ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1482 สู่ขอเจ้าหญิง (2)
“เรื่องนี้รีบไม่ได้ ห้ามเกิดข้อผิดพลาดเด็ดขาด เส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ หากครั้งนี้ล้มเหลวแล้ว อยากจะได้เส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีกเกรงว่าจะยากกว่ากันขึ้นฟ้าเสียอีก” ถึงแม้ว่าปกติแล้วคุณชายหานจะดื้อจะซน ถ้าว่าในเรื่องจริงจังห้ามประมาทเด็ดขาด
“ถูก เรื่องนี้รีบไม่ได้” เจ้าเก้าก็พูดเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง “และไม่ได้รีบจะเอาในตอนนี้ด้วย”
“พรุ่งนี้ผลก็ออกมาแล้ว หัวหน้าน้อยกลับไปนอนก่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เช้ามาเอาผลก็ได้แล้วครับ” ลุงเหลียงมองดูหัวหน้าน้อย ยิ้มจริงแฝงยิ้มเสแสร้ง
หัวหน้าน้อยเหลือกตาขาวให้ลุงเหลียงเลย “ตอนนี้นายนอนหลับเหรอ? นายลองกลับไปนอนตอนนี้ให้ฉันดูหน่อย?”
ผู้อาวุโสสองสามคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งน่าโมโหแล้วจริงๆ!!
“ฉันรออยู่ที่นี่แหละ หลังจากที่ผลออกมาแล้ว ฉันจะต้องรีบไปรายงานหัวหน้าทันที” หัวหน้าน้อยไม่มีทางไปแน่นอน เขาจะต้องรู้ผลในเวลาแรก
หัวหน้าน้อยรู้ว่าคืนนี้คงจะมีหลายคนที่นอนไม่หลับ นับเขาด้วยคนหนึ่ง คุณชายหานและเจ้าเก้ายิ่งไม่ต้องพูด ในเมื่อลุงเหลียงก็มาแล้ว ก็ต้องจ้องอยู่ตลอดเวลาแน่นอน
หัวหน้าและผู้ดูแลจ้งเกรงว่าจะนอนไม่หลับเช่นกัน
“สี่คนพอดี เอาสักตั้งไหม?” หัวหน้าน้อยรู้สึกว่าจะรออยู่อย่างนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นวิธีที่ดี รออยู่เฉยๆ อย่างนี้ทำให้รู้สึกรนเกินไป สู้หาอะไรทำฆ่าเวลาจะดีกว่า
คำพูดนี้ของหัวหน้าน้อยออกมา คนอื่นๆ อีกสามคนก็อยู่เท้าเดินทางที เปิดระยะห่างออกจากหัวหน้าน้อย
“พวกนายหมายความว่าอะไร?” ในนัยน์ตาสองชั้นที่สง่างามของหัวหน้าน้อยหรี่ขึ้น เกิดอะไรขึ้น? นี่รังเกียจเขาเหรอ?
“พวกเราไม่มีเงิน ใครจะไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยท่านเล่นไพ่นกกระจอกขึ้นมาสังหารทั่วทุกทิศ สภาพพังพินาศย่อยยับ” คุณชายหานอดเบ้ปากไม่ไหว ใช่ว่าพวกเขาจะเกินเยอะจนไม่มีที่เก็บ จะเล่นไพ่นกกระจอกหาปัญหาให้ตนเองทำไม
“ฉันสามารถยอมพวกนายหน่อยตามความเหมาะสมได้นะ” หัวหน้าน้อยกะพริบตา แฝงความไร้เดียงสาเล็กน้อย หรือว่าเล่นไพ่เก่งนั้นเป็นความผิดของเขาเหรอ?
หรือว่าโชคดีเกินไปก็เป็นความผิดของเขา?
เขาจับจับได้ไพ่ดีตลอด เล่นก็ดี อยากจะแพ้ยังยาก นี่สามารถโทษเขาได้เหรอ?
“ไม่ ฉันปฏิเสธ” เจ้าเก้าที่พูดด้วยง่ายมาโดยตลอด ขณะนี้ก็มีท่าทีที่ปฏิเสธอย่างชัดเจน หัวหน้าน้อยบอกว่าจะยอมพวกเขาตามความเหมาะสม?
