ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1475 ผลการตรวจดีเอ็นเอ (1)
เพียงแค่เอาเส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับไป ก็จะสามารถตรวจดีเอ็นเอได้ และไม่นานก็จะสามารถรู้ได้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นคือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาหรือเปล่า!!
“ฉันทำเองดีกว่าค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้ให้เฟิ่งเหมียวเหมียวลงมือ แต่ตัวเองเอากิ๊บติดผมมาตรงหน้า หลังจากนั้นก็ดึงผมที่ติดอยู่ตรงกิ๊บออก
เวินลั่วฉิงเอาเส้นผมออกมาแล้วขยี้เส้นผมของเธอ หลังจากนั้นก็จะหาถังขยะทิ้งลงไป
ด้านหน้าไม่ไกลนักมีถังขยะอยู่หนึ่งอัน เวินลั่วฉิงเดินไปยังที่ถังขยะ
คุณชายหานกรอกตาขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่มั้ง ไม่ใช่แค่เส้นผมสองเส้นเองหรอกหรือ? ก็จะต้องทิ้งในถังขยะด้วย?
เส้นผมนี้ถ้าหากทิ้งอยู่บนพื้น ก็จะเก็บขึ้นมาง่าย แต่ถ้าหากทิ้งลงไปในถังขยะจะหาขึ้นมาได้นั้นก็จะยากแล้ว ถ้าหากโชคไม่ดี มีคนทิ้งขยะอื่นๆลงไปอีก ถึงตอนนั้นคาดว่าก็จะหาไม่เจอแล้ว
ต่อให้โชคดีหาเจอแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ได้หรือเปล่า อีกทั้งในถังขยะอาจจะมีผมของคนอื่นอยู่ด้วย ถึงตอนนั้นก็จะแยกไม่ได้อีกว่าเป็นของใคร
คุณชายหายรู้สึกว่าจะให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังทิ้งเส้นผมที่มีค่านี้ลงในถังขยะไม่ได้อย่างเด็ดขาด
นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาทุ่มเทอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่ได้มา จะสามารถทำให้สิ้นเปลืองไปแบบนี้ได้อย่างไรกัน
คุณชายหานคิดอยากจะเข้าไปช่วยรับจากคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เขาไม่ถือหากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะให้เขาเป็นถังขยะ จริงๆนะ เขาไม่ถือเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังเต็มใจมากอีกด้วย
แต่คุณชายหานกังวลว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะสงสัยเขา
ในที่สุดตอนนี้คุณชานหานก็เข้าใจตัวเองบ้างเล็กน้อย รู้ว่าเขาที่อยู่ต่อหน้าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอาจจะไม่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้วแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเขาจะออกหน้ามาไม่ได้เป็นอันขาด ถึงแม้เจ้าเก้าจะเป็นคนออกหน้ามาก็ยังดีกว่าเขา
คุณชายหานก้าวเท้า หลังจากนั้นก็เหยียบลงบนเท้าของเจ้าเก้า
เจ้าเก้าหันมามองเขา ตอนที่สบตากับคุณชายหาน เจ้าเก้าก็รู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเธอกับคุณชายหานก็โตมาด้วยกัน ดังนั้นเธอยังสามารถเข้าใจความหมายของคุณชายหานที่ต้องการจะสื่อในเวลานี้ได้
เวลานี้จริงๆแล้วในใจของเจ้าเก้านั้นร้อนรนมาก เธอรู้สึกลังเล หลังจากนั้นก็เดินไปตรงด้านหน้าของเวินลั่วฉิง : “คุณถัง ฉันช่วยคุณทิ้งดีกว่านะคะ”
เจ้าเก้าเองก็รู้ว่าทำแบบนี้อาจจะเป็นการดึงดูดความสนใจของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้ แต่เจ้าเก้าเองก็รู้ด้วยเช่นกัน ว่าถ้าหากพลาดโอกาสครั้งนี้ อยากจะหาโอกาสอีกครั้งเกรงว่าจะเป็นเรื่องยากมากกว่าเดิมเสียอีก
แผนการของเธอกับคุณชายหานและเสี่ยวซินนั้นสามารถพูดได้ว่าสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก แต่ถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองออกตั้งแต่แรกแล้ว
ถึงแม้ว่าความสามารถของหัวหน้าน้อยจะไม่เลวเลยนั้น แต่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นเก่งมากจริงๆ เจ้าเก้าไม่รู้สึกว่าหัวหน้าน้อยจะสามารถสู้กับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้เลย
