ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1531 เธอคิดจะรนหาที่ตายแต่มันกลับเหนือความคาดหมาย (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1531 เธอคิดจะรนหาที่ตายแต่มันกลับเหนือความคาดหมาย (2)
“ถ้าท่านย่าถังอยู่ด้วยกันกับจื่อซี เรื่องนั้นเกรงว่าไม่ค่อยจะดีนักที่จะอธิบายออกไป เกรงว่ามันจะมีปัญหาวุ่นวายขึ้นมา” ความยินดีเมื่อครู่นี้ของผู้ดูแลจ้งมันได้หายไปโดยสมบูรณ์แล้ว เขาพบว่าเมื่อกี้นี้เขาดีใจเร็วไปหน่อย
“พรุ่งนี้ หนูจะให้พี่ชายไปเป็นเพื่อนหนูด้วย มีพี่ไปเป็นเพื่อนหนูด้วย คุณย่าทวดก็จะต้องยอมตกลง” ในตอนที่ผู้ดูแลจ้งกำลังกังวลอยู่นั้น ข้อความของเด็กน้อยถังจื่อซีก็ได้ส่งเข้ามาอีกครั้ง
“พี่ชาย? พี่ชายของหนูน้อยจื่อซี?” ดวงตาของผู้ดูแลจ้งได้เบิกกว้างออกมาทันที “เด็กน้อยทั้งสองคนเป็นฝาแฝดชายหญิง ดังนั้นแล้วพี่ชายก็อายุห้าขวบด้วยเหมือนกัน เด็กทั้งสองคนออกจากบ้านมาด้วยกันได้?”
เด็กคนนึงไม่สามารถออกจากบ้านคนเดียวได้ เด็กห้าขวบสองคนก็สามารถทำได้แล้ว?
ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กห้าขวบกันทั้งคู่หรือไง?
คนตระกูลถังวางใจกันได้?
“หัวหน้า หนูน้อยจื่อซีพูดจริงหรือเปล่าครับ?” ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นัก เขาคิดว่าตระกูลถังไม่น่าจะปล่อยให้เด็กสองคนออกจากบ้านมา อย่างน้อยก็คงจะต้องมีผู้ใหญ่สักคนนึงมาด้วย
“คุณลุงสบายใจได้ พรุ่งนี้หนูจะให้คนขับรถเสี่ยวหลิวไปส่งหนูกับพี่ชายเอง คนขับรถเสี่ยวหลิวจะไม่บอกพวกคุณย่าทวดเขาอย่างแน่นอน เมื่อกี้หนูได้ตกลงกับพี่ชายไปเรียบร้อยแล้ว พี่ชายได้ตกลงแล้ว” เด็กน้อยถังจื่อซีปฏิบัติการได้มีแบบแผนมาก เห็นได้ชัดว่าได้วางแผนเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง หนูน้อยจื่อซีฉลาดเกินไปแล้วจริง ๆ” ในที่สุดผู้ดูแลจ้งก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาได้เสียที ตอนที่ผู้ดูแลจ้งเห็นประโยคนั้นที่เด็กน้อยถังจื่อซีบอกว่าจะไม่บอกคุณย่าทวดก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
เด็กคนนี้ทำไมถึงได้เข้าอกเข้าใจคนอื่นขนาดนี้กันนะ?
“หัวหน้า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะไม่มีปัญหาแล้ว รอหลังจากที่พรุ่งนี้หนูน้อยจื่อซีมาแล้ว ผมจะปรึกษาเรื่องการตรวจสอบการเป็นพ่อลูกกับเธอ หนูน้อยจื่อซีเข้าอกเข้าใจคนอื่นเสียขนาดนั้น จะต้องยอมตกลงแน่นอน” ผู้ดูแลจ้งคิดว่าเรื่องนี้มันจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
เขาคิดว่าขอเพียงแค่อธิบายสถานการณ์ให้กับหนูน้อยจื่อซีไป หนูน้อยจื่อซีชอบหัวหน้าของเขาเสียขนาดนั้น จะต้องตกลงอย่างแน่นอน จะต้องไม่มีปัญหาเลยสักนิดเดียว
แต่ว่าดูเหมือนว่าผู้ดูแลจ้งจะมองข้ามพี่ชายที่เด็กน้อยถังจื่อซีว่ามาไป เด็กน้อยถังจื่อซีเข้าอกเข้าใจคนอื่น แต่เด็กน้อยถังจื่อโม่นั้นไม่ใช่คนที่จะพูดคุยกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้น
อีกทั้งตอนนี้ผู้ดูแลจ้งก็เอาแต่ดีใจอยู่ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ที่ห้องโถงใหญ่ในคฤหาสน์หยวนอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ไม่รู้เลยว่าเด็กน้อยถังจื่อโม่ได้ยินถังจื่อซีพูดเรื่องเมื่อเย็นวันนี้ขึ้นมาแล้วก็มีใบหน้าเยือกเย็นมืดครึ้มออกมาเลย
ผู้ดูแลจ้งยิ่งไม่รู้เลยว่า เด็กน้อยถังจื่อโม่เมื่อเทียบกับท่านย่าถังแล้วจะรับมือได้ยากกว่าเยอะเลย
ถังจื่อโม่ตอบตกลงถังจื่อซีว่าจะไปเจอเขาด้วยกันกับเธอวันพรุ่งนี้ แต่ว่าถังจื่อโม่ไม่เพียงจะไปเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น และก็ไม่เพียงไปเจอเขาเท่านั้นเหมือนกัน
ถังจื่อโม่ไม่ได้เป็นคนทำอะไรโดยใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งเหมือนกับถังจื่อซีอย่างนั้น ถังจื่อโม่ทำอะไรจะใจเย็นกว่านั้นเยอะ
เย็นวันนี้คฤหาสน์หยวนจัดงานเลี้ยง คนในครอบครัวหลาย ๆ คนนี้ที่ได้เชิญมาความสัมพันธ์ต่างก็ไม่เลวกันทั้งนั้น ในสถานการณ์จำพวกนี้จะไปมีคนแปลกหน้ามาได้ยังไง?
