ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1484 บ้าคลั่งเกินไปแล้ว (2)
ไป๋ยี่รุ่ยไม่มีการตอบสนองใดๆ ครั้งนี้เขาไม่แม้กระทั่งมองเธออีก ละเลยเธอไปอย่างเด็ดขาดเลย
“ไป๋ยี่รุ่ย นี่ท่าทีอะไรของนาย? ฉันทำเพื่อนายมามากมายขนาดนั้น นายทำกับฉันแบบนี้เลยเหรอ?” สุดท้ายไป๋หยิงก็ทนไม่ไหว สิ่งที่เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือเขาทำแบบนี้กับเธอ
“เธอไม่ได้ทำเพื่อฉัน เธอต่างก็ทำเพื่อตัวเธอเอง ตอนนั้นทั้งบริษัทเป็นของเธอหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?” ไป๋ยี่รุ่ยพูดเสียงด้วยความดูถูก น้ำเสียงค่อนข้างต่ำ ฟังแล้วทำให้รู้สึกหดหู่
เขาคิดไม่ถึงว่าบริษัทที่เขาสร้างมาเองกับมือสุดท้ายจะตกเป็นของเธอทั้งหมด
ตอนนี้เธอยังมีหน้ามาพูดอีกว่าต่างก็ทำเพื่อเขา?!
“บริษัทเป็นของนาย ฉันไม่ได้แย่งกับนาย ฉันก็ไม่มีทางแย่งกับนาย” ไป๋หยิงมองเขา นัยน์ตามีความอ่อนโยนที่ไม่สามารถปิดบังได้ สำหรับเขา เธอเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจมากที่สุดแล้ว เธอจะแย่งบริษัทเขาได้ยังไง
“เธอขังฉันอยู่ที่นี่ ไม่ให้ฉันติดต่อกับใครเลย เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ?” ริมฝีปากของไป๋ยี่รุ่ยมีความประชดแฝงอยู่
“ขังนายไว้เป็นเพราะว่าเรื่องฆ่าตัวตาย เป็นเพราะว่านายไม่เห็นชีวิตของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญเลย ฉันไม่ให้ตายติดต่อกับคนภายนอก ก็เพื่อที่จะปกป้องนาย ไม่ได้จะแย่งบริษัทกับนาย” แน่นอนว่าไป๋หยิงเห็นรอยยิ้มที่ประชดบนใบหน้าของเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกอัดอั้นใจและเสียใจมาก
“ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว” ไป๋ยี่รุ่ยเบ้ปาก น้ำเสียงเย็นชาลงเล็กน้อย
จริงๆ แล้วเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะตอบตกลงกับคุณแม่ไว้ว่าจะทวงความยุติธรรมคืนให้คุณพ่อ เขาไม่มีเธอก่อตั้งบริษัทอะไรอยู่แล้ว
หากไม่ใช่เพราะจะทวงความยุติธรรมคืนกลับให้คุณพ่อ ตอนนั้นเขาก็ไม่มีทางแยกทางกับเวินลั่วฉิง
ตอนนี้สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็ทำหมดแล้ว ทว่าสิ่งที่เขาต้องการที่สุดกลับหายไปตลอดกาล ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่สนใจแล้ว
“นายไม่สนใจ งั้นนายสนใจอะไร? เวินลั่วฉิงเหรอ? นายสนใจแต่เวินลั่วฉิง นอกจากเวินลั่วฉิงแล้ว นายยังสนใจอะไรอีก?” จู่ๆ อารมณ์ของไป๋หยิงก็ถูกกระตุ้นขึ้น กรีดร้องเสียงดังขึ้นกะทันหัน ความโกรธที่อดทนและอดทนอีกในเมื่อกี้ในที่สุดก็ระเบิดออกมา
ไป๋ยี่รุ่ยหันกลับไปมองเธอ เห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของเธออย่างกะทันหันก็มีความแปลกใจเล็กน้อย เหมือนไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องโมโหขนาดนี้