ดังนั้นเจ้าเก้ารู้สึกว่าถึงแม้หัวหน้าน้อยจะเตรียมแผนB แผนCเอาไว้ แต่เธอก็ไม่ได้กอดความหวังเอาไว้มากเกินไปนัก
อีกทั้ง ถ้าหากครั้งนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับบ้านของตระกูลถัง ไม่ออกมาแล้ว ต่อให้หัวหน้าน้อยมีแผนการมากกว่านี้ก็ไม่สามารถจะลงมือปฏิบัติได้อยู่แล้ว
ตอนนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะกลับไปแล้ว ต่อให้พวกเขาจะหน้าหนากว่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตามคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับตระกูลถังไปได้จริงๆ
ถึงตอนนั้นกลัวว่าคนอื่นๆของตระกูลถังจะไล่พวกเขาออกมา ต่อให้พวกเขาอยากจะอาศัยอยู่นั้นก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้น เจ้าเก้าจึงตัดสินใจเสี่ยงดูครั้งหนึ่ง เอามาได้ก็ประสบผลสำเร็จ เพียงแค่สามารถเอาเส้นผมมาอยู่ในมือได้ ต่อให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะสงสัยเธอก็ไม่เป็นไร
ถ้าหากเอามาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่นอีก ถึงตอนนั้นหัวหน้าน้อยก็สามารถกำหนดแผนABCDEFGได้แล้วก็ได้
เวินลั่วฉิงชะงักเท้าลง ดวงตามองไปยังเจ้าเก้า ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปยังเจ้าเก้าอยู่แบบนั้น
จู่ๆหัวใจของเจ้าเก้าก็รู้สึกลนลาน ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เวลานี้เจ้าเก้ารู้สึกว่าฝ่ามือของตัวเองนั้นเริ่มมีเหงื่อผุดออกมาแล้ว
เมื่อก่อนเธอปฏิบัติภารกิจที่อันตรายมากมายขนาดนั้น เธอไม่เคยตื่นเต้นเหมือนกับตอนนี้เลย
ในใจเจ้าเก้ากำลังบอกกับตัวเองว่าจะต้องนิ่ง จะต้องสงบนิ่ง จะลนลานไม่ได้เป็นอันขาด จะเผยความผิดปกติออกมาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว จะทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังพบอะไรไม่ได้เด็ดขาด
คุณชายหานเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน ตื่นเต้นเสียจนแทบไม่ไหว แต่เขาต้องอดทนเอาไว้ เวลานี้เขาไม่ทำตัวให้ดูไม่น่าเชื่อถือแบบนั้นเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เขารู้ว่าช่วงนี้สำคัญมาก และทุกอย่างจะราบรื่น
ถ้าหากล้มเหลว แผนการต่อไปก็จะต้องยิ่งยากขึ้นอย่างแน่นอน
“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ช่วยฉันเอาไปทิ้งแล้วกันนะ” มุมปากของเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มจางๆ หลังจากนั้นก็เอาเส้นผมในมือวางไว้บนฝ่ามือของเจ้าเก้าที่ยื่นออกมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินลั่วฉิงนั้นจืดจางมาก เป็นธรรมชาติมาก มองไม่เห็นถึงความผิดปกติเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้าเก้าแบบหายใจออกมา สูดลมหายใจเข้า พยายามทำให้ตัวเองรักษาความนิ่งเอาไว้ ตอนที่เวินลั่วฉิงเอาเส้นผมวางลงบนฝ่ามือของเธอ ทั้งๆที่เป็นเพียงเส้นผมเพียงสองเส้น ทั้งๆที่เบามาจนแทบจะไม่มีน้ำหนักอะไร แต่เจ้าเก้ากลับรู้สึกว่าเหมือนกับหนักมาก หนักหน่วงมาก
คุณชายหานแอบหายใจออกมา โชคดี โชคดีที่ทุกอย่างราบรื่น มิเช่นนั้นแล้วต่อไปเขาก็ไม่รู้ว่าจะรายงานกับหัวหน้าน้อยอย่างไร
คุณชายหานรู้ว่าเพียงแค่เส้นผมมาถึงมือของเจ้าเก้า เรื่องราวก็นับว่าสำเร็จแล้ว เจ้าเก้าไม่ได้โง่ขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาเส้นผมที่ไม่ได้ได้มาง่ายๆนี้ทิ้งลงถังขยะ
มือที่กำอยู่ข้างลำตัวคุณชายหานค่อยๆคลายออก เขาถึงได้พบว่าฝ่ามือของเขานั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ
ตอนที่เขาปฏิบัติภารกิจหน้าที่ฝ่ามือของเขาไม่เคยมีเหงื่อออกมาก่อน ไม่คิดว่าเมื่อครู่นี้จะมีเหงื่อออก เก่งมากจริงๆ!!
