ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1433 สะใจชะมัด (1)
“ไม่ได้ ผมไม่ยุ่งเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องนี้ผมต้องยุ่ง ผมให้เขายั่วโมโหย่ากับปู่อย่างนี้ไม่ได้” เย่ซือฉุนเดินไปด้านหน้า พลางยื่นฝ่ามือออกไปยังเย่ซือเฉิน“เอามือถือมาให้ทุกคนดูบันทึกการโทรเข้าออกของนาย”
“ซือฉุน ก่อกวนอะไร?”คุณย่าเย่หน้าเปลี่ยนสี น้ำเสียงก็เข้มขรึมหลายส่วน
“ผมไม่ได้ก่อกวนนะ มันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ ผมจะให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ของเขา”ปกติเย่ซือฉุนไม่เคยเถียงคุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ แต่ไหนแต่ไร เขาขอเพียงมีกินมีใช้และได้เที่ยวเตร่ก็พอ
ไม่ว่าคนตระกูลเย่จะสั่งสอนเขาหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจ ซึ่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ตำหนิเขาเป็นบางครั้งบางคราว ทว่าเขาก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวาอย่างร่ำไป
เขาทั้งดื่ม ทั้งเล่นพนัน ทั้งซื้อประเวณี ไม่เอาการเอางานเกือบยี่สิบปี ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะจริงจังทำอะไรสักอย่าง!!
เมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตสับสนปนเป ทว่าวันนี้เขาอยากรู้ความจริง เขาอยากรู้ว่าการตายของเย่โป๋เหวินเกี่ยวข้องกับคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่หรือไม่
เขาอยากรู้ว่า คุณย่าเย่กับคุณปู่เย่จะบีบบังคับเย่ซือเฉิน พวกเขาจะทำถึงขั้นไหน?
เขาอยากรู้ว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่มีบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตเป็นคนหรือไม่
เพราะมันสำคัญกับการใช้ชีวิตในภายภาคหน้าของเขามาก หากคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่โหดร้ายกับเย่ซือเฉินขนาดนี้จริงๆ เช่นนั้นวันหลังเขาก็ต้องระวังตัวด้วย
เย่ซือฉุนไม่ได้อินังขังขอบต่อความโกรธเกรี้ยวของคุณย่าเย่ เขายื่นมือไปยังตัวเย่ซือเฉิน เพื่อควานหามือถือของเย่ซือเฉิน
“ลูกนอกสมรสของบ้านตระกูลเย่กำลังทำอะไรอยู่ ถึงกับหาเรื่องเย่ซือเฉินในสถานการณ์แบบนี้ เขากล้ามากจริงๆ?”
“คนเรามักตายเพราะลาภยศ เมื่อผลประโยชน์กองอยู่ตรงหน้า จะไม่ให้กล้าได้ยังไง คาดว่าคงไม่อยากให้เย่ซือเฉินกลับมา”
“พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลแล้ว ไม่เอาแม้กระทั่งบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดก็คือลูกนอกสมรสคนนี้แหละ”
“คุณคิดว่าคุณปู่เย่โง่เง่าหรือไง สภาพเขาแบบนั้น ถึงคุณชายสามเย่ไม่กลับมา คุณปู่เย่คงไม่มอบบริษัทตระกูลเย่กร๊ปให้เขาหรอก”
“คุณปู่เย่อายุมากแล้ว จะอยู่ได้อีกสักกี่ปี ตอนนี้เย่โป๋เหวินก็ตายแล้ว หากคุณปู่เย่จากไปอีกคน และเย่ซือเฉินก็ไม่กลับมาจริงๆ ตระกูลเย่ก็เป็นของเขาคนเดียวแล้ว”
“ดังนั้นเลยไม่ชอบคุณชายสามเย่ ไม่อยากให้คุณชายสามเย่เข้าบ้าน แต่แบบนี้มันน่าเกลียดเกินไป”
“สารรูปเขาอย่างนี้ รวมกันหนึ่งร้อยคนยังสู้คุณชายสามเย่เพียงคนเดียวไม่ได้เลย เขายังกล้าท้าทายคุณชายสามเย่อีก โง่ดักดานเหลือเกิน”
“แค่แววตาของคุณชายสามเย่คงทำให้เขาตกใจฉี่แตกแล้วมั้ง”
คนด้านนอกอดวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบาไม่ได้ แน่นอน เพราะมีเย่ซือเฉินอยู่ด้วยทุกคนจึงไม่กล้าพูดเสียงดัง ดังนั้นเย่ซือเฉินกับเย่ซือฉุนไม่ได้ยินสิ่งเหล่านี้