“นายสนใจเวินลั่วฉิง แต่เวินลั่วฉิงสนใจนายไหม? ตอนนี้คนที่เวินลั่วฉิงชอบคือเย่ซือเฉิน เวินลั่วฉิงแต่งงานกับเย่ซือเฉินตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าช่วงก่อนพวกเขาจะหย่ากัน แต่ว่าตอนนี้พวกเขากลับมาคบกันแล้ว ตอนนี้คนที่เวินลั่วฉิงรักคือเย่ซือเฉิน เธอลืมนายไปอย่างหมดจดตั้งนานแล้ว” ไป๋หยิงสบตากับนัยน์ตาของเธอ นัยน์ตาแปลกๆ ที่ไม่เข้าใจ ไป๋หยิงรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้าแล้ว
“ฉันชอบเธอคือเรื่องของฉัน เรื่องในตอนนั้นเป็นความผิดของฉัน ตอนนี้เธอชอบคนอื่นแล้วก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ” นัยน์ตาของไป๋ยี่รุ่ยมีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น เรื่องในตอนนั้นล้วนแต่เป็นความผิดของเขาทั้งนั้น
ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่ความตั้งใจของเขา ถึงแม้ว่าในปีนั้นเรื่องราวมากมายต่างก็เป็นไป๋หยิงที่วางแผน ทว่าก็ยังคงเป็นความผิดของเขา เวินลั่วฉิงไม่ได้ผิดเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนั้นเธอรักเขามากจริงๆ ตอนนี้เธอไม่รักเขาแล้วก็เป็นเรื่องจริง ดังนั้นถึงแม้เขาจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเธอก็ไม่สามารถหวนคืนเธอกลับมาได้ เป็นมีนิสัยแบบนั้นอยู่แล้วตั้งแต่แรก ตอนที่รักก็รักอย่างยึดติด ตอนที่ไม่รักก็เด็ดขาดยิ่งกว่าใครๆ
เรื่องของเธอกับเย่ซือเฉินเขารู้ตั้งนานแล้ว เขาไม่ได้โกรธ ไม่โกรธเธอเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าอิจฉานั้นก็มีอยู่บ้าง ทว่า เขาก็แค่อิจฉาในใจ
หลังจากเรื่องครั้งนั้นในโรงพยาบาลทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจน ความรักที่เธอมีต่อเขาไม่มีอยู่นานแล้ว ดังนั้น เขาเลือกที่จะปล่อยมือ เขายอมให้เธอสมหวัง ขอแค่เธอมีความสุขก็พอแล้ว!!
“ใช่ เธอที่อยู่ในใจของนายไม่เคยผิดมาโดยตลอด เรื่องทั้งหมดที่เธอทำล้วนถูกต้องทั้งนั้น เธอที่อยู่ในใจของนายดีที่สุดอยู่แล้ว” หน้าอกของไป๋หยิงหายใจขึ้นลงอย่างไม่หยุดยั้ง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าโมโหไม่เบาเลย ทำไม? ทำไมในใจของเขามีเพียงแต่เวินลั่วฉิง?
เธออยู่กับเขามาตลอดหลายปีขนาดนี้ ทำเพื่อเขามามากมายขนาดนั้น ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นเลย?
“ใช่” ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้มีการเชื่องช้าใดๆ ไม่มีการลังเลใดๆ ตอบกลับเร็วมาก ตรงมาก และยืนหยัดมาก ในใจของเขา ฉิงฉิงของเขาดีที่สุดอยู่แล้ว
ฉิงฉิงของเขาก็ไม่ได้ผิดจริงๆ!!
