ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1386 บอกเขาเรื่องท้อง (2)
ถังหลินรู้ว่า เขาจะได้แต่งงานกับหลินเป้ยก็ต่อเมื่อสะสางเรื่องราวต่างๆเสร็จสิ้นแล้ว
“ฉันรู้แล้ว” หลินเป้ยคิดไม่ถึงว่าถังหลินจะพูดเช่นนี้ พูดให้ถูกก็คือ เธอคิดไม่ถึงว่าถังหลินจะคิดรอบคอบเพียงนี้
เธอแอบด่าในใจว่าถังหลินเป็นคนโหดร้าย ต่ำทราม ตลอด ตอนนี้กลับรู้สึกว่าถังหลินใช้ได้เลย
ก็ถูกอยู่ ถังหลินเป็นถึงตัวเต็งในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลของรุ่น!!
ถังหลินกินซาลาเปาเข่งเล็กที่หลินเป้ยกินไม่หมด จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าเสื้อรอโทรศัพท์จากเมิ่งหลิน เมื่อเมิ่งหลินนัดหมายสำเร็จ เขาก็ออกไป
หลินเป้ยเป็นคนฉลาด รู้ว่าเขากำลังรอโทรศัพท์อยู่ เธอยังรู้ว่าเขากำลังรอข่าวคราวของคารูอยู่ สติปัญญาบอกเธอว่าอย่ายุ่งมาก เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ไม่เกี่ยวกับเธอเลย!!
ทว่าสุดท้ายเธอก็อดถามเสียงเบาไม่ได้“คุณจะไปเจอหน้าคารูจริงๆเหรอ?”
หลินเป้ยถามแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดและเสียใจที่ถามเช่นนี้ เมื่อครู่พึ่งพูดถึงเรื่องนี้ไปหมาดๆ ก่อนหน้านี้ถังหลินคิดว่าเธอเป็นห่วงเขา ทำไมเธอถึงไม่จำใส่ใจบ้างนะ ยังสาระแนถามอีก
รู้ทั้งรู้ว่าระหว่างเธอกับถังหลินเป็นไปไม่ได้ ทำไมเธอถึงไปยุ่งไปถามอย่างคนไร้สมองอีก?
ถังหลินไม่ได้แสดงสีหน้าผิดปกติอะไร หันไปมองเธอ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “อืม”
หลินเป้ยก็เงยหน้ามองไปยังเขา รู้สึกหัวใจสับสนวุ่นวายเหลือเกิน?
ไม่ไปไม่ได้เหรอ?หลินเป้ยอ้าปากขมุบขมิบ แต่สุดท้ายก็กล้ำกลืนวาจาลงคอ หลินเป้ยรู้ว่าเธอพูดอย่างนั้นไม่ได้
คำบางคำ หลินเป้ยไม่มีสิทธิ์พูด เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำในขณะนี้คืออยู่เงียบๆ ทว่าหัวใจกลับรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ
“ผมรู้ว่าเจ้าชายใหญ่จัดงานเลี้ยงต้อนรับผม แสดงว่าราชสำนักอยู่ฝ่ายพวกผม แต่จัดการเรื่องนี้ยากมาก ถึงแม้ราชสำนักตัดสินใจอยู่ฝ่ายพวกผม จากนั้นล่ะ?”ถังหลินยิ้มกับการเงียบงันของเธอ ทั้งยังอธิบายให้เธอฟังอย่างมีความอดทน
“ราชสำนักหยุดยั้งคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้หรอก ทางกลับกัน ราชสำนักยิ่งหยุดยั้งพวกเขา ยิ่งยืนข้างพวกผม เกรงว่าจะยิ่งขัดแย้งมากขึ้น องค์กรโกสต์ซิตี้จะยิ่งโจมตีหนักกว่าเดิม”ถังหลินรู้ว่าไม่ได้พูดโอเวอร์แต่อย่างใด ด้วยการกระทำก่อนหน้านี้ ถังหลินไม่สงสัยจุดนี้ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสักนิด
“แล้วทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นอริกัน โจมตีอีกฝ่ายอย่างไม่เลิกรา แล้วเกิดสงครามเรื่อยๆ?คนพวกเรามาอยู่ทางนี้ก็เพื่อหาเงิน ไม่ได้จะมามอบชีวิตไว้ที่นี่”ระหว่างที่ถังหลินพูด ใบหน้าหนักอึ้งหลายส่วน ถังหลินไม่อยากให้ใครเสียชีวิตด้วยเรื่องนี้แม้แต่คนเดียว
