ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1553 เขาน่ากลัวมาก(2)
ผู้หญิงที่รู้เพียงผิวเผินคนนี้เห็นแก่ตัวเกินไป ดังนั้นในเวลานี้ คำพูดของผู้จัดการต้อนรับจึงแฝงไปด้วยน้ำเสียงเตือน
ผู้จัดการต้อนรับคิดเพียงว่าตนนั้นปรารถนาดี เตือนผู้หญิงคนนี้สักหน่อย หากทำให้ธุระของประธานไป๋ต้องเสียหาย
ผู้หญิงคนนี้จะต้องประสบหายนะอย่างแน่นอน ผู้หญิงแบบนี้ก็เป็นเพียงของเล่นของผู้ชายที่ร่ำรวยเท่านั้น
ไม่มีสถานะใดอย่างแน่นอน เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นคงไม่มาทำเรื่องแบบนี้ที่คลับของพวกเขา
แน่นอนว่าหลิวหยิงเข้าใจความหมายที่ผู้จัดการต้อนรับพูด หากเป็นช่วงเวลาปกติ เธอไม่มีทางที่จะตัดสินใจแทน
ไป๋ยี่รุ่ยอย่างแน่นอน แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าไป๋หยิงตายแล้ว พรุ่งนี้ไป๋ยี่รุ่ยก็จะไปมอบตัว ต่อให้มีใครมาพบ ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่มีอารมณ์เจอทั้งนั้น แม้ว่าจะมีผลประโยชน์มากมายขนาดไหน ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุย
“ไม่ต้อง ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร คุณปฏิเสธได้เลย อย่ารบกวนเขาพักผ่อน” ความต้องการเดียวของหลิวหยิงในเวลานี้ก็คือ ต้องการให้ไป๋ยี่รุ่ยพักผ่อนสักครู่หนึ่ง นอนให้สบายกระทั่งเช้า จากนั้นค่อยเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้น
ซือถูมู่หรงยืนอยู่ข้างนอกอย่างเย็นชา ได้ เธอนี่จริงๆเลย นี่ถือเป็นการตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ย สถานการณ์เช่นนี้เธอไม่ถามไป๋ยี่รุ่ยเลยสักคำ แต่กลับตัดสินใจเอง และไล่คนออกไป นี่ถือเป็นการออกตัวเป็นนายหญิงชัดๆ
เป็นนายหญิงของไป๋ยี่รุ่ย?
เกรงว่าเธอจะคิดสวยหรูเกินไป
ซือถูมู่หรงกดรอยยิ้มเย็นชาลงต่ำ ในเวลานี้หลิวหยิงที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูห้องพักรับรองกลับไม่ได้ยิน
ดวงตาคู่นั้นของซือถูมู่หรงหรี่ขึ้น ความโกรธปะปนกับน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน แค่สบตาคู่นั้นของเขาในตอนนี้
ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นในทันที
หลิวปิงที่ล้มลงกับพื้น เดิมทีคิดอยากจะพยายามลุกขึ้นมา แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหยิงเมื่อสักครู่นี้
และเมื่อเห็นท่าทีของประธานของตนเมื่อครู่ หลิวปิงจึงล้มเลิกความคิดที่จะลุกขึ้นมา
เขาคิดว่า เขาล้มลงอยู่ที่พื้นนั้นดีแล้ว หากตอนนี้เขาลุกขึ้นมา เกรงว่าวินาทีถัดไปเขาก็อาจต้องล้มลงไปอีก
“สุภาพสตรีท่านนี้ แบบนี้คงไม่ดีมั่งครับ?คุณสามารถตัดสินใจแทนประธานไป๋ได้เหรอครับ?คุณเป็นอะไรกับประธานไป๋?เรื่องเช่นนี้เกรงว่าแม้แต่คุณผู้หญิงของประธานไป๋ก็ยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจหากไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งก็ยังไม่เคยได้ยินว่าประธานไป๋มีคุณผู้หญิง”คำพูดเช่นนี้ของผู้จัดการต้อนรับ แม้ว่าจะรุนแรงไปบ้าง แต่คนที่มาขอพบนั้นคือ
ประธานซือถู อีกทั้งเจ้านายของพวกเขาก็เป็นคนกำชับ แน่นอนว่าผู้จัดการต้อนรับคงไม่สามารถจากไปเช่นนี้ได้