คนหมู่มากในนี้รอดูความคึกคักอยู่ รอดูว่าเย่ซือเฉินจะทำยังไง
เย่ซือเฉินกะพริบตา มุมปากคล้ายกับค่อยๆยกโค้งขึ้น จากนั้นก็เอามือถือของตัวเองออกมาปลดล็อคหน้าจอ แล้วก็ยื่นให้เย่ซือฉุน
เย่ซือเฉินเห็นข่าวในโซเชียลแล้ว เขาหมดความรู้สึกดีๆกับพวกท่านตั้งนานแล้ว ไม่ตั้งความหวังกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่อีก ดังนั้นตอนนี้เขาอ่านข่าวก็มีอารมณ์ปกติ ไม่ได้คิดมากอะไร
ทว่าตอนนี้เย่ซือฉุนจะก่อกวน เขาก็ไม่ถือสาจะร่วมมือกับเขาสักตั้ง
ทุกคนเห็นการกระทำของเย่ซือเฉินก็ล้วนอึ้งตามๆกัน คาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะทำแบบนี้
หลังคุณนายเย่เสียชีวิตก็รับเย่ซือฉุนกลับบ้านตระกูลเย่ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเย่ซือเฉินกับลูกนอกสมรสไม่ถูกคอกัน แล้วทำไมเวลานี้เย่ซือเฉินจึงเชื่อฟังคำพูดของเย่ซือฉุนล่ะ
ใบหน้าทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดผสมปนเปกับความไม่เข้าใจ
สีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ แววตาเผยความกังวลหลายส่วน ทั้งยังเจือความเหี้ยมโหด เย่ซือฉุนคนนี้คิดจะก่อความวุ่นวายอะไรกันแน่?
“ซือเฉิน เขาก่อกวนแล้วหลานยังตามใจเขาอีกเหรอ?” คุณย่าเย่ได้สติก็รีบหาวิธีขัดขวาง
“ไม่เป็นไร ให้เขาดู” เย่ซือเฉินแค่มองคุณย่าเย่อย่างราบเรียบแวบหนึ่ง ในใจเย่ซือเฉินรู้ดี ข่าวที่พึ่งออกมาสดๆใหม่ๆนี้เกี่ยวข้องกับพวกท่าน
หากคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ได้ทำอะไร งั้นคงไม่มีข่าวละเอียดขนาดนั้น อาทิเช่น คุณปู่เย่โทรหาเขาหลายสาย แต่เขาก็ยืนกรานไม่กลับมาเป็นต้น
หากคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ปล่อยข่าวให้นักข่าว นักข่าวก็คงไม่กล้าแต่งเรื่องขึ้นมา
“ดูก็ดูสิ คิดว่าผมกลัวเหรอ” เย่ซือฉุนรีบเอามือถือมาก่อนที่คุณย่าเย่จะขัดขวางสำเร็จ จากนั้นก็เปิดบันทึกการโทรเข้าโทรออก
“ลูกนอกสมรสตระกูลเย่คิดจะทำอะไรกันแน่?เขาทำให้เรื่องใหญ่แล้วมีผลดีกับเขายังไง?”มีคนไม่เข้าใจการกระทำของเย่ซือฉุน
“คุณไม่เห็นข่าวที่พึ่งออกมาเหรอ?มีคนเปิดโปงว่าคุณปู่เย่โทรหาเย่ซือเฉินหลายต่อหลายครั้ง แต่เย่ซือเฉินก็บอกว่าไม่กลับมา ดูเหมือนลูกนอกสมรสคนนี้อยากหาหลักฐาน ข่าวเมื่อกี้กำลังด่าเย่ซือเฉินอย่างรุนแรงเลยนะ”
“แต่เย่ซือเฉินมาแล้วนี่นา ข่าวลือพวกนั้นก็ไม่เป็นผลแล้วไม่ใช่หรือ?ยังโวยวายอะไรอีก?”
“ใช่ คุณชายสามเย่กลับมาแล้ว ข่าวในโซเชียลก็กลายเป็นแค่ข่าวลือที่ไม่มีมูลจริง ถึงคุณปู่เย่จะเคยโทรหาเย่ซือเฉินหลายครั้ง แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินกลับมาแล้ว เรื่องนี้ก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ ลูกนอกสมรสก่อกวนอย่างนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลเสียให้กับคุณชายสามเย่ อาจจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วย ดังนั้นลูกนอกสมรสคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”
“ไม่เข้าใจเหมือนกัน คล้ายกับว่าลูกนอกสมรสคนนี้ไม่มีสมองอย่างนั้น”
เวลานี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนไม่เข้าใจการกระทำของเย่ซือฉุน
“เอ๋ ทำไมไม่มีบันทึกการโทรล่ะ?ทำไมไม่มีบันทึกสนทนาเบอร์ของตระกูลเย่เลยล่ะ?”ทุกคนกำลังฉงนสนเท่ห์อยู่ เสียงเย่ซือฉุนก็ส่งมาอีกครั้ง ซึ่งเสียงนี้เจือความประหลาดใจและตกใจพร้อมๆกัน “ไม่เพียงแต่ไม่มีบันทึกสนทนาของตระกูลเย่เท่านั้น แถมยังไม่มีบันทึกไม่ได้รับสายของตระกูลเย่ด้วย!!”
