ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1425 อย่ามาเล่นลูกไม้(1)
มือหลินเป้ยที่จับโทรศัพท์ไว้ก็กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว เธอรู้สึกเหมือนว่าหัวใจหยุดเต้นไปแป๊บหนึ่ง หรือว่า……
“พวกเขาบอกว่าคนๆนั้นหลอกลวงกษัตริย์กับพระราชินี หลอกลวงกษัตริย์กับพระราชินีจึงมีจุดจบเช่นนั้น พวกเขายังบอกว่าจะไม่ให้คนๆนั้นตายไปเฉยๆ ยังต้องทรมานคนนั้นด้วย ต้องให้คนๆนั้นลำบากอยากตายก็ตายไม่ได้ อยากอยู่รอดก็รออดไม่ได้”ที่ปลายสายนั้น เสียงของคุณแม่หลินสั่นอย่างรุนแรงมากขึ้น ตอนเธอพูดคำนี้ ชัดเจนว่าอดไม่ได้ที่จะสั่งสอนแทนตัวเธอเอง
“เป้ย คนนั้นเป็นแค่ลูกน้อง ถึงหลอกลวงกษัตริย์กับพระราชินี ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่คนนั้นอนาถมาก อนาถสุดๆ”เสียงของคุณแม่หลินฟังแล้วเหมือนจะเกือบร้องไห้
“แม่ อย่าใจร้อนสิ อย่าห่วงเลย”ตอนนี้ในใจของหลินเป้ยก็กลัวหน่อยๆ แต่เธอรู้ว่าตัวเองตื่นตระหนกไม่ได้ เธอก็ทำให้แม่ตื่นตระหนกไม่ได้
เธอไม่รู้ว่าวันนี้ที่พระราชินีทำเรื่องพวกนั้นได้จงใจทำให้แม่ดูหรือไม่ หลินเป้ยก็ไม่รู้ว่าพระราชินีรู้อะไรหรือเปล่า แต่กษัตริย์กับพระราชินีไม่ได้หาเธอโดยตรง หมายความว่าถึงพระราชินีสงสัย พวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน ดังนั้นเธอตื่นตระหนกไปก่อนไม่ได้
แต่ว่า หลินเป้ยก็รู้ เรื่องแบบนี้ แค่พวกเขาสงสัย ก็ปิดไม่อยู่ ยังไงเรื่องนี้ก็หาหลักฐานได้ง่ายมาก แค่เรียกเธอมา ถอดเสื้อผ้าออก แล้วทุกอย่างก็จะชัดเจน
“เป้ย ลูกว่าพวกเขารู้อะไรหรือเปล่า?ได้จงใจทำให้แม่ดูหรือเปล่า?เป้ย แม่กลัวจริงๆนะ”คุณแม่หลินก็รู้ถึงผลของเรื่องนี้ดีอย่างชัดเจน ดังนั้นตอนนี้ตกใจจนอดไม่ได้ที่จะสั่นทั้งตัว
“แม่อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ไม่เป็นอะไรหรอก”ที่จริงในใจของหลินเป้ยก็ยังไม่เข้าใจดีนัก แต่เธอก็ปลอบแม่ของตัวเอง
“ลูก?ลูกไม่ได้เปิดเผยสิ่งผิดปกติไปใช่ไหม?ช่วงนี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”คุณแม่หลินได้ยินคำพูดของหลินเป้ยก็นิ่งขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่วางใจนัก
“ไม่ค่ะ”มุมปากของหลินเป้ยเม้มบางๆ ช่วงนี้ นอกจากเรื่องตั้งท้องแล้ว เธอก็ไม่มีเรื่องอื่น
เรื่องที่เธอท้องแม้แต่แม่ก็ยังไม่รู้ คนอื่นๆก็ไม่มีทางที่จะรู้เลย
เธอก็ไม่เคยไปตรวจที่โรงพยาบาล ส่วนที่ตรวจครรภ์นั้น ตอนที่เธอไปซื้อยาอื่นก็แอบหยิบมาอันหนึ่งด้วย ตอนนั้นเธอไปร้านยาเล็กๆ เธอแน่ใจว่าร้านยานั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ดังนั้นเรื่องที่เธอแอบหยิบที่ตรวจครรภ์ไม่มีใครรู้แน่
ตอนนั้นเธอซื้อยาแก้หวัดเยอะมาก และยังมีวิตามินอะไรอีก ดังนั้นน่าจะไม่ทำให้สงสัยแน่ ยังไงนั่นก็เป็นของที่ใช้ปกติ
หากมีข้อบกพร่องใดๆ ก็คือปฏิกิริยาของร่างกาย ปฏิกิริยาการแพ้ท้องของเธอ แต่ช่วงนี้เธอไม่ได้ออกไปไหนมากนัก และก็ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมบางอย่าง มีแค่คืนนั้นที่เบื่อนไม่ได้จึงต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง
แต่วันนั้นเธออดทนมาก ไม่ได้อาเจียนอะไรเลย อย่างมากที่สุดตอนนั้นสีหน้าเธอก็ดูไม่ดีนัก
ปฏิกิริยาเพียงอย่างเดียวนี้ไม่น่าจะทำให้คนสงสัยถึงตัวตนของเธอได้หรอกมั้ง?ดังนั้นตรงไหนกันที่มีปัญหา?!