และจากที่ถังจื่อซีว่ามาเมื่อกี้ สองคนนั้นเป็นคนที่กระโดดลงไปจากหน้าต่างชั้นสองลงไป คนปกติใครเขาจะกระโดดหน้าต่างกัน ดังนั้นแล้วสองคนนั้นเห็นได้ชัดว่าจะต้องมีปัญหาแน่
แต่สองคนนั้นไม่ได้ทำร้ายถังจื่อซี อีกอย่างเห็นท่าทีของถังจื่อซีเข้ากันได้ดีกับสองคนนั้นเลยทีเดียว
ดังนั้นแล้วถังจื่อโม่จึงไม่ได้เปิดเผยออกไป เขาคิดว่าวันพรุ่งนี้จะไปลองดูกับถังจื่อซีก่อนสักหน่อย ลองดูว่าตกลงแล้วเป็นใครกันแน่? ลองดูสักหน่อยว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
“พี่ชาย พรุ่งนี้พวกเราไปหาพวกเขากี่โมง?” ถังจื่อซีไม่รู้ความตั้งใจของพี่ชายตัวเอง เธอเพียงแค่อยากไปเล่นกับคุณลุงคนหล่อเท่านั้นเอง
ถังจื่อโม่ทอดมองไปที่ถังจื่อซีที่แสดงใบหน้าตั้งตารอคอยออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็ได้หรี่ลงเล็กน้อย คนคนนั้นเป็นใครกันแน่ นึกไม่ถึงว่าจะทำให้ถังจื่อซีที่เพิ่งจะเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ลืมไม่ลงขนาดนี้?
น้องสาวของเขาเขารู้จักดีที่สุด น้องสาวของเขาถึงแม้ว่าปกติแล้วจะทำอะไรโดยใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งอยู่บ้าง แต่น้องสาวของเขาก็ไม่มีทางจะชอบคนคนนึงได้ง่าย ๆ อย่างนั้นแน่
ดังนั้นแล้ว เขาจึงยังอยากรู้ว่าคนคนนั้นทำอะไรกับน้องสาวเขา ถึงได้ทำให้น้องสาวเขาชอบได้ถึงขนาดนี้?