“ผมไม่ชอบสงคราม ยิ่งไม่อยากให้บาดเจ็บล้มตาย ผมอยากแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หยุดความตายที่ไม่จำเป็น ดังนั้นผมจำเป็นต้องไปหาคารู”ถังหลินอธิบายอย่างตั้งใจและละเอียดมาก ขนาดกับเมิ่งหลิน ถังหลินยังไม่อธิบายละเอียดเท่านี้เลย
อย่าว่าแต่เมิ่งหลินเลย ถึงแม้ตอนนี้เย่ซือเฉินอยู่ด้วย ถังหลินก็อาจจะไม่อธิบายเช่นนี้
แน่นอน เขากับเย่ซือเฉินเป็นพี่น้องเพื่อนสหายที่ดีต่อกัน เขาไม่จำเป็นต้องพูด เย่ซือเฉินก็จะเข้าใจโดยปริยาย และให้ความร่วมมือกับเขา
“คุณพบหน้าเขาแล้วจะแก้ปัญหาได้เหรอ?คนนั้นเจ้าเล่ห์มาก ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”หลินเป้ยมองหน้าเขา ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆหัวใจก็รู้สึกแปลกพิกล
ไม่มีใครคอยอธิบายให้เธอฟังอย่างละเอียดเช่นนี้ ในราชสำนักไม่มีใครเห็นความสำคัญเธอ ไม่มีคนใส่ใจความคิดเห็นของเธอ จึงไม่มีใครอธิบายให้เธอฟัง
ถึงแม้เจ้าชายใหญ่จะเชื่อใจเธอ ให้เธอปฏิบัติหน้าที่สำคัญ ทว่าเจ้าชายใหญ่ก็ไม่เคยอธิบายเรื่องพวกนั้นให้เธอฟังเลย
สำหรับมารดาเธอ……
หลายปีมานี้ คุณแม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ วันๆหนึ่ง ไม่ใช่ไปช้อปปิ้งก็ไปเสริมสวย เวลาอื่นก็เล่นไพ่นกกระจอกกับภรรยาเศรษฐี เธอจำไม่ได้ว่าพูดคุยดีๆกับคุณแม่ครั้งสุดท้ายตอนไหนแล้ว
และเธอรู้ว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องงานของถังหลิน ไม่ควรแพร่งพรายกับคนนอก
ทว่าตอนนี้ถังหลินกลับบอกเธอทั้งหมด แถมยังละเอียดมากด้วย!!
“เมื่อเผชิญหน้ากับคนไม่มีเหตุผล พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่มีเหตุผลเช่นกัน”ถังหลินมาสะสางเรื่องนี้ จึงรู้ประวัติของคารูอยู่บ้างแล้ว
ถังหลินไม่ใช่คนวู่วาม ก้าวร้าว เขามีวิธีการอยู่ในใจแล้ว
“คุณ คุณคิดจะทำอะไร?”หลินเป้ยได้ยินคำพูดนี้ก็ตกตะลึง ไม่ใช้วิธีที่มีเหตุผล?
แล้วเขาคิดจะใช้วิธีอะไร?
คนอย่างคารูนั้นไม่มีเหตุผล ทั้งยังโหดเหี้ยมมาก แล้วคนสุภาพและมีการศึกษาอย่างถังหลินเผชิญหน้ากับคารู เกรงว่าคงจะ……
หลินเป้ยอดเป็นห่วงไม่ได้ ลืมเรื่องที่เธอแอบด่าถังหลินในใจเสียสนิท
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง”ถังหลินไม่อยากอธิบายไปมากกว่านี้ เขาไม่อยากทำให้เธอตกใจ ถึงเธอจะฉลาดและสุขุมเพียงใด แต่ก็ยังเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆอยู่ดี
ถึงแม้เธอจะฟันฝ่าอุปสรรคในราชสำนักมากมาย ทว่าเธอไม่เคยเผชิญหน้ากับความโหดร้ายบางประเภท
“คุณคิดจะใช้ความรุนแรงกับคารูเหรอ?”หลินเป้ยไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา ถึงแม้ถังหลินไม่พูด เธอก็พอจะเดาออก ในเมื่อไม่ใช้เหตุผลคุยกัน คนอย่างคารูก็ยิ่งไม่มีทางใช้เหตุผลอย่างแน่นอน
เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เดียว ต้องใช้กำลังอาวุธจัดการแน่แท้
หลินเป้ยเป็นเจ้าชายน้อยแห่งประเทศR เธอเข้าใจสถานการณ์ภายในประเทศดี ซึ่งคารูนั้นน่ากลัวอย่างสุดแสน และมีอำนาจอิทธิพลในประเทศRมหาศาล
มีอำนาจจนสามารถขู่เข็ญราชาได้เลย เท่าที่เธอรู้ว่า ไม่ใช่ครั้งเดียวที่พระราชาประนีประนอมต่อคารูผู้นี้
