ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1379 คุณชายถังร้ายกาจจริง ๆ (1)
คุณชายถังคิดว่าตัวเองนับว่าได้เดินมาทีละขั้นตอนแล้ว คุณชายถังไม่รู้สึกสักนิดเลยว่าความก้าวหน้าของเขามันเร็วเกินไป คุณชายถังรู้สึกว่ามันช้า ช้ามากจริง ๆ!!
หลินเป้ยรู้สึกว่าตัวเองแทบจะบ้า เธอนึกว่าตอนที่อยู่ที่ประเทศ Z เธอได้เห็นความไร้ยังอาย ความหน้าด้านของถังหลินแล้ว แต่ตอนนี้เธอถึงพบว่าตัวเองนั้นไร้เดียงสาเกินไป ถังหลินในตอนที่อยู่ที่ประเทศ Z เมื่อเทียบกับตอนนี้ดีกว่าอีกมาก
ถังหลินในตอนนี้ถึงเรียกว่าหน้าไม่อายจริง ๆ
ลูกผู้ชายอกสามศอกทำไมถึงหน้าไม่อายได้ถึงขนาดนี้?!
“ผมอยากจูบ ตอนนี้จูบได้ไหม?” ถังหลินไม่รู้เลยสักนิดว่าในใจของหลินเป้ยตอนนี้ได้ด่าเขาจนไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว แน่นอนว่าต่อให้คุณชายถังรู้เขาก็ไม่ใส่ใจ
ตีคือห่วง ด่าคือรัก มีอะไรไม่ถูกเหรอ?
หลินเป้ยตะลึงงันอีกครั้ง เธอนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าในเวลานี้ทั้งหลินจะถามคำถามแบบนี้ออกมาได้อีก แถมท่าทางของถังหลินยังดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ดูไม่สะทกสะท้านแบบนั้น!!
“ไม่ได้” หลินเป้ยกัดฟันตอบ ครั้งนี้ เธอไม่ได้ผ่อนคลาย มือทั้งสองข้างออกแรงผลักหน้าของเขาเอาไว้
หลินเป้ยไม่ได้สังเกตเห็นว่าในเวลานี้มือข้างหนึ่งของเธอกำลังออกแรงปิดอยู่บนปากของถังหลิน มุมปากของถังหลินยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็กัดลงไปบนฝ่ามือของเธอเบา ๆ
หลินเป้ยราวกับถูกน้ำร้อนลวก เธอดึงมือกลับมาโดยสัญชาตญาณ ถังหลินโถมตัวเข้ามาด้านหน้าอีกครั้ง และจูบลงไปบนริมฝีปากของเธอ
“แต่ผมอยาก ผมอยากจูบคุณ ทำยังไงดีล่ะ?” ริมฝีปากของถังหลินกดทับอยู่บนริมฝีปากของเธอเบา ๆ เสียงพึมพำดังเลยออกมา ฟังแล้วให้ความรู้สึกอ่อนโยนบางอย่างที่ทำให้หัวใจคนมึนเมา
มือของหลินเป้ยที่ผลักเขาเอาไว้ยิ่งรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมากว่าเดิม นอกจากนี้ถังหลินก็ไม่ได้ถลำลึกไปกว่านั้น เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ ไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
“ให้จูบไหม?” ถังหลินเงยหน้าขึ้น ในแววตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม และถามคำถามเมื่อสักครู่กับเธออีกครั้ง
“ไม่……” ปฏิกิริยาแรกของหลินเป้ยยังคงคิดที่จะปฏิเสธเหมือนเดิม แต่เมื่อเธอนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อสักครู่เธอปฏิเสธไปแล้วสองครั้ง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร มันห้ามถังหลินเอาไว้ไม่ได้เลยสักนิด
ถังหลินยังคงจูบเหมือนเดิมไม่ใช่หรือไง ดังนั้นคำตอบของเธอมีประโยชน์อะไรเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าถังหลินกำลังแกล้งเธออยู่!
