ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1480 ผลการตรวจดีเอ็นเอ (6)
ซ่างกวนหงฟังหัวหน้าน้อยเล่า ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย : “เอาปืนเล็งไปที่คนในโรงพยาบาล? เมื่อก่อนฉันสอนนายแบบนี้หรือ?”
“ก็เป็นการขู่ ขู่เสียหน่อย ในปืนไม่ได้ใส่กระสุนเอาไว้ ไม่เกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมก็แค่อยากให้เธอตกใจแล้วหลบไป หลังจากนั้นก็ให้เจ้าเก้าอาศัยจังหวะเอาเส้นผมเธอมา……..”มู่เฉิงได้ยินน้ำเสียงงนี้ของหัวหน้าแล้ว เห็นได้ชัดว่าความมั่นใจไม่เพียงพอแล้ว เวลาก็ดูเล็กลงขึ้นมาด้วย
“อีกทั้ง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ไม่ได้ตกใจเลยด้วย คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเห็นคุณชายหานถือปืนเล็งไปที่เธอ เธอยังยิ้มให้คุณชายหานเลยด้วยซ้ำ”ตอนที่แผนการดำเนินอยู่นั้น หัวหน้าน้อยก็คอยสังเกตอยู่ตลอด ดังนั้นจึงรู้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
จริงๆแล้ว แม้แต่เขาในตอนนั้นก็รู้สึกอึ้งไปแล้ว ต่อให้เป็นเขา เห็นคนอื่นเล็งปืนมาที่เขา เกรงว่าเขาเองก็คงนิ่งแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน และยังหัวเราะกับเขาอีก เขาไม่ฆ่าไปเลยก็ไม่นับแล้วนะ
“เพราะฉะนั้น เธอไม่กลัว นายก็ไม่ผิดแล้ว?”ดวงตาของซ่างกวนหงมองไปที่หัวหน้าน้อยอีกครั้ง หัวหน้าน้อยยังมีคำพูดบางอย่างที่คาอยู่ในลำคอ ไม่กล้าพูดออกมาอีก
“หัวหน้า หัวหน้าน้อยจะทำอะไรก็มีน้ำหนักอยู่แล้ว จะต้องไม่ทำร้ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างแน่นอนครับ” ผู้ดูแลจ้งมองออกว่าหัวหน้าตัวเองนั้นโมโหแล้ว อดที่จะขอความเมตตาแทนหัวหน้าน้อยไม่ได้
คำพูดนี้ของผู้ดูแลจ้งไม่ใช่ว่าเป็นการพูดไปอย่างนั้นแน่นอน ผู้ดูแลจ้งมองออกว่าหัวหน้าน้อยก็ให้ความสำคัญกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากเช่นกัน ดังนั้น หัวหน้าน้อยจะไม่มีทางทำร้ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถังโดยเด็ดขาด
“หัวหน้าน้อยเองก็อยากจะทำให้ภารกิจนี้เสร็จสิ้นเร็วๆเช่นกัน หลีกเลี่ยงกับการที่ต่อไปจะต้องรบกวนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีก” ผู้ดูแลจ้งเข้าใจหัวหน้าตัวเองเช่นกัน ดังนั้นผู้ดูแลจ้งจึงรู้ว่าควรจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร
“ดีที่ผลลัพธ์ออกมาไม่เลวเลย หัวหน้าน้อยจับพลัดจับพลูจัดการเรื่องได้สำเร็จแล้ว เรื่องนี้ผมเองก็วางแผนอยู่นานขนาดนั้น แต่ไม่สำเร็จมาโดยตลอด สุดท้ายแล้วก็เป็นหัวหน้าน้อยออกโรง ดูแล้ววิธีที่มีความคิดแบบอนุรักษ์นิยมแบบนั้นจะไม่ค่อยเหมาะสมกับเด็กวัยรุ่นตอนนี้เท่าไหร่” ผู้ดูแลจ้งพูดออกมาแล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาด้วย เป็นการถอนหายใจออกมาจริงๆไม่ใช่เป็นการแสร้งทำ
