ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1552 เขาน่ากลัวมาก(1)
หลิวปิงมองไปยังประธานอย่างอัตโนมัติ ขณะที่เห็นสีหน้าของประธานของตน ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจก็แทบจะหยุดเต้น
จบกัน จบกัน ดูท่าจะจบแล้วจริงๆ
ประธานของเขาในเวลานี้รอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย หลิวปิงรับรู้ได้ว่าช่วงเวลาถัดจากนี้กระแสเลือดจะกลายเป็นสายน้ำแล้ว
หลิวปิงถอยหลังอย่างอัตโนมัติ เพียงแต่ว่าขาทั้งสองข้างของเขาในเวลานี้อ่อนแรง ฝีเท้าที่ก้าวออกไปนั้นสั้นมาก เล็กมาก ห่างออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
หลิวปิงอยากที่จะถอยหลังอีกหนึ่งก้าว แต่ว่าเมื่อเห็นท่าทีในเวลานี้ของประธาน เขาไม่สามารถก้าวไปอีกขั้นได้
“เอ๊ะ ภายในห้องรับรองมีเสียงเรียกเข้าดังออกมา ดูเหมือนว่าประธานไป๋จะอยู่ในห้องรับรอง ยังไม่ได้จากไปไหน”ผู้จัดการต้อนรับไม่รู้สถานการณ์ของคนทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าประตู ในเวลานี้ผู้จัดการต้อนรับไม่ได้หันศีรษะกลับมา ดังนั้นจึงไม่เห็นกลิ่นอายรอบของความตายรอบตัวของซือถูมู่หรง
เขาได้ยินเพียงเสียงเรียกเข้าที่ดังออกมาจากด้านใน ดังนั้นจึงเดาว่าไป๋ยี่รุ่ยอยู่ในห้องรับรอง โทรศัพท์อยู่ภายในห้องรับรอง คนก็จะต้องอยู่ในห้องรับรองอย่างแน่นอน
ผู้จัดการต้อนรับเคาะประตูอีกครั้ง:“ประธานไป๋ ท่านอยู่ในห้องรับรองหรือเปล่าครับ?”
เพราะถึงยังไงประธานซือถูก็ยังรออยู่ที่หน้าประตู เจ้านายของเขาก็กำชับเองว่าจะต้องพาประธานซือถูมาพบไป๋ยี่รุ่ยให้ได้
แน่นอนว่าผู้จัดการต้อนรับจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
ดังนั้น แม้ว่าจะรู้ว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการรบกวนไป๋ยี่รุ่ยที่อยู่ด้านใน แต่ว่าเขาก็จำเป็นต้องทำ เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นเพียงแค่พนักงานคนหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามเขาก็จะต้องเชื่อฟังเจ้านาย
ภายในห้องรับรอง หลิวหยิงกำลังเปิดน้ำอยู่ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าดังมาจากข้างนอก เธอรู้ว่านี่คือเสียงเรียกเข้าของเธอ
หลิวหยิงปิดก๊อกน้ำ รีบเปิดประตูออกมาเพื่อไปรับโทรศัพท์
แต่ว่าตอนที่เธอหาโทรศัพท์เจอ เสียงเรียกเข้าก็หยุดลง เธอดูเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย เป็นเบอร์ของซือถูมู่หรง
หลิวหยิงขมวดคิ้วแน่น ปกติซือถูมู่หรงโทรศัพท์หาเธอน้อยครั้งมาก วันนี้ตอนเย็นโทรศัพท์หาเธออยู่บ่อยครั้งติดกัน
นี่เป็นสถานการณ์ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีมาก่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า
เดิมทีหลิวหยิงวางแผนว่าหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็จะกลับไป แต่ตอนนี้เมื่อซือถูมู่หรงโทรศัพท์เข้ามา หลิวหยิงก็คิดที่จะโทรกลับหาเขาก่อน
