ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1421 ที่จริงผมไปกับคุณได้(1)
ถึงแม้เจ้าชายใหญ่ไม่รู้ว่าทำไมถังหลินต้องทำแบบนี้ แต่โอกาสเช่นนี้เจ้าชายใหญ่ไม่อยากปล่อยไปแบบนี้!!และหลินเป้ยก็เป็นคนของเขา เขาก็ยินดีมากที่จะเห็นผลลัพธ์เช่นนี้!!
“เมื่อวานผมลากับคุณแล้ว”เมื่อก่อนหลินเป้ยเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน และไม่เคยไม่เชื่อฟังเจ้าชายใหญ่ แต่ครั้งนี้เธอตกลงด้วยไม่ได้ ตกลงไม่ได้เด็ดขาด
เธอรู้ ถ้าเธอตกลง เธอก็ต้องเกี่ยวข้องกับ ถังหลินต่อไป ผลที่ตามมาก็กลัวว่า ……
เธอกลัวว่าถังหลินจะรู้เรื่องที่เธอตั้งท้อง เธอก็กลัว……ก็กลัวว่าควบคุมตัวเองไม่ได้
เช้าวันนี้ ความอ่อนโยนของถังหลิน ความให้เกียรติที่ถังหลินมีต่อเธอ ความใส่ใจที่ถังหลินมีต่อเธอ ทำให้เธอเริ่มจะ ……
ไม่ ไม่ได้ เป็นแบบนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้น เธอต้องปฏิเสธ
ถังหลินไม่แปลกใจนักกับการปฏิเสธของเธอ เขารู้ว่าเธออยากหนี อยากหลบเขา
สายตาของถังหลินมองไปที่หลินเป้ยตลอด มุมปากของเขาเม้มเบาๆ ไม่พูดจา แต่สายตานั้นกลับทำให้รู้สึกถึงความหดหู่บางอย่างที่เกือบจะหายใจไม่ออก
“ถ้าคุณถังอยากให้คนไปเป็นเพื่อน เจ้าชายใหญ่จัดหาคนอื่นได้”หลินเป้ยหันหน้า หลบสายตาของถังหลิน ตอนนี้ในใจของเธอยังตื่นตระหนก แต่ก็ยังฝืนปฏิเสธไป
“เจ้าชายน้อยไม่ชอบผมขนาดนี้เชียว”ทันใดนั้นถังหลินก็ยิ้ม เสียงนั้นบางเบา เบามาก เหมือนแอบมีความเยาะเย้ยตัวเอง:“นี่ผมไปทำให้เจ้าชายน้อยขุ่นเคืองตรงไหน หรือว่าผมทำเรื่องอะไรให้เจ้าชายน้อยไม่พอใจ?”
ถ้าฟังดีๆ เหมือนจะฟังความน้อยใจในน้ำเสียงของถังหลินตอนนี้ออก
ใช่ คือความน้อยใจ
หลินเป้ยตกใจ ตัวแข็งอย่างชัดเจน จากนั้นหัวที่นิ่งแข็งไปของเธอก็ค่อยๆหันมา มองไปที่ถังหลินอีกครั้ง จากนั้นเธอก็สบตาเข้ากับรอยยิ้มมุมปากที่ยกขึ้นมานิดๆของถังหลิน
หลินเป้ยแอบถอนหายใจ เธอรู้ว่าถังหลินจงใจ จงใจอยู่แล้ว!!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถังหลินพูดคำนี้ออกมา นี่จะเอาชีวิตเธอหรือไง?!
เมื่อกี๊องค์กรโกสต์ซิตี้มาขอโทษถังหลินกับตัว คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เคารพถังหลินขนาดนั้น ตอนนี้ทุกคนก็ตกตะลึงกับถังหลินทั้งนั้น
ถังหลินตอนนี้ยังกล้าขุ่นเคืองต่อเขา?ยังกล้าให้เขาโกรธอีก?!
