ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1503 ติดค้างคำอธิบายให้กับหล่อน（1）

แม้ว่าผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่เพิ่งจะออกมาก่อนหน้านี้ผลปรากฏว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกับหัวหน้าไม่ใช่พ่อลูกกัน แต่หัวหน้าก็ยังคงให้ความสนใจกับเรื่องราวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่เหมือนเดิม

“หัวหน้า คืนนี้พวกเราหาวิธีไปตระกูลหยวนกันเถอะครับ ผมว่าพวกเราน่าจะได้เจอกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง พวกเราไปกันเถอะครับ？”แน่นอนว่าผู้ดูแลจ้งไม่กล้าที่จะตัดสินใจแทนหัวหน้าของตนเอง เรื่องๆนี้จำเป็นต้องให้หัวหน้าเป็นคนจัดการ

“ผมติดค้างคำอธิบายกับหล่อน” ริมฝีปากของซ่างกวนหงขยับเล็กน้อย น้ำเสียงค่อยๆเผยออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้พูดออกเสียงนาน น้ำเสียงจึงแหบแห้งเล็กน้อย แต่ว่าผู้ดูแลจ้งก็ยังได้ยินคำพูดของหัวหน้าของตนเองอย่างชัดเจน

ผู้ดูแลจ้งตะลึงงัน แต่ว่าทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายของหัวหน้าตนเองทันที

สิ่งที่หัวหน้าพูดน่าจะเป็นเรื่องที่หัวหน้าน้อยต้องการนำตัวอย่างของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ

ตอนนั้นหัวหน้าเคยพูดว่า ต้องขอรบกวนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว หากผลของการตรวจดีเอ็นเอพบว่าไม่ใช่พ่อลูกกัน หัวหน้าจะขอโทษคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วยตนเอง

ผู้ดูแลจ้งคิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าจะยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาอยากจะขอโทษคนอื่น นี่เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่สุด

แต่ว่านี่คือจิตสำนึกของหัวหน้า แน่นอนว่าผู้ดูแลจ้งจะไม่ขัดขวางอย่างเด็ดขาด อีกอย่างตอนนี้มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่จะสามารถทำให้หัวหน้าสนใจได้ ไม่ทำให้หัวหน้าต้องนั่งอยู่คนเดียวไม่ขยับเขยื้อนราวกับตายอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในห้อง ผู้ดูแลจ้งก็พอใจมากแล้ว

ส่วนหัวหน้าอยากจะทำอะไร ก็ให้หัวหน้าไปทำเถอะ ในเวลานี้แม้ว่าหัวหน้าจะบอกว่าต้องการให้ถล่มฟ้าลงมา ผู้ดูแลจ้งก็จะไม่ขัดขวาง จะช่วยเท่านั้น！！

ความคิดของหัวหน้าก็แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนแล้ว ว่าคืนนี้ต้องการจะไปพบคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง

“หัวหน้า เดี๋ยวผมขอตัวไปจัดการก่อนนะครับ” ผู้ดูแลจ้งถือว่าคลายความกังวลลงแล้ว ขอเพียงแค่หัวหน้าไม่ทำตัวราวกับตายอย่างโดดเดี่ยวนั่งอยู่อย่างไม่ขยับก็พอแล้ว

แต่ว่าผู้ดูแลจ้งก็รู้ดีว่างานเลี้ยงของบ้านท่านหยวน ไม่ได้สามารถเข้าร่วมได้ง่ายๆ

เพราะถึงยังไงสถานะของท่านหยวนก็พิเศษ ความพร้อมของบ้านท่านหยวนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบ้านตระกูลถังเลย

แต่ว่างานเลี้ยงของตระกูลหยวนในค่ำคืนวันนี้ หากต้องการเข้าร่วมนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก อีกทั้งคนของพวกเขาเนื่องจากไม่เคยก้าวเข้าสู่ตระกูลถัง แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่าการรับมือของตระกูลถังเข้มงวด และก็ไม่ได้หมายความว่า ตระกูลถังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพราะถึงยังไงสำหรับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ต่อให้มีการรับมือที่เข้มงวดกว่านี้ ก็ไม่สามารถขัดขวางพวกเขาได้