ถังจื่อโม่ยิ่งอยากจะไปเจอกับคนคนนั้นขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม
“วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายสามแล้วกัน” ถังจื่อโม่นัดเวลามา
“ได้ งั้นฉันบอกเขาเดี๋ยวนี้เลย พรุ่งนี้พวกเราจะไปหาพวกเขาตอนบ่ายสาม” ถังจื่อซีไม่ได้สังเกตเห็นถึงอารมณ์ของพี่ชายตัวเองเลยสักนิดเดียว เพียงแค่พิมพ์ข้อความไปอย่างมีความสุข
“สถานที่อยู่ตรงไหน? เขาให้เธอไปหาเขาที่ไหน?” ถังจื่อโม่เห็นน้องสาวแสดงใบหน้ามีความสุขออกมา สีหน้าก็ยิ่งขรึมลงกว่าเดิมเล็กน้อย เขารู้สึกว่าน้องสาวของเขาถูกคนคนนั้นหลอกล่อจนหาทางออกไม่เจอไปเรียบร้อยแล้ว
“อ่า ฉันยังไม่ได้ถามเลย งั้นฉันลองถามดูว่าเขาอยู่ที่ไหน” ถังจื่อซีนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้นัดแนะสถานที่กันเลย เธอเอาแต่พูดว่าจะไปหาคุณลุงคนนั้นอยู่ตลอด แต่ตอนนี้เธอเพิ่งจะค้นพบว่าเธอไม่รู้เลยว่าคุณลุงคนนั้นอยู่ที่ไหน
เรื่องที่เกี่ยวกับคุณลุงคนนั้นอันที่จริงเธอก็ไม่รู้อะไรเลย เธอถึงขนาดที่แม้แต่ชื่อของคุณลุงก็ไม่ได้ถามเลย แต่ว่าเธอเหมือนกับว่าจะไม่ได้บอกชื่อของเธอให้กับคุณลุงไปด้วยเหมือนกัน
ยังดีที่ได้ทิ้งช่องทางการติดต่อเอาไว้ ไม่อย่างนั้นแล้วเธอก็คงจะไม่ได้เจอกับคุณลุงคนนั้นอีก
“คุณลุง คุณลุงอยู่ที่ไหน? พรุ่งนี้หนูจะไปหาคุณลุงที่ไหน?” ถังจื่อซีรีบเขียนข้อความแล้วส่งไปอีกครั้ง
ซ่างกวนหงได้รับข้อความของถังจื่อซีก็ตะลึงไปแป๊บนึง จากนั้นก็ส่งที่อยู่ที่เขาอยู่ตอนนี้ไปให้ถังจื่อซี
แต่หลังจากที่เขาส่งข้อความไปแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นัก จากนั้นก็ได้เสริมไปอีกประโยคหนึ่งอย่างรวดเร็วว่า “พรุ่งนี้หนูโทรหาฉัน แล้วฉันจะไปรับหนูเอง”
ตอนนี้ถังจื่อโม่เด็กน้อยเห็นบันทึกการสนทนาของน้องสาวของเขา สีหน้าก็ยิ่งนิ่งขรึมลงกว่าเดิม ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าบทสนทนานี้มันแปลก ๆ ?
เขามองน้องสาวที่มีอายุเพียงห้าขวบของตัวเองไปแวบนึง คิ้วก็ได้ขมวดเข้าหากันแน่น “จื่อซี เมื่อกี้เธอบอกว่าคนคนนั้นเขาอายุเท่าไหร่กัน?”
“หืม?” ถังจื่อซีกำลังส่งข้อความอยู่ได้ยินคำพูดของพี่ชายของตัวเองแล้วงงงวยออกมาเล็กน้อย อันที่จริงเด็กน้อยถังจื่อซีเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนคนนั้นเขาอายุเท่าไหร่กันแน่
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ถาม แต่เขาหล่อมาก…” ภาพจำที่ชัดเจนที่สุดของถังจื่อซีนั้นก็คือคนคนนั้นหน้าตาดี
“ฉันถามเธอว่าเขาอายุเท่าไหร่” สีหน้าของถังจื่อโม่ยิ่งเยือกเย็นขึ้นกว่าเดิม คำพูดนี้ของน้องสาวของเขาได้ทำให้เขารู้สึกไม่ดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อกี้เขาเพิ่งเห็นบทสนทนาของน้องสาวเขาไป น้องสาวเรียกคนคนนั้นว่าคุณลุง ก็หมายความว่าอายุของคนคนนั้นไม่น้อยแล้วใช่มั้ย?
“อืม ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่มองไปแล้วคงจะอายุยี่สิบสามสิบเห็นจะได้ล่ะมั้ง” เด็กน้อยถังจื่อซีพยายามคิดอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงแม้ว่าเมื่อตอนนั้นด้วยตำแหน่งที่คุณลุงคนนั้นยืนอยู่ จึงเห็นได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก แต่ดูท่าทางแล้วคงจะอายุยี่สิบกว่า ๆ อย่างมากก็สามสิบปีได้ล่ะมั้ง
“สามสิบกว่าปี?” คิ้วของถังจื่อโม่ได้ขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม คนอายุสามสิบกว่าปีมีแผนจะทำอะไรน้องสาวของเขา?
ถังจื่อซีได้ยินเสียงที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนแปลกไปเล็กน้อยของพี่ชายของตัวเอง ในที่สุดก็ได้เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ มองไปทางพี่ชายของตัวเอง “พี่ชาย เป็นอะไรไป?”
ถังจื่อโม่สบเข้ากับดวงตาที่ไร้เดียงสาคู่นั้นของน้องสาวตัวเอง ก็ได้ทอดถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจอยู่บ้าง น้องสาวของเขาทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วจะระมัดระวังตัวมากขนาดนั้นแท้ ๆ ความระแวดระวังของน้องสาวของเขาแข็งแกร่งมากมาโดยตลอดเช่นกัน