ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1548 เรื่องใหญ่โตขึ้นมาแล้ว (1)
ซือถูมู่หรงเห็นว่ารับสายแล้ว ก็อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพียงแต่เสียงของเขากลับเยือกเย็นเสียจนน่ากลัว “อยู่ที่ไหน?”
แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธออยู่ที่ไหน เขาถามประโยคนี้ไป ก็เพื่ออยากจะให้เธอบอกเขามากับปากของเธอเอง เขาอยากรู้ว่าเธอจะโกหกเขาหรือเปล่า
“อยู่ข้างนอก” คำตอบของหลิวหยิงเห็นได้ชัดว่าฟังดูขอไปทีมากเลย
“ฉันถามว่าเธออยู่ที่ไหน?” แน่นอนว่าซือถูมู่หรงต้องไม่พอใจกับคำตอบของเธออยู่แล้ว เขาต้องการคำตอบที่ชัดเจน เขารออยู่ที่ข้างนอกมาสามชั่วโมงกว่าแล้ว เธอมาตอบแบบออกขอไปทีอย่างนี้กับเขา?
หลิวหยิงฟังออกถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงของเขา เธอมองไป๋ยี่รุ่ยที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไปแวบนึง คิ้วของไป๋ยี่รุ่ยได้ขมวดออกมาแน่น ท่าทางดูเหมือนกับว่าจะเจ็บปวดมาก บนหน้าผากของเขาก็ได้อาบชื้นไปด้วยเหงื่อ อีกทั้งในตอนนี้สีหน้าของเขาก็ดูเหมือนกับว่าจะซีดลงกว่าเก่าเสียอีก
“ฉันยังมีธุระ ขอไม่คุยกับคุณก่อนแล้วกัน” หลิวหยิงเห็นสภาพของไป๋ยี่รุ่ยแล้วก็อดรู้สึกเป็นห่วงอย่างเสียไม่ได้ ไป๋ยี่รุ่ยคงไม่ได้เป็นอะไรหรอกมั้ง ร่างกายเขาเดิมทีก็บาดเจ็บอยู่แล้ว แล้วยังไปถูกไป๋หยิงวางยาอย่างนั้นไปอีก ยาพวกนั้นมันจะต้องมีผลตามมาแน่ ๆ เลย
หลิวหยิงในตอนนี้เนื่องจากเป็นกังวลอยู่ ก็เลยไม่ได้พูดรายละเอียดกับซือถูมู่หรงไป ก็ได้วางสายไปทันที
ซือถูมู่หรงเห็นว่าตัวเองถูกตัดสายไป ได้เงียบไปสองวิ แล้วก็ได้โยนโทรศัพท์ทิ้งไปทันที
แรงของเขาเยอะมาก แต่พื้นที่ภายในรถมันมีน้อย โทรศัพท์จึงชนเข้ากับบนกระจกรถ แล้วก็เด้งกลับมา และก็บังเอิญเด้งกลับมาที่บนหน้าผากเขาพอดี
แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเดียว ตอนนี้เขารู้สึกเพียงแค่อยากฆ่าคนเท่านั้น คิดเพียงแค่อยากจะเข้าไปฆ่าเธอกับไป๋ยี่รุ่ยไปเสียเท่านั้น
เขาเชื่อใจเธอ ให้โอกาสเธอ ให้เธอไปเจอไป๋ยี่รุ่ย แต่ผลสุดท้ายล่ะ เธอก็ทำอย่างนี้กับเขา?
ครั้งแรกไม่รับสายเขา ครั้งที่สองรับสายแล้ว แต่พูดได้ไม่ถึงสองประโยคก็วางสายไปเสียแล้ว
เธอมีธุระ เธอมีธุระอะไร?
ไม่ใช่ว่านัดเดทกับไป๋ยี่รุ่ยหรือไง? ไม่ใช่ว่าคุยกับไป๋ยี่รุ่ยหรือไง?
คุยกับไป๋ยี่รุ่ยมาสามชั่วโมงกว่าเข้าไปแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่คุยกันไม่เสร็จอีก คุยกับไป๋ยี่รุ่ยมีความสุขเสียถึงขนาดที่ยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่จะโทรศัพท์กับเขาเลยเหรอ?