“ไป๋ยี่รุ่ย นายคือไอ่เจ้าโง่ นายคือไอ่เจ้าตาบอด นาย……” ไป๋หยิงโมโหจนด่าใหญ่เลย อยากเดินไปบีบเขาตายเลยด้วยซ้ำ
เขาคือไอ่เจ้าโง่ ไอ่เจ้าตาบอด เธอทำดีกับเขาขนาดนี้ เขาไม่รู้ และมองไม่เห็น
“วันนี้เธอมาทำอะไร? จะปล่อยฉันออกไปเมื่อไหร่?” ไป๋ยี่รุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องโกรธขนาดนี้ และพูดกับเธอแล้ว
ไป๋หยิงตะลึงงัน ความโมโหในใจเพิ่มมากขึ้น เธอโมโหจะตายอยู่แล้ว เขากลับมีแค่ท่าทีนี้ท่าทีเดียว
ทว่าไป๋หยิงรู้ เธอโมโหก็ไม่มีประโยชน์ เธอโมโห เขาสามารถไม่สนใจได้ และเธอก็ไม่มีทางทำอะไรเขาแน่นอน
ไป๋หยิงใช้แรงสูดหายใจลึก พยายามกดทับความโกรธในใจลงไป เธอรู้ว่าโกรธเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้น ได้แต่เปลี่ยนอีกวิธีหนึ่ง “ฉันซื้อของที่นายชอบกลับมา ตอนนี้ฉันไปทำอาหารก่อน พวกเราทานข้าวด้วยกัน แล้วฉันจะปล่อยนายไป”
ไป๋ยี่รุ่ยมองไปทางเธอ นัยน์ตามีความแปลกใจแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน มองออกเลยว่าไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเธอ
“ขอแค่นายไม่ทำร้ายตัวเองอีก ฉันจะไม่ควบคุมความอิสระของนายอีกเลย” ในใจของไป๋หยิงตอนนี้เต็มไปด้วยไฟ ทว่าบนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มออกมา
ไป๋ยี่รุ่ยได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเธอ ความสงสัยบนใบหน้าก็หายไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่าไม่อยากทานข้าวกับเขา ทว่าเขารู้จักนิสัยเธอ ตอนนี้ร่างกายของเขายังไม่แข็งแรงดีทั้งหมด หากอยากจะฝืนออกเกรงว่าจะยากลำบาก ดังนั้นไป๋ยี่รุ่ยจึงไม่ได้พูดอะไร
ไป๋หยิงยิ้มกับเขา “ฉันไปทำอาหารเดี๋ยวนี้เลย”
ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้สนใจเธอ ไม่ได้พูดอะไร และไม่มีการตอบสนองใดๆ
ไป๋หยิงแค่หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป หลังจากที่ออกจากห้องแล้วสีหน้าของไป๋หยิงก็แย่ลงทันที นัยน์ตามีความเกลียดแค้นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ทำไม? ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับเธอมาโดยตลอด?
เธอรักเขาขนาดนั้น เธอทำเพื่อเขามากมายขนาดนั้น ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้กับเธอ?