เจ้าเก้ายังคงรักษาความนิ่งเอาไว้ ให้ตัวเองไม่รู้สึกลนลาน ไม่ต้องเผยความผิดปกติใดๆออกมา หลังจากที่รับเส้นผมของเวินลั่วฉิงมา เธอเดินถือเส้นผมไปยังถังขยะที่อยู่ด้านหน้า
ตอนที่เดินไปถึงตรงหน้าถังขยะนั้น เธอหยุด หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปตรงปากถังขยะ ฝ่ามือแบออก เอาสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งลงถังขยะไป
เวลานี้ทางนี้กับตรงถังขยะนั้นมีระยะห่างต่อกันอยู่บ้าง ระยะห่างทางนี้ จริงๆแล้วมองเห็นไม่ชัดว่าในมือของเจ้าเก้านั้นมีอะไรอยู่ เพราะถึงอย่างไรเป็นเพียงแค่เส้นผมสองเส้น ไกลขนาดนี้ก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว
และยิ่งไปกว่านั้นคือเวลานี้เจ้าเก้าหันข้างให้พวกเขาด้วย ยังบดบังการมองเห็นเล็กน้อยด้วย
เวินลั่วฉิงมองใบหน้าด้านข้างของเจ้าเก้า มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เป็นส่วนโค้งที่ดูเหมือนกับกึ่งๆยิ้มอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เวินลั่วฉิงละสายตาออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มองไปที่เจ้าเก้าอีก แล้วก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีกด้วยเช่นกัน
เจ้าเก้าหันกลับมาจากตรงถังขยะ ตอนที่เจ้าเก้ากลับมานั้น ใบหน้าสงบนิ่งมาก มองไม่ออกถึงความผิดปกติอะไร
ในใจของเวินลั่วฉิงแอบยิ้ม เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วๆไป
เวลานี้แม้แต่เธอ ก็ไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติอะไรจากใบหน้าของเจ้าเก้าได้เลย
หลังจากที่เจ้าเก้ากลับมาแล้ว ในที่สุดคุณชายหานก็เงียบลงแล้ว ไม่ได้เอ่ยพูดมากเหมือนกับครั้งก่อน และยิ่งไม่ได้ดื้อขนาดนั้นเหมือนตอนแรกเริ่มแล้ว
สีหน้าท่าทางของเวินลั่วฉิงนิ่งอยู่ตลอด และไม่ได้เอ่ยพูดออกมาอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน เพียงแค่กำลังเดินออกไปทางด้านนอกต่อ
คุณชายหานได้เส้นผมมาอยู่ในมือแล้ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พอได้รับของแล้วจะหันกลับเดินไปเลย เช่นนั้นก็จะชัดเจนมากเกินไป จะทำให้คนสงสัยได้ง่ายอีกด้วย
ดังนั้นคุณชายหานยังคงตามหลังเวินลั่วฉิงอยู่ เวินลั่วฉิงเดินไปหนึ่งก้าวเขาก็ตามไปหนึ่งก้าว
คุณชายหาน เจ้าเก้าและเสี่ยวซินก็ตามไปด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าเมื่อครู่นี้เจ้าเก้าจะดูนิ่งมาก แสร้งทำเป็นเหมือนคนที่ไม่มีอะไร แต่หัวใจของเธอนั้นกลับเต้นแรงมาก ถ้าหากไม่ใช่ว่าปกติลุงเหลียงฝึกฝนเธอเป็นพิเศษ เมื่อครู่นี้เธอจะต้องไม่มีทางแสร้งทำท่าทางนิ่งแบบนั้นได้อย่างเด็ดขาด!!
