ฟังก็ตาม พวกเขาก็ไม่เชื่อและคิดว่าจะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
เย่ซือเฉินได้ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ไปแล้ว จึงไม่มีใครตามหาตัวเย่ซือเฉินได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมาที่บ้านตระกูลถังแต่เช้าเพื่อขอเข้าพบเวินลั่วชิง
“ประธานโจ๋ว คุณหญิงโจ๋ว นายท่านของพวกเราเชิญพวกท่านเข้าไปด้านในครับ” พ่อบ้านเปิดประตูออกมาแล้วเชิญคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋เข้าไปด้านใน
ที่ผ่านมาตระกูลถังกับตระกูลโจ๋วมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถังหลินกับโจ๋วชิงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ในเมื่อคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋อุตส่าห์มาถึง ท่านปู่ถังย่อมไม่อาจปล่อยพวกเขาให้รออยู่ข้างนอกได้
หลังจากที่ท่านถังรู้เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำกับฉิงฉิงก็รู้สึกโกรธมาก แต่โจ๋วอันหนานก็คือโจ๋วอันหนาน เรื่องราวที่เธอทำคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย
“พอพวกเขามาแล้ว เธอก็อย่าหัวเสียใส่พวกเขาล่ะ เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา พวกเขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย พวกเขาอุตส่าห์มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้แสดงว่าจะต้องมาเพื่อขอโทษแทนโจ๋วอันหนาน น่าสงสารหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ พวกเขาก็คงลำบากใจเช่นกัน” ท่านถังคิดว่าที่คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋มาตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ก็เป็นเพราะต้องการมาขอโทษแทนโจ๋วอันหนาน หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ หากลูกของเขาทำเรื่องราวเช่นนี้จริง เขาเองก็คงจะรีบร้อนแบกหน้าไปขอโทษคนอื่นเช่นกัน
“ฉันรู้น่า ฉันเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นเชียวเหรอ เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำจะโทษพวกเขาก็ไม่ถูก แต่เรื่องทั้งหมดที่โจ๋วอันหนานทำไร้ศีลธรรมมาก เธอไม่ได้คิดแต่จะฆ่าฉิงฉิงแต่ยังจะฆ่าโจ๋วชิงด้วย โจ๋วอันหนานกลายเป็นแบบนี้ไปได้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ พวกเขามาขอโทษก็สมควรแล้ว” ตั้งแต่ที่ท่านย่าถังรู้เรื่องของโจวอันหนานอารมณ์ก็ขุ่นมัวเป็นอย่างมาก
“ใช่ ถูกต้อง เด็กก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่พอเกิดเรื่องราวนี้ขึ้น พวกเขาเองก็คงเจ็บปวดมากเหมือนกัน อย่าทำให้พวกเขาต้องลำบากใจไปมากกว่านี้จะดีกว่า” ท่านปู่ถังเป็นคนใจกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็ไม่เลว ท่านปู่ถังคิดว่าคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ก็คงจะเป็นคนที่มีเหตุมีผล
“รู้แล้ว รู้แล้ว ฉันรู้ว่าต้องทำตัวยังไง” ท่านย่าถังถอนใจ ฉิงฉิงของเธอได้รับความเสียหายขนาดนั้น แถมยังเกือบโดนโจ๋วอันหนานฆ่าตาย ตอนนี้ท่านย่าถังอยากจะฆ่าโจ๋วอันหนานให้ตายไปเสียเลยด้วยซ้ำ
แต่ความผิดที่โจ๋วอันหนานก่อไม่สามารถโยนไปใส่ตัวพ่อแม่ของเธอแทน
ในเมื่อพ่อแม่ของโจ๋วอันหนานอุตส่าห์มาขอโทษแทนโจ๋วอันหนานแต่เช้าตรู่ แน่นอนว่าตนคงไม่ทำตัวไร้เหตุผลใส่พวกเขา
