ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1568 ร้องไห้เพื่อใคร(1)
สินค้าที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วนั้นแพงมาก ไม่มีทางที่เธอจะไปซื้อของที่นั่น
ที่จริงน้อยมากที่เธอจะไปซื้อของ
แล้วทำไมวันนี้จู่ๆถึงได้ไปที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วล่ะ?!
ซือถูมู่หรงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าเธอไม่ได้ไปหาไป๋ยี่รุ่ยก็ดีแล้ว ขอเพียงแค่ไม่ได้ไปพบไป๋ยี่รุ่ย เรื่องอื่นก็แล้วแต่เธอละกัน แม้ว่าเธอจะซื้อของหมดห้างสรรพสินค้าหยินโล่วก็ไม่เป็นปัญหา
“ใช่ครับ วันนี้ตอนเช้าหลังออกจากบ้านคุณหลิวก็เรียกรถแท็กซี่แล้วตรงมาที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วจากนั้นก็ตรงไปที่ร้านชุดชั้นในชั้นสามร้านหนึ่ง ผ่านไปยี่สิบนาทีก็เดินออกมา”หลิวปิงรออยู่ข้างนอกมาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่รู้เหตุการณ์ข้างใน แต่ว่าในเรื่องเวลาเขาชัดเจนเป็นอย่างมาก
“ตอนที่คุณหลิวออกมาไม่ได้ซื้อของอะไรเลย แต่ว่าหลังจากที่คุณหลิวออกมา อารมณ์ของเธอไม่ค่อยปกตินัก”ตอนนั้นหลิวปิงก็พบว่าสถานการณ์ของหลิวหยิงนั้นไม่ปกติ แต่ว่าตอนนั้นเขาไม่ได้คิดมาก เพราะถึงยังไงก็เป็นการเดินดูของร้านหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นร้านเฉพาะของผู้หญิง จะมีเรื่องอะไรได้
แต่ว่าหลิวปิงกลับพบว่า เมื่อหลิวหยิงออกมาจากห้างสรรพสินค้ากลับมีอารมณ์ที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนโทรศัพท์ และนี่คือเหตุผลที่หลิวปิงโทรศัพท์หาซือถูมู่หรง
“ประธาน ดูเหมือนอารมณ์ของคุณหลิวจะมีบางอย่างผิดปกติ ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอโทรศัพท์หาใคร เมื่อสักครู่นี้ผมแอบได้ยินเธอเอ่ยชื่อของประธานด้วยครับ”หลิวปิงรายงานสถานการณ์ด้านนั้นอย่างเต็มที่ เมื่อก่อนหลิวปิงไม่ค่อยแน่ใจนักว่าประธานจะสนใจเรื่องเช่นนี้ไหม แต่ว่าตอนนี้เขามั่นใจว่าประธานสนใจอย่างแน่นอน
“อารมณ์ผิดปกติ?” เป็นอย่างที่คิดไว้ น้ำเสียงของซือถูมู่หรงคู่สายเย็นชาขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าก็ยังรับรู้ได้ถึงความตื่นตระหนก
“ใช่ครับ……”หลิวปิงลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นเสริมขึ้นอีกหนึ่งประโยคว่า:“เมื่อสักครู่นี้ผมเห็นคุณหลิวร้องไห้ครับ”
แม้ว่าหลิวปิงจะอยู่ห่างออกไป แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้เขาก็ได้เห็นแล้ว เขามั่นใจว่าตนไม่ได้ดูผิด นี่น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นเขาจะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ประธานทราบ
“ร้องไห้เหรอ?”น้ำเสียงของซือถูมู่หรงอีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์สูงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ ความตื่นตระหนกและร้อนใจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลิวปิงได้ยินเสียงกระวนกระวายจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“เธออยู่ไหน?ตอนนี้อยู่ที่ไหน?” ขณะที่น้ำเสียงของซือถูมู่หรงดังเข้ามาอีกครั้ง ไม่ได้ปกปิดความตื่นตระหนกและร้อนใจอีก
“ยังอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วครับ”หลิวปิงเหลือบมองหลิวหยิงที่ยังคงพิงกำแพงอยู่อีกครั้ง จากนั้นก็พอที่จะเข้าใจความหมายของประธาน:“ประธานคุณจะมาที่นี่ใช่ไหมครับ?”
ประธานของเขาจะมาจริงๆเหรอ?ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาประชุมของบริษัทประธานน่าจะยุ่งมาก แต่ว่าประธานกลับต้องการมาที่นี่ด้วยตนเอง?
