ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1584 ท่าทีเปลี่ยนไปมาก (1)
เวินลั่วฉิงคิดวางแผนไว้แล้วจริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องให้เธอเสียแรงเลย เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าความนี้ของตัวเองดีมากจริงๆ!!
อีกอย่างไม่ว่ายังไงแล้วตอนนี้เจิ้งฉงก็ยังเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากเธอจะต่อต้านเจิ้งฉง เธอยังกังวลอยู่ว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะไม่พอใจ
ดังนั้นให้หัวหน้าน้อยมาจัดการเรื่องของเจิ้งฉงคงจะเหมาะสมมากๆ แล้ว
“แล้วพวกเราต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถติดต่อกับหัวหน้าน้อยได้?” หลิวหยิงกะพริบตา เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ฟังดูแปลกๆ
“อื้ม อยากติดต่อกับหัวหน้าน้อยท่านนี้ใช่ว่าจะไม่มีวิธี” จู่ๆ เวินลั่วฉิงก็หัวเราะ ตอนนี้เธอนึกถึงวิธีหนึ่งที่สามารถติดต่อกับหัวหน้าน้อยได้แล้ว
วันนั้นตอนที่อยู่โรงพยาบาลคนคนนั้นได้เหลือเบอร์โทรศัพท์ให้กับเธอไว้ เหมือนว่าจะไม่ได้ตั้งใจเหลือไว้ แต่ว่าจริงๆ แล้วคือตั้งใจ ตอนแรกเวินลั่วฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้ใช้แล้ว
“ฉันลองโทรดูก่อนนะ” สำหรับสถานการณ์ในโรงพยาบาลวันนั้น เวินลั่วฉิงเดาว่าก็น่าจะเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา จริงๆ แล้วยังไม่มีการมั่นใจในตอนสุดท้าย แต่ว่าเวินลั่วฉิงคิดว่าน่าจะไม่ผิด
แน่นอนว่าครั้งนี้เธอโทรไปก็สามารถตรวจเช็กดูว่าคนคนนั้นคือคนขององค์กรโกสต์ซิตี้หรือเปล่า
“เธอมีเบอร์โทรศัพท์ของหัวหน้าน้อยองค์กรโกสต์ซิตี้?” หลิวหยิงตกใจอีกครั้ง “นั่นเป็นหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้เลยนะ ได้ข่าวว่าลึกลับมาก น้อยมากที่จะมีคนพบเจอ คนนอกไม่มีทางติดต่อเขาได้เลย เธอมีเบอร์โทรศัพท์ของเขาได้ยังไง?”
เวินลั่วฉิงยักคิ้ว “ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์ของหัวหน้าน้อยองค์กรโกสต์ซิตี้ ฉันจะมีเบอร์ของหัวหน้าน้อยได้ยังไง แค่เบอร์โทรศัพท์หนึ่งของคนในองค์กรโกสต์ซิตี้……”
คำพูดของเวินลั่วฉิงหยุดไปสักพัก จากนั้นก็พูดเสริมขึ้นว่า “ฉันแค่คาดเดาว่าเขาเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ใช่”
ความเปล่งประกายในแววตาของหลิวหยิงเลือนหายไปทันที ความตื่นเต้นในเมื่อกี้ก็เลือกหายไป แน่นอนว่าความดีใจก็ไม่มีแล้ว “อ่อ……”
เธอคิดว่าฉิงฉิงจะโทรหาหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้โดยตรงซะอีก ที่แท้ก็แค่คนเบื้องหลังขององค์กรโกสต์ซิตี้ อ๋อ แล้วยังเป็นไปได้ที่คนคนนั้นจะไม่ใช่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ เมื่อกี้เธอดีใจเปล่าๆ แล้วจริงๆ
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของหลิวหยิง ตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจเลย ดังนั้นจึงไม่ได้จดเบอร์โทรศัพท์นั้นไว้ แต่ว่าเธอความจำดี ตอนนั้นดูไปเพียงแค่ครั้งเดียว ก็จำได้แล้ว
เวินลั่วฉิงเขียนเลขแถวหนึ่งออกมาตามความทรงจำ หลิวหยิงเห็นว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้เซฟเบอร์โทรศัพท์ไว้เลย เป็นเบอร์ที่กดออกมา อารมณ์ของหลิวหยิงในตอนนี้เงียบสงบไปเลย ถึงขั้นไม่มีพลังขึ้นมาแล้ว
แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ได้เซฟ ชัดเจนเลยว่าไม่ใช่เรื่องอะไร ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ฉิงฉิงโทรไปกะทันหันในตอนนั้น เกรงว่าคนคนนั้นคงจะไม่สนใจ
คนขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นสุดยอดมากๆ เลยนะ!!
