ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1366 หาเรื่องเข้าตัวเอง (2)
ตอนนี้โจ๋วอันหนานถูกส่งตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว แถมตำรวจยังคุมตัวเอาไว้แล้วด้วย เรื่องนี้คงปิดไม่มิดอีกต่อไปแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือหาวิธีช่วยหนานหนานออกมา ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม เขาไม่มีทางยอมให้ลูกสาวของตัวเองติดคุก
“พวกเราไปสถานีตำรวจกัน ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลังจากคุณพ่อโจว๋วางสายแล้วก็รีบเดินขึ้นรถ
ตอนที่คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ไปถึงสถานีตำรวจแล้ว ทนายของตระกูลโจ๋วก็ไปถึงก่อนหน้าแล้ว ทนายของตระกูลโจ๋วทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมาก ตอนนี้ได้ไปสืบสถานการณ์ทุกอย่างมาอย่างชัดเจน
“ประธานโจ๋ว คุณหญิงโจ๋ว” ทนายหวาง เมื่อเห็นคุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ก็รีบเข้ามารับ
“เหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้หนานหนานเป็นยังไงบ้าง” ตอนนี้คุณแม่โจว๋เป็นห่วงลูกสาวของตัวเองมากที่สุด
“เมื่อครู่นี้ผมได้ไปสอบถามเหตุการณ์มาแล้ว หลักฐานที่อีกฝ่ายรวบรวมมาส่งผลให้สถานการณ์ของคุณหนูไม่ดีนัก หากตัดสินตามกฎหมาย คุณหนูอาจติดคุกตลอดชีวิต” ทนายหวางเข้าใจอารมณ์ของคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ แต่เขาจำเป็นต้องรายงานตามจริง
“เป็นไปได้ยังไง พวกเราสามารถจะดำเนินคดีกับพวกเขา พวกเราจะฟ้องพวกเขา ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราจะเอาชนะพวกเขาไม่ได้” คุณแม่โจว๋ยังคงไม่รู้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ เธอยังคงมีท่าทางโอหังมั่นใจอยู่เช่นเดิม
“……”
ทนายหวางมองไปยังคุณแม่โจว๋แล้วลังเลเล็กน้อย สุดท้ายยังเลือกที่จะพูดตามจริง “หากฟ้องคดีจริง โอกาสที่พวกเราจะชนะมีน้อยมาก”
ทนายหวางพูดออกมาโดยพยายามใส่ใจความรู้สึกของคุณแม่โจว๋ อันที่จริงเขารู้สึกว่าหากฟ้องคดี ฝั่งพวกเขาไม่มีทางชนะคดีได้
“เป็นไปได้ยังไง มันจะเป็นไปได้ยังไง เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาใส่ร้ายหนานหนาน……” คุณแม่โจว๋ตัวสั่นแล้วส่ายหน้าอย่างแรงอย่างไม่อาจยอมรับความจริงเช่นนี้ได้
“หลักฐานของพวกเขาครบถ้วนมาก แถมยังมีพยานด้วย……”ทนายหวางแอบถอนใจ ก่อนจะพูดต่อ “คุณชายก็เป็นหนึ่งในพยานของพวกเขา”
“หมายถึงโจ๋วชิงน่ะหรือ โจ๋วชิงจะเป็นพยานให้พวกเขาเหรอ” คุณแม่โจว๋ถลึงตาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “นั่นคือพี่สาวแท้ๆ ของเขานะ ทำไมเขาถึงช่วยคนอื่นเพื่อทำร้ายพี่สาวของตัวเอง โจ๋วชิงอยู่ที่ไหน ฉันจะไปถามเขาให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ตอนนี้พวกเรายังไม่เห็นคุณชาย คุณชายคือพยานของอีกฝ่าย ถ้าคุณชายไม่อยากเจอพวกเรา พวกเรา……”
“พวกเขาจะทำได้ยังไง ฉันคือแม่ของเขานะ ทำไมตอนนี้ฉันจะเจอเขาไม่ได้” คุณแม่โจว๋หัวเสียมาก เมื่อวานโจ๋วชิงคอยช่วยพวกของเย่ซือเฉิน ตอนนี้โจ๋วชิงยังเป็นพยานให้กับเวินลั่วฉิงอีก นี่ทำให้เธอโมโหอย่างมาก
