ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1436 ‘ฉลาดปราดเปรื่อง’เหลือเกิน (2)
เวลานี้แขกกลับกันหมดแล้ว จึงไม่ต้องคำนับกลับอีก ดังนั้นเย่ซือเฉินกับเย่ซือฉุนแค่คุกเข่าอยู่ในห้องเซ่นไหว้สพ ต่อมาเย่ซือฉุนก็เผากระดาษเงินกระดาษทองไม่หยุด ส่วนเย่ซือเฉินก็คุกเข่าไม่ไหวติง
เฉิงโหรวโหรวคุกเข่าด้านข้างเขา ทว่าก็เว้นระยะไว้ช่วงหนึ่ง
เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้มองเฉิงโหรวโหรวแม้แต่ปราดเดียว
เขาประกาศตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว ตอนนี้เขากลับมาเพราะเย่โป๋เหวิน ตอนนี้เขาไม่ได้บริหารบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว เรื่องอื่นในตระกูลเย่จึงไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
เขากลับมาเพื่อเข้าพิธีเฝ้าศพเย่โป๋เหวินตามหลักความกตัญญูเท่านั้น อย่างอื่นก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา
เฉิงโหรวโหรวมาตอนนี้ถือว่าเป็นแขกของตระกูลเย่ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ไล่อีกฝ่าย เย่ซือเฉินก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
หากเขาขับไล่เฉิงโหรวโหรวเวลานี้ก็เท่ากับการประกาศตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่เป็นเรื่องตลกทั้งเพ
หรือคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กำลังรอเขาไล่อีกฝ่ายอยู่ก็เป็นได้
“คุณหนูท่านนี้ คนอื่นกลับกันหมดแล้ว ทำไมคุณยังไม่กลับอีก?คุณทำอะไรอยู่?!”เย่ซือฉุนกลับอดกลั้นไม่ไหว เขาเคยเห็นคนหน้าด้านหน้าทน แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นหน้าหนาได้เพียงนี้
เฉิงโหรวโหรวไม่สนใจเย่ซือฉุน ดวงตาทั้งคู่จ้องไปยังเย่ซือเฉิน เธอที่ไม่รู้จักปิดบังความรู้สึกอยู่แล้ว ตอนนี้แววตาเต็มไปด้วยความลุ่มหลงในตัวเย่ซือเฉิน ผู้ชายคนนี้ยิ่งมองยิ่งหล่อ ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ
เฉิงโหรวโหรวรู้ว่าเย่ซือเฉินดีเลิศประเสริฐศรีมาก พูดอย่างไม่เกินจริงก็คือดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ตอนเธออยู่ชนบทก็ไม่กล้าเพ้อฝันจะได้แต่งงานกับผู้ชายอย่างนี้
ทว่าตอนนี้ต่างกัน ตอนนี้เธอเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้หัวหน้าองค์กรเริ่มปกป้องเธอแล้ว ถือว่ายอมรับสถานะของเธอแล้วด้วย
เธอในฐานะองค์หญิงอยากได้ผู้ชายแบบนั้นก็ต้องได้ เย่ซือเฉินก็ไม่ยกเว้น!!
เฉิงโหรวโหรวยิ่งคิดยิ่งกระหยิ่มใจ!!
เย่ซือฉุนเห็นแววตาที่เฉิงโหรวโหรวมองเย่ซือเฉินก็สะอิดสะเอียน ผู้หญิงคนนี้รู้จักคำว่ารักนวลสงวนตัวบ้างไหม?มียางอายบ้างไหม?เย่ซือฉุนคิดว่าหากตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสถานที่เช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้คงโถมเข้าหาเย่ซือเฉินแล้ว คงจะฉุดกระชากลากดึงเย่ซือเฉินแน่ๆ!!
“คุณหนูท่านนี้ แขกกลับกันหมดแล้ว คุณใช้ฐานะอะไรอยู่ต่อ?”เย่ซือฉุนรู้สึกคลื่นไส้เฉิงโหรวโหรว ดังนั้นพูดจาไม่ให้ความเกรงใจอีกฝ่าย
สายตาเฉิงโหรวโหรวจึงละออกจากเย่ซือเฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ หันมามองเย่ซือฉุนแทน “คุณยุ่งอะไรกับฉัน?คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังไม่พูดอะไรเลย คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?”
