ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1485 เธอไม่ผิด (1)
เธอค่อยๆ ยิ้มโค้งขึ้นทีละน้อย บนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ได้ใจออกมา ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรที่ต้องสนใจแล้ว…… ในตู้เซฟมีขวดสองสามขวด ไป๋หยิงหยิบออกมาหนึ่งขวด จ้องไปสักพัก จากนั้นนัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้น สองสามขวดนี้เจิ้งฉงเป็นคนหามา ปกติแล้วจะใช้มันมาทรมานเธอ
เจิ้งฉงในด้านนั้นก็เป็นเหมือนโรคจิตคนหนึ่ง
มีครั้งหนึ่งไป๋หยิงนำของบางอย่างกลับมาหลังจากปฏิบัติกันเสร็จแล้ว จากนั้นก็เก็บไว้ในวิลล่าตอนที่กลับมา
ตอนนั้นไป๋หยิงไม่รู้ว่าตนเองคิดอะไรอยู่กันแน่ ทว่าในที่สุดตอนนี้เธอคิดออกแล้ว ไม่แน่เธออาจจะนึกถึงภาพสถานการณ์ในตอนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ผู้ชายที่เธอรักอยู่ในใจมานานหลายปีขนาดนี้ เธอรู้ดีว่าเขาไม่มีทางรักเธอ ดังนั้น สิ่งที่เธอต้องการอาจจะแค่การมีเขาครั้งหนึ่งในชีวิต
ตอนนี้ เธอหมดหนทางจะเดินต่อแล้ว สร้างเรื่องบาดหมางกับหัวหน้าน้อย สร้างเรื่องบาดหมางกับเจิ้งฉง สามารถสูญเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอทำเรื่องพวกนี้ก็เคยคิดว่าหลังจากนั้นจะมีอันตราย ทว่าในตอนนั้นเธอเกลียดเวินลั่วฉิงมากๆ ขอแค่มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสามารถทำให้เวินลั่วฉิงเจ็บปวดเธอไม่มีทางพลาดแน่นอน
ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่าผลที่ตามมาจะโหดร้ายขนาดนี้!!
ในเมื่อกลายเป็นแบบนี้แล้ว และรู้ว่าตัวเองคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว เธอไม่สามารถจากไปพร้อมความเสียใจแบบนี้ได้ อย่างน้อยเธอต้องสนองสิ่งที่เธอต้องการในใจมาตลอด
พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ บนใบหน้าของไป๋หยิงก็เผยรอยยิ้มออกมา ตอนนี้เธอไม่กลัวอีกแล้ว มีเพียงแต่รอคอยและดีใจ
การกระทำแบบนี้อาจจะบ้าคลั่งเล็กน้อย ทว่าสำหรับเธอแล้วนั่นนับไม่ได้ว่าเป็นอะไรเลย เธอทำเรื่องที่บ้าคลั่งเพื่อเขามามากพอแล้ว
ไป๋หยิงนำขวดใส่ไว้ในมือ จากนั้นก็นำออกไป เดินไปถึงหน้าห้องหนังสือ เธอเห็นไป๋ยี่รุ่ยยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม แม้กระทั่งท่าทางก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
“อาหารทำเสร็จแล้ว ลงมากินข้าวได้แล้ว” ครั้งนี้ไป๋หยิงไม่ได้จากไปอย่างเงียบๆ แต่ว่าเคาะประตู เรียกเขาด้วยน้ำเสียงของอ่อนโยน เธอในตอนนี้ยังทำให้ตัวเองละเลยเชือกสีแดงบาดตาที่อยู่ในมือของเขาด้วย
ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ขยับ และไม่มีการตอบสนองใดๆ
ไป๋หยิงไม่ได้แปลกใจ ในมือจับขวดเอาไว้ ขณะนี้ใบหน้าของเธอยังคงแฝงรอยยิ้ม เธอแค่คิดที่เรื่องต่อจากนี้ ก็จะไม่โกรธแล้ว
“ทานข้าวแล้ว ฉันก็จะจากไป นายก็สามารถจากไปได้แล้ว” ขณะนี้ในใจของไป๋หยิงทั้งดีใจและมีความสุข น้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรมากๆ
เธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยกำลังโกรธเธออยู่ เธอเรียกเขามาทานข้าวแบบนี้ เขาไม่ลงไปแน่นอน ทว่าหากเธอบอกว่าหลังจากทานข้าวแล้วสามารถให้เขาจากไปได้ เขาอยากจะจากไป ก็ต้องลงมาทานข้าวแน่นอน
