ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1371 คุณชายถังคุณแย่แน่(1)
“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง นายแค่บอกสถานะของผู้ชายคนนั้นกับฉันมา พอถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเพียงคนเดียวเอง ท่านปู่ถังมีพระคุณกับฉัน ฉันจะไม่ให้ผู้ชายคนนั้นทำลายคุณชายถังอย่างแน่นอน” เมื่อพูดประโยคนี้ดวงตาของเมิ่งหลินได้หรี่ลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว
“นายอย่าใจร้อน ฉันคิดว่าเรื่องนี้นายอย่าข้าไปยุ่งด้วยจะดีกว่า” ในที่สุดเหยียนหยูก็ได้สติกลับคืนมา แม้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่สนามบินเขาจะรู้สึกว่าคุณชายถังทำไม่ถูกที่ไปปะเหลาะเจ้าชายน้อยแบบนั้น แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนมากเกินไป นอกจากนี้สถานะของเจ้าชายน้อยก็ค่อนข้างจะพิเศษ วิธีการของเมิ่งหลินเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เหยียนหยูคิดว่าควรที่จะเชื่อมั่นใจคุณชายถังของตัวเอง ถึงแม้ที่สนามบินเขาจะเห็นคุณชายถังของตัวเองปะเหลาะเจ้าชายน้อยกับตา แต่เหยียนหยูยังคงคิดว่าเรื่องราวไม่น่าจะเป็นแบบนั้น
“นาย?” เมิ่งหลินมองเหยียนหยูด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย: “นายคิดว่านายกำลังปกป้องคุณชายถังอยู่ นายทำแบบนี้เป็นการทำร้ายคุณชายถัง ถ้าเรื่องนี้แดงออกมา พอถึงตอนนั้นคิดจะทำอะไรก็สายไปแล้ว”
เหยียนหยูชะงักไป ดวงตาทั้งสองข้างสั่นไหวเล็กน้อย เขารู้ว่าเมิ่งหลินพูดได้ถูกมาก จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่เรื่องจะแดงออกมาถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“บอกมาเถอะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เมิ่งหลินเห็นเหยียนหยูลังเล สีหน้าก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย
“ถ้านายอยากจะรู้เรื่องนี้ก็ไปถามคุณชายถังเองเถอะ” ถึงแม้เหยียนหยูจะรู้ดีว่าถ้าเรื่องนี้แดงออกมามันจะร้ายแรงแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรเองโดยพลการ ยิ่งไปกว่านั้นสถานะของเจ้าชายน้อยมันค่อนข้างจะพิเศษเกินไปจริง ๆ
“แม่งเอ๊ย ผู้ชายคนนั้นเป็นใครวะ?” เมิ่งหลินใจร้อนขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้อยู่นอกโรงแรม เขาอยากจะอัดเหยียนหยูจริง ๆ
“ฉันรู้เพียงว่าไม่ว่าคุณชายถังจะทำอะไร ฉันล้วนต้องสนับสนุนเขาทั้งนั้น” สีหน้าของเหยียนหยูเองก็เคร่งขรึมลงมา เขาเป็นคนของคุณชายถัง ดังนั้นเขาจึงฟังแค่คำสั่งของคุณชายถังเท่านั้น
ถึงแม้คำสั่งของคุณชายถังจะเป็นสิ่งที่ผิด เขาก็ยังคงจะปฏิบัติตาม ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังไม่รู้ชัดเจนเลยว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
เมิ่งหลินชะงักงัน พลางถลึงตาใส่เขา แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“คุณชายถังทำอะไรมีขอบเขต ฉันคิดว่านายควรที่จะเชื่อมั่นในตัวคุณชายถัง” ตอนที่เหยียนหยูพูดประโยคนี้เสียงค่อนข้างเบา แท้จริงแล้วตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจ เพราะยังไงเขาก็ได้เห็นคุณชายถังปะเหลาะเจ้าชายน้อยตอนที่อยู่สนามบินก่อน
“ถ้าเป็นเรื่องอื่นแน่นอนว่าฉันจะต้องเชื่อคุณชายถัง แต่เรื่องนี้มันไม่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนั้นใช่วิธีต่าง ๆ เพื่อยั่วอารมณ์คุณชายถัง กลัวแค่ว่าคุณชายถังจะ……” คำพูดของเมิ่งหลินหยุดชะงักไป ไม่ได้กล่าวจบ แต่ความหมายนั้นชัดเจน
“ฉันไม่คิดว่าเจ้า……ไม่คิดว่าเขายั่วยุคุณชายถัง” ก็อดที่จะแก้ตัวให้เจ้าชายน้อยไม่ได้ เขาเห็นคุณชายถังเป็นคนปะเหลาะเจ้าชายน้อยเองแท้ ๆ
“นายหมายความว่ายังไง? ไม่ใช่เขาที่ปะเหลาะคุณชายถัง เป็นคุณชายที่ปะเหลาะเขาหรือยังไง?