เขายังจำได้อยู่หรือไม่ว่าเขาคือคนของตระกูลโจ๋ว
ตอนนี้โจ๋วชิงยังอยู่ที่โรงพยาบาล คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋รู้เรื่องที่โจ๋วชิงได้รับบาดเจ็บ เพราะเมื่อวานโจ๋วชิงเป็นคนเล่าเรื่องของโจ๋วอันหนานให้คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ฟัง
หากคนอื่นเป็นคนเล่าเรื่องนี้ คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ไม่มีทางเชื่อ แต่แม้ว่าเรื่องนี้โจ๋วชิงจะเป็นคนเล่าออกมาจากปากของตัวเอง คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ก็ยังคงไม่เชื่อว่าลูกสาวของตนจะทำเรื่องราวแบบนั้นได้
บาดแผลของโจ๋วชิงไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่หลังจากได้รับการผ่าตัดแล้วจำเป็นต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาร่างกายต่อ
คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ อาจจะคิดว่าโจ๋วชิงไม่ได้รับอันตรายอะไรมากเลยไม่ได้เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลนานนัก และพวกเขาร้อนใจคิดแต่อยากจะช่วยลูกสาว
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เพราะเรื่องของโจ๋วอันหนานทำให้พวกเขาต้องวิ่งวุ่นไปทั่วจึงไม่ได้กลับไปเยี่ยมโจ๋วชิงอีก
หากคุณแม่โจว๋ไปหาโจ๋วชิง โจ๋วชิงคงไม่หลบหน้า เพียงแต่ตอนนี้คุณแม่โจว๋ยังหาเวลาไปเจอโจ๋วชิงไม่ได้
“คุณใจเย็นก่อน โจ๋วชิงคือลูกชายของพวกเรา เขาไม่มีทางหลบหน้าพวกเรา อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยไปหาเขา” คุณพ่อโจว๋ไม่ได้หุนหันพลันแล่นเหมือนอย่างคุณแม่โจว๋ เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่อะไร เขามั่นใจว่าจัดการลูกชายตัวเองได้
“ทนายหวาง หากดำเนินคดีพวกเรามีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหน” คุณพ่อโจว๋ยังมีความหวัง หากอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา เขายังสามารถใช้วิธีบางอย่างจัดการให้เรียบร้อยได้ แต่อีกฝ่ายคือตระกูลถังแถมยังมีเย่ซือเฉินอีก หากเขาคิดจะเล่นอะไรตุกติกคงจะไม่ง่ายนัก
ทนายหวางอึ้งไป เขาหันไปมองคุณหญิงโจ๋วก่อน จากนั้นจึงแอบถอนใจแล้วกล่าวตามจริง “ไม่มีโอกาสชนะ หลักฐานของพวกเขาแน่นหนา สมบูรณ์ หากฟ้องคดีกันขึ้นมาจริง พวกเราไม่มีโอกาสชนะเลย”
สีหน้าของคุณพ่อโจว๋เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าเรื่องราวอาจจะจัดการไม่ง่ายนัก แตคิดไม่ถึงว่าจะร้ายแรงถึงขั้นนี้
“เป็นไปได้ยังไง เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาใส่ร้ายหนานหนาน หลักฐานของพวกเขาเป็นหลักฐานปลอม ขอแค่พวกเรา……” ถึงตอนนี้คุณแม่โจว๋ยังคงไม่ยอมรับความจริง
“คุณหญิงโจ๋ว หลักฐานพวกนั้นเป็นหลักฐานจริงครับ แถมหลักฐานพวกนั้นยังแน่นหนาอีก หาช่องว่างไม่เจอเลย ไม่มีทางเป็นของปลอมได้ครับ” ทนายหวางเป็นทนายมาเป็นเวลานาน หลักฐานจริงหรือเท็จเขามองเพียงแวบเดียวก็มองออก
“สรุปแล้วคุณเป็นทนายของใครกันแน่ ทำไมถึงพูดเข้าข้างพวกเขา” คุณแม่โจว๋ไม่มีทางยอมรับความจริงในข้อนี้จึงแผดเสียงตวาดออกมา