พวกเขาก็แค่เป็นกังวลกับสถานะของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ดังนั้นจึงไม่เคยใช้วิธีพิเศษมาก่อน

แต่ว่าสำหรับตระกูลหยวนแล้ว ผู้ดูแลจ้งก็ไม่ได้หวาดกลัวใดใด แม้ว่าสถานะของท่านหยวนมีความพิเศษ สำหรับผู้ดูแลจ้งแล้วกลับไม่ได้มีผลใดใดทั้งสิ้น

ดังนั้นงานเลี้ยงของตระกูลหยวนในค่ำคืนวันนี้จะมีการป้องกันอย่างรัดกุม ผู้ดูแลจ้งก็มีวิธีที่จะทำให้เจ้านายของตนเข้าไปได้

ขอเพียงแค่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังปรากฏตัวที่ตระกูลหยวน หัวหน้าก็จะต้องได้เจอกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างแน่นอน

เนื่องแม้ผลการตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้จะชี้ชัดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกับหัวหน้าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ท่าทีที่หัวหน้ามีต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่เลย ส่วนการเจอกันของหัวหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังในครั้งนี้ผู้ดูแลจ้งรอคอยเป็นอย่างมาก

หัวหน้าชอบคุณหนูใหญ่ตระกูลถังขนาดนั้น แม้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า ไม่แน่ก็อาจจะช่วยพูดโน้มน้าวหัวหน้า ไม่ให้หัวหน้ากลับไปเป็นแบบนั้นอีกก็ได้

ผู้ดูแลจ้งเชื่อว่าหัวหน้าจะต้องเชื่อฟังคำพูดของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างแน่นอน อีกทั้งความสามารถของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะต้องโน้มน้าวหัวหน้าได้อย่างแน่นอน

การเจอกันของหัวหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังในครั้งนี้ จะต้องเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน

ดังนั้น ไม่ว่าการเข้าบ้านของตระกูลหยวนจะยากแค่ไหน ผู้ดูแลจ้งจะต้องจัดการให้เรียบร้อย อีกทั้งจะต้องจัดการเป็นอย่างดี จะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดอย่างเด็ดขาด

“งานเลี้ยงของตระกูลหยวนในค่ำคืนนี้เป็นงานเลี้ยงภายใน” จู่ๆซ่างกวนหงก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง แต่ว่าน้ำเสียงของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกสงสัยแต่เป็นความเชื่อมั่นมากกว่า หากไม่ใช่งานเลี้ยงภายในก็ไม่แน่ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเข้าร่วม

เพราะถึงยังไงช่วงนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นจำนวนมาก สถานการณ์เช่นนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ไม่มีการควบคุม จะเข้าร่วมได้เพียงงานเลี้ยงเล็กๆภายในที่มีแต่คนไว้ใจได้เท่านั้น

“ใช่ครับ เป็นงานเลี้ยงภายใน อีกทั้งคนที่มาร่วมงานในวันนี้ก็ไม่มาก คนที่มาร่วมล้วนเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับตระกูลถัง” ผู้ดูแลจ้งเพิ่งได้รับข่าวมา ดังนั้นในจุดๆนี้ผู้ดูแลจ้งเข้าใจเป็นอย่างดี

และเนื่องจากทราบจุดนี้อย่างชัดเจน ผู้ดูแลจ้งจึงรู้ว่าการที่จะไปตระกูลหยวนในค่ำคืนนี้ไม่ง่าย หากเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ก็คงสามารถแฝงตัวเข้าไปได้สบายๆ สิ่งที่ยากก็คืองานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ท่านหยวนเชิญเพียงไม่กี่ครอบครัวที่มีความสัมพันธ์อันดีเท่านั้น อีกทั้งระหว่างกันยังเป็นคนที่สามารถเชื่อใจได้เป็นอย่างมาก