“ฉันเห็นกับตาว่าเขาใช้เล่ห์กลยั่วยุคุณชายถัง” เมื่อเมิ่งหลินนึกถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้เขาก็โมโหขึ้นมา
เหยียนหยูอยากจะตอบกลับเขาไปจริง ๆ เพราะยังไงสิ่งที่เขาเห็นก็คือคุณชายถังของตัวเองเป็นคนปะเหลาะอยู่ตลอด แต่เจ้าชายน้อยกลับไม่สนใจเลยสักนิด เพียงแต่ว่าเมื่อเขาเห็นสีหน้าท่าทางโมโหของเมิ่งหลิน ท้ายที่สุดเขาก็ห้ามตัวเองเอาไว้ได้
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตลอดทางมานี้เจ้าชายน้อยได้ทำอะไรกันแน่ถึงทำให้เมิ่งหลินโกรธถึงขนาดนี้
“นายไม่บอกฉันว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครงั้นฉันจะไปสืบเอง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันจะสืบหาเองไม่ได้” เมิ่งหลินรู้ว่าเหยียนหยูไม่มีทางที่จะบอก เมิ่งหลินเองก็ไม่ได้บังคับเขา
เหยียนหยูเบ้ปากเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร เขากล้าเชื่อว่าไม่ว่าเมิ่งหลินจะไปสืบยังไงก็ไม่มีทางสืบออกมาได้ เพราะขนาดตัวเขาเองที่ติดตามอยู่ข้างกายคุณชายถังอยู่ตลอดเวลายังไม่รู้เลย ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะรู้
อีกอย่างถ้าหากคุณชายถังทำแบบนั้นจริง ก็ไม่มีทางที่จะให้คนอื่นสืบได้ง่ายแบบนั้น
หลังจากที่เมิ่งหลินไปจากโรงแรม เขาได้ขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา เขารู้ว่าถังหลินจะไม่ฟังเขาแน่ และเขาก็ว่าอะไรถังหลินไม่ได้
คนที่สามารถว่าอะไรถังหลินได้คงมีเพียงท่านถังเท่านั้น
เมิ่งหลินกลัวว่าจะทำให้ท่านถังโมโหจนป่วยขึ้นมา จึงไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกมาโดยตรง แต่หลังจากที่เขาครุ่นคิดดูแล้วก็ยังคงโทรศัพท์ออกไป เขาพูดออกมาตรง ๆ ไม่ได้ แต่เขาสามารถเตือนท่านถังทางอ้อมได้
ตอนนี้เขาหวังเพียงว่าท่านถังจะสามารถหยุดเรื่องคุณชายถังเขาไว้ได้ทันเวลา อย่าได้เป็นปัญหาในภายหลัง
ตอนนี้ที่ประเทศRเป็นตอนกลางคืน แต่ที่เมือง A ท้องฟ้ากลับพึ่งจะสว่าง เมิ่งหลินคิดแล้วคิดอีกและยังคงโทรเข้าไปที่บ้านใหญ่ตระกูลถัง
“ใครโทรมา? ตระกูลโจ๋วโทรมาเหรอ?” ในตอนที่ท่านย่าถังได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ชะงักไปสักพัก ไม่ได้รับโทรศัพท์ในทันที
