ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1364 โดนตบหน้า (2)
“พวกคุณจะคุยอะไรกับฉิงฉิง เมื่อวานโจ๋วอันหนานเกือบจะวางระเบิดฉิงฉิง ไม่พอยังส่งคนมาจะฆ่าฉิงฉิงอีก เมื่อวานฉิงฉิงเสียขวัญมาก ไม่สะดวกที่จะเจอใคร รวมทั้งพวกคุณด้วย” การพูดของท่านย่าถังไม่ได้อ้อมค้อมสุภาพเหมือนอย่างท่านปู่ถัง
“ท่านย่าถังมีหลักฐานอะไรมายืนยันหรือว่านั่นคือฝีมือของหนานหนาน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พวกคุณคาดเดากันขึ้นมาเองทั้งนั้น พวกเราก็พูดได้ว่าพวกคุณใส่ร้ายหนานหนาน”
คุณแม่โจว๋เห็นท่าทีของท่านปู่และท่านย่าถังก็รู้สึกโมโห
ท่านย่าถังโกรธจนหัวเราะ “ดี ดีมาก ดังนั้นนี่คือจุดประสงค์ที่พวกคุณมาในวันนี้ ก็คือมาคิดบัญชีกับตระกูลถัง”
ท่านย่าถังคิดไม่ถึงว่าคุณแม่โจว๋จะพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้
“โจว๋หยวนหมิง นี่คือวัตถุประสงค์ของคุณด้วยใช่ไหม” ท่านปู่ถังที่มีท่าทีเมตตาใจกว้างมาตลอด เวลานี้สีหน้าเย็นชาราวน้ำแข็ง
“ท่านถัง ถ้าพวกเรายังไม่ได้พบหนานหนาน ยังไม่ได้ยินหนานหนานเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่สามารถตัดสินแบบนี้ได้” คุณพ่อโจว๋พูดจาอ้อมค้อมแต่ความหมายไม่ต่างอะไรกับคุณแม่โจว๋
“ใช่ เรื่องราวยังไม่สิ้นสุดจะมาใส่ร้ายหนานหนานของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นี่มันรังแกกันเกินไปแล้ว” เมื่อคุณแม่โจว๋เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็เริ่มเก็บอาการของตัวเองไม่อยู่และไม่อยากจะคิดมากอะไรอีกต่อไป
“พวกเราน่ะหรือรังแก พวกเราน่ะหรือที่ใส่ร้ายโจ๋วอันหนาน เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำทั้งหมดออกมาจากปากของโจ๋วชิงทั้งนั้น ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่โจ๋วอันหนานทำเมื่อวานก็ได้ ฉันยังได้ยินมาอีกว่าแฟนสาวของโจ๋วชิงก็เกือบตายเพราะน้ำมือของโจ๋วอันหนาน เมื่อวานแฟนสาวของโจ๋วชิงก็พูดชัดเจนแล้ว ตระกูลถังของพวกเราไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ทำไมถึงกลายเป็นตระกูลถังของพวกเราใส่ร้ายลูกสาวของพวกคุณได้ล่ะ” ท่านย่าถังตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของคุณแม่โจว๋ อันที่จริงความจริงทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อวานโจ๋วชิงเป็นคนเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่โจ๋วอันหนานจะฆ่าโจ๋วชิงอย่างละเอียด แถมแฟนของโจ๋วชิงยังเล่าเรื่องเครื่องดักให้ฟังแล้วด้วย
อันที่จริงตอนนี้ขาดเพียงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าโจ๋วอันหนานมีเจตนาจะฆ่าฉิงฉิงกับโจ๋วชิงเท่านั้น ในสถานการณ์เช่นนี้คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ยังจะมีใจปกป้องลูกสาวของตัวเองอยู่อีก
ไม่ใช่ ทั้งหมดนี้คือการเอาคืนทั้งนั้น
ขนาดกับตระกูลถังคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ยังทำแบบนี้ หากเกิดเรื่องนี้กับคนอื่นเกรงว่าคงจะแข็งข้อยิ่งกว่านี้
ตอนนี้ท่านย่าถังคิดว่าการที่โจ๋วอันหนานทำเรื่องราวแบบนี้ออกมาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะพ่อแม่พวกเขาพยายามที่จะปกป้องโจ๋วอันหนานมากเกินไป
ภายใต้สถานการณ์ที่โจ๋วอันหนานทำความผิดอย่างชัดเจนเช่นนี้ พวกเขายังให้อภัยโจ๋วอันหนาน
แสดงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อทำเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้งเข้าเลยทำให้โจ๋วอันหนานคิดว่าต่อให้ตัวเองทำผิดก็ไม่เป็นไรเพราะมีพ่อแม่คอยตามใจแบบนี้ โจ๋วอันหนานเลยคิดว่าต่อให้ตัวเองทำผิดก็คงไม่มีใครว่าเธอ ถึงขั้นไม่มีใครทำอะไรเธอได้
ดังนั้นการที่ลูกมีปัญหา คนเป็นพ่อแม่ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบพ้น
“เอาล่ะ ฉันไม่อยากคุยกับพวกคุณให้มากความแล้ว กลับไปได้แล้ว ฉิงฉิงไม่มีทางพบพวกคุณ” ท่านย่าถังออกคำสั่งไล่แขกด้วยสีหน้าเย็นชา ท่านย่าถังคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเจรจากับคนไร้เหตุผล
“ท่านย่าถังจะพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้เย่ซือเฉินจับหนานหนานไปก็เพราะคุณหนูถัง เย่ซือเฉินทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย พวกเราจะไปฟ้องพวกคุณยังได้” เมื่อคุณแม่โจว๋เห็นท่าทีของท่านย่าถังแบบนี้ก็ไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรอีก
“ห๊า!” ท่านย่าถังช็อกไป เธอเคยเห็นคนไร้ยางอายมาบ้าง แต่ยังไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายเท่านี้มาก่อน
ท่านย่าถังไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋อีกต่อไปแล้ว จึงหันไปหาท่านปู่ถัง “ตาแก่ คุณได้พวกเขาพูดแล้วใช่ไหม พวกเขาจะฟ้องพวกเรา”
“ผู้ดูแล ส่งแขก” แน่นอนว่าท่านปู่ถังได้ยิน คราวนี้ท่านปู่ถังจึงเป็นฝ่ายเอ่ยส่งแขกเอง
“พวกคุณละอายใจล่ะสิ พวกคุณจับตัวหนานหนานไปโดยพลการ ไม่ยอมให้พวกเราเจอหน้าหนานหนาน ตอนนี้คุณหนูถังยังไม่กล้าลงมาเจอพวกเราอีก ฉันว่าพวกคุณคงละอายใจกันอยู่มากกว่า พวกคุณนั่นแหละที่ใส่ร้ายหนานหนาน” เมื่อจุดประสงค์ที่คุณแม่โจว๋มาวันนี้ไม่สำเร็จ เธอก็เริ่มร้อนใจ ตอนนี้จึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วแผดเสียงดังก้องไปทั้งห้องโถง
“พวกเราน่ะหรือละอายใจ น่าขำสิ้นดี นี่เป็นเรื่องตลกที่น่าขำที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา” ท่านย่าถังไร้คำจะพูด เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดเลยว่าคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋จะเป็นคนแบบนี้
“พวกคุณอยากไปฟ้องพวกเราใช่ไหม งั้นเชิญเลย ตระกูลถังของพวกเราตรงไปตรงมาเสมอ และไม่เคยรู้จักคำว่าละอายใจ” ตอนนี้ท่านย่าถังโกรธจนอกแทบแตก ตอนนี้เธอลุกขึ้นยืน ร่างของเธอโงนเงนไปมา
“เอาล่ะ อย่าโมโหเลย” ท่านปู่ถังกลัวว่าท่านย่าถังจะล้มจึงรีบโอบเธอเอาไว้
“ผู้ดูแล ยังไม่ยอมส่งแขกอีก” น้ำเสียงของท่านปู่ถังเวลานี้เย็นชาอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าโกรธจนเก็บอาการไม่ได้แล้ว
“เชิญทั้งสองท่าน” พ่อบ้านเดินนำหน้า แม้ว่าจะใช้คำว่าเชิญ แต่ท่าทางกลับแข็งกระด้างอย่างยิ่ง
“ทำไมถึงไม่ให้พวกเราเจอเวินลั่วฉิง เห็นชัดๆ ว่าพวกแกมีเจตนาไม่ดี คิดจะใส่ร้ายหนานหนานของพวกเรา พวกแกคิดจะทำอะไรกับหนานหนานกันแน่”
คุณแม่โจว๋ไม่ยอมกลับไปง่ายๆ แบบนี้ อีกอย่างเธอยังไม่เคยถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้มาก่อน เลยโวยวายขึ้นมากลางห้องโถง
และแน่นอนว่าคำพูดคำจาที่เธอใช้ก็ยิ่งหยาบคายมากขึ้น
ผู้ดูแลจึงตั้งท่าจะตามคนเข้ามาเอาตัวคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ออกไป
“ตระกูลถังของพวกแกใช้อำนาจรังแกคนอื่น ฉันว่าไม่ใช่หนานหนานของพวกเราที่ทำร้ายเวินลั่วชิง แต่เป็นเวินลั่วชิงต่างหากที่ทำร้ายหนานหนาน ตระกูลถังต่างหากที่ทำผิดให้เป็นถูก โจ๋วชิงของพวกเราก็คงโดนพวกแกหลอกลวงไปแล้ว” คุณนายโจ๋วยิ่งพูดก็ยิ่งไร้เหตุผล แน่นอนว่าคุณนายโจ๋วเองก็รู้ว่าไร้เหตุผล เพราะเธอเองก็คิดเช่นนั้น