ซือถูมู่หรงแข็งค้างไปทันที คุยกับไป๋ยี่รุ่ยแน่นอนว่าจะต้องไม่ถึงขนาดที่ยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่เวลาจะคุยโทรศัพท์กับเขาอยู่แล้ว
อย่างนั้นแล้วตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่กันแน่?
เวลาสามชั่วโมง เธอกับไป๋ยี่รุ่ยทั้งสองคนอยู่ที่ข้างในทำอะไรกันอยู่กันแน่
เขาไม่อยากจะไปคลางแคลงใจ แต่ตอนนี้เขาแม่งกลับไปคิดมากมายอย่างอดไม่ได้เสียแล้วนี่สิ
นึกไปถึงว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่กับไป๋ยี่รุ่ยขึ้นมา อยู่ด้านในคลับ และทั้งสองคนก็อยู่ข้างในนั้นมาสามชั่วโมงกว่าแล้ว สายของเขาพูดแค่สองประโยคก็ถูกเธอวางสายไปเสียแล้ว
ดังนั้นแล้ว เธอกำลังยุ่งอะไรกันแน่? มีเรื่องอะไรที่จะต้องยุ่งถึงขนาดนั้น?
เธออยู่ในที่อย่างนี้กับผู้ชายคนหนึ่งตามลำพังมาสามชั่วโมงกว่าจะทำอะไรได้?
อีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็ยังเป็นคนที่เธอชอบอีก ชอบมาหลายปีแล้วด้วย
เมื่อก่อนเขาบอกให้ตัวเองอย่าไปคลางแคลงใจมาตลอด แต่ตอนนี้กลับไม่อาจที่จะไม่คลางแคลงใจได้เลย
ซือถูมู่หรงในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะอยากฆ่าคนขึ้นมา
ซือถูมู่หรงคิดว่าถ้าเขารออย่างนี้ต่อไปอีก เขาคงจะได้เป็นบ้าไปแน่
ทำไมเขาถึงต้องรออยู่ตรงนี้ด้วย? พูดอะไรที่ว่าให้โอกาสเธอกัน? โอกาสแม่งมันสิ
เขาควรจะบุกเข้าไปตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ควรจะให้เวลาสามชั่วโมงนี้กับพวกเขาเลย
ซือถูมู่หรงได้เปิดประตูรถออกไปทันที จากนั้นก็ลงจากรถไป ตรงไปยังประตูทางเข้าของคลับซิงหยุน
คนที่เดิมทีได้รับคำสั่งจากซือถูมู่หรงมาให้คอยเฝ้าอยู่ที่ด้านนอกคลับซิงหยุนเห็นซือถูมู่หรงปรากฏตัวมาด้วยตัวเอง จึงพากันตกใจกันขึ้นมา
เขารับคำสั่งมาว่าคอยจับตาดูหลิวหยิงอยู่ตลอด แน่นอนว่าจะต้องรู้ความสัมพันธ์ของซือถูมู่หรงกับหลิวหยิงอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อน เพียงแค่เขาจับตาดูหลิวหยิงแล้วรายงานสถานการณ์ให้ซือถูมู่หรงไปเท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมาซือถูมู่หรงไม่เคยจะเข้ามาดูเองเลยสักครั้ง
ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าซือถูมู่หรงจะโผล่หน้ามาเองเลย อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์แบบนี้อีก เขาคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกตลอด แน่นอนว่าต้องรู้ดีว่าหลิวหยิงกับไป๋ยี่รุ่ยได้อยู่ที่ด้านในไปสามชั่วโมงกว่าแล้ว
ผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในที่แบบนี้ตามลำพังไปสามชั่วโมงกว่า?
ถ้าบอกเขาว่าทั้งสองคนเพียงแค่คุยกันอยู่ที่ด้านในเพลินไปหน่อย เขาจะไม่มีทางเชื่อแน่ ๆ
อีกอย่างเรื่องที่โรงพยาบาลเมื่อครั้งที่แล้วเขาก็เป็นคนจับตาดูอยู่เหมือนกัน เขาจึงรู้เรื่องบางอย่างระหว่างหลิวหยิงกับไป๋ยี่รุ่ย ดังนั้นแล้ว จากที่เขาคิดนั้นเหมือนกับว่าที่ด้านในมันก็คงจะ…
ตอนที่เป็นเวลาสองชั่วโมงกว่าเขาได้โทรหาซือถูมู่หรง ซือถูมู่หรงให้เขารอก่อนอีกหน่อย เขานึกว่าซือถูมู่หรงจะไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้นเสียอีก เพราะถึงยังไงตอนที่โรงพยาบาลเมื่อครั้งที่แล้ว ซือถูมู่หรงเองก็เพียงแค่ฟังรายงานของเขาไปเท่านั้นเอง และก็ไม่ได้ทำอะไร
แต่ว่าครั้งนี้ซือถูมู่หรงกลับมาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์แบบนี้อีก? นี่แสดงว่าจะมาจับชู้?