“เรื่องนี้ฉันเป็นคนตัดสินใจเอง คุณไปได้แล้ว” หลิวหยิงฟังออกว่าเขากำลังใช้คำพูดที่รุนแรงในการเสียดสีเธอ หลิวหยิงนั้นมีสมอง สถานการณ์ของไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ แน่นอนว่าคงไม่อยากพบแขกคนไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไป๋ยี่รุ่ยไม่มีทางที่จะต้องการพบอย่างแน่นอน
คนคนหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะโมโห พรุ่งนี้ก็จะไปมอบตัวแล้ว เตรียมใจที่จะติดคุกและไม่ต้องการแม้แต่บริษัท แล้วจะสนใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง
ดังนั้นเรื่องนี้หลิวหยิงจึงตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ย
มุมโค้งบริเวณริมฝีปากของซือถูมู่หรงยิ่งเย็นชาขึ้นอีก สีหน้าดูเหมือนว่าจะยิ่งน่ากลัวขึ้นอีก
เธอสามารถตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ยได้?
เธอเป็นอะไรกับไป๋ยี่รุ่ย?
เธอมีสิทธิ์อะไรตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ย?
สิทธิ์ที่เมื่อสักครู่นี้นอนกับไป๋ยี่รุ่ยในห้องรับรองงั้นเหรอ?
ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัว ดวงตาคู่นั้นของซือถูมู่หรงแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด มือข้างหนึ่งบีบรัดตัวแน่น เส้นเลือดที่หลังมือเหมือนจะระเบิดทันที
“สุภาพสตรีท่านนี้ คุณทราบหรือไม่ครับว่าคนที่มาขอพบประธานไป๋คือใคร?”เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการต้อนรับคิดไม่ถึงว่าหลิว หยิงจะงี่เง่ามากขนาดนี้ ดังนั้นจึงต้องการใช้ประธานซือถูออกหน้า ในเมืองAคนที่ไม่รู้จักประธานซือถูนั้นมีไม่มาก สถานะและความร่ำรวยของประธานซือถูในเมืองAนั้นเธอเทียบไม่ติดเลย
ตอนนี้ประธานซือถูมาพบไป๋ยี่รุ่ยผู้จัดการต้อนรับไม่เชื่อว่าไป๋ยี่รุ่ยจะปฏิเสธ เพราะด้วยสถานะภาพของไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ หากต้องการที่จะพบประธานซือถูสักครั้งหนึ่งเกรงว่าก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
ซือถูมู่หรงมาหาถึงที่ด้วยตนเอง แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องปฏิเสธ
“ไม่ว่าคนที่มาเป็นใคร เขาก็ไม่ขอพบทั้งนั้น” หลิวหยิงรู้สึกรำคาญ คนคนนี้ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ?คำพูดที่เธอพูดออกไปยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?
สถานการณ์ของไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้จะมีอารมณ์เจอใครได้อีกเหรอ?
“ฉันคิดว่าฉันพูดอย่างชัดเจนแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะรีบจากไปในตอนนี้ อย่ามารบกวนเขาพักผ่อน มิฉะนั้นฉันจะฟ้อง
ฉันจำได้ว่าคลับของพวกคุณมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก” หลิวหยิงไม่อยากที่จะรบกวนเวลาพักผ่อนของไป๋ยี่รุ่ยจริงๆ
การที่พวกเขายืนคุยกันอยู่ตรงนี้อาจจะรบกวนทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตื่นได้
หากทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตื่นขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าคืนนี้ไป๋ยี่รุ่ยก็คงจะนอนไม่หลับแล้ว คงยากที่จะให้ไป๋ยี่รุ่ยนั่งจนกระทั่งฟ้าสางแล้วค่อยไปมอบตัว?
