ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1493 เขาบอกว่า ไม่ต้องการแล้ว (1)
หัวหน้าน้อยสามารถดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้ได้เป็นอย่างนี้ ความสามารถไม่มีที่ต้องสงสัยแน่นอน แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกว่าหัวหน้าน้อยอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
ดังนั้นคุณชายหานรู้สึกว่า ครั้งนี้หัวหน้าน้อยไปด้วยตนเอง เกรงว่าเรื่องจะครื้นเครงกว่าเดิมแล้ว!!
“หัวหน้าน้อย ทางหัวหน้ายังคงรอข่าวอยู่มั้ง? นานโทรหาหัวหน้าก่อนไหม บอกกับหัวหน้าหน่อย” ลุงเหลียงไม่ได้ห้ามหัวหน้าน้อย ลุงเหลียงเองก็รู้ว่าเรื่องที่หัวหน้าน้อยตัดสินใจแล้วไม่มีคนสามารถเปลี่ยนได้ ถึงแม้ว่าหัวหน้าจะเอ่ยปากพูดก็ห้ามหัวหน้าน้อยไม่ได้
แต่ลุงเหลียงรู้ว่าทางหัวหน้ายังต้องรอข่าวอยู่แน่ๆ ก่อนหน้านี้หัวหน้าน้อยก็เคยพูดแล้วว่า ผลออกมาแล้วจะรีบโทรหาหัวหน้าทันที ทว่าตอนนี้หัวหน้าน้อยลืมเรื่องนี้ไปอย่างชัดเจน
“นายโทรบอกท่านหน่อยเถอะ” หัวหน้าหยุดเท้าเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าผลการตรวจสอบดีเอ็นเอจะเป็นเหมือนกับที่เขาหวัง ดังนั้นเขาจึงรอคอยมาโดยตลอด ดังงั้น เขาตกลงแล้วว่าหลังจากที่ผลออกมาแล้วจะโทรบอกหัวหน้าทันที
ทว่าผลในตอนนี้ เขาจะบอกกับหัวหน้ายังไง?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าโทร เขากลัวว่าจะได้ยินเสียงที่ผิดหวังของหัวหน้า แบบนั้นจะทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่า
ตอนนี้ผลตรวจดีเอ็นเอวางอยู่ตรงหน้า นอกจากเขาแล้ว เกรงว่าทุกคนต่างก็เชื่อในผลนี้ ยอมรับแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกของหัวหน้า
จริงๆ แล้วเผชิญกับผลดีเอ็นเอแบบนี้ ความมั่นใจที่เขาจะสงสัยก็ไม่ได้มากพอ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการก็คือเส้นผมที่เจ้าเก้าและคุณชายหานนำกลับมาไม่ใช้เส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ความหวังเดียวที่เขามีในตอนนี้ก็คือเรื่องราวสามารถพลิกแพลงได้
เขามีความหวังแบบนี้ ดังนั้นจึงอยากจะพยายามครั้งสุดท้าย ทว่าเขาคงไม่สามารถบอกกับหัวหน้าแบบนี้ได้
ยังไงแล้วผลตรวจดีเอ็นเอก็วางอยู่ตรงหน้า เขาจะพูดมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างหากเขาบอกหัวหน้าว่าจะไปเอตัวอย่างมาอีกครั้ง ใช่ว่าหัวหน้าจะตอบตกลง
ยังไงแล้วก่อนหน้านี้หัวหน้าก็เป็นห่วงแต่แรกแล้วว่าจะเป็นการรบกวนชีวิตของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ตอนนี้มีผลตรวจแบบนี้แล้ว เกรงว่าหัวหน้าก็คงจะตายใจ ไม่ให้เขาไปอีกแล้ว
ดังนั้นครั้งนี้เขาห้ามโทร
หลังจากหัวหน้าน้อยพูดจบแล้วก็จากไปเลย
คุณชายหานมองดูภาพข้างหลังที่จากไปของหัวหน้าน้อย อารมณ์มีความสับสนเล็กน้อย จริงๆ แล้วเขาอยากไปกับหัวหน้าน้อย เขาเชื่อว่าเรื่องต่อจากนี้ที่หัวหน้าน้อยทำต้องครื้นเครงมากแน่นอน
ความสามารถของหัวหน้าน้อยรับมือกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ไม่อยากครื้นเครงยังไม่ได้เลย
แต่ว่าหัวหน้าน้อยไม่ได้ให้เขาตาไปด้วย ลุงเหลียงไม่ได้พูดอะไร เขาทำได้แต่อดทน
ลุงเหลียงหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะโทรหาหัวหน้า