แต่ด้วยสถานะของซือถูมู่หรงไม่ควรจะต้องทำเรื่องอย่างนั้น อีกอย่างหลิวหยิงก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนนึงของซือถูมู่หรงเท่านั้น ไร้ชื่อไร้ศักดิ์ ซือถูมู่หรงเองก็ไม่ได้คิดจะมอบสถานะอะไรให้กับหลิวหยิงอยู่แล้ว ทำไมถึงต้องมาจับชู้ด้วยล่ะ?
“ท่านประธานซือถู ทำไมคุณถึงมาด้วยตัวเอง?” หลิวปิงไม่รู้ว่าซือถูมู่หรงนั้นคิดยังไง แต่ซือถูมู่หรงมาแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อาจจะทำเพียงแค่คอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ได้เหมือนกัน ซือถูมู่หรงมาด้วยตัวเอง สันนิษฐานว่าน่าจะต้องการเข้าไปตรวจสอบดูสักหน่อย
ในสถานที่อื่นด้วยสถานะของซือถูมู่หรงแล้วอยากจะเข้าไปตรวจสอบดูมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่ที่นี่ถึงยังไงมันก็เป็นคลับซิงหยุน ถึงแม้ว่าซือถูมู่หรงจะมาด้วยตัวเอง มันจะต้องยุ่งยากอยู่บ้างอย่างแน่นอน อีกอย่างตอนนี้ซือถูมู่หรงมาด้วยตัวเอง เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
หรือว่าซือถูมู่หรงจะไม่กลัวงั้นเหรอ?
นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรเลย ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะไร้ชื่อไร้ศักดิ์ แต่ถึงยังไงก็เป็นผู้หญิงของซือถูมู่หรง ผู้หญิงของซือถูมู่หรงนัดกับผู้ชายคนอื่นที่นี่ ซือถูมู่หรงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ท่านประธานซือถู คุณจะเข้าไปหรือเปล่าครับ? ไม่อย่างนั้นให้ผมเข้าไปหาวิธีสืบดูสักหน่อยแล้วกันครับ” หลิวปิงคิดว่าไม่ว่าจะยังไง ก็ไม่ควรให้ท่านประธานของเขาเข้าไป ถ้าท่านประธานของเขาเข้าไปตรวจสอบแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเรื่องมันรั่วไหลออกไป เกรงว่าทุกคนจะรู้ว่าผู้หญิงของซือถูมู่หรงแอบนัดเจอผู้ชายคนอื่นลับ ๆ กันหมด
ดังนั้นแล้วเรื่องนี้ถ้าจะตรวจสอบกันจริง ๆ ก็ให้เขาเข้าไปตรวจสอบเองจะเหมาะกว่า
ซือถูมู่หรงไม่ได้มองเขา ไม่ได้ตอบกลับไป แต่ได้ก้าวเท้าเดินตรงไปยังคลับแทน
“ท่านประธาน เรื่องนี้ไม่อาจวู่วามได้…” หลิวปิงตกใจไปหมด เขานึกไม่ถึงเลยว่าท่านประธานของเขาจะตรงเข้าไปตรวจสอบอย่างนี้เลย เรื่องแบบนี้ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ควรจะทำให้มันเอิกเกริกเลย
แต่ซือถูมู่หรงไม่สนใจเลย ได้เดินไปถึงจุดประตูทางเข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานต้อนรับที่หน้าประตูได้ช่วยเปิดประตูให้พวกเขาอย่างสุภาพเป็นอย่างมาก
หลิวปิงยังอยากจะพูดอะไรออกไป แต่ต่อหน้าคนนอกแล้ว ทำได้แค่เพียงกลืนคำพูดที่อยู่ที่ตรงปากไปเสียดื้อ ๆ
“คุณผู้ชายทั้งสองท่านได้จองเอาไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าคะ?” พนักงานต้อนรับที่หน้าล็อบบี้ได้เดินเข้ามาทันที