“ตอนนี้เรื่องราวจัดการสำเร็จแล้ว และก็ไม่ได้เป็นการรบกวนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเท่าไหร่นัก คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ไม่ได้โมโห โดยรวมแล้วก็พูดได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย” ผู้ดูแลจ้งรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์นี้มากจริงๆ สามารถพูดได้ว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ซ่างกวนหงมองผู้ดูแลจ้งแวบหนึ่ง แล้วไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก
“หัวหน้าครับ ตอนนี้จะไปตรวจดีเอ็นเอแล้วใช่ไหมครับ หัวหน้าน้อยให้ลุงเหลียงทางนั้นเตรียมพร้อมแล้วครับ” ผู้ดูแลจ้งยิ้ม แล้วจำต้องเอ่ยพูดขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง ตอนนี้ได้เส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นจะต้องรีบไปตรวจดีเอ็นเอ เรื่องจะไม่มีเหตุผลที่จะต้องลากให้ยืดยาวออกไปอีกแล้ว
ตอนนี้ทุกคนล้วนแต่ใจร้อนที่อยากจะเห็นผลลัพธ์แล้ว หัวหน้าน้อยรีบ เขาเองก็รีบ ในใจของหัวหน้าก็คงจะรีบด้วยเช่นกันใช่ไหม?
ดังนั้น ตอนนี้วางเรื่องอื่นๆเอาไว้ก่อน เรื่องอื่นๆยังไม่ต้องสนใจ ตรวจดีเอ็นเอก่อนถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ซ่างกวนหงยกมือขึ้น แล้วดึงเส้นผมของตัวเองออกมาสองสามเส้น หลังจากนั้นก็ยื่นส่งให้ตรงหน้าของมู่เฉิง
ตอนที่ซ่างกวนหงทำทุกอย่างนี้ ดูแล้วก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิมเหมือนเวลาปกติ ใบหน้ามองไม่ออกถึงความผิดปกติใดๆ ดวงตาคู่นั้นก็ไม่มีความไหวติงอะไรด้วยเช่นกัน แต่ผู้ดูแลจ้งที่ยืนอยู่ข้างๆเขากลับพบว่าร่างของหัวหน้านั้นแข็งทื่อไปอย่างเห็นได้ชัด มือที่ยื่นออกไปนั้นก็ดูแข็งๆด้วยเช่นกัน
“ได้ครับ ผมไปตอนนี้เลย” หัวหน้าน้อยรอเส้นผมของหัวหน้าอยู่ เมื่อครู่หัวหน้าน้อยเห็นหัวหน้าโมโห ยังคิดว่าจะเอาเส้นผมของหัวหน้ามาได้อย่างยากลำบากเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาง่ายขนาดนี้
“หัวหน้าน้อยรีบไปเถอะ ผลออกมาแล้ว ก็มารายงานทันทีนะ” ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าหัวหน้าน้อยใจร้อน เขาเองก็ใจร้อนเช่นกัน ความจริงแล้วในใจของหัวหน้าเองก็ร้อนรนด้วยเช่นกัน แต่หัวหน้าจะไม่พูดคำพูดแบบนี้ออกมาอย่างแน่นอน ดังนั้นคำพูดพวกนี้ให้เขาเป็นคนพูดแทน
“อืม รู้แล้วครับ” หัวหน้าน้อยตอบรับ หลังจากนั้นก็หันหลังหายไปในชั่วพริบตาเดียว มองออกว่าร้อนใจมากจริงๆ
“หัวหน้า ตอนนี้หัวหน้าน้อยไปแล้ว วันพรุ่งนี้ช่วงเช้าตรู่ผลก็ออกมาแล้วครับ” หลังจากที่หัวหน้าน้อยออกไปแล้ว ผู้ดูแลจ้งก็มองไปยังหัวหน้าของตัวเอง สีหน้าท่าทางมีความซับซ้อน