ยอมให้ตามความเหมาะสม พวกเขาก็ยังแพ้อยู่ดี อีกอย่างเจ้าเก้าก็ไม่เชื่อคำพูดของหัวหน้าน้อย หัวหน้าน้อยเล่นไพ่ขึ้นมา ไม่เคยมีคำว่ายอมเลย
ครั้งที่แล้วหัวหน้าน้อยก็พูดแบบนี้ เธอเชื่อแล้ว ปรากฏว่า เงินเดือนสองสามเดือนของเธอบวกกับเงินที่ได้จากการทำภารกิจครั้งที่แล้วแพ้ให้กับหัวหน้าน้อยหมดเลย
“เจ้าเก้า เงินที่เธอแพ้ไป สุดท้ายฉันสามารถคืนให้เธอได้” หัวหน้าน้อยมีความไม่ตายใจ พูดโน้มน้าวต่อ พอนึกถึงว่าต้องรอเฉยๆ สิบกว่าชั่วโมง หัวหน้าน้อยก็รู้สึกว่ารับไม่ไหว จะต้องหาเรื่องบางอย่างทำ
“ครั้งที่แล้วนายก็พูดแบบนี้กับเจ้าสี่ ทว่าสุดท้ายนายก็ชนะเงินของเราทั้งหมด แล้วเก็บใส่กระเป๋าทั้งหมดจากไปโดยไม่เหลือสักบาทเลย” เจ้าเก้าเบ้ปาก สำหรับคำพูดนี้ของหัวหน้าน้อย เธอไม่เชื่อเช่นกัน เรื่องการเล่นไพ่นกกระจอก คำพูดของหัวหน้าน้อยไม่สามารถเชื่อได้เด็ดขาด
แน่นอนว่า คำพูดปกติของหัวหน้าน้อยเขาเองก็ไม่ค่อยเชื่อเช่นกัน!!
หัวหน้าน้อยหันไปทางคุณชายหานอีกครั้ง
“อย่ามองฉัน ตีให้ตายฉันก็ไม่มีทางเล่นไพ่นกกระจอกกับนายอีก” คุณชายหานโบกมือ ท่าทีการปฏิเสธก็ชัดเจนยิ่งกว่า เจ้าเก้าไม่เพียงแต่เคยเล่นกับหัวหน้าน้อยครั้งเดียว เขาเล่นมาหลายครั้งแล้ว แพ้อย่างราบคาบทุกครั้งเลย
เงินที่เขาออมมาในหลายปีนี้อย่างยากลำบากเพื่อที่จะใช้สู่ขอเมียจะถูกหัวหน้าน้อยเอาไปจนหมดแล้ว
“งั้นก็รออยู่อย่างนี้?” ทั้งหมดสี่คน มีสองคนที่มั่นใจ หัวหน้าน้อยเองก็ไม่ได้ถามความเห็นจากลุงเหลียงอีกแล้ว
“ฉันยอมรอ ฉันต้องเก็บเงินไว้สู่ขอภรรยาอีก” คุณชายหานพยักหน้า ใช้แรงพยักหน้า เขายอมรอ
“มีอนาคต” หัวหน้าน้อยเหลือกตาขาวให้เขา “ตอนที่นายสู่ขอภรรยาเดี๋ยวฉันให้เงินนาย”
“จริงเหรอ งั้นพอถึงหัวหน้าน้อยให้เท่าไหร่ล่ะ?” คุณชายหานดวงตาเปลี่ยนประกายขึ้นทันที เขาสู่ขอภรรยาหากหัวหน้าน้อยให้เงินจริงๆ งั้นเป็นเรื่องดี
“นายหาให้ได้ก่อนค่อยพูด อีกอย่างแค่สู่ขอภรรยาจะใช้เงินสักเท่าไหร่กัน? ฉันให้นายห้าหมื่น พอแล้วสินะ?” หัวหน้าน้อยมีความดูถูกเล็กน้อย รู้สึกไม่เห็นด้วย!!