“ลุงเหลียง จะโทรบอกหัวหน้าตอนนี้เหรอ?” เจ้าเก้าเห็นการกระทำของลุงเหลียงแล้วนัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้นทันที เจ้าเก้ารู้สึกว่าผลแบบนี้ในตอนนี้ใช่ว่าหัวหน้าจะอยากรู้ ไม่จำเป็นต้องรีบบอกหัวหน้าเร็วขนาดนี้จริงๆ
คุณชายหานได้ยินคำพูดของเจ้าเก้าแล้วก็รีบหันไปทางลุงเหลียง “ลุงเหลียง ตอนนี้ตีสาม หัวหน้าต้องยังหลับอยู่แน่นอน โทรไปตอนนี้ไม่เหมาะสมหรอกมั้ง ถึงแม้จะบอกหัวหน้า ก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้หรอก”
คุณชายหานเองก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรีบบอกเรื่องนี้กับหัวหน้า
“ความสำคัญที่หัวหน้ามีต่อเรื่องนี้มากมายยิ่งกว่าที่พวกนายจะคิดได้” ลุงเหลียงสบตากับนัยน์ตาของทั้งสอง ถอนหายใจเบาๆ พูดเสริมอีกประโยคว่า “หรืออาจจะพูดว่าความสำคัญที่หัวหน้ามีต่อคุณหูใหญ่ตระกูลถังนั้นมากมายยิ่งกว่าที่พวกนายคิดได้”
ถึงแม้ลุงเหลียงจะไม่เหมือนผู้ดูแลจ้งที่อยู่ข้างหายของหัวหน้าทุกๆ วัน ทว่าผ่านการรายงานกับหัวหน้าหลายครั้งนี้ ลุงเหลียงเองก็มองออกถึงความสำคัญที่หัวหน้ามีต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
ดังนั้นลุงเหลียงมั่นใจมากว่าขณะนี้หัวหน้ายังไม่หลับ หัวหน้าต้องกำลังรอข่าวอยู่แน่ๆ รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าหัวหน้ากำลังรอข่าวอยู่ เขาต้องรีบโทรบอกหัวหน้าอยู่แล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ก็ต้องบอกกับหัวหน้า
อีกอย่างผลการตรวจดีเอ็นเอนี้ก็ปกปิดไม่อยู่แน่นอน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่พูด หัวหน้าก็ต้องรู้ แล้วทำไมต้องให้หัวหน้ารออย่างลำบากล่ะ
ลุงเหลียงเองก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา ทว่าความจริงในตอนนี้ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ ลุงเหลียงรู้สึกว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป
ให้ความหวังกับหัวหน้าอย่างต่อเนื่องแบบนี้ แล้วให้หัวหน้าผิดหวังต่อ แบบนั้นจะโหดร้ายมาก สู้ไม่ให้ความหวังตั้งแต่แรกจะดีกว่า
“ลุงเหลียง ความหมายของลุงคือตอนนี้หัวหน้ายังไม่หลับ? ยังรอข่าวอยู่? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง? หัวหน้าคือคนระดับชั้นไหน นิสัยใจเย็นขนาดไหน จะรอโทรศัพท์กลางดึกขนาดนี้ได้ยังไง ผมรู้สึกว่าไม่……” คุณชายหานรู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้ ในใจของเขาหัวหน้าไม่ใช่นิสัยอย่างนั้น
ลุงเหลียงไม่ได้สนใจเขา แต่ว่าโทรหาหัวหน้าเลย
เสียงโทรศัพท์ดังไปแต่เสียงเดียว ทางนั้นก็รับสายแล้ว หากพูดตามหลักจริงๆ แล้วคือยังดังไม่หมดเลย
คุณชายหานเห็นความเร็วในการรับโทรศัพท์แล้วตะลึงงันไปเลย คำพูดในปากก็หยุดชะงักไปเลย ความเร็วนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้แค่รอโทรศัพท์แล้ว เกรงว่าคงจะจับโทรศัพท์ไว้ในมือตั้งนานแล้ว รอแค่ให้มันดัง
ดังนั้น หัวหน้าไม่เพียงแต่รอสายโทรศัพท์ ยังรอด้วยความกระวนกระวายมากๆ
ขณะนี้ไม่เพียงแต่คุณชายหานที่ตกใจ แม้กระทั่งลุงเหลียงเองก็ตกใจมาก ทว่าไม่ว่ายังไงแล้วเขาก็คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าจะรับโทรศัพท์เร็วขนาดนี้ เร็วจนทำให้เขาเตรียมตัวไม่ถูก เร็วจนทำให้คำพูดที่เขาคิดเดิมติดอยู่ในลำคอชั่วครู่หนึ่งจนพูดไม่ออก
ความเร็วในการรับโทรศัพท์ของหัวหน้าสามารถยืนยันได้แล้วว่าเขาเฝ้ารอผลแค่ไหน และผลในตอนนี้ จะให้เขาเอ่ยปากพูดยังไง จะบอกกับหัวหน้ายังไง?