ผู้ดูแลจ้องเองก็รู้ว่านี่นับว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก
ว่ากันตามจริงแล้วเรื่องนี้เสียเวลามาเป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าจะว่าอย่างไรก่อนหน้านี้อะเหลียงก็เคยสงสัยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคือลูกสาวของหัวหน้า ถึงแม้ต่อมาจะรู้แล้วว่าพ่อของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเวินจือฝาง
แต่ในตอนนั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับไปยังตระกูลเวินก็อาศัยหลักฐานที่ตรวจดีเอ็นเอกับคุณปู่เวินใบหนึ่ง นับว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุด แต่ก็ไม่ปฏิเสธเช่นกันว่าเป็นการแสร้งทำในตอนนั้น
เพราะถึงอย่างไรการตรวจดีเอ็นเอของหัวหน้ากับเฉิงโหรวโหรว หัวหน้ามาถึงที่ด้วยตัวเอง มีคนเฝ้าอยู่มากมายขนาดนั้น ยังไมใช่ว่าถูกหลอกเหมือนกันหรือ แน่นอนว่าวิธีการหลอกของเฉิงโหรวโหรวนั้นสูงมากเกินไปจริงๆ
ก่อนที่จะตรวจสอบเรื่องราวนั้น ใครก็คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการเปลี่ยนเลือด
ถ้าหากในตอนนั้นที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับไปยังตระกูลเวินแล้วตรวจดีเอ็นเอและมีคนทำข้อมูลปลอมเหมือนกันล่ะ?
ตอนนี้ในใจของผู้ดูแลจ้งเองคาดหวังเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ เนื่องจากมีเพียงแบบนี้ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นลูกสาวของหัวหน้า
เวลานี้ผู้ดูแลจ้งก็คาดหวังว่าผลจะออกมาเร็วๆ อีกทั้งก็รู้สึกกลัวผลออกมา ผู้ดูแลจ้งกลัวผลของการตรวจดีเอ็นเอหากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า
หัวหน้าจะต้องผิดหวัง เสียใจ เป็นทุกข์อย่างแน่นอน สิ่งที่ผู้ดูแลจ้งเป็นกังวลที่สุดก็คือถึงตอนนั้นหัวหน้าจะได้รับการโจมตีอย่างแรง
“นายว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร?” ถึงแม้ตอนที่ซ่างกวนหงดึงผมตัวเองนั้นจะแสดงออกมาว่าสงบนิ่งมาก แต่เวลานี้ในใจเขารู้สึกตื่นเต้นมาก หลายปีมานี้ เขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน เดิมทีเขาอยากจะไปกับมู่เฉิงเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับรู้สึกกลัวอยู่บ้าง เขากลัว……
“หัวหน้าครับ” ผู้ดูแลจ้งได้ยินคำพูดของหัวหน้าตัวเองดูตะลึงงันอย่างเห็นได้ชัด เขาอยู่กับหัวหน้ามาสี่สิบปีแล้ว ดังนั้นเวลานี้ผู้ดูแลจ้งก็ฟังออกถึงความตื่นเต้น ความกังวล แม้กระทั่งมีความรู้สึกกลัวในน้ำเสียงของหัวหน้าออก
หัวหน้ากำลังกลัว?!
คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าจะกำลังรู้สึกกลัว?!