ระหว่างที่เย่ซือฉุนพูด น้ำเสียงฟังดูเหมือนประหลาดใจและมึนงง ทว่าในใจกลับรู้สึกโศกเศร้า
ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กับพี่ชายคนนี้ ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก แต่เขารู้จักเย่ซือเฉินดี เย่ซือเฉินไม่มีทางลบบันทึกสนทนาแน่
เขามั่นใจจุดนี้มาก เชื่อว่าคนที่อยู่ด้วยก็รู้สึกเหมือนกัน
งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว นั่นก็คือหลังเย่โป๋เหวินเสียชีวิตแล้ว ทางตระกูลเย่ไม่เคยโทรบอกเย่ซือเฉินแม้แต่สายเดียว
ไม่ได้โทรบอก แต่กลับให้คนใส่ร้ายป้ายสีเย่ซือเฉิน คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำกันได้จริงๆ
ผู้คนได้ยินคำพูดของเขาต่างพากันตะลึงตะไล ไม่มีบันทึกการสนทนาเหรอ?
แบบนี้มันหมายความว่ายังไง?หมายความว่ายังไง?
เมื่อกี้เย่ซือฉุนบอกว่าไม่มีบันทึกการโทรเข้าโทรออกของเบอร์ตระกูลเย่เลย?
เย่โป๋เหวินเสียชีวิตนั้นเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตระกูลเย่กลับไม่โทรบอกเย่ซือเฉิน?
มันเป็นไปได้ยังไง?
เมื่อกี้ในโซเชียลไม่ใช่บอกว่าคุณปู่เย่โทรหาเย่ซือเฉินหลายสาย เพื่อให้เย่ซือเฉินกลับมาหรอกเหรอ?
หากเย่โป๋เหวินอำลาจากโลกนี้ไป ทว่าคุณปู่เย่กลับไม่โทรบอกเย่ซือเฉินแม้แต่สายเดียว เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของคุณปู่เย่แล้ว เย่ซือเฉินไม่ผิดเลยสักนิด
อย่าว่าแต่เย่ซือเฉินมาสายเลย ถึงแม้เย่ซือเฉินไม่มาร่วมงานศพก็ไม่ใช่ความผิดของเย่ซือเฉิน เพราะก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่ออกจากบ้านตระกูลเย่แล้ว เพราะทางตระกูลเย่ไม่แจ้งข่าวบอกคุณชายสามเย่เอง
เย่ซือฉุนเป็นคนพูดประโยคนี้ คนอื่นจึงไม่สงสัยเลยสักนิด เพราะใครๆก็รู้ว่าเย่ซือฉุนกับเย่ซือเฉินเป็นปรปักษ์กัน เย่ซือฉุนมีแต่ใส่ร้ายเย่ซือเฉิน ไม่มีทางช่วยเย่ซือเฉินแน่นอน
สีหน้าคุณย่าเย่ย่ำแย่ในฉับพลัน ท่านรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร ทางตระกูลเย่ไม่เคยโทรบอกเย่ซือเฉินจริงๆ ท่านไม่เคยโทร คุณปู่เย่ก็ไม่เคยโทร กระทั่งคนรับใช้ตระกูลเย่ก็ไม่เคยโทร
ดังนั้นมือถือเย่ซือเฉินจึงไม่มีบันทึกสนทนากับตระกูลเย่อยู่แล้ว
ท่านรู้จักนิสัยเย่ซือเฉินดี ท่านมั่นใจว่าเย่ซือเฉินจะไม่เป็นฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ก่อน ทว่าท่านนึกไม่ถึงว่าเย่ซือฉุนจะก่อกวนอย่างนี้
“คุณย่า ย่ากับปู่โทรหาเขาหลายครั้งไม่ใช่เหรอ?พวกท่านใช้อันไหนโทรหาเขา?โทรศัพท์บ้าน?หรือว่ามือถือ แล้วทำไมไม่มีบันทึกการสนทนาเลยล่ะ?”เย่ซือฉุนหันไปมองหน้าดำคล้ำเครียดของคุณย่าเย่ เย่ซือฉุนรู้สึกทุกข์ใจมาก ในเมื่อวันนี้เขาเริ่มก่อกวนแล้ว ดังนั้นก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาก็ทำสูญเปล่า ไม่เกิดประโยชน์อะไร!!