ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1408 คุณทำแบบนี้กับผม(2)
ตอนที่ถังหลินเห็นหลินเป้ยที่ยืนอยู่ใกล้ๆตรงหน้าประตูนั้น มุมปากก็อดที่จะยกขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่ถังหลินลงจากรถแล้วสบตากับหลินเป้ยที่มองมาพอดี ช่วงเวลานั้น ในใจของถังหลินก็อดที่จะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไม่ได้!!
ดังนั้นหลินเป้ยกำลังรอเขาอยู่จริงๆ
หลินเป้ยเห็นถังหลินปรากฏตัวขึ้นมา ในที่สุดหัวใจดวงหนึ่งก็ร่วงลงมา เธอแอบรู้สึกโล่งใจ มือที่กำอยู่แน่นนั้นผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
เขากลับมา เขากลับมาอย่างปลอดภัย กลับมาก็ดีแล้ว!!
เนื่องจากองค์กรโกสต์ซิตี้ทางนั้นยังไม่ได้ตอบกลับถังหลิน วันนี้เรื่องที่ถังหลินไปพบคารูนอกจากหลินเป้ยแล้วคนนอกคนอื่นๆก็ไม่มีใครรู้
ส่วนเรื่องที่คารูถูกฆ่านั้น องค์กรโกสต์ซิตี้ทางนั้นไม่ได้เปิดเผย เพราะฉะนั้นคนนอกจึงยังไม่รู้
หลินเป้ยไม่ได้รับข่าวคราวเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเป็นกังวลมาโดยตลอด
เดิมทีเธอคิดจะโทรหาถังหลิน แต่ในใจของเธอก็รู้สึกกลัว เธอกลัวว่าถังหลินยังกำลังเจรจากับคารูอยู่ เธอกลัวว่าเธอจะโทรไปรบกวนถังหลิน
และเธอก็ยิ่งรู้สึกกลัวว่าเธอจะโทรไปติด กลัวว่าจะได้ยินข่าวไม่ดี ดังนั้นเธอจึงรออยู่ตลอด
ตอนนี้เห็นถังหลินยังดีอยู่ ในที่สุดเธอก็รู้สึกวางใจแล้ว
ดวงตาคู่นั้นของถังหลินมองมายังหลินเป้ย ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม แล้วเดินตรงมายังหลินเป้ย
หลินเป้ยมองถังหลินที่กำลังเดินตรงมาที่เธอ ถังหลินเดิมทีก็หน้าตาดีอยู่แล้ว ตอนนี้รอยยิ้มแบบนี้ เดินมารับกับแสงไฟ หลินเป้ยมองด้วยความตกตะลึงไปแล้ว
จนกระทั่งถังหลินเดินมาตรงหน้าเธอ เธอถึงได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมา ดีที่ตอนนี้ไม่ได้มีคนอยู่มากนัก คงจะไม่มีใครเห็นการเสียอาการของเธอหรอกนะ
“กำลังรอผมอยู่หรือครับ?” ถังหลินเดินมาข้างๆเธอ เข้ามาใกล้ข้างๆหูเธอเล็กน้อย พลางเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ น้ำเสียงดูขำๆอย่างเห็นได้ชัด
“คุณถัง เจ้าชายให้ฉันมาต้อนรับคุณถัง” หลินเป้ยดึงสติกลับมา หลังจากที่มีปฏิกิริยาตอบกลับมาแล้วในใจก็แอบหงุดหงิดกับการเสียอาการของตัวเอง ได้ยินถังหลินหัวเราะขำๆแบบนั้น และยังคำพูดที่ดูคลุมเครือนั่นอีก ในใจของหลินเป้ยก็รู้สึกประหลาดใจ
ไม่ ระหว่างเธอกับถังหลินไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ระหว่างเธอกับถังหลินเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีอะไร
ในเมื่อไม่ได้ เธอก็จะต้องไม่ทำให้ถังหลินเข้าใจผิด เธอควรจะต้องรักษาระยะห่างจากถังหลินเอาไว้
ดังนั้น คำพูดเมื่อครู่นี้ หลินเป้ยเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ ใบหน้าก็ไม่มีอารมณ์ที่ดูผิดปกติใดๆด้วยเช่นกัน
ถังหลินรู้สึกอึ้งไป ดวงตาคู่นั้นมองเธอ เธอในเวลานี้ได้กลับไปมีท่าทางเหมือนตอนที่อยู่ประเทศzแล้ว นิ่งมีเหตุผล เย็นชาไร้ความรู้สึก และคอยแต่จะรักษาระยะห่างจากเขาอยู่ตลอดเวลา
ทั้งๆที่เมื่อตอนเช้าไม่ใช่แบบนี้?
