ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1384 คำพลอดรักชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คำพลอดรักของคุณชายถัง (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1384 คำพลอดรักชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คำพลอดรักของคุณชายถัง (2)
เธออายุยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยมีคนบอกว่าเธอสำคัญมาก ไม่เคยมีคนบอกว่าขาดเธอไม่ได้เลย!!
เธอรู้ตัวว่า ในราชสำนักมีเธอหรือไม่มีก็ได้ ในสายตาคุณแม่ เธอก็เป็นแค่เครื่องมือที่ท่านใช้เพื่อได้มาซึ่งความสุขสบายเท่านั้น
ซึ่งเธอไม่ยินดียอมรับสิ่งนี้เสมอมา ทว่ากลับไม่ยอมรับไม่ได้ หากคุณแม่เป็นห่วงเธอจริงๆ ตอนนั้นก็จะไม่ให้เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปอยู่ในพระราชวัง เพราะใครๆก็รู้กันดีว่า หากเธอถูกเปิดโปงสถานะเมื่อไหร่ เธอก็มีแต่ตายสถานเดียว ซึ่งตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ตอนนั้นเธอไม่มีความสามารถปกป้องตัวเองเลย
ทว่าคุณแม่ก็ยังผลักเธอเข้าไปอยู่ในราชวังอีก
หลายปีมานี้ เธอคุ้นเคยกับชีวิตลักษณะนี้แล้ว คุ้นเคยกับการถูกมองข้าม คุ้นเคยกับการดูใช้เป็นเครื่องมือ คุ้นเคยกับการที่ไร้ความเป็นห่วง คุ้นเคยกับการที่ไร้คนรักใคร่เอ็นดู
ทว่าตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าบอกเธอว่า ไม่มีอะไรสำคัญกว่าเธอ
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าเธอ!!
ถึงแม้เขาจะหลอกเธอ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอซาบซึ้งกินใจ เพราะหลายปีมานี้ ถึงจะเป็นแค่คำลวงโลก แต่ก็ไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับเธอมาก่อน!!
รวมทั้งคุณแม่ของเธอด้วย!!
และเธอรู้ว่าเขาไม่ได้หลอกเธอ ถึงแม้เธอจะเคยแอบด่าถังหลินในใจว่า ต่ำทราม ไร้ยางอาย ทว่าเธอรู้ว่าคนอย่างถังหลินไม่จำเป็นต้องพูดปด ยิ่งไม่มีความจำเป็นที่จะพูดโกหกกับเธอ
เพราะเธอไม่มีประโยชน์ให้ถังหลินหลอกใช้ เหมือนอย่างคำพูดของคนที่โทรหาถังหลินไม่มีผิดเพี้ยน เธอไม่เป็นที่โปรดปรานในราชสำนัก ไม่มีอิทธิพลอะไร ไม่มีคนฟังคำพูดของเธอ
ดังนั้นถังหลินไม่มีความจำเป็นต้องหลอกลวงเธอจริงๆ!!
ทันใดนั้นหลินเป้ยรู้สึกแสบตรงจมูก ดวงตาเริ่มเลือนราง เธอรีบหลุบตาลงเพื่อปกปิด ก่อนจะคีบซาลาเปามาก้มหน้ากิน
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?”ถังหลินอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ยัยคนนี้เขินอาย หรือว่าซาบซึ้งจนอยากร้องไห้กันแน่?ท่าทางปกปิดความรู้สึกนี้ชัดแจ้งมาก
“อืม อร่อย” หลินเป้ยฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลริน เธอพยักหน้าหงึกๆแรงๆ
“อืม งั้นคุณกินเยอะหน่อย” ถังหลินถอนหายใจเบาๆ เขาดูออกว่าเธอมีเรื่องปิดบังเขา ทว่าเธอไม่อยากพูด เขาก็จะไม่เค้นถาม เขาค่อยสืบทีหลังก็ได้ ยังไงก็รู้ความจริงอยู่ดี
ถังหลินเห็นเธอก้มหน้าจนเกือบจะฟุบลงโต๊ะอาหารแล้ว รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น!!