ไป๋หยิงไม่ได้พูดอะไรมาก และไม่ได้รอให้ไป๋ยี่รุ่ยตอบกลับ ก็ลงตึกไปคนเดียวแล้ว
ในห้องหนังสือ ไป๋ยี่รุ่ยหันมองไปทางนอกประตูเล็กน้อย ไป๋หยิงจากไปแล้ว ทว่าคำพูดของไป๋หยิงในเมื่อกี้เขาเองก็ได้ยินแล้ว
ครั้งที่แล้วไป๋หยิงพาเธอออกมาจากโรงพยาบาลแล้วก็พามาที่นี่เลย จากนั้นก็ขับเขาไว้ ตอนนี้ในมือของเขายังมีโทรศัพท์ที่หลิวหยิงซื้อให้เขาอยู่ เขาแอบส่งข้อความให้หลิวหยิง ทว่าหลิวหยิงไม่ตอบเขา และโทรศัพท์ของเขาก็ถูกไป๋หยิงจับได้ ถูกเธอเก็บไปแล้ว
อาการบาดเจ็บบนตัวของเขายังไม่หาย และข้างกายของไป๋หยิงก็มีคนด้วย เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลย เขาถูกขังอยู่ที่นี่ ไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้ อยากจะหนีก็ไม่สามารถหนีออกไปได้
จากเรื่องครั้งที่แล้ว เขามีความหมดหวังเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองจะอยู่จะตายก็ไม่เป็นไรแล้ว ดังนั้นในตอนที่อยู่โรงพยาบาล เขาจึงไม่ได้ให้ความร่วมมือกับการรักษา ทว่าตอนนี้ถูกขังอยู่ที่นี่ เขาอยากออกไป เขาอยากรู้สถานการณ์ในด้านนอก เขาอยากรู้สถานการณ์ของฉิงฉิง
เขาไม่รู้ว่าคำพูดของไป๋หยิงเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปลอม ทว่ามีโอกาสออกไปได้ เขาต้องไปแน่นอน อีกอย่างก็แค่ทานข้าวด้วยกันมื้อหนึ่ง ถึงแม้ว่าไป๋หยิงจะพูดกลับคำ เขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ไป๋หยิงคงไม่มีทางวางยาฆ่าเขาตายหรอก
ถึงแม้ว่าไป๋หยิงจะทำเรื่องที่เกินเลยกับเขาไปบ้าง ทว่า เขารู้ดี ไป๋หยิงไม่มีทางฆ่าเขาแน่นอน ตอนนั้นตอนที่อยู่โรงพยาบาล เรื่องเกินเลยพวกนั้นที่ไป๋หยิงเคยทำกับเขาก็เพราะว่าตัวเขาเองใช้มีดกรีดตนเอง และเพราะว่าเขาไม่ยอมให้ความร่วมมือกับการรักษา
พูดรวมๆ แล้ว ไป๋หยิงเป็นห่วงสุขภาพของเขา
หลังจากที่ไป๋หยิงลงจากตึกแล้ว หยิบขวดออกมา จากนั้นก็เทยาเข้าไปในอาหารอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่มีการปกปิดใดๆ
เธอไม่กังวลเลยว่าจะถูกไป๋ยี่รุ่ยจับได้ เพราะเธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยไม่มีทางลงมาเร็วขนาดนั้นแน่นอน
เธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยมีการระวังตัวกับเธอ คำพูดของเธอไป๋ยี่รุ่ยต้องคิดวิเคราะห์อย่างจริงจังก่อน
หลังจากที่ไป๋หยิงเทยาเรียบร้อยแล้ว ก็ทิ้งขวดเปล่าลงในถังขยะของห้องครัวเลย
ไป๋หยิงเดินออกมาจากห้องครัวแล้วมองไปทางบนตึกหนึ่งที บนตึกไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ไป๋ยี่รุ่ยยังไม่ลงมา
ไป๋หยิงไม่ได้เรียกเขาอีก ทว่ากลับเริ่มทานอาหารตรงหน้าโต๊ะขึ้นมาคนเดียว
เธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยจะลังเล จะสับสน ทว่าเธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยต้องลงมาแน่นอน
เพราะว่าไป๋ยี่รุ่ยถูกขังอยู่ในวิลล่าหลายปีขนาดนี้ ไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกเลย ไป๋ยี่รุ่ยต้องอยากรู้เรื่องของเวินลั่วฉิงแน่นอน
ตอนนี้ คนที่ไป๋ยี่รุ่ยคิดถึงมากที่สุดก็คือเวินลั่วฉิงแล้ว!!
พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ นัยน์ตาของไป๋หยิงก็มีความโหดร้ายเพิ่มมากขึ้น ทว่าในไม่ช้าริมฝีปากของเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา ใช่ เธอสู้เวินลั่วฉิงไม่ได้ ทว่าขอแค่เธอเคยได้รับแล้ว เธอก็พอใจแล้ว
ไป๋หยิงนั่งทานอาหารคนเดียวอย่างช้าๆ ผ่านไปประมาณห้านาที ในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวบนตึก ไป๋ยี่รุ่ยลงจากตึกแล้ว
ไป๋หยิงไม่ได้เงยหน้ามอง แต่ว่ารอยโค้งยิ้มตรงริมฝีปากยิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้น เธอรู้ว่าเขาต้องลงมาแน่นอน ขอแค่เขาลงมาก็ดีแล้ว
เพราะว่าบนตัวของไป๋ยี่รุ่ยมีแผล สองสามวันนี้ถูกขังอยู่ในนี้ไม่ได้ขยับอะไร ดังนั้นท่าทางจึงมีความช้า หลังจากที่เขาลงจากตึกแล้ว เดินมายังตรงข้างหน้าโต๊ะ ยืนอยู่ตรงหน้าของไป๋หยิง
“นั่งลงกินข้าว กินข้าวเสร็จฉันก็จะจากไปแล้ว พานายกลับไปในเมืองด้วยกัน” ในที่สุดไป๋หยิงก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เธอในตอนนี้ได้ปกปิดรอยยิ้มบนใบหน้า สีหน้ามีความเข้มขรึม น้ำเสียงไม่มีความรู้สึกมากมาย
“ทำไม? ทำไมจู่ๆ ถึงปล่อยฉันออกไปล่ะ?” ไม่ใช่ไป๋ยี่รุ่ยสงสัยมากเกินไป แต่ว่าไป๋ยี่รุ่ยเห็นความเพียรพยายามของไป๋หยิงมามากมาย เขาไม่รู้สึกว่าเธอจะปล่อยเขาออกง่ายๆ แบบนี้
“ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นกับฉันเล็กน้อย มีปัญหาเล็กน้อย ไม่สามารถเข้ามาได้ช่วงหนึ่ง และไม่สะดวกให้คนอื่นเข้ามา ฉันคงไม่สามารถทิ้งให้นายหิวตายที่นี่ได้หรอกนะ” ไป๋หยิงขมวดคิ้ว คำพูดนี้ของเธอก็ถือว่าไม่ใช่คำโกหก ตอนนี้เธอพบเจอปัญหาจริงๆ และเธอก็จะปล่อยไป๋ยี่รุ่ยจากไปจริงๆ
แต่แค่ว่า ก่อนที่จะจากไป ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ
คำพูดแบบนี้ของเธอทำให้ความสงสัยในใจของไป๋ยี่รุ่ยหายไป เขารู้เรื่องที่ไป๋หยิงอยู่ข้างหายเจิ้งฉง เขาก็รู้ด้วยว่าไม่ช้าก็เร็วไป๋หยิงต้องมีปัญหาแน่นอน
ทว่าไป๋ยี่รุ่ยก็ยังคัดค้านอาหารที่ไป๋หยิงทำ