เวินลั่วฉิงเริ่มกดโทรออกไปแล้ว ดังไปสองเสียง ทางนั้นก็มีคนรับสายแล้ว
ถึงแม้ว่าปกติหลิวหยิงจะไม่ค่อยมีความหวังมากมาย ทว่าเพราะว่ามีความสงสัยต่อคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ หลิวหยิงขยับขึ้นไปใกล้ อยากจะฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
เวินลั่วฉิงเห็นหลิวหยิงขยับมาอยากฟัง ก็เปิดลำโพงเลย พอเป็นแบบนี้หลิวหยิงก็สามารถฟังได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเข้าใกล้แล้ว
“ฮัลโหล ใคร?” โทรศัพท์ถูกตอบรับ มีเสียงของชายหนุ่มดังผ่านมา ฟังแล้วเหมือนจะรำคาญ เหมือนไปรบกวนเรื่องสำคัญที่ทำอยู่
คุณชายหานในตอนนี้กำลังพูดคุยเรื่องใหญ่กับหัวหน้าน้อย จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ยังเป็นเบอร์แปลกหน้าอีกด้วย ตอนแรกอยากจะวางสาย ทว่าไม่รู้ว่าทำไมตอนที่มือไปสัมผัสโดนปุ่มวางสายกลับลื่นไปโดนปุ่มรับสาย
ตอนที่คุณชายหานคุยเรื่องใหญ่อยู่ถูกแทรกเข้ามาต้องรำคาญมากแน่ๆ
เวินลั่วฉิงก็รู้สึกได้ว่าตนเองไปรบกวนเรื่องสำคัญของผู้อื่นแล้ว มีความเกรงใจเล็กน้อย แต่ว่าเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยไม่สามารถเสียเวลาได้ หากทางเจิ้งฉงสืบเรื่องก่อนที่ไป๋หยิงเสียชีวิตเจอ เผยเรื่องราวออกไป พอถึงเวลาผลที่ตามมาไม่อาจคาดคิดแน่นอน
ดังนั้น เธอรู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะรบกวนเรื่องสำคัญของผู้อื่น ทว่าตอนนี้รับโทรศัพท์แล้ว ในเมื่อรับโทรศัพท์แล้ว แน่นอนว่าต้องให้โอกาสเธอพูดสักสองสามนาที
“สวัสดีค่ะ ฉันคือถังฉิ้นเอ๋อ” น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงมีมารยาทมาก
ทว่า เวินลั่วฉิงพึ่งแนะนำตัวเสร็จ ก็ได้ยินเสียงป๊าบจากอีกฝ่ายดังผ่านมา เหมือนว่าโทรศัพท์จะตกพื้นแล้ว
“คนคนนี้โยนโทรศัพท์ไปเลย? รุนแรงมาก สมแล้วที่เป็นคนของถังฉิ้นเอ๋อ?” หลิวหยิงอดแลบลิ้นไม่ไหว รู้สึกน่ากลัวมาก
เวินลั่วฉิงก็ค่อนข้างตะลึง ถึงแม้ว่าไม่อยากรับสายก็ไม่ถึงขั้นต้องโยนโทรศัพท์ทิ้งหรอกมั้ง?
นั่นเป็นโทรศัพท์ของเขา ไม่ใช่ของเธอซะหน่อย!
เธอคิดว่าวันนั้นเขาตั้งใจเหลือเบอร์ไว้ให้เธอ หรือว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว หรือว่าเธอสำรวจละเอียดเกินไป ดังนั้นสิ่งที่ตัวเองจับได้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาตั้งใจให้เธอเห็น?
