ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1365 หาเรื่องเข้าตัวเอง (1)
“กล้าลงมาได้สักทีนะ” คุณแม่โจว๋พยายามไม่สนใจแววตาของเวินลั่วฉิงที่สร้างความกดดันให้กับตน และแน่นอนว่าคำพูดประโยคนี้ของคุณแม่โจว๋ เต็มไปด้วยความเสียดสี
ท่านย่าถังได้ยินดังนั้นก็โกรธจนหน้าเขียวหน้าดำ ฉิงฉิงของเธอจะไม่กล้าออกมาได้อย่างไร คนที่ทำผิดเห็นชัดๆ ว่าเป็นโจ๋วอันหนานของพวกเขา ส่วนฉิงฉิงเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย
ท่านย่าถังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำพูดนี้ของคุณแม่โจว๋ออกมาได้อย่างไร
สีหน้าของเวินลั่วฉิงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แม้แต่จะเหลียวมองคุณแม่โจว๋ด้วยซ้ำ เธอเพียงเดินลงจากบันไดแล้วไปหยุดอยู่ตรงหน้าของคุณแม่โจว๋
“ไหนว่ามาซิว่าเอาหนานหนานของพวกเราไปขังไว้ที่ไหน แกคิดจะทำอะไรกับหนานหนานของพวกเรา สิ่งที่พวกแกทำอยู่มันผิดกฎหมายนะ นี่มันพฤติกรรมของโจรชัดๆ” ตอนนี้ไม่มีการสนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายต่อไป คุณแม่โจว๋ไม่แสร้งแกล้งทำเป็นมีมารยาทอีกต่อไปแล้ว นับตั้งแต่เมื่อวานที่รู้เรื่อง คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่สามารถมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลถังได้อีกต่อไปแล้ว
“ใครเป็นโจรนะ ฉันว่าพวกแกต่างหากที่เป็น” ท่านย่าถังเป็นคนใจร้อน ตอนนี้ยิ่งรู้สึกทนไม่ได้เพราะพฤติกรรมของคุณแม่โจว๋ มันสุดจะทน
“พวกแกจับตัวหนานหนานไป แล้วเอาไปขังไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ แบบนี้ยังไม่เรียกว่าโจรอีกหรือไง” คุณแม่โจว๋มั่นใจในความมีเหตุมีผลของตัวเองมาก ดังนั้นจึงแผดเสียงดังสนั่น
“เห็นชัดๆ ว่าพวกแกละอายใจ พวกแกอยากทำร้ายหนานหนานของพวกเรา ถ้าพวกแกไม่มีเจตนาไม่ดีก็เอาหนานหนานของพวกเรากลับมาสิ มาเจอหนานหนานของพวกเราซึ่งๆ หน้า” ดวงตาของคุณแม่โจว๋จ้องไปที่เวินลั่วฉิงด้วยความกดดันอย่างเข้มข้น
“คุณหญิงโจ๋วอยากพบโจ๋วอันหนานก็ไปสถานีตำรวจสิ” เวินลั่วฉิงใช้น้ำเสียงแผ่วเบาแล้วมองไปที่เธอด้วยแววตาไร้ความรู้สึก คนแบบนี้เวินลั่วฉิงไม่อยากจะเสียเวลาคุยด้วย แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเขามาก่อกวนที่ตระกูลถังแบบนี้ ทำเอาท่านปู่ถังกับท่านย่าถังต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย จะให้เธอไม่สนใจก็ไม่ได้
“อะไรนะ พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง” คุณหญิงโจ๋วคิดจะต้อนถามต่อ แต่เมื่อได้ยินที่เวินลั่วฉิงกล่าวก็คล้ายยังตั้งสติไม่ได้
“หมายความว่าตอนนี้หนานหนานอยู่ที่สถานีตำรวจหรือ” คุณพ่อโจว๋ปฏิกิริยารวดเร็วจึงจับใจความสำคัญในคำพูดของเวินลั่วฉิงได้