นับตั้งแต่ที่เขาอยู่ติดตามหัวหน้ามานั้น เขาก็ไม่เห็นหัวหน้าเคยจะรู้สึกกลัวเลย
ไม่ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะเกิดเรื่องใหญ่อะไร หัวหน้าก็สามารถสงบนิ่งได้ ต่อให้หัวหน้าจะตามหาตัวภรรยามาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวมาโดยตลอด หัวหน้าเองก็รู้สึกหดหู่ เจ็บปวด และหัวหน้าก็ไม่เคยรู้สึกกลัว บางทีเป็นเพราะในใจของหัวหน้ามีความหวังอยู่ตลอดว่าจะหาตัวภรรยาเจอ ดังนั้นถึงไม่ได้รู้สึกกลัว
แต่เขากลับรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหัวหน้ากำลังกลัว
ผู้ดูแลจ้งไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้อย่างไร เนื่องจากว่าในใจของผู้ดูแลจ้งเองก็ไม่มีคำตอบเช่นกัน ตัวของผู้ดูแลจ้งเองก็กำลังรู้สึกกังวล ตื่นเต้นด้วยเช่นกัน เวลานี้เขาไม่สามารถที่จะรับประกันอะไรกับหัวหน้าได้เลยจริงๆ
“ฉันใจร้อนเกินไปเอง” มุมปากของซ่างกวนหกยกยิ้มขึ้นมา เขาเองก็รู้ว่าคำถามนี้ผู้ดูแลจ้งไม่สามารถตอบได้เลย
ตอนนี้มู่เฉิงกำลังเอาเส้นผมไป หลังจากมู่เฉิงไปแล้ว จะต้องรีบเริ่มการตรวจดีเอ็นเอในทันทีอย่างแน่นอน ผ่านไปอีกไม่กี่ชั่วโมงผลก็จะออกมาแล้ว แม้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เขาก็จะรอไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ?
ถึงแม้ว่าเวลานี้ซ่างกวนหงจะหัวเราะอยู่ แต่ผู้ดูแลจ้งกลับได้ยินถึงความอ้างว้างในเสียงหัวเราะของหัวหน้าเช่นเคย ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าถึงแม้หัวหน้าจะพูดแบบนี้ แต่ในใจเกรงว่าจะยิ่งรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก
“หัวหน้าครับ หัวหน้าเห็นรูปถ่ายของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังครั้งแรกก็ชอบคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากเป็นพิเศษ นี่ก็หมายความว่าหัวหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมีพรมลิขิตต่อกัน หลายปีขนาดนี้ หัวหน้าไม่เคยรู้สึกพิเศษแบบนี้กับใครมาก่อน เพราะฉะนั้นระหว่างหัวหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะต้องมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างแน่นอนครับ” ผู้ดูแลจ้งทนเห็นหัวหน้าอ้างว้างแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นให้กำลังใจ
คำพูดของผู้ดูแลจ้งค่อนข้างนิ่มนวล แต่ความหมายนั้นกลับชัดเจนมาก
“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจหมดแหล่ะ”ดวงตาของซ่างกวนหงมองไปยังรูปวาดของตัวเอง : “เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถจะดึงดันได้ ควรจะเป็นของฉันก็ต้องเป็นของฉัน ไม่ใช่ของฉันจะดึงดันยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี หลายปีมานี้ ฉันเข้าใจมาตั้งนานแล้ว”
ยี่สิบห้าปีแล้ว ยี่สิบห้าปีที่ตามหาโดยไม่เจอเบาะแสเลยแม้แต่นิดเดียว เขาคิดว่าเหตุผลบางอย่างเขาควรจะเข้าใจเสียตั้งแต่แรกแล้ว
แต่เมื่อครู่นี้เขายั้งสติเอาไว้ไม่ได้
“หัวหน้า จะต้องเป็นอย่างที่หวังแน่ๆครับ” ผู้ดูแลจ้งได้ยินคำพูดของหัวหน้าแล้วก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา หัวหน้าเป็นถึงความภูมิใจของสวรรค์ เคยมีตัวตนอยู่ในเทพนิยายที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ผู้ดูแลจ้งไม่อยากจะเห็นหัวหน้าเขาเป็นแบบนี้เลยจริงๆ
“รอให้ผลออกมาแล้วกัน ผลออกมาก็รู้แล้ว” มุมปากของซ่างกวนหงแยกออกจากกัน ดูเหมือนอยากจะยิ้ม แต่ยิ้มนั้นดูแล้วจะแข็งทื่ออยู่บ้าง ซ่างกวนหงพบว่าตัวเองรู้ว่าไม่สามารถดึงดันได้ แต่ในใจของเขาก็ยังคงอยากจะดึงดัน อยากจะดึงดันผล ผลหนึ่งที่เขาต้องการ ผลลัพธ์นั่น..