ซือถูมู่หรงใบหน้ามืดครึ้ม มุมปากได้เม้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้ตอบออกไป
“ไม่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้า แต่พวกเรานัดประธานไป๋เอาไว้ พวกเรานัดกับประธานไป๋เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เลยจะมาหาประธานไป๋” หลิวปิงเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง หลิวปิงเองก็รู้ว่าธุรกิจของคลับซิงหยุนดำเนินไปได้ดีมาก ช่วงเวลานี้ไม่ได้นัดล่วงหน้าเอาไว้คงจะไม่มีที่แน่ ๆ
“ประธานไป๋?” พนักงานต้อนรับที่หน้าล็อบบี้ได้อึ้งไปเล็กน้อย เหมือนกับว่าจะสงสัยอยู่บ้าง แต่บนใบหน้าของเธอก็ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้มการค้าออกมาอีกครั้งโดยทันที “งั้นเชิญคุณผู้ชายทั้งสองท่านรอสักครู่นะคะ ดิฉันขอไปสอบถามประธานไป๋ก่อนสักหน่อย”
ต้องบอกเลยว่าการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัวของคลับซิงหยุนทำได้ดีมากเลยจริง ๆ สถานที่ทั่วไป ถ้าเจอกับสถานการณ์อย่างนี้จะต้องให้พวกเขาเข้าไปแล้ว
แต่ทางคลับซิงหยุนกลับจะต้องไปสอบถามลูกค้าก่อน
ไม่แปลกใจเลยที่ธุรกิจของทางคลับซิงหยุนถึงได้เป็นไปได้สวยขนาดนี้
หลิวปิงลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ก็ดี ให้คนไปถามดูสักหน่อย คุณหลิวรู้ว่าท่านประธานมาแล้ว จะต้องออกมาแน่ คุณหลิวออกมาแล้ว สถานการณ์มันก็จะไม่ใหญ่โตขึ้นมาแล้ว
มันดีกว่าให้ท่านประธานของเขาบุกเข้าไปจับชู้เป็นหลายเท่า
หลิวปิงคิดว่านี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้แล้ว
ตอนนี้หลิวปิงกลัวว่าท่านประธานของเขาจะเป็นบ้าขึ้นมาจริง ๆ บุกตรงเข้าไปแล้ว ถ้าเกิดเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเข้า มันจะต้องจบเห่แน่
แต่หลิวหยิงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนนึงของท่านประธานเท่านั้นเอง ไร้ชื่อไร้ศักดิ์ ท่านประธานไม่มีทางจะคิดอะไรวู่วามอย่างนั้นลงไปหรอก
แต่หลิวปิงยังไม่ทันได้ผ่อนลมหายใจออกมา ในทันใดนั้นเองจู่ ๆ ซือถูมู่หรงก็พูดออกไปว่า “ไม่ต้อง เธอนำทางฉันไปเลย”
หลิวปิงได้ยินคำพูดของท่านประธานของเขาแล้ว ก็ได้อ้าปากค้างไปทันที นำทางเข้าไปเลย ท่านประธานไม่กลัวว่าจะเห็นภาพไม่ดีพวกนั้นเข้าหรือไง?
หรือว่าท่านประธานจะมาจับชู้จริง ๆ ?
“คุณผู้ชายท่านนี้ อย่างนี้มันไม่เหมาะ กฎของพวกเราที่นี่เข้มงวดมาก ดังนั้นแล้วดิฉันจำเป็นจะต้องได้รับอนุญาตจากแขกก่อนถึงจะได้ค่ะ” พนักงานต้อนรับที่หน้าล็อบบี้วันนี้เป็นคนที่เพิ่งจะมาได้ไม่นาน ปกติแล้วซือถูมู่หรงก็มาที่นี่น้อยครั้งมากเหมือนกัน พนักงานต้อนรับที่หน้าล็อบบี้จึงไม่รู้จักเขา
แน่นอนว่าถึงแม้ว่าเธอจะรู้จักซือถูมู่หรง แต่กฏของคลับซิงหยุนเข้มงวดมาก เธอเองก็ไม่กล้าพาเขาเข้าไปทันทีโดยที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากแขกด้วยเหมือนกัน