ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1374 เข้าใจผิดใหญ่แล้ว(2)
“และอีกอย่างจากนิสัยของฉิงฉิง ถ้าหากเธอรู้ว่าถังหลินชอบผู้ชายจริง ๆ รู้ว่าถังหลินจริงจัง ฉิงฉิงอาจสนับสนุนให้ทั้งสองคนคบกันเลยก็ได้ คุณให้ฉิงฉิงช่วยคิดหาวิธีมันไม่มีประโยชน์เลยสักนิด” ท่านปู่ถังส่ายหน้าช้า ๆ ทอดถอนใจอย่างหมดแรง
ท่านย่าถังคิดอยู่สักพัก รู้สึกว่าเป็นไปได้จริง ๆ
“งั้นพวกเราจะไม่ทำอะไร ไม่สนใจอะไรเลยงั้นเหรอ?!!” ท่านย่าถังมองดูท่านปู่ถังพลางถามหยั่งเชิง
“พวกเราจะทำอะไรได้? พวกเราจะยุ่งอะไรได้อีกล่ะ?” ในตอนที่ท่านปู่ถังเงยหน้าขึ้นนั้นเขารู้สึกว่าผมของตัวเองได้ร่วงลงมาหลายเส้น บางทีเขาอาจจะหัวล้านเนื่องจากคิดมากเพราะเรื่องนี้จริง ๆ ก็ได้
“ถ้าหากถังหลินคบหากันกับผู้ชายจริง ๆ งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีลูก จะต้องไม่มีทายาทสืบสกุลอย่างแน่นอน” ในตอนที่ท่านย่าถังคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอย่างชัดเจน สำหรับคนในวัยอย่างพวกเขานั้นให้ความสำคัญกับทายาทผู้สืบสกุลเป็นอย่างมาก
“เรื่องไม่มีทายาทสืบสกุลนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างสถานการณ์ของถังหลิน ต่อให้พวกเราไม่ไปบังคับให้พวกเขาแยกจากกัน เส้นทางของถังหลินนั้นก็จะลำบากมากเลยทีเดียว” แววตาของท่านปู่ถังเคร่งขรึมขึ้นมาอีกหลายเท่า เพราะยังไงเรื่องแบบนั้นก็ไม่เป็นที่ยอมรับของชาวโลก โดยเฉพาะในประเทศของพวกเขา
ท่านย่าถังได้ยินคำพูดของท่านปู่ถัง ภายในใจรู้สึกเสียใจขึ้นมากว่าเดิม เธอเองก็นั่งลงไปบนโซฟา จากนั้นทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่นั่งเงียบอยู่อย่างนั้น เพียงแต่ว่าจะมีเสียงถอนหายใจยาว ๆ อย่างไร้เรี่ยวแรงดังมาอยู่เป็นระยะ มีเสียงของท่านปู่ถัง แล้วก็มีเสียงของท่านย่าถัง
ในตอนที่เวินลั่วฉิงเดินลงมาจากด้านบนก็ได้พบกับสถานการณ์เช่นนั้น
“เป็นอะไรไปเหรอคะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกงั้นเหรอ?” เวินลั่วฉิงมองดูพวกเขา เธอรู้สึกตกใจอยู่ภายในใจ หลังจากที่เธอกลับมาที่บ้านตระกูลถัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นทั้งสองท่านมีท่าทางเช่นนี้ ต่อให้เป็นตอนที่ถังหลินเกิดเรื่องพวกเขาก็ไม่มีท่าทีเช่นนี้เลย!!
ตอนที่เกิดเรื่องใหญ่แบบนั้นขึ้นกับลุงถังที่เมื่องไห่เมื่อครั้งที่แล้ว ทั้งสองท่านยังไม่เป็นแบบนี้เลย!!
โดยเฉพาะคุณปู่ถัง คนที่ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ไม่กะพริบตา แต่ว่าท่าทางของคุณปู่ถังในตอนนี้มันอะไรกัน?
ท่าทางเคร่งเครียดแบบนี้ ท่าทางเศร้าสร้อยหมดหนทางเช่นนี้ เสียงทอดถอนใจครั้งแล้วครั้งเล่านั้นมันเรื่องอะไรกันแน่?
ส่วนท่านย่าถังในตอนนี้รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างดูสับสนเหม่อลอย เหมือนกับวิญญาณได้หลุดลอยออกไปจากร่าง……
ดังนั้น ตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เป็นเรื่องที่รุนแรงถึงขนาดไหนกันแน่?
เมื่อได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิง ทั้งสองคนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน และมองไปที่เวินลั่วฉิง จากนั้นทั้งสองคนก็ส่ายหน้าอย่างช้า ๆ พร้อมกัน
การเคลื่อนไหวของทั้งสองคนนั้นช้ามาก แต่กลับพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้ซ้อมมาแล้วหลายครั้ง พร้อมกันอย่างแปลกประหลาด
เวินลั่วฉิงเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ของทั้งสองคน ก็รู้สึกงงงัน และตกใจเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?!