ในสถานการณ์เช่นนี้หากต้องการแฝงตัวเป็นแขกเข้าไปคงไม่สำเร็จแน่

ดังนั้นจึงต้องคิดวิธีอื่น

“ท่านหยวน？ผมจำได้ว่าเมื่อยี่สิบปีก่อน พวกเราได้ช่วยข้าราชการสำคัญไว้กลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นเหมือนว่ามีคนแซ่หยวนด้วย ” ซ่างกวนหงไม่อยากใช้วิธีการอื่นแฝงตัวเข้าไป เขาอยากเข้าไปอย่างเปิดเผย เพราะมีเพียงการเข้าไปอย่างเปิดเผยเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เขาได้พบหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง และสามารถอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้ง่ายขึ้น

ผู้ดูแลจ้งตะลึงงัน：“ผมจะให้คนไปตรวจสอบครับ” ผู้ดูแลจ้งจำการช่วยชีวิตในครั้งนั้นได้ แต่ว่าความจำของผู้ดูแลจ้งไม่ได้ดีเหมือนกับความจำของหัวหน้าเขา เรื่องก็ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว เขาจำไม่ได้แล้วว่ามีใครบ้าง

แต่ว่า ก็ยังพอที่จะตรวจสอบได้ หากตอนนั้นมีท่านหยวนคนนี้จริงๆ ถ้างั้นเรื่องนี้ก็จัดการง่ายขึ้นแล้ว แม้ว่าผู้ดูแลจ้งจะจำรายชื่อในตอนนั้นอย่างละเอียดไม่ได้แล้ว แต่ว่าในฐานะที่เป็นคนช่วยชีวิตในตอนนั้น ยังไงท่านหยวนก็ต้องยอมรับน้ำใจนี้

ประสิทธิภาพของผู้ดูแลจ้งสูงมาก ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็สามารถตรวจสอบอย่างกระจ่างชัดแล้ว คนที่พวกเขาช่วยชีวิตในตอนนั้นมีท่านหยวนอย่างที่คิดไว้

ผู้ดูแลจ้งต้องยอมซูฮกให้กับความจำที่ดีของหัวหน้าของตน การช่วยชีวิตในตอนนั้นเกิดขึ้นเพราะคนของสหประชาชาติได้ส่งคนมาเชิญคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ให้เข้าช่วยเหลือด้วยตนเอง ในตอนนั้นถูกคนของกลุ่มก่อการร้าย ได้จับกุมข้าราชการสำคัญของหลากหลายประเทศ ก่อนหน้านั้นคนของประเทศเหล่านั้นได้ส่งคนไปช่วยชีวิต แต่คนที่ไปช่วยทั้งหมดต่างไม่มีชีวิตรอดกลับมา

ท้ายที่สุดเมื่อไม่มีหนทางอื่น จึงได้เชิญคนขององค์กรโกสต์ซิตี้เข้าช่วยเหลือ

ในตอนนั้นหัวหน้าเพิ่งรับตำแหน่งในองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ไม่นาน ดังนั้นรับจัดการภารกิจนี้ด้วยตนเอง แต่ว่ารายละเอียดทุกอย่างของเรื่องนี้เขาเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่ก็หัวหน้าก็ไม่เคยพบหน้าคนเหล่านั้น หัวหน้าดูเพียงรายงานที่มีรายชื่อของผู้ที่ได้เข้าช่วยเหลือจากเขาในครั้งสุดท้าย คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้ผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว เขาก็ยังจำได้

อีกทั้งท่านหยวนคนนี้ในตอนนั้น ก็ยังไม่ใช่ข้าราชการสำคัญอะไร เขาเพียงไปเป็นเพื่อนครูของเขาเท่านั้น แต่ว่าครูของเขาคนนั้นในเวลานั้นไม่ได้กลับมา ไม่ได้ถูกจับไป

“นำนามบัตรซึ่งเป็นหนังสือขอเข้าเยี่ยมเยือนของผมไปให้กับคฤหาสน์หยวน ผมต้องการเข้าเยี่ยมเยียนท่านหยวนท่านนี้” ในเมื่อเรื่องราวกระจ่างชัดแล้ว ซ่างกวนหงจึงเริ่มดำเนินการทันที