“ตอนนี้หนานหนานอยู่ที่สถานีตำรวจ?” คุณแม่โจว๋เริ่มตั้งสติได้ สีหน้าของเธอปรากฏอาการยินดี การที่หนานหนานอยู่กับตำรวจยังดีกว่าปล่อยให้อยู่กับเย่ซือเฉิน อย่างน้อยๆ พวกเขายังสามารถไปพบหนานหนานได้
“พวกคุณกลับไปได้แล้ว” เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบคำถามของคุณแม่โจว๋โดยตรง เพราะพฤติกรรมปากร้ายเมื่อครู่ของคุณแม่โจว๋ แถมท่านย่าถังยังคงโมโหอยู่ เวินลั่วฉิงจึงไม่มีความจำเป็นต้องเกรงใจพวกเขา
คุณหญิงโจ๋วได้ยินเวินลั่วฉิงเอ่ยไล่ตนเองออกมาตามตรงแบบนี้ก็ไม่พอใจ “พวกแกกล้าดียังไงถึงเอาหนานหนานไปส่งตำรวจ หนานหนานไม่ได้ทำอะไรผิด เห็นชัดๆ ว่าพวกแกใส่ร้ายเธอ”
เวินลั่วฉิงขี้เกียจเสวนากับพวกเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ยินคุณหญิงโจ๋วพูดให้ผิดเป็นชอบแบบนี้และหันไปเห็นท่านย่าถังโกรธจนหน้าเขียวหน้าดำ แววตาของเวินลั่วฉิงก็เคร่งเครียดขึ้น “คุณหญิงโจ๋วไม่ต้องห่วง พวกเราเอาตัวโจ๋วอันหนานไปส่งที่สถานีตำรวจพร้อมๆ กับหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเธอเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมด” เวินลั่วฉิงหยุดพูดแล้วกวาดสายตาไปมองคุณแม่โจว๋กับคุณพ่อโจว๋ ก่อนจะกล่าวเสริมต่อว่า “ต่อไปถ้าพวกคุณอยากเจอหน้าโจ๋วอันหนานคงต้องไปเจอหน้าเธอในคุกแทนแล้ว”
ตอนแรกเวินลั่วฉิงไม่อยากจะสนใจพวกเขา แต่พวกเขามีพฤติกรรมเกินทน และแน่นอนว่าสิ่งที่เวินลั่วฉิงพูดตอนนี้คือความจริงทุกอย่าง ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินโทรมาเธอแล้วบอกว่าได้นำตัวโจ๋วอันหนานไปส่งให้ตำรวจแล้วพร้อมกับหลักฐานครบถ้วน หลักฐานพวกนั้นเพียงพอที่จะทำให้โจ๋วอันหนานติดคุกไปตลอดชีวิต
“เหลวไหล แกอย่ามาเหลวไหลนะ หนานหนานไม่ได้ทำร้ายแก แกต่างหากที่ใส่ร้ายหนานหนาน ฉันจะฟ้องพวกแก ฉันจะจ้างทนาย ฉันจะฟ้องร้องพวกแก” คุณหญิงโจ๋วทนไม่ได้ที่จะให้ใครมาว่าลูกสาวของตนเองผิด แต่สิ่งที่ทนไม่ได้มากกว่าคือลูกสาวของตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในคุก
ต่อให้หนานหนานทำเรื่องพวกนั้นจริง ด้วยฐานะและอำนาจของตระกูลโจ๋วแล้วจะต้องหาวิธีทำให้หนานหนานไม่ต้องติดคุกได้แน่
“เชิญ” อารมณ์ของเวินลั่วฉิงเรียบเฉย ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรมากนัก เวินลั่วฉิงมั่นใจในความสามารถของเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินเอาโจ๋วอันหนานไปส่งให้ตำรวจเรียบร้อยแล้วและบอกกับเธอแล้วว่าโจ๋วอันหนานจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต นั่นก็หมายความว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น