“เอาล่ะ อย่ามัวแต่โวยวายอยู่เลย” คุณพ่อโจว๋เริ่มรับรู้ได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อมาตลอดว่าโจ๋วอันหนานจะทำเรื่องราวแบบนั้นได้ แต่เขาก็รู้จักลูกชายของตัวเองดี
ลูกชายของเขาไม่มีทางโกหก ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายของเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใส่ร้ายพี่สาวของตัวเอง
ก่อนหน้านี้คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋ไปบ้านตระกูลถังก็เพราะเย่ซือเฉินจับตัวโจ๋วอันหนานไป ทำให้คุณพ่อโจว๋รู้สึกว่าเย่ซือเฉินทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนัก เขาคิดว่าเรื่องนี้เขายังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง
“คุณได้คุยกับคุณหนูแล้วหรือยัง” คิ้วของคุณพ่อโจว๋ขมวดแน่นราวกับกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหา
“ได้เจอแล้วครับ แต่คุณหนูใหญ่ไม่ยอมพูดอะไรเลย……”ทนายหวางหยุดพูดไป ความหมายชัดเจนมากกว่าการกระทำเช่นนี้คือการยอมรับ
“แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อ จะปล่อยให้หนานหนานของพวกเราติดคุกจริงหรือ รีบหาวิธีเร็วเข้า” คุณแม่โจว๋เริ่มรู้สึกแล้วว่าเหตุการณ์ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ตนคิดเอาไว้แต่ร้ายแรงกว่ามาก
“คุณรีบไปหาคนช่วยสิ ที่สถานีตำรวจมีคนที่คุณรู้จักไม่ใช่หรอ ไปหาพวกเขาสิ หาวิธีให้พวกเขาช่วยหนานหนาน” ตอนนี้ในหัวของคุณแม่โจว๋คิดแต่จะช่วยลูกสาวของตัวเองออกมา ต่อให้เธอรู้ว่าลูกสาวของตนทำผิดจริง เธอก็ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ทนายหวางเม้มปากคล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นท่าทีของคุณหญิงโจ๋วแล้วก็เงียบไป
ทนายหวางรู้ว่าหลักฐานพวกนั้นคือหลักฐานที่คุณชายสามเย่เป็นคนรวบรวมมา แถมคนที่คุณหนูโจ๋วกำลังต่อสู้อยู่ตอนนี้คือคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
ประธานโจ๋วมีเส้นสายอยู่ที่สถานีตำรวจแล้วคิดว่าคุณชายสามเย่ไม่มีหรือ
ตระกูลจะไม่มีเช่นกันหรือ
หากเทียบกันถึงอำนาจแล้ว ตระกูลโจ๋วสู้ตระกูลถังไม่ได้และยิ่งสู้คุณชายสามเย่ไม่ได้
ดังนั้นทนายหวางคิดว่าการไปขอให้คนรู้จักช่วยไม่มีประโยชน์อะไร
หากคุณหนูโจ๋วไม่ได้ทำผิดยังพอที่จะหาคนมาช่วยเหลือได้ แต่ตอนนี้เห็นชัดเจนว่าเป็นความผิดของคุณหนูโจ๋ว อีกอย่างเรื่องที่คุณหนูโจ๋วทำแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกสยดสยอง
“เอาล่ะ หยุดโวยวายก่อน ฉันจะไปหารองผู้บัญชาการหลี่” คุณพ่อโจว๋รู้สึกรำคาญความเอะอะของคุณแม่โจว๋ แต่ก็ยังรับปากว่าจะไปหาคนมาช่วย
ทนายหวางมองไปที่คุณพ่อโจว๋ ด้วยแววตาประหลาดใจ เขาคิดว่าประธานโจ๋วจะเป็นคนเข้าใจสถานการณ์ คิดไม่ถึงว่า……
ไปหารองผู้บัญชาการหลี่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไร และรองผู้บัญชาการหลี่คงไม่ยอมออกมาพบประธานโจ๋วด้วยซ้ำ
ทนายหวางเห็นคุณพ่อโจว๋กำลังต่อสายถึงรองผู้บัญชาการหลี่ แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร
“ประธานโจ๋ว” เสียงรอสายดังอยู่สองสามครั้งก่อนจะมีคนรับสาย