“งั้นพระราชินีหมายถึงอะไรกันแน่?ปกติเธอก็ไม่ชอบแม่อยู่แล้ว เห็นแม่ก็ทำเหมือนไม่เห็น ทำเหมือนแม่เป็นอากาศเลย ทำไมวันนี้ต้องตั้งใจเรียกแม่ไป?ทำไมต้องตั้งใจให้แม่เห็นเรื่องแบบนั้น?”ในใจของคุณแม่หลินยังไม่วางใจจริงๆ ตอนนั้นที่เธอให้ลูกสาวแต่งตัวเป็นผู้ชายเข้าราชวงศ์ เพราะจะได้ใช้ชีวิตดีๆ ตอนนั้นที่จริงแล้วในใจเธอก็กลัว และก็กังวล
แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว เรื่องราวก็ยังไม่ถูกเปิดเผย และชีวิตของเธอก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หลินเป้ยได้รับความเชื่อใจจากเจ้าชายใหญ่มากขึ้น คุณแม่หลินก็ทิ้งความกังวลกับความกลัวก่อนหน้านี้ไปไว้ข้างหลังหมดแล้ว
แต่วันนี้พระราชินีกลับขุดความกลัวในใจของเธอออกมาอย่างกะทันหัน
“เธอยังพูดอะไรอีกไหม?”ตอนนั้นหลินเป้ยไม่อยู่ในที่นั้น ดังนั้นจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนั้น เธออยากเข้าใจอีกหน่อย
“ก็บอกว่าคนนั้นหลอกกษัตริย์กับพระราชินี นี่คือจุดจบที่เขาควรได้รับ อย่างอื่นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก”เพราะแบบนี้คุณแม่หลินจึงกังวลมาก
“แล้วไงต่อ?ต่อมาเธอก็ให้แม่เข้าไป หรือว่าให้แม่ออกไป?”หลินเป้ยฟังสถานการณ์นี้แล้วเหมือนจะพุ่งเป้าเธอจริงๆ ดังนั้นในใจเลยกังวล
“ให้แม่เข้าไป พระราชินีกำลังเล่นไพ่นกกระจอกกับอีกสองสามคน จากนั้นให้แม่รับใช้”ตอนคุณแม่หลินพูดคำนี้เสียงยังคงสั่น ถ้าเป็นปกติสถานการณ์เช่นนี้คุณแม่หลินต้องโกรธแน่ แต่วันนี้เธอกลับไม่สนที่จะโกรธแล้ว
หลินเป้ยขมวดคิ้วเล็กน้อย พระราชินีหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
ได้จงใจให้แม่เห็นหรือเปล่า?พระราชินีไปเจออะไรจริงๆหรือเปล่า?
แต่ทำไมพระราชินีต้องให้แม่ไปรับใช้?
เพื่อหยั่งเชิงแม่เหรอ?
“ต่อมาแม่ไม่ได้พูดอะไรมั่วๆใช่ไหม?”หลินเป้ยคิดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่ในใจจะรู้สึกวาบหวิว เธอรู้ว่าแม่อดทนไม่ได้มาเสมอ คงไม่ได้พูดอะไรไปมั่วๆใช่ไหม?
“แน่นอนว่าไม่ เรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตของลูกกับแม่ แม่จะพูดไปมั่วๆได้ไง ต่อมาแม่ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ พระราชินีให้แม่ทำอะไรแม่ก็ทำอะไรนะ ที่จริงแล้วพระราชินีก็ไม่ได้ถามอะไรแม่ แค่ให้แม่ไปรับใช้พวกเธอ”คุณแม่หลินรีบอธิบาย เธอโง่แค่ไหนก็รู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้
“เป้ย เกิดเรื่องจริงๆหรือเปล่า?”คุณแม่หลินลองถามดู เธอพึ่งพาลูกสาวมาตลอด
“ดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”หลินเป้ยแอบถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้ว่าตอนนี้เธอจะบุ่มบ่ามอะไรไม่ได้ และเธอไม่สามารถหุนหันพลันแล่นไปทำอะไรได้เลย
ตอนนี้หนทางเพียงอย่างเดียวก็คือนิ่งกับสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้เท่านั้น เธอต้องดูว่าต่อไปพระราชินีจะเคลื่อนไหวอย่างไร จากนั้นเธอจึงหาทางรับมือ!!