รอจนหลังจากที่โทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง ผู้ดูแลถึงได้รับสาย
“คุณท่านครับ เรียนสายท่านครับ จากเมิ่งหลิน” ผู้ดูแลรู้จักเมิ่งหลิน และรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเมิ่งหลินและท่านถัง ดังนั้นจึงยื่นโทรศัพท์ให้กับท่านถังโดยตรง
“เมิ่งหลิน มีเรื่องอะไรเหรอ? ตอนนี้ที่นั่นเที่ยงคืนแล้วสินะ ทำไมนายถึงได้โทรมาหาฉันล่ะ?” ท่านถังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ถึงแม้ในเวลาปกติเมิ่งหลินก็ได้โทรมาถามสถานการณ์กับเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่ในเวลานี้ที่ประเทศ R เป็นช่วงกลางดึก เมิ่งหลินรีบโทรหาเขาแบบนี้ หรือว่าจะมีเรื่องอะไร?
“ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ คุณท่าน ระยะนี้สุภาพร่างกายของท่านเป็นยังไงบ้างครับ?” ในน้ำเสียงของเมิ่งหลินนั้นมีความระมัดระวังแฝงอยู่เล็กน้อย ถึงแม้เขาจะพูดแบบอ้อมค้อม แต่ก็ยังเป็นห่วงสุขภาพของคุณท่านอยู่บ้าง
“ฉันแข็งแรงดี หลายวันก่อนนายพึ่งถามไปไม่ใช่เหรอ?” ท่านถังประหลาดในเล็กน้อย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะมองไม่เห็นเมิ่งหลิน แต่เขากลับสามารถฟังจากน้ำเสียงของเมิ่งหลินออกว่าเมิ่งหลินมีเรื่องจะบอกกับเขา: “นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรครับ ผมพึ่งจะไปส่งคุณชายถังที่โรงแรมมา จากนั้นก็คิดขึ้นมาได้ว่าจะโทรหาท่าน” น้ำเสียงของเมิ่งหลินในตอนนี้ฟังแล้วเหมือนกับว่ากำลังพูดคุยเล่นแค่นั้น
“อืม ถังหลินไปประเทศR ในครั้งนี้ นายช่วยเขาหน่อยแล้วกัน” เมิ่งหลินอยู่ที่ประเทศ R มาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ถังหลินไปจัดการเรื่องราวของที่นั่น เป็นธรรมดาที่ต้องต้องการความช่วยเหลือจากเมิ่งหลิน
“แน่นอนครับ เรื่องนี้ยังจำเป็นต้องให้ท่านบอกอีกเหรอ?” เมิ่งหลินหัวเราะออกมาจากอีกด้านของสาย: “จากความสามารถของคุณชายถัง เรื่องทางนี้จะต้องจัดการอย่างราบรื่นแน่นอนครับ”
คำพูดของเมิ่งหลินชะงักไปสักพัก จากนั้นก็เข้าสู่หัวข้อหลักทันที: “คุณท่านครับ ตอนนี้คุณชายถังก็อายุน่าจะสามสิบแล้วสินะ มีแฟนหรือยัง? จะแต่งงานตอนไหนเหรอครับ?”