จังหวะเท้าเดินของไป๋หยิงตอนลงบันไดมีความเร็วเล็กน้อย เกือบจะล้มลงพื้น ไป๋หยิงพยายามอดทน ไม่ให้ตัวเองระเบิดออกมาในตรงนั้นหรอก
หลังจากที่ไป๋หยิงลงจากตึกแล้ว สูดหายใจลึกอย่างแรง จากนั้นก็บังคับให้ตัวเองเงียบสงบลง
เธอเข้าในห้องครัวเริ่มเตรียมอาหาร ฝีมือการทำอาหารของเธอไม่เลว เพราะว่าเธอเคยไปฝึกมาเป็นพิเศษ เพื่อที่จะทำอาหารให้เขากิน เธอจึงไปฝึกเป็นพิเศษ
คิดอยู่ว่าอยากจะทำอาหารให้เขากิน ในใจของเธอก็ดีขึ้นเล็กน้อย
ความเร็วของเธอเร็วมาก ผ่านไปไม่นาน เธอก็ทำอาหารเสร็จสามจานและซุปอีกหนึ่งถ้วย เธอตะโกนเรียกอยู่ชั้นล่าง ไป๋ยี่รุ่ยไม่มีการตอบสนอง และไม่ได้ลงจากตึก ไป๋หยิงจึงขึ้นตึกไปอีกครั้ง
ประตูของห้องหนังสือยังคงเปิดไว้เหมือนตอนที่เธอจากไป ไป๋หยิงเดินไปยังหน้าประตูแล้วมองเข้าไป เห็นไป๋ยี่รุ่ยยังคืนนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง ไม่ได้ขยับตำแหน่งอย่างชัดเจน
ไป๋หยิงกำลังคิดอยากจะเข้าไปเรียกให้เขามาทานอาหาร ทว่าในตอนที่ก้าวขาออกไปเธอกลับเห็นมือของเขามีเชือกสีแดงที่ถักไว้เส้นหนึ่ง
เท้าของไป๋หยิงหยุดเดินทันที สีหน้าก็ดูแย่ลงอย่างชัดเจน นัยน์ตาคู่หนึ่งจ้องไปทางเชือกสีแดงในมือของไป๋ยี่รุ่ย เชือกสีแดงเส้นนั้นเธอรู้จัก นั้นเป็นเชือกที่เวินลั่วฉิงให้ไป๋ยี่รุ่ย ตอนที่ไป๋ยี่รุ่ยและเวินลั่วฉิงคบกัน เวินลั่วฉิงเป็นคนถักเอง
หกปีแล้ว ก็แค่เชือกเน่าๆ เส้นหนึ่ง ไป๋ยี่รุ่ยใส่มาหกปี ตอนนี้ยังเป็นเหมือนลูกรักอยู่ในใจ
เขารักเวินลั่วฉิงขนาดนั้นเลยเหรอ!!
ในใจของเขามีเพียงแต่เวินลั่วฉิง!
ไป๋หยิงกัดฟันแน่น นัยน์ตาของเธอในขณะนี้จะลุกเป็นไฟแล้ว ทำไมถึงต้องทำกับเธอเช่นนี้?!
ทำไมเขาถึงไม่เห็นความดีของเธอเลย?
ทำไมในใจของเขาถึงไม่มีเธอมาโดยตลอด?
ไม่ เธอไม่พอใจ เธอไม่พอใจที่เป็นแบบนี้
ตอนนี้เรื่องของเฉิงโหรวโหรวถูกเปิดโปงแล้ว หัวหน้าน้อยแล้วเจิ้งฉงไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถหลบซ่อนได้นานแค่ไหน ไม่แน่ในไม่ช้าพวกเขาก็อาจจะหาเธอเจอแล้ว
เธอรู้ ไม่ว่าจะหัวหน้าน้อยหรือว่าเจิ้งฉง ขอแค่ถูกพวกเขาจับได้ จุดจบของเธอต้องทรมานมากแน่ๆ พอถึงเวลาเกรงว่าคงจะมีเพียงการตายทางเดียว
เธอไม่พอใจที่เป็นได้แค่เช่นนี้!!
นัยน์ตาของไป๋หยิงเปล่งประกายขึ้นกันทันหัน จากนั้นเธอไม่ได้เข้าไปในห้องหนังสือ แต่ว่าไปที่ห้องนอน ทั้งวิลล่านี้เธอเป็นคนซื้อ ปกติก็เคยมาอยู่บ้างสองสามครั้ง
ในห้องของเธอมีของบางอย่างที่ซ่อนไว้อยู่
ไป๋หยิงเข้าไปในห้องนอน จากนั้นเดินไปยังตรงหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดตู้เสื้อผ้าออก เธอไม่ได้มองเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ แต่ว่ากลับเปิดตู้เซฟที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า
ไป๋หยิงเปิดตู้เสื้อผ้าออก หลังจากที่เห็นของที่อยู่ข้างในแล้ว เธอค่อยๆ ยิ้มโค้งขึ้นทีละน้อย บนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ได้ใจออกมา ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรที่ต้องสนใจแล้ว…