แน่นอนว่า หลินเป้ยรู้ ถ้าทางพระราชินีเริ่มสงสัยตัวตนเธอจริงๆ เธอจะรับมืออย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
“เป้ย คืนนี้ลูกมาที่นี่ดีกว่า แม่กลัว ลูกมาอยู่กับแม่หน่อย”ในเมื่อคุณแม่หลินจะตกใจจริงๆ เธอก็ต้องการลูกสาวอยู่ข้างๆ
“อือ”ตอนนี้หลินเป้ยก็ไม่วางใจอย่างมาก ที่จริงแล้วในสายก็พูดไม่ชัดเจนนัก เธออยากกลับไปถามให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
ตอนนี้ยังไงก็อยู่ในโรงแรม ส่วนถังหลินอยู่ด้านหลัง หลินเป้ยก็ไม่ได้ถามอะไรมาก วางสายไปเลย
หลังจากวางสายแล้ว หลินเป้ยก็แอบถอนหายใจ พยายามให้อารมณ์ของตัวเองนิ่งลง เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันมาก และเหนือความคาดหมายของเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะส่งผลที่ตามมาให้เธออย่างไร
ตอนที่หลินเป้ยเดินกลับไปตรงหน้าถังหลิน ใบหน้านิ่งกลับคืนมาแล้ว ถ้าไม่ดูให้ละเอียด ก็มองความผิดปกติไม่ออก
“ฉันกลับก่อนนะ แม่ฉันไม่สบายนิดหน่อย”ตอนนี้หลินเป้ยไม่ถือว่าโกหก คุณแม่หลินตกใจกลัวจริงๆ
ถังหลินรู้ว่าสายเมื่อกี๊คือแม่ของหลินเป้ยโทรมา ถึงแม้เมื่อกี๊ตอนที่หลินเป้ยรับสายจะจงใจหลีกเลี่ยงเขา และหลินเป้ยก็หันหลังชนเขา เขาไม่เห็นสีหน้าบนใบหน้าของหลินเป้ย แต่จากการตอบสนองของแผ่นหลังและร่างกายของหลินเป้ยแล้ว ถังหลินก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องอะไรแน่
และไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างเห็นได้ชัด!!
เกิดเรื่องแล้ว เธอกลับไม่บอกเขา คิดแต่จะปิดบังเขา ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยคิดจะพึ่งตัวเอง
ในใจของถังหลินนั้นโกรธ แต่เห็นเธอแบบนี้แล้ว สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหน่อยๆ:“อือ”
เสียงทุ้มต่ำฟังดูอู้อี้หน่อยๆ แต่ก็ยังเผยให้เห็นถึงอารมณ์ของเขา
หลินเป้ยคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับไวขนาดนี้ จึงแปลกใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้เธอคิดถึงคำพูดที่แม่เพิ่งพูด ในใจก็กังวลเรื่องนั้น ไม่ได้สังเกตถึงอะไรมาก ดังนั้นเลยไม่สังเกตเห็นความหดหู่ใจของคุณชายถัง
“งั้นฉันไปก่อนนะ”หลินเป้ยหันกลับอย่างเร็ว ไม่ลังเลที่จะก้าวออกไป
ในใจถังหลินหน่วง อึดอัดใจ เขารีบยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้
หลินเป้ยขมวดคิ้วหน่อยๆ มองเขาอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย เขาเพิ่งจะยอมให้เธอกลับไปไม่ใช่เหรอ?
เขาคงไม่ผิดคำพูดที่เพิ่งพูดไปเมื่อกี๊หรอกมั้ง?
“จำคำที่ผมพูดไว้ อย่ามาเล่นลูกไม่อะไรกับผม ไม่งั้นคุณก็จะรู้ถึงผลที่ตามมา”เสียงของถังหลินหม่นลงไป เขาพบว่าตอนนี้ที่ให้เธอกลับไปได้นั้น เพราะรู้ว่าสายเมื่อกี๊เป็นแม่ของเธอโทรมาจริงๆ และมองออกว่าแม่ของเธอเกิดอะไรขึ้นจริงๆ!!
ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนี้
ถ้าเธออยากใช้เรื่องนี้เพื่อหลบหนี งั้นเขาก็จะโกรธ!!
ผลที่ตามมาจากความโกรธ เธอรู้ดี!!
หลินเป้ยงง เธอเข้าใจความหมายของเขา คำนี้หลังจากพวกเขาเจอกัน ถังหลินไม่ได้พูดกับเธอครั้งเดียวแล้ว!!