แต่ว่าหลิวหยิงยังไม่ทันได้โทรกลับ เสียงเคาะประตูจากข้างนอกก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงคำถาม ในครั้งนี้ผู้จัดการต้อนรับเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ดังนั้นเสียงจึงค่อนข้างดัง หลิวหยิงฟังได้อย่างชัดเจน
หลิวหยิงเกรงว่าจะรบกวนทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตื่น เขาไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะนอนหลับ จะรบกวนให้เขาตื่นไม่ได้
พรุ่งนี้เขาจะไปมอบตัว แน่นอนว่าในใจคงรู้สึกทุกข์ทรมานมาก หากไม่ได้เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เหนื่อยมาก เขาก็คงจะนอนไม่หลับ ตอนนี้เขานอนไปสองชั่วโมงกว่า ก็ถือว่าดีขึ้นมาหน่อย หากตอนนี้ปลุกให้เขาตื่น เขาก็ไม่ไม่สามารถนอนหลับต่อได้อย่างแน่นอน
พรุ่งนี้เขาจะไปมอบตัวแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่นอนหลิวหยิงรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาจะต้องถูกขังตัวไว้อย่างแน่นอน แน่นอนว่าการถูกกักขังนั้นทุกข์ทรมาน คืนวันนี้ก็ให้เขาพักผ่อนอย่างเต็มที่เถอะ
หลิวหยิงรีบเดินไปยังประตูห้อง เปิดประตูห้องออก พูดขึ้นกับผู้จัดการต้อนรับที่อยู่ด้านนอกว่า:“เบาๆหน่อย เขานอนหลับแล้ว อย่าทำให้เขาต้องตื่น”
ในเวลานี้ ซือถูมู่หรงยืนอยู่ด้านหลังห้องวีไอพี ซือถูมู่หรงเขายังไม่ได้เข้ามา แต่ในเวลานี้หลิวหยิงยังคงอยู่ในห้องรับรอง
ผู้จัดการต้อนรับยืนอยู่หน้าห้องรับรองทางด้านนอก ดังนั้นหลิวหยิงมองไม่เห็นซือถูมู่หรง
ในเวลานี้หลิวหยิงกดเสียงลงต่ำ แต่ซือถูมู่หรงที่ยืนอยู่หน้าห้องวีไอพีนั้นได้ยิน
อีกทั้งยังเป็นเสียงของหญิงสาวที่เขาคบหามากว่าห้าปี แน่นอนว่าเขาฟังออกในทันที
จู่ๆซือถูมู่หรงก็ยิ้มออกมา ดี ดีมาก ไป๋ยี่รุ่ยนอนหลับ เธอกลัวว่าคนอื่นจะรบกวนทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตื่น
เอาใจใส่ดีจริงๆ เอ็นดูมากจริงๆ เธออยู่ข้างกายเขามาห้าปี ยังไม่เคยเห็นเธอเอาใจใส่เขาดีขนาดนี้มาก่อน และยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรักความเอ็นดูเลย
ไป๋ยี่รุ่ยนอนหลับแล้ว?เธอทำอะไรอยู่ข้างในนั้น?
เธอทำอะไรอยู่ข้างในนั้น?
ในเวลานี้แม้ว่าซือถูมู่หรงอยากจะหาเหตุผลให้กับเธอ แต่ก็หาไม่เจอ
ตอนนี้ซือถูมู่หรงยังคงยืนอยู่ที่นี่ไม่ได้พุ่งเข้าไปฆ่าคนในทันที เขาคิดว่าความอดทนของเขาก็ดีไม่น้อยเลย
ในเวลานี้สีหน้าของซือถูมู่หรงขรึมลง สีหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ แต่กลับมีเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย ทั้งยังเป็นเสียงหัวเราะที่ไร้เสียง
หลิวปิงตกใจตนตัวสั่น เกือบที่ล้มลงบนพื้น ดีที่เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว พยุงกำแพงที่อยู่ด้านข้างไว้ทัน
ในเวลานี้ หลิวปิงสามารถมองเห็นใบหน้าตรงของซือถูมู่หรงได้อย่างชัดเจน สามารถมองเห็นยิ้มของซือถูมู่หรงได้อย่างชัดเจน รอยยิ้มนั้นทำให้หลิวปิงคิดถึงมารผู้ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ทำให้คนรู้สึกขนพองสยองเกล้า
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ?ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ ?