“เกิด เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?” คนที่พูดจาคล่องแคล่วมาแต่ไหนแต่ไรอย่างเวินลั่วฉิงตอนนี้ถึงกับพูดจาติดอ่าง
ไม่มีใครตอบคำถามของเวินลั่วฉิง เพียงแต่ว่าทั้งสองท่านก็ได้ส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง
“เดี๋ยวนะคะ พวกท่านเป็นอะไรไป? ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอะไรหรือเปล่าคะ?” เมื่อเวินลั่วฉิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งรู้สึกตกใจขึ้นมามากกว่าเดิม อาการของพวกเขาในตอนนี้เหมือนกับได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง
ดังนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?!
ในตอนที่ท่านย่าถังได้ยินคำว่าได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมา สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มุมปากก็ขยับตามเล็กน้อย เหมือนกับอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนเป็นถอนหายใจยาว ๆ แทน
ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างการกระทบกระเทือนทางจิตใจในครั้งนี้มันรุนแรงมากจริง ๆ
“คุณยายคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ คุณยายพูดสักคำสิคะ” เวินลั่วฉิงเดินไปหยุดอยู่อยู่ที่ด้านหน้าของท่านย่าถังอย่างรวดเร็ว อาการของทั้งสองท่านในตอนนี้ทำให้เธอเป็นกังวลมากจริง ๆ
“ไม่มีอะไร หนูไปทำธุระเถอะ” ท่านปู่ถังรู้ว่าเวินลั่วฉิงเป็นห่วงพวกเขา แต่เรื่องแบบนี้เขาจะพูดออกมาไม่ได้ เพราะยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของถังหลิน อีกอย่างพูดออกมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“ไม่มีอะไรพวกท่านจะเป็นแบบนี้ได้ยังไงคะ?” เวินลั่วฉิงไม่เชื่ออย่างแน่นอน: “เกิดเรื่งขึ้นมกับถังหลินเหรอคะ?”
สิ่งที่ทำให้ทั้งสองท่านเป็นแบบนี้ได้ เวินลั่วฉิงคิดว่าคงมีแค่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับถังหยุนเฉิงหรือถังหลิน
ถังหยุนเฉิงอยู่ที่เมือง A มีความเป็นไปได้น้อยที่เขาจะเกิดเรื่อง ดังนั้นเวินลั่วชิงเดาว่าถังหลินน่าจะเกิดเรื่อง
ท่านย่าถังได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วชิง ร่างกายก็ได้แข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด สีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนไปทันที เปลี่ยนเป็นสลับซับซ้อนเป็นพิเศษ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับถังหลินเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงเห็นปฏิกิริยาของท่านย่าถัง หัวใจก็หนักอึ้งขึ้นมาทันที เกิดเรื่องขึ้นกับถังหลินจริง ๆ งั้นเหรอ?!
“ฉิงฉิง!!” ในที่สุดท่านย่าถังก็ทนไม่ได้ และร้องไห้ออกมาเสียงดัง ถึงยังไงท่านย่าถังก็ไม่ใช่ท่านปู่ถัง ไม่สามารถอดทนได้อย่างท่านปู่ถัง
“คุณย่าค่ะ คุณย่า คุณย่าอย่าร้องนะคะ……คุณย่าบอกหนูว่าก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับถังหลิน” ท่านย่าถังร้องไห้ออกมาแบบนี้ เวินลั่วฉิงก็ลนลานขึ้นมาทันที ทำให้ท่านย่าถังร้องไห้แบบนี้ได้ เช่นนั้นกลัวว่าเรื่องราว คงจะต้องรุนแรงมากแน่
หรือว่า?!
แต่ว่าท่านย่าถังเอาแต่ร้องไห้ ไม่ตอบคำถามของเวินลั่วฉิงเลยสักนิด
ท่านปู่ถังนั่งอยู่อีกข้าง มองดูภรรยาที่ร้องไห้จนแทบจะหายใจไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน และไม่ได้พูดอะไร หรือแม้แต่คำพูดปลอบใจก็ยังไม่มี
ความคิดเมื่อสักครู่ของเวินลั่วฉิงได้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง: “หรือว่า? หรือว่าพี่ชายของหนูเขา……เขาประสบอันตรายถึงชีวิต?”
ท่านย่าถังร้องไห้แบบนี้ ท่านปู่ทั้งมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ตอนนี้ในหัวของเวินลั่วฉิงมีเพียงแค่ความคิดเดียว เธอคิดว่ามีเพียงถังหลินมีอันตรายถึงชีวิต ถึงทำให้ทั้งสองท่านกลายเป็นแบบนี้ได้!!
ท่านย่าถังได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิง เสียงร้องไห้ถึงได้หยุดลง เธอมองเวินลั่วฉิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา: “หนูไปทำธุระเถอะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”
เวินลั่วฉิงกระพริบตาอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกงงงัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!!
ทำไมถึงไม่มีอะไรแล้วล่ะ?!
พวกเขามีท่าทางแบบนี้เหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?!