“คุณถัง เชิญค่ะ” หลินเป้ยหลบตาลงเล็กน้อย เพื่อเลี่ยงจากการจ้องมองของเขา เธอพบว่าตัวเองไม่สามารถทนรับกับการจ้องมองแบบนี้ของถังหลินได้เลย
ดวงตาของถังหลินหรี่ลงเล็กน้อย แต่เขาคิดว่าถึงอย่างไรเวลานี้มีคนนอกอยู่ด้วย สถานะของหลินเป้ยเองก็คือเจ้าชายน้อย เธอคงจะทำเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงจากความสงสัย
คิดเช่นนี้แล้ว สีหน้าท่าทางของถังหลินก็ผ่อนคลายลงมาบ้าง
หลินเป้ยเดินอยู่ทางด้านหน้า ไม่ได้หันกลับมา แล้วก็ไม่ได้พูดคุยกับถังหลินด้วยเช่นกัน แล้วพาถังหลินเข้าไปในห้องที่เจ้าชายจองเอาไว้ในตอนแรก
เวลานี้ถือว่ายังเร็วอยู่ คนอื่นๆยังไม่เข้ามา ดังนั้นภายในห้องจึงไม่มีคน
หลังจากที่ถังหลินเดินเข้ามาในห้องแล้ว ก็ปิดประตูลง
“เจ้าชายคงไม่คิดว่าคุณถังจะมาถึงเร็วขนาดนี้ เดี๋ยวฉันไปโทรหาเจ้าชาย ให้เจ้าชายมาแล้วกันนะคะ” ตอนที่หลินเป้ยหันกลับมา เห็นว่าถังหลินปิดประตูลงแล้ว ดวงตาของเธอมีแสงแวบมาเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงรักษาสีหน้าท่าทางที่นิ่งเฉยเอาไว้ ไม่มีความผิดปกติใดๆ
อีกทั้งน้ำเสียงของเธอก็ยังคงเป็นน้ำเสียงที่เป็นทางการเช่นเดิมอีกด้วย
“เอาล่ะ ไม่มีคนอื่นแล้วครับ ไม่ต้องปลอมตัวแล้วครับ” ถังหลินมองเธอ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง และน้ำเสียงก็อ่อนโยนมากด้วยเช่นกัน : “คุณไม่ต้องรีบโทรหาเจ้าชายหรอกครับ ที่ผมมาไม่ใช่ว่าเพราะเจ้าชายเสียหน่อย แต่เป็นเพราะผมอยากมาเจอคุณต่างหาก”
เธอเป็นคนบอกว่าจะรอเขาอยู่ที่งานเลี้ยง ดังนั้นเขาถึงได้รีบมา
หลินเป้ยได้ยินคำพูดของเขา ในใจก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมา แต่เธอรู้ว่าระหว่างเธอกับถังหลินนั้นเป็นไปไม่ได้จริงๆ อะไรๆก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น
“เจ้าชายให้ฉันมาต้อนรับคุณถัง เจ้าชายสั่งเอาไว้ ว่าคุณถังมาถึงแล้วให้โทรบอก ตอนนี้ฉันขอไปโทรหาเจ้าชายก่อนนะคะ” หลินเป้ยไม่ได้สนใจคำพูดของถังหลิน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออกหาเจ้าชาย
ถังหลินขมวดคิ้วขึ้น แล้วยื่นมือออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อขัดขวางการโทรของเธอ ดวงตาคู่นั้นของเขาจ้องมองไปที่เธอ : “เป็นอะไรไปครับ?”