“ทำไม?” ทางนี้ไม่ยอมพูดเลย ซ่างกวนหงที่อยู่อีกทางหนึ่งรู้สึกหดหู่ไปทันที เขาเดาออกถึงผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว หากเป็นผลที่ดี ต้องไม่ลังเลขนาดนี้แน่นอน ไม่เชื่องช้าขนาดนี้
อีกอย่างคุยกันแล้วแต่แรกว่าหากผลออกมาแล้วอะเฉิงจะโทรหาเขา ทว่าตอนนี้คนที่โทรหาเขากลับเปลี่ยนเป็นอะเหลียง ความเร็วในการรับโทรศัพท์เมื่อกี้เร็วมาก ทว่าก็ยังเห็นหน้าจอที่แสดงของโทรศัพท์อย่างชัดเจน
นิสัยของอะเฉิงเป็นยังไงเขาชัดเจนที่สุด หากเป็นผลที่ดี อะเฉิงจะแย่งโทรหาเขาเป็นเวลาแรกแน่นอน ไม่มีทางให้คนอื่นๆ แย่งโอกาสนี้ไป
ขณะนี้ แม้ตนซ่างกวนหงเองก็ไม่รู้ว่าน้ำเสียงของเขามีความสั่นแฝงอยู่ ทว่าถึงแม้เขาจะวิเคราะห์มามากมายขนาดนั้น กลับยังอดหวังไม่ได้ ก็ยังคงรอที่จะได้ยินผลที่เขาต้องการอยู่
“หัวหน้า ผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว” หัวหน้าที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์เอ่ยปากพูดแล้ว ลุงเหลียงจะเงียบต่อไปก็ไม่ได้แล้ว
“อื้ม” ซ่างกวนหงในขณะนี้กำลังกดทับอารมณ์ของตนเองอยู่ ไม่ได้ให้ตัวเองสติหลุด
ผู้ดูแลจ้งที่อยู่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทีของหัวหน้าบ้านตนเองแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้นทันที ขณะนี้ ผู้ดูแลจ้งมองออกอย่างชัดเจนว่าหัวหน้าบ้านตนเองตื่นเต้นอยู่
ใช่ ตื่นเต้น ขณะนี้หัวหน้าตื่นเต้นมาก
ผู้ดูแลจ้งได้ยินเสียงทางจากโทรศัพท์อีกทางหนึ่งแล้ว ทว่าผู้ดูแลจ้งเองก็สามารถเดาได้ว่าอะเหลียงโทรมาในตอนนี้ เรื่องที่จะมาพูดมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอ
ทว่าผู้ดูแลจ้งไม่ค่อยเข้าใจ ผลการตรวจดีเอ็นเอก็แค่คำพูดเดียว อะเหลียงไม่ใช่คนที่นิสัยชอบชักช้า ตามหลักแล้วควรจะพูดตั้งนานแล้ว
อีกอย่างคำว่า ‘อื้ม’ ของหัวหน้าในเมื่อกี้ หมายความว่าอะไรกันแน่?
ตกลงใช่ หรือไม่ใช่กันแน่?
ผู้ดูแลจ้งในขณะนี้กำลังจ้องหัวหน้าบ้านคนเองอยู่ อยากจะได้คำตอบจากนัยน์ตาที่เปลี่ยนแปลงของหัวหน้า ถึงแม้ปกติหัวหน้าจะไม่เผยอารมณ์ไว้บนสีหน้า ทว่าบนเรื่องนี้ชัดเจนเลยว่าหัวหน้าไม่ได้ปกปิดได้อย่างดี
ทว่าในขณะนี้ ผู้ดูแลจ้งไม่ได้เห็นความดีใจบนใบหน้าของหัวหน้า แน่นอนว่าก็ไม่ได้เห็นความผิดหวัง
ดังนั้นผลเป็นอะไรกันแน่? คุณหนูใหญ่ตระกูลถังใช่ลูกสาวของหัวหน้าหรือเปล่า?
อีกทางหนึ่งของสาย ลุงเหลียงในตอนนี้อารมณ์สับสนมาก ถึงขั้นสับสนยิ่งกว่าผู้ดูแลจ้ง คำว่า ‘อื้ม’ ของหัวหน้าฟังแล้วเบามาก อ่อนมาก ทว่าขณะนี้พอเข้ามาอยู่ในหูของเขา เขากลับรู้สึกดังเหมือนฟ้าผ่า
ถึงแม่ว่าจะมีโทรศัพท์กั้นอยู่ เขาก็ยังฟังออกถึงความหวังของหัวหน้า ความตื่นเต้น ถึงขั้นยังมีความระมัดระวังอีกด้วย
อะเหลียงใช้แรงสูดหายใจ เขารู้ว่าความจริงโหดร้ายมาก ทว่าเขาก็ยังจำเป็นต้องพูด ไม่ว่ายังไงแล้วนี่เป็นเรื่องที่ปิดบังไม่ได้
“หัวหน้า ผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ ความเหมือนคือศูนย์ครับ” ลุงเหลียงก็ยังพูดผลการตรวจออกมา ถึงแม้ว่าผลจะทำให้ทุกคนผิดหวัง ทว่าพวกเขาต่างก็ห้ามหลอกตนเอง
มีหัวหน้าน้อยที่ดื้อรั้นคนหนึ่งก็พอแล้ว พวกเขาห้ามเป็นเหมือนหัวหน้าน้อยเด็ดขาด
“หมายความว่าอะไร?” ซ่างกวนหงที่อยู่อีกทางหนึ่งจับโทรศัพท์แน่นยิ่งขึ้น!!