แต่ว่า เมื่อสักครู่ที่เธอเดาว่าถังหลินมีอันตรายถึงชีวิตนั้นคงไม่ถูก เวินลั่วฉิงแอบทอดถอนใจ
“พี่ชายของหนูถูกคนลอบทำร้ายอีกแล้วเหรอคะ?” ท่านย่าถังไม่พูด เวินลั่วฉิงก็ทำได้เพียงคาดเดาไปเอง
ท่านปู่ถังและท่านย่าถังต่างก็ไม่พูดอะไร และไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ
“พี่ชายหนูทำผิดกฎหมายเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงเดาต่อ
“เลิกเดาได้แล้ว ไม่มีอะไร หนูไม่ต้องเป็นห่วง” ท่านปู่ทั้งเอ่ยตัดคำพูดที่จะเดาต่อไปของเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางแบบนี้ของเขาก็รู้แล้วว่าถามไปก็ไม่ได้อะไร สู้โทรหาถังหลิน และถามถังหลินตรง ๆ จะดีกว่า
“โอเคค่ะ งั้นหนูออกไปก่อนแล้วกัน” เวินลั่วฉิงมองดูพวกเขาอย่างหยั่งเชิง
ท่านปู่ถังและท่านย่าถังพยักหน้าติดต่อกันอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่อืดอาดชักช้าเลยสักนิด
มุมปากของเวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อย ทั้งสองท่านอยากจะไล่เธอไปมากขนาดไหนกัน?!!
พวกเขารังเกียจเธอมากแค่ไหนกันเนี่ย?
ตั้งแต่กลับมาที่ตระกูลถัง เธอถูกทั้งสองท่านรักใคร่เอ็นดูมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เวินลั่วฉิงยิ่งพบว่าเรื่องราวแปลกประหลาดมากขึ้น
แต่ว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมากอีก เธอลุกขึ้น และออกไปจากห้องโถง แต่หลังจากที่เธอออกไปจากประตูใหญ่ เวินลั่วฉิงก็ได้สั่งให้ผู้ดูแลไปดูท่านปู่ถังและท่านย่าถัง
พูดตามจริง เธอรู้สึกว่าปฏิกิริยาเมื่อสักครู่ของทั้งสองท่านทั้งแปลกประหลาดทั้งน่าตกใจ เธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับทั้งสองท่านจริง ๆ
ในเวลานี้ ถังหลินที่อยู่ในโรงแรมกำลังมองหลินเป้ยที่นอนหลับสนิท ถึงแม้ในแววตาจะแฝงไปด้วยความอ่อนโยน แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสงสัย
เขารู้ว่าเธอทำอะไรอย่างระมัดระวัง มีความระแวดระวัง และการป้องกันสูงมาก แต่ว่าเธอไม่เพียงนอนหลับอยู่ต่อหน้าเขาอย่างไม่มีการป้องกันใด ๆ แถมยังหลับอย่างสนิทแบบนี้
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาจะอุ้มเธอลงจากรถ หรืออุ้มเธอเข้ามาในห้อง เธอล้วนเพียงแค่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ตื่น
เธอเหนื่อยถึงขนาดไหนกันแน่ ถึงได้หลับลึกแบบนี้?
ในช่วงที่ผ่านมาเกิดเรื่องอะไรกับเธอกันแน่?
เขาให้คนคอยจับตาดูสถานการณ์ของเธออยู่ตลอดเวลา แต่เห็นได้ชัดว่าคนของเมิ่งหลินสืบมาได้ไม่มากนัก เมิ่งหลินบอกว่าเธออยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด และช่วงเวลาที่ผ่านมาเธออยู่ที่บ้านตลอดเวลา น้อยมากที่จะออกไปข้างนอก สถานการณ์เช่นนี้ยากมากจริง ๆ ที่จะสืบเรื่องอะไรได้
แต่ว่า ถังหลินรู้ว่า จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอแน่ ไม่อย่างนั้นละก็เธอไม่มีทางที่จะเป็นแบบนี้ พบกันในครั้งนี้ เธอเปลี่ยนไปจากครั้งที่แล้วมาก
คนของเมิ่งหลินจะต้องสืบหาอะไรไม่ได้แน่ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาจัดการเรื่องราวที่ประเทศ R เขาเองก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่า
ถังหลินนึกถึงเย่ซือเฉินขึ้นมาได้ อยู่ที่ประเทศ R เย่ซือเฉินมีอิทธิพลมาก เมิ่งหลินสืบไม่ได้ แต่มีความเป็นไปได้มากที่คนของเย่ซือเฉินจะสืบหาอะไรได้
ที่ข้างกายของเย่ซือเฉินมีคนที่ชำนาญในการขุดข่าวทุกประเภทมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นละก็ ครั้งนี้เย่ซือเฉินคงไม่มีทางที่จะได้รับหลักฐานการกระทำผิดทั้งหมดของโจ๋วอันหนานได้เร็วขนาดนั้น สิ่งที่เย่ซือเฉินต้องการสืบไม่มีทางที่จะสืบไม่ได้