จากเรื่องราวของเมื่อคืนวานทำให้หลิวปิงรับรู้ได้ว่าประธานของตนนั้นแคร์หลิวหยิงแค่ไหน แต่ว่าหลิวปิงคิดไม่ถึงว่าประธานของตนจะตื่นตระหนกกับหลิวหยิงขนาดนี้
ในเมื่อเป็นเพราะคุณหลิวร้องไห้ ประธานก็รีบร้อนมาดู
“ประธาน ผมไม่แน่ใจว่าคุณหลิวจะไปจากที่นี่เมื่อไหร่ อีกทั้งผมยังออกหน้าไม่ได้ ไม่สามารถเข้าไปขวางคุณหลิวได้”เมื่อหลิวปิงได้สติกลับมาก็คิดฉุกคิดถึงปัญหานี้ แม้ว่าตอนนี้หลิวหยิงยังคงอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินโล่วแต่ว่าไม่แน่อาจจะไปจากที่นี่ในไม่ช้า
หากประธานของเขามาห้างสรรพสินค้าหยินโล่วแต่คุณหลิวกลับจากไปเสียแล้ว ก็คงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย
“คุณสะกดรอยตามเธอไป และคอยรายงานผม”ซือถูมู่หรงนั้นตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าจะมาหาหลิวหยิงในตอนนี้ ดังนั้นปัญหาในตอนนี้ก็ไม่สามารถขวางอะไรเขาได้
หลิวหยิงติดตามเขามาห้าปี เขารู้จักเธอดี แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแอ แต่ก็น้อยครั้งมากที่จะเห็นเธอร้องไห้ แม้แต่ตอนที่เธอติดตามเขา เขาทรมานเธอในตอนนั้น แต่เธอก็ไม่เคยร้องไห้ออกมา
อาจจะพูดได้ว่าตลอดระยะเวลาห้าปีที่เธอติดตามเขา เขาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ว่าตอนนี้เธอกลับร้องไห้ อีกทั้งยังอยู่ข้างนอก ร้องไห้อยู่ในห้างที่มีคนมากมายขนาดนั้น หากไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไร เธอก็คงไม่ร้องไห้อยู่ข้างนอกโดยปราศจากการใคร่ครวญ
จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ อีกทั้งจะต้องเป็นเรื่องร้ายแรง ดังนั้นเขาจะต้องรีบไป จะต้องไปหาเธอให้ได้ เขาอยากจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
เขาอยากอยู่ข้างๆเวลาเธอพบเจอกับปัญหา ช่วยเธอแก้ไขปัญหา
เขาเป็นผู้ชายของเธอ นี่เป็นสิ่งที่เขาในฐานะผู้ชายของเธอสมควรทำ
“ครับ ครับ”หลิวปิงตะลึงงัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าประธานจะพยายามขนาดนี้ หลังจากได้สติเขาก็รีบรับคำทันที
ในเวลานี้หลิวปิงนั้นรับรู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่าประธานของเขานั้นแคร์หลิวหยิงจริงๆ
ประธานของเขานั้นรักหลิวหยิงเข้าแล้วจริงๆ อีกทั้งยังรักอย่างลึกซึ้งด้วย
“คุณไม่ต้องวางโทรศัพท์ รายงานสถานการณ์กับผมตลอดเวลา”ซือถูมู่หรงคู่สายรีบเสริมขึ้นหนึ่งประโยค
“อ่า?อ่า ได้ครับ”หลิวปิงตกใจไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ทำไมถึงได้รู้สึกรุนแรงเป็นพิเศษ รู้สึกตื่นตระหนกขนาดนั้น
แน่นอนว่าคำสั่งของประธานของตนหลิวปิงไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่ว่าหลิวปิงคิดปัญหาขึ้นมาได้อย่างกะทันหันว่า หากรอให้คุณหลิวจากไป เขาก็ต้องตามไปเช่นเดียวกัน
เมื่อถึงเวลานั้นเขาต้องคุยโทรศัพท์ไปขับรถไป?
ขณะที่ขับรถนั้นไม่อนุญาตให้โทรศัพท์ หากถูกจับภาพได้จะต้องถูกหักคะแนน
นี่ประธานกำลังทำให้เขาลำบากใจอยู่ใช่ไหม?
แน่นอนแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแต่หลิวปิงก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของประธาน ทำได้เพียงสังเกตสถานการณ์ของหลิวหยิงทางด้านนี้ผ่านทางโทรศัพท์
หลิวปิงรายงานสถานการณ์ไปจนหมดสิ้นแล้ว ในเวลานี้หลิวหยิงพิงอยู่ที่กำแพงอย่างไม่ขยับหลิวปิงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ดังนั้นจึงนิ่งเงียบครู่หนึ่ง
หลิวปิงรู้ดีว่าประธานของตนเป็นคนพูดน้อย อีกทั้งประธานของตนยังไม่ชอบถูกใครรบกวน และเกลียดเสียงดัง ดังนั้นหลิวปิงรู้สึกว่าจะต้องพูดจาให้น้อยที่สุด
แต่ว่าเมื่อหลิวปิงไม่พูด ทางด้านของซือถูมู่หรงก็อดทนไม่ไหว:“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง เธอทำอะไรอยู่?”