เมิ่งหลินอยากจะทดสอบความหมายของท่านถังก่อน
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย พูดมาฉันก็โมโห อายุสามสิบกว่าแล้ว แฟนยังไม่มีเลย ฉันวาดฝันว่าจะได้อุ้มหลานอยู่ทุก ๆ วัน” ท่านถังรู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่ว่า เรื่องนี้เขาก็ไม่สามารถบังคับถังหลินได้
“ถังหลินโดดเด่นแบบนั้น จะต้องมีคนมากมายชอบเขาแน่ เรื่องนี้ท่านเองก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกครับ” เมิ่งหลินปลอบใจท่านถังด้วยรอยยิ้ม แต่ว่าหลังจากที่คำพูดของเขาได้หยุดชะงักลง เขาก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ : “แต่ว่าบนโลกใบนี้มีคนอยู่ทุกแบบ มีเรื่องราวอยู่ทุกประเภท ผู้ชาย เพื่อนผู้ชาย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงได้ถูกผู้ชายที่มีท่าของอ่อนแอดึงดูดเอาได้ จากนั้นเรื่องราวได้ถูกเปิดโปงออกมา เพื่อนของผมที่เดิมทีมีอนาคตรุ่งเรืองคนนั้นถูกทำให้หมดอนาคตไปเลยทันที คนสมัยนี้ป้องกันยากมากเลย ไม่เพียงต้องป้องกันผู้หญิง แล้วยังต้องป้องกันผู้ชายอีก”
เมิ่งหลินไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ ฟังเลยเหมือนกับพูดคุยปกติ แต่มือที่จับโทรศัพท์ของเมิ่งหลินในตอนนี้นั้นแอบกำแน่นอย่างลับ ๆ เขากลัวว่าตัวเองจะพูดชัดเจนเกินไปทำให้ท่านถังตกใจ ทั้งกลัวว่าตัวเองจะพูดไม่ชัดเจน ทำให้ท่านถังไม่เข้าใจ
มันช่างลำบากใจจริง ๆ!!
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” ท่านถังชะงักงัน เรื่องระหว่างผู้ชายกับผู้ชายนั้นเขาก็พอจะรู้อยู่บ้าง แน่นอนว่าเรื่องของคนอื่นเขาจะเข้าไปยุ่งไม่ได้
แต่สร้างปัญหาแบบนี้เห็นได้ชัดว่าคงไม่ดีแน่
“ใช่ครับ ตอนนี้ผู้ชายบางคนยั่วยวนขึ้นมาร้ายกาจกว่าผู้หญิงอีก อีกอย่างผู้ชายแผนการล้ำลึก ทำให้ยากที่จะป้องกันขึ้นไปอีก จะไม่ป้องกันไม่ได้จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาหาอ่อยผู้ชายที่ค่อนข้างจะโดดเด่นโดยเฉพาะ โดดเด่นเหมือนกับคุณชายถังไงล่ะครับ” เมิ่งหลินไม่กล้าที่จะพูดอย่างชัดเจนมากเกินไป และเขาก็ไม่กล้าพูดมากอีก จึงหยุดลงแค่นั้น
หลังจากที่ท่านถังวางสายไปก็งุนงงเล็กน้อย เขาใจลอยจ้องมองโทรศัพท์
“เป็นอะไรไป เมิ่งหลินพูดอะไรเหรอ? ทำไมคุณถึงได้ใจลอยซะล่ะ?” ท่านย่าถังเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ทำไมฟังแล้วฉันรู้สึกว่าเขากำลังฟ้องฉันอยู่นะ” ท่านถังเป็นบุคคลที่ร้ายกาจแบบนั้น ถึงแม้เมิ่งหลินจะพูดอย่างอ้อมค้อม แต่เขาก็ยังคงฟังออกถึงความผิดปกติ แถมยังจับจุดสำคัญได้ทันที!!
ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ในเวลาปกติเมิ่งหลินก็มักจะโทรหาเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เพียงแค่ถามถึงสุขภาพของเขาแค่นั้นเอง จะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน อีกอย่างเดิมทีเมิ่งหลินก็ไม่ใช่คนที่ปากเปราะแบบนั้น
ดังนั้น เขาคิดว่าคำพูดของเมิ่งหลินเมื่อสักครู่นั้นเห็นได้ชัดว่าจงใจ ฟังแล้วเหมือนกับต้องการฟ้องเรื่องถังหลินจริง ๆ