เมื่อผู้ดูแลจ้งได้ยินคำพูดของเจ้านายตนเองก็ตะลึงงัน นำนามบัตรซึ่งเป็นหนังสือขอเข้าเยี่ยมเยือนของหัวหน้าไปให้？

นี่ถือว่าเป็นมาตรฐานการขอเข้าเยี่ยมเยือนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของหัวหน้า เขาอยู่ข้างกายหัวหน้ามาสี่สิบปี สมัยก่อนหัวหน้าไม่เคยนำนามบัตรของตนเพื่อขอเข้าพบใครมาก่อน

แน่นอนว่าความสามารถของหัวหน้าและสถานะของเขา คนอื่นล้วนคิดหาวิธีที่จะเข้าพบเขาทั้งนั้น หัวหน้ามีโอกาสที่จะใช้มารยาทที่สูงส่งนี้เพื่อขอเข้าพบคนอื่นน้อยมาก

ท่านหยวนท่านนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นเคสแรกของหัวหน้า แน่นอนว่าผู้ดูแลจ้งรู้ดีว่าไม่ได้เป็นเพราะว่าท่านหยวนคนนี้มีอะไรพิเศษขนาดนั้น เขาก็แค่ได้รับอานิสงส์เพราะคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเท่านั้น

ผู้ดูแลจ้งกำลังคิดอยู่ว่า หากเมื่อก่อนองค์กรโกสต์ซิตี้กับตระกูลถังไม่ได้มีความขัดแย้งกัน หัวหน้าก็คงจะนำนามบัตรเพื่อขอเข้าเยี่ยมตระกูลถัง และนั้นก็สามารถทำให้พบกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้แล้ว

แต่ว่าความสัมพันธ์ขององค์กรโกสต์ซิตี้และตระกูลถังเกิดเรื่องมากมายขึ้นจริงๆ ครั้งแรกเกือบทำลายถังหลิน ครั้งที่สองเกือบทำลายถังหยุนเฉิง หากหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ขอเข้าพบตระกูลถังจริงๆ เกรงว่าก็คงถูกตระกูลถังขับไล่ออกมา ไม่ต้องพูดถึงการที่จะขอเข้าพบคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเลย

ขณะที่ผู้ดูแลจ้งกำลังครุ่นคิด ซ่างกวนหงก็พูดเสริมประโยคหนึ่งว่า：“วันนี้”

ผู้ดูแลจ้งตะลึงงันเล็กน้อย หลังจากที่ได้สติกลับมาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ แน่นอนว่าผู้ดูแลจ้งอยากที่จะไปเยี่ยมเยือนตระกูลหยวนในวันนี้ เพราะจะมีเพียงค่ำคืนนี้เท่านั้นที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะไปที่ตระกูลหยวน

หัวหน้าของตนพยายามเน้นย้ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะเกรงว่าเขาจะไม่เข้าใจ？เขาอยู่ข้างกายหัวหน้ามาสี่สิบกว่าปีแล้วจะไม่เข้าใจได้ยังไง？

เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าคิดมากเกินไปแล้ว！！

แต่ว่านี้ก็แสดงให้เห็นว่าหัวหน้าให้ความสำคัญกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากเป็นพิเศษ

“ผมทราบแล้วครับ ผมจะไปจัดการตอนนี้เลยครับ” ผู้ดูแลจ้งรับคำ ริมฝีปากเผยอออกมาเล็กน้อย ตอนที่จากไปรู้สึกว่าฝีเท้าคลายความกังวลลงไม่น้อย

หลังจากที่ผู้ดูแลจ้งไปจากสตูดิโอ ก็ตรงไปที่คฤหาสน์หยวน ประจวบเหมาะที่ท่านหยวนยังไม่ได้ออกไปไหน ผู้ดูแลจ้งจึงยื่นนามบัตรซึ่งเป็นหนังสือขอเข้าเยี่ยมเยือนของหัวหน้าตนให้เขา

เมื่อผู้ดูแลคฤหาสน์หยวนได้รับนามบัตรก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ใครจะยังใช้นามบัตรอยู่อีก ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีการติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ？ทั้งรวดเร็วทั้งสะดวก！！