“ตกลงนายจะกินหรือเปล่า? ฉันยุ่งมาจะครึ่งวันอย่างยากลำบาก ทำไม? ไม่ยอมให้หน้าฉันเลยเหรอ? หรือว่านายอยากถูกขังอยู่ที่นี่ต่อไป” สีหน้าของไป๋หยิงเคร่งขรึมลงอย่างชัดเจน น้ำเสียงก็มีความโกรธและรำคาญอย่างชัดเจน “กินข้าวกับฉันดีๆ สักมื้อ ไม่ใช่เช่นนั้นก็จะไม่มีการพูดคุยเรื่องอื่นอีก”
ไป๋ยี่รุ่ยขมวดคิ้ว เขารู้ว่าไป๋หยิงพูดออกมาได้ก็ทำได้แน่นอน หากเขาทำให้ไป๋หยิงโกรธแล้ว ไป๋หยิงอาจจะขังเขาอยู่ที่นี่โดยไม่ถามไถ่อีกต่อไป
เห็นไป๋หยิงทานกับข้าวไปคนเดียวไม่น้อยแล้ว อีกอย่างกับข้าวทุกจานไป๋หยิงก็ทานไปแล้ว ไป๋ยี่รุ่ยจึงนั่งลงยังตรงหน้าโต๊ะอาหาร หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วเริ่มทานอาหาร
ถึงแม้ไป๋ยี่รุ่ยรู้ว่าไป๋หยิงไม่มีทางทำร้ายเขา ทว่าในใจของเขาก็ยังมีความระมัดระวังอยู่ เขาไม่ได้กินข้าวที่ไป๋หยิงตักไว้ให้ และกินแต่อาหารที่ไป๋หยิงเคยกิน
ไป๋หยิงมองดูการกระทำของไป๋ยี่รุ่ย แอบยิ้มอยู่ในใจ เขาคิดว่ากินตามเธอก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว ทว่าเขาไม่รู้ว่า สิ่งที่เขาเธอกินต่างหากที่วางยาแล้ว
ยาแบบนี้วางให้คนคนหนึ่งก็ถือว่าวาง วางให้คนสองคนก็ถือว่าวาง หากเป็นสองคนผลลัพธ์จะดีกว่า ดังนั้นไป๋หยิงไม่มีความเห็นที่จะวางยาให้ตนเองด้วย
ก่อนหน้านี้เจิ้งฉงให้เธอกินไปไม่น้อยเลย แต่ว่าเจิ้งฉงไม่ได้แอบวางยาให้เธอ เจิ้งฉงบอกกับเธอจริงๆ เลย แล้วให้เธอกินคนเดียว
และเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้มาโดยตลอด
แน่นอนว่า ยาแบบนี้เธอให้ไป๋ยี่รุ่ยกินไป๋ยี่รุ่ยไม่มีทางกินแน่นอน ดังนั้นเธอจึงทำได้แต่แอบวางยาในอาหาร แล้วให้พวกเขา ‘ติดยาพิษ’ ด้วยกัน
ไป๋หยิงกินแต่อาหารของตัวเอง ไม่ได้สนใจไป๋ยี่รุ่ย ดูแล้วเงียบมา เงียบสงบ
ทว่าไป๋หยิงในขณะนี้มองดูไป๋ยี่รุ่ยทานอาหารลงไปทีละคำ หัวใจดวงหนึ่งตื้นตันจะจะโดดออกมาแล้ว เมื่อกี้เธอเทยาทั้งหมดลงในอาหารแล้ว ยาที่เจิ้งฉงหามาฤทธิ์รุนแรงมาก แค่นิดเดียวก็ทำให้คนทนไม่ไหวแล้ว เมื่อก่อนเธอเคยใช้ ดังนั้นเธอเข้าใจฤทธิ์ของยาเป็นอย่างดี รุนแรงมากจริงๆ สุดยอดมากๆ!!
ตอนนี้ปริมาณที่ไป๋ยี่รุ่ยทานลงไปพอสมควรแล้ว!!