ตอนที่อยู่ข้างนอกเมื่อครู่นี้ เธอต้องการที่จะเลี่ยงความสงสัยเขาถึงได้เข้าใจ และเขาก็ปล่อยเธอไปเช่นกัน
แต่ตอนนี้ในห้องก็มีเพียงพวกเขาสองคน ประตูห้องเขาก็ปิดลงแล้ว นี่เป็นห้องที่เจ้าชายจองเอาไว้ ไม่ได้รับการอนุญาตจากคนที่อยู่ในห้อง คนนอกก็ไม่สามารถจะเข้ามาได้ตามใจชอบอยู่แล้ว
นี่เป็นห้องของเจ้าชาย ไม่มีกล้องอะไรนั่นอยู่แล้ว ดังนั้นเวลานี้คำพูดของเขากับเธอจะไม่สามารถถูกคนอื่นได้ยินได้อย่างเด็ดขาด
ตอนนี้เธอยังมีท่าทีแบบนี้ เขาก็ไม่ยอมแล้ว!!
“คุณถัง เจ้าชายบอก……..” หลินเป้ยรู้สึกว่าจู่ๆหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมา แต่เธอก็ยังคงพยายามทำให้ตัวเองรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองมีความผิดปกติใดๆปรากฏออกมาได้
“เจ้าชายบอก? เจ้าชายบอกอะไรแล้วเกี่ยวอะไรกับผม ผมอยากได้ยินแค่คุณพูด คุณไม่มีอะไรจะพูดกับผมอย่างนั้นหรือครับ?” ถังหลินตัดบทคำพูดของเธอเลย เขาไม่สามารถเห็นความเย็นชาแบบนี้ของเธอ เขาไม่สามารถเห็นความห่างเหินในเวลานี้ของเธอได้
เธอพูดแล้วว่าจะรอเขากลับมา ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เธอก็จะทำแบบนี้กับเขาอย่างนั้นหรือ?
แม้แต่คำพูดเป็นห่วงเป็นใยซักประโยคก็ไม่มี?
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เขาไปพบคารูจะราบรื่นมาก แต่เธอเองก็รู้ว่าเรื่องนี้มีอันตราย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เอ่ยถามเลยซักประโยคเดียว?!
“คุณถัง คุณเป็นแขกคนสำคัญของเจ้าชาย……” หลินเป้ยเข้าใจความหมายของเขา แต่ก็รู้อย่างชัดเจนดีว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ในเมื่อเป็นไปไม่ได้
ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรให้เรื่องใดๆเกิดขึ้น
“หลินเป้ย บอกแล้วว่ารอผมกลับมา ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว คุณก็ทำกับผมแบบนี้อย่างนั้นหรือ?” ถังหลินขัดคำพูดของเธอขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ถังหลินเป็นคนฉลาด เขามองออกอยู่แล้ว หลินเป้ยต้องการจะปฏิเสธเพื่อให้อยู่ห่างจากเขา
ร่างของหลินเป้ยสั่นเทาขึ้นมาเบาๆ ใช่ เธอเคยพูด แต่ในสถานการณ์เช่นนั้น เธอเป็นกังวลจริงๆว่าเขาจะเกิดเรื่องขึ้น ดังนั้นถึงได้พูดแบบนั้นไป
ตอนนี้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องทำอะไรอีกแล้ว!!
หลินเป้ยแอบหายใจเข้า เธอบอกกับตัวเองว่าเธอจะใจอ่อนไม่ได้ ใจอ่อนไม่ได้อีกเด็ดขาด เนื่องจากว่าเธอไม่สามารถให้อะไรกับถังหลินได้เลย
แม้แต่เด็กในท้องของเธอในตอนนี้ เธอก็จะต้องเอาออก ไม่สามารถคลอดออกมาให้เขาได้
เธอไม่สามารถให้อะไรเขาได้เลยจริงๆ!!