หลิวปิงตะลึงงัน มองไปยังหลิวหยิงพลางตอบกลับว่า:“หลังจากที่คุณหลิวโทรศัพท์เสร็จก็นั่งพิงกำแพงตลอดไม่ ขยับเขยื้อน ……”
ในจุดจุดนี้หลิวปิงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เขาครุ่นคิด จากนั้นจึงเสริมขึ้นประโยคหนึ่งว่า:“อาจจะเป็นเพราะเหนื่อย?”
“พิงกำแพงไม่ขยับ?เหนื่อยแล้ว?”ซือถูมู่หรงคู่สายขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แม้ว่าเธอจะเหนื่อย ก็ควรจะหาที่นั่งดีๆนั่งพักผ่อนห้างสรรพสินค้าหยินโล่วมีที่มากมายที่สามารถพักผ่อนได้ ทำไมต้องนั่งพิงกำแพงด้วย อีกทั้งยังไม่ขยับเป็นเวลานาน?
“ตอนนี้อารมณ์ของเธอเป็นยังไงบ้าง?สีหน้าเป็นยังไง?”ซือถูมู่หรงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ คิ้วของเขายิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น
“ประธานผมอยู่ค่อนข้างไกล มองสีหน้าของคุณหลิวไม่ชัดครับ แต่ว่าในเวลานี้คุณหลิวทำให้คนที่พบเห็นเหมือนกับ……คนหมดสภาพ ใช่ รู้สึกเหมือนคนหมดสภาพ”หลิวปิงบรรยายไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าเขาคิดว่าการใช้คำนี้มาบรรยายสภาพของหลิว หยิงในตอนนี้นั้นใกล้เคียงความจริงมากที่สุด!!
ดวงตาของซือถูมู่หรงคู่สายอีกทางด้านหนึ่งขรึมเล็กน้อย มือที่ถือโทรศัพท์กำแน่นอย่างอัตโนมัติ ดูเหมือนว่าคงเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ
แต่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ทำให้เธอเสียใจขนาดนี้ และร้องไห้อยู่ข้างนอกโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
ซือถูมู่หรงเร่งความเร็วขึ้น เขาเดินมายังด้านหน้ารถด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่ขึ้นรถ รถก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลิวปิงที่ฟังอยู่ก็สามารถได้ยินเสียงแหลมเสียดสีผ่านทางโทรศัพท์
ซือถูมู่หรงขับรถออกไปได้ไม่นาน โทรศัพท์อีกเครื่องของเขาก็ดังขึ้น โทรศัพท์เครื่องนี้เป็นโทรศัพท์ที่เขาใช้ในการทำงาน ผู้ช่วยเป็นคนโทรมา
ซือถูมู่หรงวางโทรศัพท์ที่อยู่ในมือไว้ข้างๆ จากนั้นรับโทรศัพท์ของผู้ช่วย
“ประธานที่ท่านให้ผมติดตามสถานการณ์ของประธานไป๋ มีเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าควรรายงานให้ท่านทราบ วันนี้ไป๋ยี่รุ่ยไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ เขาฆ่าคน ฆ่าไป๋หยิง ลูกสาวนอกสมรสของคุณพ่อไป๋”เมื่อรับสายเสียงของผู้ช่วยก็ดังเข้ามาในโทรศัพท์ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องของบริษัท แต่กลับเป็นเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย
ซือถูมู่หรงตะลึงงันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เม้มริมฝีปาก ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าคน อีกทั้งวันนี้ไป๋ยี่รุ่ยก็ไปมอบตัวแล้ว
ดังนั้น เธอเสียใจเพราะเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย?
เสียใจจนไม่สนใจอะไรร้องไห้อยู่ข้างนอก กลายเป็นคนหมดสภาพคนหนึ่ง
ริมฝีปากของซือถูมู่หรงเผยอเล็กน้อย เผยการดูถูกตนเองออกมา ก็ใช่ มีเพียงเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยเท่านั้นที่ทำให้เธอกลายเป็นเช่นนี้
เพราะว่าก็มีเพียงเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยเท่านั้นที่เธอใส่ใจ!!!
“อึม รู้แล้ว” จู่ๆสีหน้าของซือถูมู่หรงก็ขรึมลง น้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง ไม่หลงเหลือความตื่นตระหนกและร้อนใจของเมื่อครู่อีกแล้ว
เขาก็โง่จริงๆ เธอเสียใจเพราะไป๋ยี่รุ่ย แต่เขากลับเป็นห่วงเป็นกังวลแทนเธออยู่ที่นี่
เมื่อซือถูมู่หรงนึกถึงปฏิกิริยาตอบกลับของตนเมื่อสักครู่นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด รถของเขาก็ช้าลงอย่างอัตโนมัติ
“ประธานต้องทำอะไรต่อไหมครับ?”ผู้ช่วยไม่เข้าใจเจตนาของประธานของตน!!