คุณหลิวไม่เพียงแต่อยู่ในห้องรับรองกับไป๋ยี่รุ่ย ในเวลานี้หลิวหยิงพูดเช่นนี้ ประธานของเขาจะไม่โกรธได้ยังไง?
“อ่า?อ่า!”ผู้จัดการต้อนรับเห็นหลิวหยิงก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่รู้จริงๆว่าด้านในมีคนอื่นอยู่อีก อีกทั้งยังเป็นผู้หญิง เมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ในห้องรับรองนั้น……
แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ทางด้านพวกเขานี้เห็นเป็นประจำ ผู้จัดการต้อนรับก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ทำเพียงพยักหน้า:“อ่อ อ่อ เข้าใจแล้ว ขอโทษ รบกวนแล้ว”
ผู้จัดการต้อนรับทราบสถานการณ์นี้ดีว่าการที่ถูกรบกวนนั้นไม่ดีเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่ามีเพียงไป๋ยี่รุ่ยเพียงคนเดียว
หากทราบว่าข้างในยังมีคนอยู่อีกหนึ่งคน ผู้จัดการต้อนรับนั้นไม่กล้าที่จะเคาะประตูอย่างแน่นอน
หลังจากที่ผู้จัดการต้อนรับขอโทษ จู่ๆก็นึกได้ว่ามีคนรอพบไป๋ยี่รุ่ยอยู่ข้างนอก อีกทั้งคนคนนั้นคือประธานซือถู คือคนที่ไม่ควรล่วงเกินเป็นที่สุด และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจ้านายของเขากำชับพวกเขาด้วยตนเอง
ดังนั้น แม้ว่าจะรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะรบกวนเขาผู้จัดการต้อนรับจึงจำต้องกัดฟันพูดขึ้นว่า:“ขอโทษนะครับ
มีคนอยากพบประธานไป๋ รบกวนช่วยแจ้งประธานไป๋ให้หน่อยได้ไหมครับ คนที่ต้องการพบประธานไป๋นั้น สถานะไม่ธรรมดา”
ผู้จัดการต้อนรับกลัวว่าหลิวหยิงจะปฏิเสธ ดังนั้นจึงจงใจเสริมขึ้นหนึ่งประโยค ไป๋ยี่รุ่ยเป็นนักธุรกิจ เขาพูดอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว หากผู้หญิงคนนี้มีสมองสักหน่อยก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธเขา
แม้ว่าผู้จัดการต้อนรับจะไม่รู้ว่าซือถูมู่หรงต้องการที่จะมาพบไป๋ยี่รุ่ยเพราะเหตุผลใด แต่สถานะของซือถูมู่หรงนั้นไม่ธรรมดา
หลิวหยิงขมวดคิ้วเล็กน้อย:“อย่ารบกวนเขาเลยจะดีกว่า เขาเหนื่อยมาก ให้เขานอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ”
หลิวหยิงไม่อยากที่จะปลุกไป๋ยี่รุ่ยให้ตื่นในเวลานี้จริงๆ เธอรู้ดีว่าพรุ่งนี้ไป๋ยี่รุ่ยจะไปมอบตัว
พรุ่งนี้ต้องไปมอบตัว ดังนั้นเรื่องอื่นนั้นไม่สำคัญ ต่อให้เป็นคนสำคัญแค่ไหน เป็นเรื่องสำคัญแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้น ไม่มีความสำคัญใดทั้งสิ้น
หลิวหยิงรู้ดีว่าแน่นอนว่าในเวลานี้ไป๋ยี่รุ่ยไม่ต้องการที่จะพบเจอใคร เพราะถึงยังไงเรื่องที่ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเขาก็ได้เตรียมตัวไว้แล้ว แน่นอนว่าคงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นอีกแล้ว