หลินเป้ยบอกตัวเองว่าอย่าโกรธ อย่าใจร้อน เธอรู้ตัวตนที่แท้จริงของถังหลินแล้ว เขาเป็นคนหน้าด้าน ต่ำทรามและร้ายกาจ
หลินเป้ยบอกตัวเองว่าใจเย็นไม่หยุด แต่เธอกลับรู้สึกว่าเหมือนหน้าอกของตัวเองจะลุกเป็นไฟ และไฟนั้นก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“จะเป็นอย่างนั้นได้ไงกัน?คุณถังอย่าเข้าใจผิด หลินเป้ยจะไม่ชอบคุณถังได้ไง ช่วงนี้หลินเป้ยร่างกายไม่ค่อยดี เมื่อวานหลินเป้ยก็ลาผมจริงๆ”เจ้าชายใหญ่ตกใจอย่างชัดเจน รีบอธิบาย ยังไงเจ้าชายใหญ่ก็เป็นคนมีคุณธรรม เวลาชัดเจนว่ายังปกป้องหลินเป้ย
หลินเป้ยได้ยินคำพูดของเจ้าชายใหญ่ ในใจก็ประทับใจ ในราชวงศ์ มีแค่เจ้าชายใหญ่นี่แหละที่เป็นห่วงเธอจริงๆ
“หลินเป้ย ร่างกายคุณตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วใช่ไหม ถ้าร่างกายยังไม่สบายเท่าไหร่ เดี๋ยวผมให้หมอมาช่วยตรวจให้คุณ”เจ้าชายใหญ่มองไปที่หลินเป้ย ใบหน้ามีความห่วงใย แน่นอนว่าคำพูดของเจ้าชายใหญ่ถือว่าพูดให้ถังหลินฟัง และก็อยากช่วยหลินเป้ยด้วย
เจ้าชายใหญ่ก็รู้ว่าช่วงนี้หลินเป้ยไม่สบายจริงๆ หลายวันก่อนที่เจอ หน้าของหลินเป้ยซีดขาวเหมือนกระดาษ ถ้าหมอมาตรวจ แล้วตรวจเจอจริงๆว่าร่างกายหลินเป้ยไม่สบาย ถังหลินก็โทษหลินเป้ยไม่ได้
แต่ เขาเห็นสีหน้าหลินเป้ยวันนี้แล้วถือว่าไม่แย่นัก ดีกว่าวันก่อนๆเยอะ
“ไม่ ไม่ต้อง”หลินเป้ยไม่กล้าให้หมอมาตรวจเธอ เธอกลัวเจ้าชายใหญ่จะเรียกหมอมาจริงๆ ดังนั้นจึงรีบปฏิเสธ
“หลินเป้ย ถ้าไม่สบายก็ต้องไปหาหมอ คุณเอาแต่ลากไปแบบนี้ไม่ได้”เจ้าชายใหญ่ขมวดคิ้ว สำหรับส่วนนี้ของหลินเป้ยเขาไม่เคยพอใจเลย:“ผมจะติดต่อหมอตอนนี้ให้คุณ”
“ไม่ต้อง ผมไม่เป็นไร ร่างกายไม่มีปัญหา”หลินเป้ยเห็นเจ้าชายใหญ่หยิบโทรศัพท์มาจะโทร ก็ร้อนรน เธอรู้ว่าถ้าเธอไม่อธิบายอีก เจ้าชายใหญ่ต้องเรียกหมอมาจริงๆแน่
ถังหลินรู้ว่าทำไมหลินเป้ยไม่ให้หมอมาตรวจ แต่ตอนนี้เขาไม่พูด ไม่ช่วยหลินเป้ยหลุดพ้นจากสิ่งนี้
“คุณ?”เจ้าชายใหญ่งง ตาคู่นั้นมองไปที่ถังหลินอย่างรวดเร็ว เห็นถังหลินเหมือนไม่โกรธ เจ้าชายใหญ่ก็แอบโล่งอก
“ในเมื่อร่างกายคุณไม่มีปัญหา ในเมื่อคุณถังเชื่อคุณขนาดนี้ ต่อไป คุณก็อยู่กับคุณถังดีๆ เรื่องทุกอย่างของคุณถังก็ให้คุณจัดการละกัน”ที่จริงเจ้าชายใหญ่คิดว่าหลินเป้ยร่างกายไม่สบายจริงๆ ในเมื่อร่างกายของหลินเป้ยไม่มีปัญหา และตอนนี้เขาก็ไม่ปฏิเสธถังหลินแล้ว เมื่อกี๊ถังหลินเรียกชื่อให้หลินเป้ยอยู่ด้วย งั้นก็ให้หลินเป้ยมาจัดการเรื่องนี้ละกัน
หลินเป้ยโกรธ ในใจไม่พอใจ แต่เวลานี้ไม่พูดอะไรสักคำ
เธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธแล้ว และเธอก็ขัดต่อเจ้าชายใหญ่ไม่ได้อีกแล้ว
แต่เธอไม่พอใจ ไม่พอใจจริงๆ ทำไมทุกครั้งที่ถูกรังแกต้องเป็นเธอ?!