ทว่าถังหลินไม่ได้พูดอะไรมากอีก เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนหน้าด้าน กลัวเธอจะเขินอายอีก
ถังหลินเอามือถือโทรหาเมิ่งหลิน
เขามาด้วยเรื่ององค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้เธออิ่มพอสมควรได้ และก็ไม่ได้เช้าแล้วด้วย ดังนั้นเขาควรเริ่มจัดการธุระได้แล้ว
“ช่วยผมนัดคนที่รับผิดชอบองค์กรโกสต์ซิตี้ในประเทศRด้วย”อันที่จริงถังหลินมีแผนในใจแล้ว ด้วยวิธีการขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขารู้สึกคลางแคลงใจหลายจุด ดังนั้นเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องนัดพบคนรับผิดชอบสักหน่อย
แน่นอน ถังหลินรู้สึกว่ามีผลดีกว่าประชุมในบริษัท
หลินเป้ยได้ยินเขาพูดก็หยุดกินซาลาเปา พลางรีบเงยหน้าขึ้นมองถังหลิน
ถังหลินส่งยิ้มให้เมื่อเธอมองมา
หัวใจหลินเป้ยไมได้ผ่อนคลายเท่ากับเขา เธอได้ยินถังหลินพูด ชั่วพริบตานั้นหัวใจก็เหมือนถูกบีบ ถังหลินจะพบหน้าคนดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้เหรอ?
ถังหลินจะเจอหน้าคารู?!
คารูคนนี้……
“คุณชายถังจะนัดพบกับคารูเหรอครับ?คารูเป็นคนปลิ้นปล้อน เจ้าเล่ห์มาก โหดร้าย เป็นคนไร้คุณธรรม ไม่มีหลักการ คุณไปเจอหน้าคนอย่างนี้มันอันตรายนะครับ”เมิ่งหลินตกตะลึงพรึงเพริด เขาคาดไม่ถึงว่าเวลาคุณชายถังนิ่งก็คือนิ่ง แต่พอเริ่มลงมือขึ้นมาจะเล่นใหญ่ขนาดนี้
หลายปีมานี้เขาอยู่ในประเทศRตลอด และคารูก็เป็นคนดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้เสมอมา เมื่อก่อนถึงแม้พวกเขาจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับองค์กรนี้มากนัก ทว่าเขาก็เคยได้ยินคำเล่าลือเรื่องของคารูไม่น้อย
และครั้งนี้อีกฝ่ายไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีพวกเขา แต่ก็ลงมือแล้ว ลำพังจุดนี้ก็สามารถบ่งชี้ให้เห็นว่าคารูเป็นคนไร้เหตุผล
“ช่วยผมติดต่อเขาแล้วนัดเวลาเจอกันด้วย”ก่อนถังหลินเดินทางมาถึงก็พอจะรู้รายละเอียดมาพอสังเขปแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกนิสัยใจคอของคารู
ทว่าเขายังคงตัดสินใจอยากพบหน้าคารู
ครั้งนี้องค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีเขากะทันหัน ถังหลินรู้สึกว่าไม่เหมือนแก้เผ็ดให้เจ้าหญิงเลย
เพราะตอนนี้หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ในเมืองA ซึ่งเมืองA7ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ถึงแม้กฎหมายเมืองAจะเคร่งงวดมากจนไม่อาจทำอะไรเรื่อยเปื่อยก็ตาม ทว่าด้วยอำนาจความสามารถขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากคิดจะลงมือกับพวกเขาก็มีวิธีอื่น ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธสงครามเสมอไป!
ดังนั้น ถังหลินคิดว่าอยากคลี่คลายปัญหานี้ อันดับแรกต้องเรื่องต้นสายปลายเหตุเสียก่อน ต้องรู้ว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไร
หากไปประชุมตามที่เมิ่งหลินบอก มติที่ได้ต้องเป็นการโจมตีองค์กรโกสต์ซิตี้กลับแน่นอน ซึ่งมันจะยิ่งทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โตมากขึ้น
เขาไม่ใช่กลัวกลายเป็นเรื่องใหญ่ เขาแค่ไม่อยากให้คนของตนต้องบาดเจ็บล้มตายเฉยๆ
อยากไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ จำเป็นต้องหาสาเหตุให้พบแล้วแก้ไขให้ตรงจุด