ต่อให้ตระกูลโจ๋วจ้างทนายที่ดีที่สุดก็ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าต่อให้ตระกูลโจ๋วจะใช้วิธีการตุกติกในการช่วยโจ๋วอันหนานออกมาก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
เย่ซือเฉินไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ
“ไปกันเถอะ พวกเราไปหาหนานหนานกัน ไปถามให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น” หากเทียบกันแล้วคุณพ่อโจว๋ยังมีสติมากกว่าคุณแม่โจว๋อยู่บ้าง
“มีอะไรให้ถามอีก พวกมันใส่ร้ายหนานหนานแน่นอน ตอนนี้ไปหาทนายดีกว่า ทนายที่ฝีมือดีที่สุด พวกเราจะฟ้องร้องพวกมัน พวกเราต้องชนะแน่” ก่อนหน้านี้คุณแม่โจว๋ยังบอกอยู่ว่าจะไปถามให้รู้เรื่อง แต่ตอนนี้กลับมั่นใจไปแล้วว่าเวินลั่วฉิงใส่ร้ายโจ๋วอันหนาน
“ไปๆ รีบไปเถอะ พวกแกอยากจะไปฟ้องก็เชิญ อยากจะดำเนินคดีก็เชิญ” ท่านย่าถังไม่เคยเห็นคนที่ทำผิดเป็นชอบและไร้เหตุผลแบบนี้ สองคนนี้นิสัยไม่ต่างกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เลย
“ไปกันเถอะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” คุณพ่อโจว๋ดึงตัวคุณแม่โจว๋ที่คิดจะพูดต่อ วัตถุประสงค์ในการมาของพวกเขาวันนี้เพราะต้องการให้เย่ซือเฉินปล่อยตัวหนานหนาน ในเมื่อตอนนี้เป็นไปตามความต้องการแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะทำเรื่องให้บานปลายไปมากกว่านี้
“เฮอะ” คุณแม่โจว๋พ่นลมหายใจอย่างหัวเสีย จากนั้นจึงเดินตามคุณพ่อโจว๋ออกไป
“คนสองคนนี้มันยังไงกัน” ตอนนี้สีหน้าของท่านย่าถังยังคงซีดขาว เห็นได้ชัดว่ายังคงไม่หายโกรธ
“ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปโกรธพวกเขา ความจริงเห็นกันอยู่ชัดเจนแล้ว พวกเขายังจะพยายามเปลี่ยนผิดเป็นถูก ฉิงฉิงเองก็บอกแล้วว่าเอาโจ๋วอันหนานไปส่งตำรวจแล้วแถมยังมีหลักฐานแน่นหนา ความผิดที่โจ๋วอันหนานทำต้องได้รับการลงโทษแน่นอน ต่อให้พวกเขาพยายามวางอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์” ท่านปู่ถังเองก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ความผิดที่โจ๋วอันหนานทำต่อให้สองคนนี้พยายามเข้าไปยุ่มย่ามมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
“เมื่อกี้พวกเขาบอกว่าจะไปหาทนายมาเพื่อดำเนินคดี ถ้าพวกเขาดำเนินคดีโดยใช้ช่องทางปกติคงไม่น่ากลัว แต่ถ้าพวกเขาเล่นตุกติกเบื้องหลัง ถึงตอนนั้น……”
เมื่อท่านย่าถังนึกถึงนิสัยของคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ ก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาอีก
“เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย คุณไม่ไว้ใจฝีมือการจัดการของเย่ซือเฉินหรือไง เย่ซือเฉินจะยอมปล่อยให้พวกเขาเปลี่ยนผิดเป็นถูกได้หรือ จะปล่อยให้พวกเขาเปลี่ยนดำเป็นขาวได้หรือ เขาจะปล่อยให้ฉิงฉิงโดนรังแกได้หรือไง” ท่านปู่ถังกลับยิ้มออกมา คำพูดนี้ของท่านปู่ถังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวเย่ซือเฉิน
“อืม จะว่าไปก็จริง” สีหน้าของท่านย่าถังผ่อนคลายขึ้น เธอมั่นใจในความสามารถของเย่ซือเฉิน และยิ่งมั่นใจว่าเย่ซือเฉินจะปกป้องฉิงฉิงได้เป็นอย่างดี
“หนานหนานอยู่ที่สถานีตำรวจจริงเหรอ เวินลั่วฉิงหลอกพวกเราแล้วหรือเปล่า” หลังจากที่คุณแม่โจว๋ออกจากบ้านตระกูลถังแล้วก็ยังคงไม่ค่อยวางใจ “ฉันเคยได้ยินมาว่าแม่เวินลั่วฉิงนั่นเจ้าเล่ห์จะตาย คนในตระกูลถังแต่ละคนหัวหมอกันทั้งนั้น”
“คงไม่ได้หลอกหรอก” คุณพ่อโจว๋เห็นว่าความกังวลใจของคุณแม่โจว๋ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท เขาจึงหยิบมือถือออกมา “ผมจะโทรไปถามก่อน”
“ใช่ๆ คุณรีบถามให้รู้เรื่องเร็วเข้า” คุณแม่โจว๋รีบกล่าวเร่ง
คุณพ่อโจว๋รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร คำตอบที่ได้คือโจ๋วอันหนานถูกคุมตัวอยู่กับตำรวจแล้ว และยังเป็นตามที่เวินลั่วฉิงบอกคือมีหลักฐานแน่นหนาเพียงพอในการส่งโจ๋วอันหนานเข้าคุก ดังนั้นปลายสายจึงบอกว่าตอนนี้โจ๋วอันหนานถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น” คุณแม่โจว๋เห็นสีหน้าที่ผิดปกติไปของคุณพ่อโจว๋ จึงคิดว่าเวินลั่วฉิงหลอกพวกตน “แม่เวินลั่วฉิงนั่นหลอกพวกเราใช่ไหม หนานหนานไม่ได้อยู่ที่สถานีตำรวจใช่ไหม ว่าแล้วเชียวว่าเวินลั่วฉิงเจ้าเล่ห์……”
คุณหญิงโจ๋วเอ่ยพลางคิดจะกลับไปคิดบัญชีกับเวินลั่วฉิงที่บ้านตระกูลถัง
“หนานหนานอยู่ที่สถานีตำรวจ รองผู้บัญชาการหลี่ยังบอกอีกว่าหลักฐานที่เย่ซือเฉินรวบรวมมาส่งผลเสียกับหนานหนานอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวหนานหนานเอาไว้” ระหว่างที่คุณพ่อโจว๋พูดออกมา สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้น
เขาไม่คิดว่าตำรวจจะจับตัวหนานหนานเอาไว้แล้วจริงๆ
“อะไรนะ พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาจับตัวหนานหนานเอาไว้ ใครจะรับรองได้บ้างว่าหลักฐานที่เย่ซือเฉินเอามาเป็นของจริง ไม่ได้ พวกเราต้องไปฟ้องคดี พวกเราต้องช่วยหนานหนาน” คุณแม่โจว๋เริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว แต่เธอยังมั่นใจว่าลูกสาวของตัวเองไม่ได้ทำผิด
“เดี๋ยวผมจะไปหาบริษัททนายมา หนานหนานเป็นลูกสาวของเรา เราต้องช่วยแน่” คุณพ่อโจว๋รีบโทรติดต่อบริษัททนายให้รีบมาพบ ตอนนี้โจ๋วอันหนานถูกส่งตัวไปให้ตำรวจแล้ว แถมตำรวจยังคุมตัวเอาไว้แล้วด้วย เรื่องนี้คงปิดไม่มิดอีกต่อไปแล้ว