“หัวหน้าน้อย ถึงว่าล่ะนายอายุขนาดนี้แล้วยังสู่ขอภรรยาไม่ได้” คุณชายหานเบ้ปากแรงที่มุมปาก เขาไม่เข้าใจมาโดยตลอดว่าหัวหน้าน้อยหน้าตาดีขนาดนี้ ทำไมถึงหาภรรยาไม่เจอสักทีล่ะ
ตอนนี้ในที่สุดคุณชายหานก็เข้าใจแล้ว หัวหน้าน้อยขี้งกเกินไปแล้ว!!
สมแล้วที่หาภรรยาไม่เจอ!
ลุงเหลียงที่เย็นชามาโดยตลอดก็อดหัวเราะไม่ไหว “หัวหน้าน้อย นายก็ควรจะสู่ขอภรรยากลับมาคนหนึ่งแล้ว”
“ฉันก็อยากสู่ขอเหมือนกัน ประเด็นคือยังหากคนที่อยากสู่ขอไม่เจอ” หัวหน้าน้อยไม่ได้เร่งรีบกับเรื่องนี้ สำหรับเรื่องนี้เขาเองก็มีท่าทีว่ายอมขาดดีกว่าจะไปถลุงเล่น!!
“หัวหน้าน้อย ขี้งกขนาดนี้อย่างนาย ก็ไม่ต้องเลือกมากแล้ว ไม่เช่นนั้นคงจะโสดทั้งชีวิตแล้วแหละ” คุณชายหานรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องเตือนหัวหน้าน้อยอย่างหวังดีสักหน่อย
“หัวหน้าน้อย ครั้งที่แล้วนายบอกว่าหากหัวหน้ายอมรับเจ้าหญิงกลับมาแล้ว นายก็จะสู่ขอเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ” นัยน์ตาของคุณชายหานขยับเล็กน้อย จู่ๆก็นึกถึงคำพูดในวันนั้นตอนที่ไปทำทำการตรวจดีเอ็นเอของเฉิงโหรวโหรว
ก็แค่ไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยพูดล้อเล่นทั้งหมด หรือว่ามีความจริงจังอยู่?
นัยน์ตาของมู่เฉิงเปล่งประกายเล็กน้อย เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดอะไร
“หัวหน้าน้อย หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เราจริงๆ นายจะสู่ขอคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไหม?” คุณชายหานเป็นคนที่หวังให้เรื่องราวใหญ่โตเพื่อเป็นไปตามเป้าหมายของตนเอง เขาไม่มีความเห็นที่จะทำให้เรื่องวุ่นวายใหญ่โต ในทางกลับกันในไม่ช้าผลก็จะออกมาแล้ว ไม่แน่พอถึงเวลาอาจจะได้เห็นความสนุกก็เป็นได้
“อย่าพูดไปมั่ว หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เราจริงๆ หัวหน้าคงไม่ยอมให้เจ้าหญิงออกแต่งเร็วขนาดนั้นหรอก……” ลุงเหลียงมองไปทางหัวหน้าน้อยหนึ่งที ไม่รอให้หัวหน้าน้อยตอบ ลุงเหลียงเอ่ยปากพูดก่อนแล้ว
คำพูดของลุงเหลียงหยุดไปสักพัก จากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสริมอีกประโยคว่า “หัวหน้าคงไม่ยอมให้เจ้าหญิงแต่งงานกับหัวหน้าน้อยหรอก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” คุณชายหานหัวเราะใหญ่ “ลุงเหลียง ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องจริง ทว่าลุงก็ไม่ควรพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ ต้องเหลือหน้าไว้ให้หัวหน้าน้อยหน่อย”
“ลุงเหลียง คำพูดนี้ของลุงคือหัวหน้าไม่อยากให้เจ้าหญิงแต่งงาน แต่ว่าหัวหน้าก็คงไม่สามารถเก็บเจ้าหญิงไว้ได้ตลอดชีวิต หัวหน้าคงไม่สามารถห้ามไม่ให้เจ้าหญิงแต่งงานได้หรอก?” เจ้าเก้าไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดประโยคนี้ของลุงเหลียง หัวหน้าจะชอบเจ้าหญิงขนาดไหน ก็ไม่สามารถห้ามเจ้าหญิงไม่ให้แต่งานได้