ตอนที่คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋มาถึงห้องโถง ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังก็หยุดบทสนทนาลงพอดี
“ท่านปู่ถัง ท่านย่าถัง” เมื่อคุณพ่อโจว๋เข้ามาในห้องโถงแล้วเห็นท่านปู่ถังนั่งอยู่กับท่านย่าถังในห้องโถงก็รีบก้าวอาดๆ เข้ามา เวลานี้สีหน้าของคุณพ่อโจว๋เคร่งเครียดและยังเจือไปด้วยความร้อนใจ
คุณแม่โจว๋เดินตามอยู่ด้านหลังคุณพ่อโจว๋ เธอกวาดตาไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อไม่เห็นเวินลั่วชิงก็รู้สึกผิดหวัง
“นั่งก่อน” ท่าทางของท่านปู่ถังยังคงมีเมตตา และไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่า
เมื่อคุณแม่โจว๋เห็นท่าทีของท่านปู่ถังเช่นนี้ แววตาของเธอจึงเปล่งประกาย “ท่านปู่ถัง ฉิงฉิงยังไม่ตื่นหรือคะ”
“ยังเลย เมื่อวานฉิงฉิงตกใจมาก แถมยังนอนดึก ฉันเลยสั่งไม่ให้ใครไปกวนเธอ” ท่านย่าถังรีบตอบรับทันที ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ส่งผลให้ท่าทีดูเย็นชาไปด้วย
เมื่อคุณแม่โจว๋ได้ยินท่านย่าถังตอบก็เริ่มทำสีหน้าไม่ถูก เธอเม้มปากสองทีก่อนจะมองไปที่ท่านปู่ถังแล้วกล่าวอีกครั้งว่า “ท่านปู่ถัง เรื่องราวระหว่างหนานหนานกับฉิงฉิงต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดใช่ไหมคะ”
ก่อนหน้านี้ท่านปู่ถังให้คนเตรียมน้ำชาเอาไว้ให้ กำลังจะยื่นน้ำชาที่อยู่บยโต๊ะให้คุณพ่อโจว๋ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของคุณแม่โจว๋ เช่นนี้ มือของท่านปู่ถังก็หยุดชะงัก
ท่านปู่ถังเป็นคนอารมณ์ดี แต่ตอนนี้แววตาของเขาเริ่มขุ่นมัวลง เขาจึงไม่สนใจคุณแม่โจว๋ แล้วหันไปมอง คุณพ่อโจว๋ “คุณก็คิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือ”
“ผมไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่ชัดนัก เมื่อวานโจ๋วชิงเล่าให้ฟังไปแล้วบ้าง แต่พวกเราติดต่อหนานหนานไม่ได้เลยเลยไม่รู้ว่าจะขอหลักฐานจากเธอได้ยังไง” ท่าทีของคุณพ่อโจว๋จะดูประณีประนอมมากกว่า แต่แน่นนอนว่ามากกว่าเพียงนิดเดียว นิวเดียวเท่านั้น
คำพูดที่ว่าไม่รู้จะขอหลักฐานได้ยังไง แค่นี้ก็เพียงพอจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว
อีกอย่างคุณพ่อโจว๋ใช้คำว่าขอหลักฐาน คำๆ นี้มีนัยความหมายอื่น
ท่านปู่ถังหัวเราะออกมา ตอนแรกเขาคิดว่าคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋จะมาที่นี่แต่เช้าเพื่อขอโทษ และเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะให้อภัยหัวอกคนเป็นพ่อแม่เหมือนกัน แต่เหนือความคาดหมายคือพวกเขาไม่ได้มาเพื่อขอโทษ แต่คำพูดประโยคนี้ฟังดูคล้ายเป็นประโยคคำถามมากกว่า
โจ๋วอันหนานทำเรื่องแบบนั้นกับฉิงฉิง ในฐานะคนเป็นพ่อเป็นแม่ของโจวอันหนานมาถึงที่นี่แต่เช้าเพื่อถามพวกเขางั้นหรือ
บนโลกนี้มีเรื่องราวเช่นนี้ด้วยหรือ
วันนี้ท่านปู่ถังถือว่าได้เปิดหูเปิดตา ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าคุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋เป็นคนรู้จักกาลเทศะและเคยคิดว่าความผิดที่โจ๋วอันหนานทำไม่ควรโทษคุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ แต่ตอนนี้ท่านปู่ถังคิดว่าตัวเองคิดผิด
ที่ผ่านมาท่านปู่ถังเป็นคนใจกว้าง แต่ไม่มีทางยอมปล่อยให้ลูกของตัวเองโดนรังแกฟรีอย่างแน่นอน