หลินเป้ยโมโหแทบตาย เธอตัดสินใจ ถ้าหากเขายังพูดอะไรเหลวไหลกับเธอ ยังทำเรื่องแบบนั้นกับเธออีก เธอก็จะ เธอก็จะ……
หลินเป้ยยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ในตอนนี้เองจู่ ๆ โทรศัพท์ของถังหลินก็ได้ดังขึ้น
ถังหลินมองดูโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียง สายโทรเข้าจากเมิ่งหลินปรากฏอยู่บนหน้าจอ
ถังหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มา แล้วกดรับ
ถังหลินไม่ได้ลุกขึ้น เขารับโทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่ครึ่งทับหลินเป้ยอยู่อย่างนั้น
“คุณชายถัง คุณ คุณตื่นหรือยังครับ?” ในตอนนี้ เมิ่งหลินที่อยู่ด้านนอกของโรงแรมรู้สึกทรมานมาก นี่มันเก้าโมงกว่าแล้ว คุณชายถังยังไม่ตื่นอีก
เมิ่งหลินนึกถึงเรื่องที่ในห้องของคุณชายถังยังมีผู้ชายอีกคนอยู่ ผู้ชายที่คุณชายถังอุ้มเข้าไปด้วยตัวเองเมื่อคืน เมิ่งหลินก็รู้สึกหัวใจสั่นไหว
ต่างบอกว่าความงดงามทำให้คนลุ่มหลง มันไม่ผิดเลยจริง ๆ คุณชายถังที่ปกติแล้วสุขุมเยือกเย็น เฉลียวฉลาดแบบนั้นยังทำให้เรื่องงานเสียเวลาเพราะความสวยงาม
“อืม” ถังหลินตอบรับหนึ่งครั้ง ฟังไม่ออกว่าน้ำเสียงเป็นยังไง แต่ว่า พอจะฟังออกได้ถึงความไม่พอใจ
มือที่จับโทรศัพท์ของเมิ่งหลินสั่นอย่างเห็นได้ชัด นี่คุณชายถังโกรธแล้วเหรอ?
เขารบกวนเรื่องดี ๆ ของคุณชายถัง?
แต่ว่านี่มันก็เก้าโมงแล้ว ก็ควรที่จะลุกขึ้นมาจัดการเรื่องงานแล้ว เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้กระชั้นชิดเจียนตัว ยังรอให้คุณชายถังมาจัดการอยู่
“คุณชายถังครับ เรื่ององค์กรโกสต์ซิตี้ ทุกคนต่างรอคุณมาจัดการ” เมิ่งหลินคุณชายถังไม่พอใจมากที่ถูกรบกวน แต่เขาก็ยังคงกัดฟันพูดให้จบ
ในตอนนี้ถังหลินนอนทับอยู่บนตัวของหลินเป้ย อยู่ในระยะที่ใกล้มาก ดังนั้นหลินเป้ยจึงได้ยินเสียงจากทางอีกด้านของสาย
ตอนนี้หลินเป้ยถึงนึกขึ้นมาได้ ถังหลินมาในครั้งนี้ก็เพื่อจัดการเรื่ององค์กรโกสต์ซิตี้ เธอได้ยินมาว่าเรื่องนั้นร้ายแรงมาก เพราะยังไงอิทธิพลขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็แข็งแกร่งจนเกินไป คนธรรมดาล้วนไม่กล้าไปมีเรื่องกบพวกเขา
แม้แต่กษัตริย์และเจ้าชายใหญ่ยังหวาดกลัวพวกเขาเลย แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจ้าชายใหญ่ เหมือนว่ากษัตริย์เลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งถังหลินและเย่ซือเฉิน
มันไม่แปลกที่กษัตริย์จะเลือกแบบนั้น เพราะถึงยังไงอยู่ที่ประเทศ R อิทธิพลของถังหลินบวกกับอิทธิพลของเย่ซือเฉินจะต้องมากกว่าองค์กรโกสต์ซิตี้แน่ แน่นอนว่าจะต้องมีคำแนะนำของเจ้าชายใหญ่รวมอยู่ในนั้นด้วย
“อืม” คุณชายถังยังคงตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ฟังอารมณ์ใด ๆ ไม่ออกเหมือนเดิม
“คุณชายถังครับ เรื่องนี้มันร้ายแรง และด่วนมาก ถึงแม้ว่าคืนนี้เจ้าชายใหญ่จะจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับคุณ พวกเขาอาจเลือกที่จะยื่นอยู่ข้างพวกเรา แต่พวกเราจะฝากความหวังทั้งหมดไว้กับราชวงศ์ไม่ได้นะครับ พวกเรายังคงต้องคิดหาวิธีจัดการเอง” อีกด้านของสายเมื่อเมิ่งหลินได้ยินเสียงตอบรับเบา ๆ อย่างไม่ชัดเจนของคุณชายถังก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้ คุณชายไม่ได้ออกเสียงใด ๆ เลยด้วยซ้ำ ดวงตาคู่นั้นเพียงแค่มองไปที่หลินเป้ย
หลินเป้ยสบตากับเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย อยู่ใกล้แบบนี้ เธอจะต้องได้ยินสิ่งที่เมิ่งหลินดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างแน่นอน
“ไม่ต้องมองฉัน ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น” ความจริงแล้วหลินเป้ยไม่ค่อยรู้เรื่องนี้จริง ๆ และเธอก็ไม่รู้ว่ากษัตริย์และเจ้าชายใหญ่หารือกันได้ว่ายังไงกันแน่
เสียงของหลินเป้ยนั้นเบามาก เมื่อดังไปถึงทางด้านเมิ่งหลินก็ได้ยินเป็นเพียงเสียงดังอู้อี้เท่านั้น เมื่อได้ยินเข้าหูของเมิ่งหลิน ก็ค่อนข้างจะเหมือนเสียงออดอ้อน
เมิ่งหลินแอบทอดถอนใจอยู่ภายในใจ คุณชายถังทำเรื่องจริงจังสักหน่อยจะได้ไหม?
“คุณชายถังครับ พวกเราจะไปที่สาขาในประเทศ R ได้ไหมครับ? ผู้คนที่อยู่ทางนั้นต่างก็รออยู่” เมิ่งหลินพยายามอดทนอย่างเต็มที่ ถึงไม่ให้ตัวเองด่าออกมา แต่ยังไงซะเขาก็ต้องลากคุณชายถังออกมาให้ได้ จะต้องให้คุณชายถังอยู่ห่างจากผู้ชายร้อยเล่ห์คนนั้นเอาไว้
“ไม่ไป” เดิมทีถังหลินก็ไม่คิดที่จะไปที่สาขาอยู่แล้ว ไปที่สาขาแล้วจะทำอะไรได้? ประชุมกับคนพวกนั้นงั้นเหรอ?
เรื่องนี้ถ้าหากการประชุมสามารถคลี่คลายได้ ก็ไม่จำเป็นต้องให้เขามาแล้ว!
“คุณชายถังครับ……” เมิ่งหลินร้อนรนขึ้นมา เขาร้องตะโกนออกมาทันที แต่ว่าเมิ่งหลินเองก็เข้าใจดีว่าถ้าคุณชายถังไม่ไป เขาเองก็ไม่สามารถบังคับคุณชายถังไปได้
“คุณชายถังมีแผนว่ายังไงเหรอครับ? ต้องการจัดการเรื่องนี่ผ่านทางราชวงศ์เหรอครับ? งั้นคุณชายถังก็ควรที่จะเตรียมตัวสักหน่อย คุณชายถังจะติดต่อกับเจ้าชายใหญ่โดยตรง หรือว่า……” เมิ่งหลินนึกถึงเรื่องที่คุณชายถังติดตามเจ้าชายน้อยขึ้นมา เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดต่อ: “เมื่อคืนคุณชายถังได้เอ่ยถึงเจ้าชายน้อย แต่ผมคิดว่าถ้าต้องการจัดการเรื่องราวผ่านทางราชวงศ์จริง ๆ ติดต่อกับเจ้าชายใหญ่โดยตรงจะดีกว่า ในราชวงศ์เจ้าชายน้อยไม่ได้เป็นที่รักสักเท่าไหร่ ไม่มีอิทธิพลใด ๆ ถ้าหากคุณชายถังเอาแต่เสียเวลากับเจ้าชายน้อยจะทำให้เสียเวลาเปล่านะครับ”