เฉิงโหรวโหรวพูดตรงประเด็น แต่ไม่ใช่เพราะเธอกลายเป็นคนฉลาดแต่อย่างใด ความจริงก็คือคุณย่าเย่กำชับเธอล่วงหน้าไว้แล้ว
คุณย่าเย่กำชับเธอว่าห้ามพูดถึงเรื่องแต่งงานต่อหน้าเย่ซือเฉินก่อน คุณย่าเย่รับปากว่าขอเพียงเธอทำตาม ถึงเวลานั้นเย่ซือเฉินต้องแต่งงานกับเธอแน่
ดังนั้นเวลานี้เธอจึงข่มกลั้นไม่พูดถึงเรื่องแต่งงาน
เย่ซือฉุนไม่ได้โกรธ ทางกลับกันยังยิ้มจางๆออกมา พลางมองเย่ซือเฉินอย่างหยอกล้อหลายส่วน
ขอเพียงมีตาก็จะดูออกว่าเฉิงโหรวโหรวมาด้วยเพราะเย่ซือเฉิน ทว่าเย่ซือเฉินกลับสุขุมใจเย็นยิ่ง
ได้ เจ้าตัวยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย เขาจะตีโพยตีพายทำไม เขารอดูงิ้วดีกว่า!
เย่ซือฉุนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก จากที่มีญาติๆเฝ้าอยู่ในห้องเซ่นไหว้ด้วย แต่เมื่อถึงกลางดึก คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ให้ญาติพวกนั้นกลับไปพักผ่อนแล้ว
ทว่าเย่ซือเฉินกับเย่ซือฉุนในฐานะลูกชายยังคงเฝ้าห้องเซ่นไหว้เหมือนเดิม และเฉิงโหรวโหรวก็ยังไม่ไปไหน ซึ่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ได้บอกให้เฉิงโหรวโหรวกลับไป
เย่ซือฉุนที่ปกติก็เป็นคนไม่นอนตอนกลางคืนอยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด เขาดูจากรูปการณ์แล้วยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
เดิมทีคุณปู่เย่ก็ให้เย่ซือฉุนไปพักผ่อนด้วย เพราะแผนการของพวกเขาคือให้เย่ซือเฉินกลับเฉิงโหรวโหรวเฝ้าห้องเซ่นไหว้ด้วยกัน จากนั้นก็ให้นักข่าวมาถ่ายรูปแล้วเผยแพร่ออกไป
เย่ซือฉุนจึงเป็นก้างขวางคอที่นี่เล็กน้อย
ทว่าเย่ซือฉุนที่รอดูความครื้นเครงไม่ยอมไป ไม่ว่ายังไง เย่ซือฉุนก็เป็นลูกชายของเย่โป๋เหวิน ลูกชายนั่งเฝ้าข้างศพบิดาผู้ให้กำเนิด จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรม คุณปู่เย่จึงไล่เย่ซือฉุนตรงๆไม่ได้
ดังนั้นหลังเที่ยงคืน จึงมีเย่ซือเฉิน เย่ซือฉุนกับเฉิงโหรวโหรวเฝ้าอยู่ในห้องเซ่นไหว้กันสามคน
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวจากหลายสำนักเผยแพร่ข่าวว่า——เมื่อวานองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ร่วมเฝ้าห้องเซ่นไหว้ศพเย่โป๋เหวินกับคุณชายสามเย่
ซึ่งรูปถ่ายในข่าวมีเพียงเย่ซือเฉินกับเฉิงโหรวโหรวสองคน ทั้งสองคุกเข่าอยู่ด้านหน้าโลงศพ ซึ่งรูปถ่ายนี้จับภาพจากด้านข้าง สามารถมองเห็นใบหน้าทั้งคู่อย่างชัดเจน แค่มองแวบเดียวก็ดูออกว่าเป็นพวกเขาสองคน
โดยมีรูปถ่ายอยู่สองใบ ใบแรกถ่ายตอนตีหนึ่งกว่า ส่วนอีกใบถ่ายตอนตีห้า ซึ่งมีเวลากำกับไว้ตรงรูปถ่ายด้วย
ทั้งสองรูปนั้นอิริยาบถของทั้งคู่แตกต่างกันเล็กน้อย!
เกิดเรื่องอึกทึกในโลกโซเชียลอีกครั้ง
“ทำไมองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงเฝ้าศพในพิธีไว้ทุกข์เย่โป๋เหวินด้วย?มันเกิดอะไรขึ้น?องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ใช้สถานะอะไรมาไว้ทุกข์เย่โป๋เหวิน?”
“หรือว่าการแต่งงานระหว่างคุณชายสามเย่กับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ยังไม่ยกเลิก?องค์หญิงมาร่วมไว้อาลัยในฐานะคู่หมั้นของคุณชายสามเย่หรือเปล่า?”
“คุณชายสามเย่ปฏิเสธการแต่งงานกับองค์หญิง ถึงกับตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว แล้วจะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ยังไง?ต้องยกเลิกงานแต่งแล้วแหละ?”
“แล้วทำไมองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงมาร่วมพิธีได้ล่ะ?และเห็นได้ชัดว่าเฝ้าหนึ่งคืนเต็มๆ คุณชายสามเย่ไม่ได้ไล่เธอไปหรือ?”