“เจ้าชายน้อย ได้อยู่กับบุคคลที่เป็นฮีโร่อย่างคุณถังนี้ถือเป็นเกียรติของคุณ กษัตริย์จะต้องเห็นด้วยกับการจัดการแบบนี้แน่”ท่านตูกลัวจริงๆว่าคนอื่นจะลืมเขา คอยทำให้รู้สึกว่ามีตัวตนออกมาอยู่เรื่อยๆ
สีหน้าหลินเป้ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ประโยคของท่านตูกลับเตือนเธอ
เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้เดี๋ยวต้องเข้าหูของกษัตริย์อย่างรวดเร็วแน่ ถึงตอนนั้นกษัตริย์รู้ถึงท่าทีที่องค์กรโกสต์ซิตี้มีต่อถังหลินแล้ว จะต้องนับถือถังหลินเป็นพิเศษแน่
ตอนนี้เธอปฏิเสธเจ้าชายใหญ่ได้ แต่เธอกลับปฏิเสธกษัตริย์ไม่ได้ และถ้าตอนนี้เธอปฏิเสธ พรุ่งนี้กษัตริย์รู้แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเธอ
หลินเป้ยสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเอาความโกรธที่หน้าอกกดลงไป
“ไป ผมจะไปส่งคุณกลับ”หลินเป้ยยืนขึ้นมา จ้องถังหลิน ถึงแม้ตอนนี้หลินเป้ยจะระงับความโกรธสุดๆ แต่น้ำเสียงแย่จริงๆ
“หลินเป้ย……”เจ้าชายใหญ่กลัวหลินเป้ยจะทำให้ถังหลินโกรธ ก็อดไม่ได้ที่จะเตือน
“เจ้าชายน้อย นี่คุณทำท่าทีอะไรกัน คุณถังเป็นถึงแขกคนสำคัญของประเทศR คุณปฏิบัติด้วยดีๆหน่อยสิ ทำไมถึงใส่อารมณ์มั่วๆแบบนี้ คุณทำแบบนี้ถ้ากษัตริย์รู้……”ท่านตูไม่พอใจกับท่าทีของหลินเป้ย
“งั้นคุณก็ไปบอกกษัตริย์สิ”ตอนนี้ความโกรธของหลินเป้ยยังไม่ระบายออกไป เธอระบายความโกรธใส่เจ้าชายใหญ่ไม่ได้ แน่นอนว่าปกติแล้วเธอไม่กล้าทำแบบนี้กับท่านตู
ยังไงท่านตูก็เป็นคนโปรดของกษัตริย์ แม้แต่เจ้าชายใหญ่ก็ไม่กล้าทำให้ท่านตูขุ่นเคือง เพราะกลัวท่านตูพูดเรื่องไม่ดีต่อหน้ากษัตริย์
ยังไงหลินเป้ยก็ทนมาตลอด แน่นอนว่าปลายปีมานี้เธอทนมาอย่างดี เมื่อกี๊ไม่รู้ว่าทำไม ถึงทนไม่ไหว แป๊บหนึ่งคำพูดนั้นก็พูดออกไปโดยตรง
หลินเป้ยพูดคำนั้นแล้วตัวเองก็งงก่อน ในใจเสียใจหน่อยๆ แต่คำพูดก็เหมือนกับน้ำที่กระเซ็นออกไป เอากลับคืนไม่ได้
มุมปากของหลินเป้ยเม้มแน่น ในใจนั้นยิ่งหงุดหงิด ล้วนแต่เป็นถังหลินที่ทำ
ตอนที่ถังหลินยังไม่มา เธอทนได้ดีเสมอ ไม่เคยเสียสติต่อหน้าคนพวกนี้
แต่ตั้งแต่ถังหลินมา ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม
สายตาของถังหลินสั่นคลอน มุมปากค่อยๆยกขึ้น ที่เขาจะพูดเมื่อกี๊ ก็แค่คิดไม่ถึงว่าหลินเป้ยจะพูดก่อน
เขารู้ว่าเธออยู่ในราชวงศ์ก็ระวังตัวมาตลอด เธออดทนมาเสมอ ดังนั้นเขาก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำแบบนี้
แต่ว่า ผู้หญิงของเขาไม่ควรจะทนเงียบ ผู้หญิงของเขาจะต่ำต้อยน้อยใจไม่ได้ เขาชอบเธอในแบบนี้ เหมือนแมวตัวหนึ่งที่เอาอุ้งเท้าเล็กๆออกมา เย่อหยิ่งหน่อยๆ และก็มีชีวิตชีวาบ้าง
ท่านตูงงโดยสิ้นเชิง มองเจ้าชายน้อยอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าชายน้อยจะกล้าเผชิญหน้ากับเขา
“เจ้าชายน้อย นี่คุณกำลังพูดกับผมเหรอ?”ท่านตูไม่เชื่อว่าปกติเจ้าชายน้อยที่นิ่งเงียบอดทนมาตลอดจะเผชิญหน้ากับเขาเช่นนี้ไปแป๊บหนึ่ง
ตอนนี้หลินเป้ยได้สติคืนมาแล้ว เธอไม่อยากก่อปัญหา เพราะว่าในราชวงศ์เธอไม่มีตำแหน่งใดๆ เธอทำตัวตามต้องการได้ แต่ถึงตอนนั้นก็กลัวว่าจะทำร้ายแม่ของเธอ
ดังนั้นหลินเป้ยไม่ได้ตอบท่านตูไปตรงๆ
ตอนหลินเป้ยมองไปที่ถังหลิน ก็มองเห็นรอยยิ้มที่มุมปากถังหลินยังไม่หุบพอดี หลินเป้ยก็ยิ่งโกรธ ความโกรธที่เพิ่งระงับไปก็เดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง ความใจเย็นอันน้อยนิดที่เพิ่งฟื้นคืนมาก็เต็มไปด้วยความโกรธในทันที