“ผู้บัญชาการหลี่ ตอนนี้อยู่ที่สถานีตำรวจไหมครับ ผม……” ตอนนี้คุณพ่อโจว๋ร้อนใจมากจึงไม่ได้กล่าวอ้อมค้อมอะไรมากมาย
“ประธานโจ๋ว ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่สถานี ผมออกมาทำธุระข้างนอก” เสียงของรองผู้บัญชาการหลี่ลอดออกมา นัยปฏิเสธในน้ำเสียงดังออกมาอย่างชัดเจน
คุณพ่อโจว๋ชะงักไป เขาไม่โง่ย่อมฟังออกว่ารองผู้บัญชาการหลี่กำลังปฏิเสธตน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจำเป็นต้องอดทน “งั้นผมจะรอคุณอยู่ที่สถานีนะครับ”
“ไม่ต้องรอผมหรอกครับ วันนี้ผมคงไม่เข้าไป เอ่อ อันที่จริงคงไม่เข้าไปหลายวัน ผมออกมาสัมมนาข้างนอกน่ะ” น้ำเสียงของรองผู้บัญชาการหลี่เริ่มแสดงออกถึงความรำคาญ
“ผู้บัญชาการหลี่ คุณก็รู้เรื่องที่เกิดกับหนานหนานใช่ไหม คุณเห็นหนานหนานมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับหนานหนาน คุณจะไม่สนใจไม่ได้นะ” คุณพ่อโจว๋รู้ว่าผู้บัญชาการหลี่ไม่อยากพบหน้าตน คุณพ่อโจว๋จึงไม่พูดอ้อมค้อม ในเมื่อไม่อยากเห็นเช่นนั้นก็พูดกันในโทรศัพท์แล้วกัน
“ประธานโจ๋ว เรื่องนี้ผมคงช่วยอะไรไม่ได้ ผมไม่รู้จะช่วยยังไงจริงๆ” ในเมื่อคุณพ่อโจว๋พูดออกมาตรงๆ รองผู้บัญชาการหลี่ก็แสดงท่าทีของตนเองออกไปตรงๆ เช่นกัน
“ผมรู้ว่าเรื่องนี้ทำให้คุณลำบากใจ แต่คุณช่วยหาวิธีช่วยหนานหนานหน่อยได้ไหม จะปล่อยให้หนานหนานติดคุกไม่ได้นะ” คุณพ่อโจว๋ยังคงไม่ยอมแพ้ คุณพ่อโจว๋รู้ดีว่าเขากลัวตระกูลถังและเย่ซือเฉิน “คุณไม่ต้องห่วง ถ้าคุณช่วยหนานหนาน บุญคุณของคุณผมจะไม่มีวันลืม”
“ประธานโจ๋ว ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วย แต่ผมช่วยไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้อีกฝ่ายหนึ่งมีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ คุณคงไม่อยากใช้พรรคพวกให้ทำผิดกฎหมายหรอกมั้ง” รองผู้บัญชาการหลี่เริ่มไม่พอใจ นี่มันใช่เรื่องสำนึกบุญคุณที่ไหนกัน
เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำ คนเป็นพ่อแม่ไม่รู้หรืออย่างไร ยังกล้าแบกหน้ามาขอให้คนอื่นช่วยอีก
เขาจะช่วยได้อย่างไร
กฎหมายก็มีอยู่ เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำ ต่อให้ติดคุกตลอดชีวิตยังเบาเกินไป อีกอย่างคุณชายสามเย่เป็นคนหาหลักฐานทั้งหมดมา ใครจะกล้าช่วย หน้าไม่อายหรือไง
“ประธานโจ๋ว วิธีเดียวที่จะทำได้คือให้คุณชายสามเย่ถอนฟ้องและให้คุณหนูใหญ่สามถอนฟ้อง” รองผู้บัญชาการหลี่พยายามอดทนต่อแล้วชี้หนทางให้คุณพ่อโจว๋ และเป็นวิธีเดียวที่เป็นไปได้ในตอนนี้ “ตระกูลโจ๋วกับตระกูลถังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอดไม่ใช่หรือ พวกคุณไปขอท่านปู่ถังกับคุณหนูใหญ่ถัง ดูว่าเขาพอจะช่วยได้บ้างหรือไม่”
“ตระกูลโจ๋วกับตระกูลถังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอดไม่ใช่หรือ พวกคุณไปขอท่านปู่ถังกับคุณหนูใหญ่ถัง ดูว่าเขาพอจะช่วยได้บ้างหรือไม่” รองผู้บัญชาการหลี่เตือนอย่างหวังดีก่อนจะวางสายไปความสัมพันธ์ของเขากับคุณพ่อโจว๋ไม่เลว ก่อนหน้านี้เขาช่วยเหลือคุณพ่อโจว๋มาหลายครั้ง แต่คราวนี้โจ๋วอันหนานเผชิญหน้ากับตระกูลถังและเย่ซานเฉิง อีกอย่างเรื่องที่โจ๋วอันหนานทำมีเจตนาเอาถึงตาย หลักฐานแน่นหนา แล้วเขาจะช่วยเหลืออะไรได้