คำพูดในเวลานี้ของหลิวหยิงน้ำเสียงข่มขู่เล็กน้อย
หลิวปิงสูดหายใจเข้าอย่างแรง คุณหลิวกำลังหาเหาใส่หัวอยู่ใช่ไหม?อีกทั้งยังพยายามหาเหาใส่หัวอย่างมากด้วย
ถูกประธานจับได้ว่าอยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ยก็เพียงพอแล้ว แต่ยังคิดถึงแต่กับไป๋ยี่รุ่ย และยังตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ยอีกด้วย
คุณหลิวนั้นเป็นผู้หญิงของประธานของเขา แต่ตอนนี้กลับตัดสินใจแทนไป๋ยี่รุ่ย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
หลิวปิง รู้สึกว่าเพียงว่าในขณะนี้สู้เขาเป็นลมไปก่อน ดีกว่าถูกประธานฆ่าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ในเวลานี้ซือถูมู่หรงได้เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมาแล้ว ความโกรธและความเย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็งในดวงตาคู่หนึ่งก็ดูเหมือนจะหายไป เขาดูสงบเล็กน้อยในขณะนี้
แต่ยิ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกกลัว
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่าทางของเธอแข็งกร้าวเช่นนี้ และเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอปกป้องคนคนหนึ่งเช่นนี้ เพื่อที่จะปกป้องคนคนหนึ่ง น้อยครั้งมากที่จะได้ยินน้ำเสียงที่เข้มขรึมของเธอ พูดจาไม่ดี อีกทั้งยังข่มขู่คนอื่น
เขารู้ว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธอ เขาก็ต้องการเห็นด้านที่แท้จริงของเธอมาโดยตลอดเช่นเดียวกัน
วันนี้เขาได้เห็นแล้ว แต่ว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อเขา แต่ทำเพื่อผู้ชายอีกคนหนึ่งต่างหาก
เพื่อที่จะปกป้องผู้ชายอีกหนึ่งคน เธอกลับพูดจาไม่ดี ทั้งยังข่มขู่คนอื่นอีกด้วย
เธออยู่ข้างกายเขามาห้าปี ระยะเวลาห้าปีไม่รู้ว่ากี่วันกี่คืน แต่ว่าเธอก็ไม่เคยปกป้องเขามาก่อน
สักครั้งก็ไม่เคย
ในเวลานี้ความเย็นชาในแววตาของซือถูมู่หรงได้จางหายไป แต่ทั้งหัวใจนั้นเย็นชา ในเวลานี้จำเป็นที่จะต้องยอมรับความจริง เธออยู่ข้างกายเขามาห้าปี ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับข้อตกลงในตอนนั้น ในใจของเธอคิดว่าก็เป็นแค่การถูกขายในกับเขาเป็นระยะเวลาห้าปีก็เท่านั้น
ตลอดระยะเวลาห้าปีราวกับเธอเสร็จสิ้นภารกิจไปหนึ่งเรื่อง สำหรับเขาแล้วไม่มีความรู้สึกใด ทั้งยังไม่มีความเป็นห่วงเป็นใยเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะปกป้องเขา
เธอใจร้ายกับเขาขนาดนี้!!