สถานะไม่ธรรมดาแล้วยังไง ไม่ว่าจะเป็นประธานอะไรก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพบ เพราะถึงยังไงบริษัททั้งบริษัท ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ต้องการแล้ว
อีกทั้งไป๋ยี่รุ่ยในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะคุยเรื่องธุรกิจหรอก
การปฏิเสธของหลิวหยิงนั้นพิจารณาถึงสถานการณ์ของไป๋ยี่รุ่ยในเวลานี้ อีกทั้งสิ่งที่เธอพูดนั้นก็เป็นความจริง
ไป๋ยี่รุ่ยนั้นเหนื่อยมากจริงๆ
ร่างกายของไป๋ยี่รุ่ยหมดแรงถึงขีดจำกัด ในด้านจิตใจก็ได้รับแรงกดดันมามาก
แต่ว่าคำพูดของเธอนี้เมื่อเข้าหูของคนอื่น ความหมายกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ไป๋ยี่รุ่ยเหนื่อยมากแล้ว ในเวลานี้ผู้ชายคนหนึ่งเหนื่อยมากแล้ว?
ตอนนี้เพิ่งจะสิบโมงกว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลานอน ในเวลานี้ไป๋ยี่รุ่ยเหนื่อยจนนอนหลับ
เมื่อสักครู่นี้ผ่าน‘สมรภูมิรบ’อะไรมากันแน่?
เมื่อหลิวปิงได้ยินประโยคที่หลิวหยิงพูด ขาทั้งสองข้างไม่สามารถยืนหยัดได้แล้ว ในที่สุดก็ล้มลงที่พื้น
คุณหลิวนี่เป็นเพียงการเติมเชื้อเพลิงให้กับไฟแท้ๆ คาดว่าประธานใกล้จะระเบิดออกมาแล้ว
มุมปากของซือถูมู่หรงยังคงเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยอยู่ เพียงแต่ว่าในเวลานี้เย็นยะเยือกขึ้นเล็กน้อย มองดูแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก รัศมีแห่งการสังหารยังคงแผ่ขยายออกไป
ไป๋ยี่รุ่ยเหนื่อยจนหมดแรง?
เหอะ เธอช่างกล้าพูด เธออยู่ในห้องนี้กับไป๋ยี่รุ่ยเป็นเวลาสามชั่วโมง จากนั้นเธอก็พูดว่าไป๋ยี่รุ่ยเหนื่อยจนหมดแรง
เพราะกลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันใช่ไหม?
ในที่สุดเธอก็อยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ยจริงๆ ในที่สุดก็สมหวัง ดังนั้นเธอจึงโอ้อวดอยู่ที่นี่?
อยู่กับเขารู้สึกละอายใจ แต่อยู่กับไป๋ยี่รุ่ยเธอรู้สึกภูมิใจ?
ในเวลานี้ซือถูมู่หรงอยากที่จะอยากบีบคอเธอให้ตาย ในเวลานี้การที่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากลงมือ แต่เป็นเพราะเขาต้องการฟังต่อว่าเธอจะพูดอะไรออกมาอีก
“คุณสุภาพสตรีท่านนี้ ประธานคนนี้ที่มาพบประธานไป๋เป็นคนมีอิทธิพล น่าจะมีเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก รบกวนแจ้งประธานไป๋ให้ทราบหน่อยนะครับ หากชักช้าทำให้เรื่องสำคัญของประธานไป๋ล่าช้า เกรงว่าจะไม่ดีนัก”ผู้จัดการต้อนรับคิดไม่ถึงเลยว่าหลิวหยิงจะปฏิเสธ รู้สึกเพียงว่าหลิวหยิงนั้นไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผู้หญิงที่รู้เพียงผิวเผินคนนี้เห็นแก่ตัวเกินไป!!