ท่านย่าถังโกรธจนตัวสั่น นี่เป็นครั้งแรกที่เคยเจอคนไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้ นี่มันคนแบบไหนกัน
ตอนนี้เป็นเพราะท่านย่าถังโกรธมากจนพูดไม่ออก ส่วนท่านปู่ถังไม่อยากยุ่งกับพวกเขาอีกต่อไป เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำมันชัดเจนอยู่แล้ว การที่คุณแม่โจว๋มายืนโวยวายไร้สติอยู่ตรงนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ตระกูลถังของพวกแกทำเกินไปแล้ว รังแกคนอื่น พวกแกคิดจะใช้อำนาจบิดเบือนความจริงอย่างนั้นเหรอ เรื่องนี้ตัดสินแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ตระกูลโจ๋วของพวกเราจะไม่ยอมให้ใครมารังแก ตระกูลของเราจะต้องสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ตระกูลถังของพวกแกจะต้องมีคำอธิบายให้พวกเรา” คำพูดของคุณนายโจ๋วยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจึงเริ่มกลายเป็นการพูดให้ร้ายตระกูลถัง
“ตระกูลถังของพวกเรารังแกใครตอนไหน” ท่านย่าถังโกรธจนเจ็บหน้าอก ตระกูลถังของพวกเขาทำทุกเรื่องอย่างเปิดเผยตลอด คนสองคนนี้เป็นบ้าไปแล้วถึงกล้าพูดให้ร้ายตระกูลถังของพวกเขา
“พวกแกจับตัวหนานหนานของพวกเราไป พวกแกไม่ยอมให้พวกเราเจอหนานหนาน ใครจะรู้ว่าพวกแกมีการชั่วร้ายอะไรอยู่ แบบนี้ไม่เรียกว่าตระกูลถังรังแกคนอื่นจะเรียกว่าอะไร” เมื่อคุณนายโจ๋วได้ยินท่านย่าถังตอบกลับมาแบบนั้นก็ยิ่งไม่ยอมไปไหนแล้วเริ่มกลับมาต่อว่าอีกครั้ง
“ถ้าตระกูลถังยังละอายใจอยู่บ้างก็ปล่อยหนานหนานออกมา ให้พวกเราได้เจอหน้าหนานหนาน” คุณแม่โจว๋มั่นใจไปแล้วว่าเรื่องราวพวกนี้ไม่ใช่ฝีมือของโจ๋วอันหนาน ดังนั้นตอนนี้จึงโกรธมากและแผดเสียงดังลั่น
ท่านย่าถังเห็นแล้วว่าคุณหญิงโจ๋วพยายามหาเรื่องทะเลาะ จึงไม่รู้จะพูดอะไร
“ทำไม ไม่กล้าแล้วเหรอ เริ่มละอายแล้วใช่ไหมล่ะ ฉันว่าแล้วเชียวว่าตระกูลถังใช้ลูกไม้สกปรกอยู่เบื้องหลัง คิดจะรังแกหนานหนานของพวกเรา” เมื่อคุณแม่โจว๋เห็นท่านย่าถังไม่พูดอะไรก็คิดว่าตัวเองพูดถูกจุดจึงรู้สึกสะใจขึ้นมา
“ละอายใจเรื่องอะไร” ในตอนนั้นเอง เวินลั่วฉิงเดินลงบันไดมาจากด้านบน เสียงของคุณนายโจ๋วแผดดั่งสนั่นขนาดนี้ แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงที่อยู่ด้านบนก็ได้ยิน
ตอนแรกเวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจ เพราะได้ยินแล้วท่านปู่ถังไล่พวกเขาไปแล้ว แต่เธอคิดไม่ถึงว่าคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋จะทำเกินเลยขนาดนี้
เวินลั่วชิงมองไปทางคุณพ่อโจว๋ ก่อนที่สายตาของเธอจะไปตกอยู่ที่คุณแม่โจว๋ แววตาของเวินลั่วฉิงจืดชืดไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมามากนัก
แต่เมื่อคุณแม่โจว๋สบตาเข้ากับสายตาของเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงรู้สึกกลัว ท่าทีจึงอ่อนลงจากเมื่อครู่นี้มาก
แต่การมาของคุณแม่โจว๋คราวนี้ก็เพื่อมาพบเวินลั่วฉิง เมื่อครู่นี้ที่เธอแกล้งโวยวายเสียงดังก็เพื่อต้องการให้เวินลั่วฉิงลงมา ตอนนี้เวินลั่วฉิงปรากฏตัวแล้ว คุณแม่โจว๋จึงดีใจเพราะขอแค่ได้พบเวินลั่วฉิง เรื่องราวทุกอย่างจะจัดการง่ายขึ้นมาก
“กล้าลงมาได้สักทีนะ” คุณแม่โจว๋พยายามไม่สนใจแววตาของเวินลั่วฉิงที่สร้างความกดดันให้กับตน และแน่นอนว่าคำพูดประโยคนี้ของคุณแม่โจว๋ เต็มไปด้วยความเสียดสี