“คุณชายถังครับ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ มันอันตรายเกินไปครับ พวกเราประชุมหารือที่บริษัทก่อนนะครับ”เมิ่งหลินรู้ความอันตรายของเรื่องนี้ดี เขาไม่อยากให้ถังหลินนัดพบคารูที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา
เขาเคยได้ยินมาว่าคารูเคยฆ่าคนมากมาย แถมวิธีการยังโหดเหี้ยมมาก ซึ่งเมิ่งหลินรู้ว่าไม่ใช่ข่าวลือมั่วซั่ว มันคือความจริงล้วนๆ
อยู่ประเทศRไม่เหมือนกับอยู่ประเทศz ที่นี่วุ่นวายมาก เกิดจลาจลบ่อยครั้ง บางครั้งชีวิตคนก็เหมือนผักปลาคารูเอาชีวิตคนมากมาย แต่พระราชาก็ไม่เห็นทำอะไรเขาเลย
ในประเทศRจะเป็นรูปแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก
คุณชายถังมาเยือนประเทศRครั้งแรก ยังไม่ค่อยรู้สถานการณ์ทางนี้ คุณชายถังคิดง่ายเกินไป และมองโลกสวยเกินไป
“ไม่จำเป็นแล้ว นายนัดเจอเขาเลย หากนายนัดไม่ได้ ผมจะนัดเขาเอง”ความหมายถังหลินชัดเจนมาก ไม่มีที่ให้เจรจาสักนิด
“ครับ ผมจะนัดหมายให้ครับ” เมิ่งหลินรู้ว่าคุณชายถังตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เขาปล่อยให้คุณชายถังไปนัดแนะเองไม่ได้
ดังนั้นถึงจะเป็นห่วง แต่เขาก็ต้องรับปาก หากไม่ไหวจริงๆ ถึงเวลาก็พาลูกน้องไปปกป้องคุณชายถังหลายๆคน
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาความปลอดภัยของคุณชายถังเป็นอันดับแรก
“ถ้านัดได้แล้วผมจะโทรหานะครับ” เมื่อเมิ่งหลินรับปากว่าจะทำ ถังหลินก็ไม่ได้พูดอะไร วางสายเลย
หลินเป้ยมองเขาด้วยใบหน้าคล้ายอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าก็ไม่ได้พูดออกมา
“อะไรเหรอ?อยากพูดอะไร?”ถังหลินเห็นท่าทีของเธอก็อดยกมุมปากขึ้นมายิ้มไม่ได้
“คุณจะนัดเจอคารู?”หลินเป้ยแอบถอนหายใจ พยายามระงับความกังวลใจ ไม่ให้เสียงของตนสื่ออารมณ์มากนัก
“อืม” ถังหลินไม่มีความคิดจะปิดบังเธอ ไม่งั้นเมื่อกี้เขาก็คงไม่โทรศัพท์คุยต่อหน้าเธอหรอก
“คารูเป็นคนเลือดเย็น มีพิษสงมาก ฉันได้ยินเจ้าชายใหญ่บอกว่า เขาฆ่าคนไม่กะพริบตา ไร้ความเป็นคนสุดๆ คุณไปเจอหน้าเขา เกรงว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี”หลินเป้ยพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาคุย ไม่สื่อความในใจของตนตรงๆ
และถ้อยคำของเธอก็ไม่ได้เกินเลย คารูคนนี้เป็นอย่างที่เธอเปรยจริงๆ
คารูเห็นใครขวางหูขวางตาหน่อยก็จะฆ่าทิ้งโดยไม่สนใจว่าคนผู้อื่นเป็นใคร เขาจะฆ่าให้หมด
ตอนนี้องค์กรโกสต์ซิตี้ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ถังหลินไปเจอหน้าคารูเวลานี้มันอันตรายเกินไป ไม่แน่ว่าหากพูดไม่เข้าหู คารูก็อาจจะฆ่าถังหลินทิ้ง
หากอยู่ในถิ่นของถังหลินก็ยังพอปลอดภัยอยู่ แต่ถ้าเกิดคารูนัดเจอในถิ่นขององค์กรโกสต์ซิตี้ มันจะไม่เป็นผลดีกับถังหลิน
คารูเจ้าเล่ห์เพทุบายแต่ไหนแต่ไร ตอนนี้ถังหลินขอนัดเจอกัน คารูต้องเลือกถิ่นตัวเองแน่ ไม่เพียงเท่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่คารูจะเลือกสถานที่ที่เอื้ออำนวยความสะดวกต่อตัวเอง
ถึงเวลานั้นเกรงว่าถังหลินจะ……
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ หลินเป้ยก็อดหวาดกลัวไม่ได้
ใช่ เธอกำลังกลัวอยู่ กลัวขนานแท้!!
ตอนที่ถังหลินคุยโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นยืนแล้ว ซึ่งเริ่มห่างกับเธอแล้ว เมื่อถังหลินได้ยินเธอพูดก็ก้มหน้ากะทันหัน ร่างกายเขาจึงทิ้งเข้าหาเธอ
ใบหน้าสมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติของถังหลินขยายใหญ่ขึ้นในสายตาเธอ ทำให้เธอสะดุ้งโหยงกันเลยทีเดียว