“คุณรู้ไหมว่าคนที่มาคือใคร?คุณเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ตัดสินใจแทนประธานไป๋ ประธานไป๋จะต้องโกรธอย่างแน่นอน”เมื่อผู้จัดการต้อนรับได้ยินเธอข่มขู่ก็ตะลึงงันครู่หนึ่ง หากเป็นช่วงเวลาปกติเขาก็คงกลัวที่จะถูกฟ้อง แต่ว่าวันนี้เขาไม่กลัว วันนี้เขามาทำตามคำสั่งของเจ้านาย
เนื่องจากผู้จัดการต้อนรับนั้นโกรธมาก จึงทำให้อดไม่ได้ที่จะทำเสียงสูง
หลิวหยิงเหลือบมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว มองไปยังไป๋ยี่รุ่ยที่ยังคงมองอยู่บนเตียง ยังไม่ถูกเสียงรบกวนจนต้องตื่น
เธอถอนหายใจคลายความกังวลลงอย่างเงียบๆ เพียงแต่ขณะที่เธอมองไปยังผู้จัดการต้อนรับอีกครั้ง สีหน้ากลับแสดงความเย็นชาออกมา:“เชิญคุณออกไปเถอะ”
หลิวหยิงไล่คนออกไปข้างนอก จะให้เสียงดังรบกวนจนไป๋ยี่รุ่ยตื่นไม่ได้
หลิวหยิงเดินออกไปข้างนอก แน่นอนว่าผู้จัดการต้อนรับถอยก้าวออกไปอย่างอัตโนมัติ ขณะที่หลิวหยิงเดินออกจาก
ห้องรับรอง ก็ปิดประตูลงทันที
“คนที่มาขอพบประธานไป๋นั้นคือประธานซือถู คุณต้องการที่จะปฏิเสธแทนประธานไป๋จริงๆเหรอครับ?”ในใจของผู้จัดการต้อนรับรู้สึกคับข้องใจ วันนี้เขามีความดีความชอบขนาดนี้ อีกทั้งสถานะของประธานซือถูโดดเด่นขนาดนั้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่า
หลิวหยิงยืนแข็งทื่อ ท่าทางปิดประตูก็หยุดชะงักในทันทีประธานซือถู?ใช่ซือถูมู่หรงหรือเปล่า?
แซ่ซือถูนั้นน้อยมาก อีกทั้งคนที่สามารถให้คนอื่นเรียกตนว่าประธานซือถูก็คงจะมีเพียงซือถูมู่หรงแล้วล่ะ
ซือถูมู่หรงมาแล้วหรือยัง?ซือถูมู่หรงต้องการพบไป๋ยี่รุ่ยเหรอ?
ซือถูมู่หรงทำไมถึงต้องการพบไป๋ยี่รุ่ย?
ซือถูมู่หรงกับไป๋ยี่รุ่ยนั้นไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดต่อกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองก็ไม่เคยเจอกันเลยสักครั้ง ทำไมซือถูมู่หรงถึงต้องการพบไป๋ยี่รุ่ยในค่ำคืนนี้?
“คุณหมายถึงซือถูมู่หรง?เขาต้องการพบไป๋ยี่รุ่ย?”หลิวหยิงตะลึงงันชั่วขณะ แต่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“ครับ คือประธานซือถู คิดว่าคุณก็น่าจะรู้จักสถานะของประธานซือถูเป็นอย่างดี ผมก็คงไม่ต้องพูดมากแล้ว
ตอนนี้ประธานซือถูรออยู่ด้านนอกเหรอ ต้องการพบประธานไป๋”เมื่อผู้จัดการต้อนรับเห็นการตอบสนองกลับของเธอ คิดว่าเธอน่าจะเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงคลายความกังวลลงอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้โง่นัก
ไม่ถือว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“คุณพูดถึงซือถูมู่หรงจริงๆใช่ไหม?”แววตาของหลิวหยิงเป็นประกาย เมื่อสักครู่นี้เขาบอกว่าซือถูมู่หรงต้องการพบไป๋ยี่รุ่ยเธอประหลาดใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้คนๆนี้กลับพูดว่าซือถูมู่หรงต้องการที่จะมาพบไป๋ยี่รุ่ยด้วยตนเอง อีกทั้งยังพูดอีกว่าตอนนี้ซือถูมู่หรงยังรออยู่ข้างนอก?
นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง?
นี่มันไม่ใช่สไตล์ของซือถูมู่หรงเลย และเป็นเรื่องที่ซือถูมู่หรงไม่น่าจะทำ การตอบสนองกลับครั้งแรกของหลิวหยิงนั้นก็คือคนคนนี้น่าจะเข้าใจผิด