“ว่ายังไง เขาว่ายังไงบ้าง” เมื่อคุณแม่โจว๋เห็นสีหน้าคุณพ่อโจว๋หมองคล้ำลงก็ร้อนใจถามขึ้น
“ไม่ช่วย เขาไม่ยอมออกมาเจอ เขาไม่ช่วยพวกเราแน่นอนแล้ว” คุณพ่อโจว๋ไม่ใช่คนโง่ แถมรองผู้บัญชาการหลี่ยังแสดงออกอย่างชัดเจน แน่นอนว่าเขาย่อมรู้ดี
“เขาทำแบบนี้ได้ยังไง เขาได้รับผลประโยชน์จากตระกูลโจ๋วไปตั้งเยอะ เวลาสำคัญแบบนี้กลับ……” คุณแม่โจว๋โมโหจัดและก่นด่าออกมา
“เอาล่ะ พูดให้น้อยกว่านี้หน่อยได้ไหม” คุณพ่อโจว๋ตอนนี้หัวเสียและอารมณ์ขุ่นมัวมาก ที่นี่คือสถานีตำรวจ แม้ว่าพวกเขาจะยืนห่างไกลจากผู้คน แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีใครได้ยิน
“แล้วตอนนี้จะทำยังไง หนานหนานของพวกเราจะทำยังไง” เมื่อคุณแม่โจว๋ถูกเขาตวาดก็โมโหและเสียใจจนแทบร้องไห้ออกมา “คุณช่วยหาวิธีเร็วเข้า ไปหาคนอื่นให้ช่วย”
“ถ้ารองผู้บัญชาการหลี่ไม่ยอมช่วย แล้วฉันจะให้ใครช่วยได้” ตอนนี้คุณพ่อโจว๋กลัดกลุ้มมาก เขาเองก็เป็นกังวล แต่ตอนนี้เขารู้อยู่แก่ใจถึงความเลวร้ายของสถานการณ์ เขารู้ว่ารองผู้บัญชาการหลี่ไม่กล้าช่วยเขา
รองผู้บัญชาการหลี่ไม่อยากมีปัญหากับตระกูลถังและเย่ซือเฉิน เลยไม่กล้าช่วยตน เป็นเช่นนี้คนอื่นยิ่งไม่กล้าช่วย
อีกอย่างเมื่อครู่นี้ทนายหวางยังบอกอีกว่าหากฟ้องร้องคดี พวกเขาไม่มีโอกาสชนะ นี่ยิ่งเป็นการยืนยันว่าโจ๋วอันหนานเป็นคนทำเรื่องราวพวกนั้นจริง ในสถานการณ์เช่นนี้คงไม่มีใครกล้าเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงด้วย
“ฉิงถิงเป็นหัวหน้าสถานี พวกเราไปขอให้ฉิงถิงช่วยก็ได้ ไปขอให้ตระกูลฉิงช่วย” แววตาของคุณแม่โจว๋เป็นประกายแล้วเสนอหนทางที่ตนคิดว่าไม่เลวออกมา “ความสัมพันธ์ของพวกเรากับตระกูลฉินไม่เลว อีกอย่างโจ๋วชิงยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉิงถิงอีกต่างหาก”
“คุณเอาสมองไปไว้ไหน ฉิงถิงจะสนิทกับโจ๋วชิงมากกว่าสนิทกับเย่ซือเฉินได้ยังไง ไหนจะมีถังหลินอีก ถังหลินคือลูกพี่ของพวกเขา และในบรรดาพวกเขาเย่ซือเฉินเองก็ส่งอิทธิพลไม่น้อยไปกว่าถังหลิน หากเทียบกับเย่ซือเฉินและถังหลินแล้ว โจ๋วชิงยังห่างไกลมากนัก” คุณพ่อโจว๋จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฉิงถิงเป็นหัวหน้าสถานี แต่คุณพ่อโจว๋ไม่ต้องคิดอะไรมากก็รู้ว่าฉิงถิงจะต้องช่วยเย่ซือเฉินกับตระกูลถัง
ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากฉิงถิง
“ฉิงถิงเป็นหัวหน้าสถานี คงไม่มองดูหนานหนานของพวกเราโดนใส่ร้ายแบบนี้หรอกมั้ง” คุณแม่โจว๋ได้ยินคำพูดของคุณพ่อโจว๋ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวโต้แย้ง
เมื่อทนายหวางได้ยินคำพูดของคุณแม่โจว๋ ริมฝีปากของเขาก็เริ่มกระตุก เรื่องนี้มีหลักฐานแน่นหนา ความจริงประจักษ์ เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของหนานหนาน แม้แต่คุณชายโจ๋วเองยังเป็นพยานให้อีกฝ่าย ตอนนี้คุณแม่โจว๋ยังกล้าพูดอีกหรือว่าคนอื่นใส่ร้ายโจ๋วอันหนาน
คุณแม่โจว๋คิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่?