“หากเจ้าหญิงมีคนที่ชอบแล้ว หัวหน้าคงห้ามไม่อยู่หรอก?” เจ้าเก้าเองก็รู้เรื่องยางอย่างที่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังที่คุณชายสามเย่
“หากคนคนนั้นไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากเจ้าหญิงชอบ หัวหน้าต้องห้ามไม่อยู่แน่ๆ หากผู้ชายคนนั้นเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ หัวหน้าก็สามารถห้ามได้ โดยเฉพาะหัวหน้าน้อย หัวหน้าต้องมีวิธีทางเป็นล้านเป็นแสนที่จะห้ามไว้ได้แน่นอน” ในตอนที่ลุงเหลียงพูดประโยคนี้ ก็อดหันไปมองหัวหน้าน้อยไม่ไหว นัยน์ตามีรอยยิ้มแฝงอยู่ ราวกับว่ามีความรู้สึกยินดีปรีดากับความโชคร้ายของผู้อื่น
“ทำไมล่ะ?” เจ้าเก้าตะลึงงัน มีความไม่ค่อยเข้าใจ
“ทำไมคนอื่นก็ได้หมด แต่ว่าพอฉันก็จะห้ามไว้” หัวหน้าน้อยเองก็อดถามไปไม่ไหว ไม่รู้ว่าเพราะโมโหที่ได้รับความไม่ยุติธรรม หรือว่าเพราะสิ่งอื่น
“ค่อยๆ คิด หัวหน้าน้อยฉลาดขนาดนี้ ต้องคิดออกแน่นอน” ลุงเหลียงกลับไม่ได้พูดอะไรมาก ทว่าบนใบหน้ามีรอยยิ้มที่ลึกซึ้งแฝงอยู่
“พวกผู้อาวุโสพวกนี้แต่ละคนร้ายกว่าแต่ละคนจริงๆ เลย” ในใจของหัวหน้าน้อยมีความหดหู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าน้อย ทว่าลุงเหลียงไม่พูด เขาก็ไม่สามารถบังคับให้ลุงเหลียงพูดได้
พูดคำพูดถึงแล้วเหลือไว้ครึ่งหนึ่ง เกินไปแล้ว!!
“ฉันให้คนไปเตรียมข้าวเย็น ทุกคนทานข้าวกันก่อน ทานข้าวแล้วค่อยๆ รอ ยังต้องรออีกสิบชั่วโมงเลย” ลุงเหลียงเห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว ต่อจากนี้ยังต้องรออีกสิบชั่วโมง สามารถไม่นอนได้ ทว่าต้องเติมท้องให้อิ่มก่อน
เรื่องเมื่อกี้ที่เกี่ยวกับว่าหัวหน้าน้อยจะสู่ขอเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้นั้น เพราะการพูดแทรกจองลุงเหลียงจึงได้หยุดไป หัวหน้าน้อยไม่ได้ไล่ถามต่อ คุณชายหานก็ไม่ได้พูดอะไรแล้ว
ถึงแม้ว่าปกติคุณชายหานจะดื้อไปหน่อย ทว่าเขาเองก็รู้ว่าเรื่องบางอย่างต้องมีความเหมาะสม หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาจริงๆ พวกเขานำเจ้าหญิงมาพูดหยอกล้อแบบนี้ไม่ดี เมื่อกี้ลุงเหลียงก็ได้พูดแทรกเพื่อย้ำเตือนเขาแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรอผลออกมา เรื่องเรื่องนี้ล้วนต้องรอผลออกมาก่อนค่อยว่ากัน
หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาจริงๆ พอถึงเวลาหัวหน้าน้อยจะสู่ขอหรือเปล่า นั่นล้วนแต่เป็นเรื่องระหว่างหัวหน้าน้อยและเจ้าหญิง จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาควรจะไปยุ่ง