ดังนั้น สู้ตัดขาดทุกอยากไปเลยจะดีกว่า
“ฉันกำลังรอคุณถังอยู่ค่ะ” หลินเป้ยแอบหายใจเข้า แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง : “เจ้าชายสั่งเอาไว้ให้ฉันรอคุณถังอยู่ตรงนี้”
เวลานี้รอยยิ้มบนใบหน้าของถังหลินได้หายไปหมดแล้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา ดวงตาคู่นั้นของเขาจ้องมองที่เธอ : “เจ้าชายให้คุณมารอผมที่นี่? คุณหมายความว่าถ้าหากไม่ใช่เจ้าชายให้คุณมา คุณก็จะไม่มารอผมอยู่ที่นี่ใช่ไหม?!”
ตอนที่ถังหลินเอ่ยพูดออกมานั้น น้ำเสียงแหบลงอย่างชัดเจน ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ดวงตาคู่นั่นก็ยิ่งจ้องมองไปยังหลินเป้ย ดวงตาคู่นั้นมีอารมณ์ที่หลากหลาย ในนั้นมีความโมโหตกใจอยู่ด้วย ราวกับว่าหลินเป้ยพูดออกมาหนึ่งคำ เขาก็จะสามารถแผดเผาให้หลินเป้ยกลายเป็นผุยผงได้อย่างไรอย่างนั้น!!
เขาไม่อยากบีบบังคับเธอ แต่เขาเองก็ไม่สามารถทำให้เธอถอยไปแบบนี้ได้เช่นกัน!!
หลินเป้ยสบตาถังหลิน ในใจตกใจสั่นไหว เธอกลัวถังหลิน ตั้งแต่ครั้งแรกตอนที่เจอหน้ากันเธอรู้กลัวถังหลินอยู่บ้างแล้ว เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมเธอถึงกลัวเขา
ทั้งๆที่เธอกล้าหาญขนาดนั้น ในตอนนั้นเธอยังเด็กขนาดนั้น เพิ่งจะเข้ามายังราชสำนัก ตอนที่เจอกับพระราชา ตอนนั้นสีหน้าของพระราขาไม่ดีนัก สีหน้าท่าทางตอนที่พระราชามองเธอในตอนนั้นก็น่าตกใจมากเช่นกัน
แต่ในตอนนั้นเธอไม่ได้รู้สึกกลัว ต่อมาคนในราชสำนักรังแกเธอ และยิ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะให้ร้ายเธอ เธอก็ไม่เคยกลัว
เธอไม่รู้จริงๆว่าทำไมตัวเองถึงได้กลัวถังหลิน อีกทั้งยังเป็นความกลัวที่ส่วนลึกในหัวใจไม่สามารถควบคุมได้อีกด้วย
เธอบอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัว ถังหลินไม่ได้กินคนเสียหน่อย เธอจะกลัวเขาไปทำไมกัน?
อีกทั้ง หลินเป้ยเองก็ชัดเจนว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เธอจำเป็นต้องรักษาระยะห่างจากถังหลิน ไม่สามารถทำให้ระหว่างทั้งสองคนต้องมีความเกี่ยวข้องใดๆได้ ดังนั้นเธอจำเป็นที่จะต้องตัดขาด จำเป็นที่จะต้องเย็นชา
หลินเป้ยแอบหายใจเข้า เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ตัวเองคงความสงบนิ่งนี้เอาไว้ เธอมองถังหลิน ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ : “ใช่ค่ะ”
เวลานี้ เสียงของเธอไม่ดัง แต่ภายในห้องนั้นกลับชัดเจนมาก น้ำเสียงของเธอไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ กลับไปเป็นธรรมชาติ เรียบเฉย เรียบเฉยเสียจนฟังไม่ออกถึงความผิดปกติใดๆเลย