สาเหตุที่พระราชารับปากข้อเสนอของเจ้าชายใหญ่ มายืนอยู่ฝ่ายถังหลินกับเย่ซือเฉินก็คือ ไม่อยากโดนคารูกรรโชกอีกต่อไป
พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ พระราชาให้ใช้ถังหลินกับเย่ซือเฉินเป็นเครื่องมือปะทะกับคารู
ดังนั้น งานนี้ที่เจ้าชายใหญ่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับถังหลินไม่ใช่เรื่องดีแน่ ไม่ดีต่อถังหลินแน่
อย่างที่ถังหลินบอก ท่าทีของพระราชาส่งผลทำให้สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ ยิ่งขัดแย้งกันมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าถังหลินคาดคะเนจุดนี้ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากพบหน้าคารูก่อน
ทว่าถังหลินพึ่งมาถึงประเทศR บวกกับลูกน้องของถังหลินนั้นมีทำธุรกิจ แล้วจะรับมือคนฝ่ายคารูได้หรือ
คุณชายผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลถัง ยิ่งไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้คนอย่างคารูได้แน่
หากใช้อาวุธ ใช้กำลัง ถังหลินต้องมีอันตรายแน่
ถังหลินไม่ตอบคำถามหลินเป้ย ถังหลินก็รู้ว่าการไปครั้งนี้นั้นมีอันตรายรออยู่ตรงหน้า ทว่าหากเขาไม่ไปก็จะสะสางเรื่องนี้ไม่ได้ จากนั้นก็จะมีแต่สงครามนับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเห็นที่สุด
“ถังหลิน คุณไม่รู้จักคนอย่างคารู คุณไม่รู้ว่าคารูมีอิทธิพลในประเทศRมากแค่ไหน คุณไม่ควรไป”ถึงแม้หลินเป้ยจะบอกตัวเองในใจว่าอย่ายุ่งเรื่องถังหลิน ทว่าเธอก็หักห้ามใจไม่ได้
เมื่อกี้คำพูดของถังหลินทำให้เธอตกใจมาก และการเงียบของถังหลินตอนนี้ก็ยืนยันการสันนิษฐานของเธอ ดังนั้น เธอรู้สึกว่าต้องขัดขวางถังหลินให้ได้
“เป็นห่วงผมขนาดนี้จริงๆเหรอ?”ถังหลินมองหน้าเธอด้วยใบหน้าที่เจือรอยยิ้ม เสียงก็อ่อนนุ่มมาก
เขาดูออกว่าตอนนี้เธอกังวลใจ กังวลใจมาก กังวลใจเพราะเขา
“ถังหลินฉันไม่ได้พูดล้อเล่นกับคุณนะ ฉันจริงจังมาก ฉันหวังว่าคุณจะคำนึกถึงผลลัพธ์ที่ทำเช่นนี้”หลินเป้ยได้ยินเขาพูดก็รุ้สึกหงุดหงิด เริ่มโกรธขึ้นมา
ตอนนี้มันเวลาไหน ทำไมผู้ชายคนนี้ยังมัวแต่พูดคำพวกนี้อยู่ได้
“ถึงแม้คุณจะเจอหน้าคารู แต่ก็ต้องสืบประวัติเขาให้รู้เรื่องก่อน”หลินเป้ยรู้ว่าเมื่อถังหลินตัดสินใจแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ เธอจึงพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ให้เขาฟัง
“ผมสืบมาแล้ว วางใจเถอะ ไม่เป็นอะไรหรอก”ถังหลินปลอบใจเธอเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงเนิบช้ามาก ฟังแล้วไม่มีความตึงเครียดสักนิด ชวนให้ฟังแล้วสบายมาก
ทว่าหลินเป้ยรู้ว่ามันอันตรายขนาดไหน ดังนั้นไม่ใช่คำพูดหนึ่งประโยคของถังหลินจะปลอบประโลมเธอได้
หลินเป้ยกำลังคิดจะห้ามเขายังไง จะขัดขวางวิธีการของถังหลินที่ไม่หวงชีวิตอย่างไรดี
จากท่าทางของถังหลิน หลินเป้ยรู้ว่าโน้มน้าวถังหลินยากมาก
สมองของหลินเป้ยโผล่เรื่องที่ตัวเองตั้งท้องขึ้นมา มีชั่ววินาทีหนึ่งบังเกิดความคิดนี้ขึ้น หากถังหลินรู้ว่าเธอท้อง เขาจะ?!!!