ในตอนนี้ ถังหลินทับอยู่บนตัวของหลินเป้ย อยู่ใกล้กันมาก คำพูดของถังหลินดังเข้าหูของหลินเป้ยอย่างชัดเจน
หลินเป้ยมองถังหลิน ดวงตาคู่นั้นเบิกกลมโตเล็กน้อย เธอค่อนข้างจะโมโห แต่ก็อยากจะหัวเราะเยาะมากกว่า
ถังหลินต้องการหลอกให้เธอเหรอ? แต่ก็เมื่อกับที่คนคนนั้นพูดเมื่อสักครู่ อยู่ที่ราชวงศ์เธอไม่ได้เป็นที่รัก ไม่มีอิทธิพลใด ๆ ถังหลินมาหาเขาเป็นการเสียเวลาจริง ๆ
ถังหลินสบตากับดวงตาที่เบิกโตด้วยความโมโหของเธอ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ปรากฏรอยยิ้มอ่อน ๆ เมิ่งหลินพูดคำพูดแบบนั้นอยู่อีกด้านของสาย ถังหลินยังคงไม่มีท่าทีว่าหลบเลี่ยงเหมือนเดิมในทางกลับกันกลับขยับเข้าใกล้เธอขึ้นมาอีก ทั้งสองคนแทบจะตัวติดเข้าด้วยกันอยู่แล้ว
หลินเป้ยผลักเขา แต่ก็ไม่สามารถผลักออกได้ หลินเป้ยอยากให้เขาออกไป แต่ตอนนี้เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ตอนนี้โทรศัพท์ของเขาอยู่ที่ข้างปากของเขา ถ้าหากตอนนี้เธอพูดออกมา ทางนั้นจะต้องได้ยินแน่
เธอไม่อยากจะให้คนอื่นเข้าใจผิด ดังนั้นเธอจึงอดทนเอาไว้ ไม่ได้ส่งเสียงออกมา
“คุณชายถังครับ คุณได้ยินที่ผมพูดไหม?! ผมคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตีสนิทกับเจ้าชายน้อยนั่น หรือคุณชายถังจะเปลี่ยนแผน……” เมิ่งหลินไม่รู้สถานการณ์ทางฝั่งนี้ เขายังคงพูดต่อไป
หลินเป้ยจ้องมองเขา ลูกตาแทบถลนออกมา เธอไม่กล้าส่งเสียงพูด เขาทับเธออยู่ เธอขยับไม่ได้ ดังขันเธอขึงทำได้เพียงยกขาขึ้นแล้วถีบเขา
ที่หลินเป้ยถีบนั้น สำหรับถังหลินแล้วไม่นับอะไรเลยสักนิด ถังหลินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“ไม่ต้อง” ถังหลินยิ้ม ชัดเจนว่าคำพูดนี้ได้พูดกับเมิ่งหลินที่อยู่อีกฝั่งของสาย
จากนั้นถังหลินก็วางสายไป ถ้ารู้ว่าเมิ่งหลินจะโทรมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ เขาก็คงไม่รับสายแน่
“อยู่ในราชวงศ์ฉันไม่ได้เป็นที่รัก ไม่มีอิทธิพลอะไร ดังนั้นคุณอย่ามาเสียเวลากับฉันเลย” เมื่อเห็นเขาวางสายไป หลินเป้ยถึงได้ส่งเสียงออกมา เห็นได้ชัดว่าในน้ำเสียงของเธอมีความโมโหอยู่ และยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่ตัวเธอไม่ได้สังเกต
ถ้าหากฟังอย่างละเอียด ยังสามารถฟังออกได้ว่ามีความรู้สึกน้อยใจอยู่เล็กน้อย!!
“แต่ผมอยากจะใช้เวลาอยู่กับคุณนี่นา” ถังหลินมองเธอ มุมปากอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น ท่าทางโกรธเล็กน้อยของเธอช่างดูมีชีวิตชีวา ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ
ทำให้เขาชอบมากเป็นพิเศษ!!