เวินลั่วฉิงเรียกรถแท็กซี่มาหนึ่งคัน เรียกทั้งสามที่ยังตามหลังเธออยู่ เวินลั่วฉิงมองพวกเขาแวบหนึ่ง : “ทำไมคะ? ยังคิดจะตามไปอีกหรือ? คิดจะตามฉันกลับบ้านไปจริงใช่ไหม?”
ตอนที่เวินลั่วฉิงเอ่ยพูดประโยคนี้ออกมายังคงมีสีหน้าท่าทางนิ่งเฉยเช่นเดิม มองไม่ออกถึงอารมณ์ที่มากมายนัก
“ไม่ ไม่แล้วครับ ไม่เหมาะสมหรอกครับ”ของก็ได้มาอยู่ในมือแล้ว ตอนนี้คุณชายหานรีบร้อนที่จะกลับไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว คุณชายหานใจร้อนอยากจะได้ผลตรวจ อยากจะรู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาหรือเปล่า
เจ้าเก้าก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยพูดออกมา เธอรู้สึกขาดความมั่นใจ แล้วก็รู้สึกละอายใจด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะพูดอย่างไรสุดท้ายแล้วเธอก็หลอกคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่ดี
“คุณเองก็รู้ว่าไม่เหมาะสมด้วยนี่คะ ถ้าอย่างนั้นที่พวกคุณตามฉันมาตลอดทางนี่เพราะอะไรกัน? เพราะจะมาส่งฉันขึ้นรถอย่างนั้นหรือ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของคุณชายหานแล้วก็หัวเราะขึ้นมา ไม่คิดว่าคนๆนี้จะรู้ว่าไม่เหมาะสมด้วย?
เดิมทีในใจของคุณชายหานนั้นมีเลศนัย เฟิ่งเหมียวเหมียวคนพูดไม่มีอารมณ์ที่จะพูด แต่คุณชายหานที่เป็นคนฟังกลับมีความตั้งใจ คุณชายหานที่มีใบหน้าที่หน้ากว่าผนังทองแดง เวลานี้ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อยด้วยเช่นกัน
“เอาล่ะ ฉิงฉิงไม่มาคิดเล็กคิดน้อยกับพวกเธอหรอก พวกเธอกลับไปเถอะ ตามพวกเราอยู่ตลอดแบบนี้ก็ไม่เหมาะจริงๆ”เฟิ่งเหมียวเหมียวเดิมทีมีนิสัยที่หากมีหลักการเหตุผลก็จะไม่ยอมถอยไปง่ายๆ นี่เป็นเรื่องของฉิงฉิง ฉิงฉิงไม่คิดเล็กคิดน้อย เธอก็ไม่สามารถไปสนใจมากเกินกว่านี้ได้อยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจพวกเขาอีก เธอขึ้นรถไป แล้วเฟิ่งเหมียวเหมียวก็ตามขึ้นรถไปด้วยเช่นกัน
หลังจากที่รถขับออกไปแล้ว เวินลั่วฉิงก็หันกลับไปมอง เห็นว่าทั้งสามคนได้กลับไปแล้ว
เวินลั่วฉิงหลับตาลงแล้วเอนพิงกับพนักพิง จนถึงตอนนี้ สถานการณ์โดยพื้นฐานเธอก็พอจะเข้าใจแล้ว
พวกเขาเอาเส้นผมของเธอไป เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่แรกพวกเขาคงจะมาด้วยจุดประสงค์นี้