“ใช่ คุณชายสามเย่ไม่ได้ไล่เธอไป แสดงว่าตกลงแต่งงานด้วยแล้วใช่ไหม?”
“ใครจะปฏิเสธองค์กรโกสต์ซิตี้ได้?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหน้าตาองค์หญิงคนนี้ก็ไม่เลวเลย คุณชายสามเย่ตอบตกลงก็ถือเป็นเรื่องปกติ”
“แล้วที่ตัดขาดกับตระกูลเย่เพราะไม่อยากแต่งงานล่ะ?”
ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นกันยกใหญ่!!
ตอนแรกก็แค่แสดงความคิดเห็นธรรมดา ไม่ได้พูดเหลวไหลหรือด่าทออะไร ทว่าต่อมาก็มีคอมเมนต์แปลกๆเกิดขึ้น
“ดูจากรูปถ่ายแล้วคุณชายสามเย่กับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็เหมาะสมกันดีนะ”
“องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้จริงจังมากเลย คุกเข่ามาทั้งคืน ดูเหมือนว่ารักคุณชายสามเย่จริงๆนะ”
เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจนำทุกคนไปยังรูปถ่าย จึงเริ่มมีคนชื่นชมเฉิงโหรวโหรวกันเป็นจำนวนมาก แน่นอนยังมีคนโต้แย้งเช่นกัน
“เหมาะตรงไหน?ผู้หญิงคนนี้ไม่มีส่วนไหนเหมาะกับคุณชายสามเย่”
“อย่างนี้แค่ถือว่าไม่ขี้เหร่ ยังไม่คู่ควรคุณชายสามเย่หรอก”
“คุกเข่าหนึ่งคืน เฝ้าพิธีหนึ่งคืนก็คือรักแท้เหรอ อย่างนี้ฉันก็ทำได้นะ ฉันคุกเข่าได้สองคืนเลย ไม่สิ ฉันคุกเข่าได้สิบคืน แสดงว่าฉันรักคุณชายสามเย่จริงๆ!!”
“ไม่ทราบว่าคืนนี้ฉันไปไว้อาลัยที่บ้านตระกูลเย่ได้ไหม?ถ้าคุณชายสามเย่อยู่ด้วย ฉันจะคุกเข่าหนึ่งปีเลย”
“ฉันคุกเข่าได้สิบปี”
“ฉันจะคุกเข่าจนชั่วฟ้าดินสลาย”
ทิศทางเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้นคนที่จงใจเขียนชื่นชมพื่อจูงใจทุกคนให้คล้อยตาม แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า
คนนี้ไม่ตายใจ พยายามลองดูใหม่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็โดนพวก รักแท้ กลบเกลื่อนทิ้ง
คนนี้ก็ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมน้อยหน้า เขาลองเปลี่ยนทิศทางดูใหม่——“ในรูปถ่ายมีเพียงคุณชายสามเย่กับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เฝ้าศพ ทำไมคุณชายสามเย่ถึงอนุญาตให้องค์หญิงร่วมพิธีเฝ้าคนเดียว?”
เมื่อประโยคนี้โผล่ขึ้นมา คอมเมนต์ที่ขัดใจก็หยุดลง
จากนั้นก็เริ่มแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนี้ไม่หยุดหย่อน แน่นอน ข้อความที่เยอะที่สุดก็ต้องเป็น มีแต่คุณชายสามเย่กับองค์หญิงทำพิธีเฝ้าศพ
ทำไมคุณชายสามเย่ถึงยอมให้องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ด้วย
เพราะผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันตามลำพังจะทำให้คิดอะไรนอกลู่นอกทางได้!!
“โอ๋ คุณชายอย่างผมไม่ใช่คนเหรอ?ผมก็เฝ้าทั้งคืนนะ ทำไมไม่มีรูปถ่ายของผม?” เย่ซือฉุนเดือดดาล เขาก็เฝ้ามาทั้งคืน ถึงแม้เขาเฝ้าเพราะจะดูความคึกคัก แต่การเฝ้าของเขาก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี
ดังนั้นคุณชายน้อยเย่โพสต์รูปถ่ายออกไปหนึ่งภาพ ซึ่งเป็นรูปถ่ายในบ้านตระกูลเย่เหมือนกัน พื้นหลังเหมือนกัน แต่บนรูปถ่ายมีคนเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ซึ่งก็คือเย่ซือฉุนที่คุกเข่าอยู่ข้างๆเย่ซือเฉิน
บนรูปถ่ายกำกับเวลาไว้เช่นกัน เวลาของรูปนี้อยู่ที่ ตีสี่สิบห้านาที!!ดูแวบแรกก็รู้ว่ารูปนี้คนถือกล้องถ่ายเอง