นี่ก็น่าเขินอายแล้ว
แต่ว่าเวินลั่วฉิงนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอวางแผนในวันนั้น ผมที่พวกเขานำไปคือผมของพยาบาล ผมของพยาบาลนำไปตรวจดีเอ็นเอต้องไม่สมบูนณ์แน่นอน
ก่อนหน้านี้พวกเขาเกรงใจเธอมาก ถึงขั้นยังเคารพมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเธอมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา ทว่าหลังจากที่พวกเขานำผมของพยาบาลไปทำการตรวจดีเอ็นเอแล้วต้องปฏิเสธความเป็นไปได้นี้แน่นอน
แน่นอนว่าไม่สามารถเกรงใจเธอมากเกินไป ถึงขั้นไม่ค่อยอยากจะพูดไร้สาระกับเธอแล้ว
คนขององค์กรโกสต์ซิตี้จริงใจมาก!!
ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามได้รับสายของเธอแล้วก็โยนโทรศัพท์ทิ้งเลย ต้องไม่อยากคุยกับเธอแน่นอน งั้นเรื่องของเธอก็ไม่สำเร็จแล้ว เวินลั่วฉิงจึงอยากจะวางสาย
ในตอนที่มือของเวินลั่วฉิงกำลังจะไปสัมผัสกับปุ่มวางสาย ทางฝ่ายตรงข้ามก็มีเสียงของชายหนุ่มดังผ่านมาอีกครั้ง “ฮัลโหลๆ เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณคือใครนะ?”
ครั้งนี้ ในน้ำเสียงไม่ได้มีความรำคาญ แต่ว่ามีความรนเพิ่มขึ้น เหมือนว่าจะมีความระมัดระวังด้วย
“ถังฉิ้นเอ๋อ” เวินลั่วฉิงไม่เข้าใจเลยว่าน้ำทำไมน้ำเสียงของคนคนนี้ถึงเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้มาก แต่ว่าตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามถามเธอ งั้นการพูดคุยหลังจากนี้ก็มีความเป็นไปได้แล้ว
“คุณ? คุณคือ……คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง” น้ำเสียงของฝ่ายตรงข้ามเหมือนมีความผิดปกติ เหมือนว่าจะหายใจไม่ทัน คำพูดติดๆ ขัดๆ
“ใช่” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว คนนี้แปลกมาจริงๆ แต่ว่าตอนที่เจอเขาที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ก็แปลกมาโดยตลอด
“คุณคือคุณหนูใหญ่ขอตระกูลถังจริงๆ” ครั้งนี้ชายหนุ่มพูดได้คล่องแคล่วมาก แต่ชัดเจนเลยว่าไม่เชื่อ อาจจะไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ว่าตกใจเกินไป มีความไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “คุณมีช่องทางการติดต่อของผมได้อย่างไร?”
“ครั้งที่แล้วนายเอาให้ฉันตอนอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ?” เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามมีการตอบสนองที่แปลกเกินไป เวินลั่วฉิงก็ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ชั่วคราวว่าฝ่ายตรงข้ามหมายความว่าอย่างไร
“ห๊ะ ใช้ ใช้ ผมเหลือไว้เอง……” ในน้ำเสียงของชายหนุ่มมีความตื้นตันเพิ่มขึ้น จากนั้นก็อดไม่ไหวชมไปตัวเองไปหนึ่งประโยค “ผมนี่ฉลาดจริงๆ”
ในตอนที่คุณชายหานพูดประโยคนี้ นัยน์ตาตั้งใจมองไปทางหัวหน้าน้อย นัยน์ตาชัดเจนมาก ร้องขอคำชม
เมื่อครู่นี้หัวหน้าน้อยกำลังจะคุยกับเขาว่าจะขอตัวอย่างของคุณหนูถังอีกครั้งเพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอกับหัวหน้ายังไง ทว่าพวกเขาคุยกันไปจะครึ่งวัน คิดหาวิธีที่สมบูรณ์แบบอย่างนับถ้วน ทว่าแต่ละวิธีก็ไม่สามารถเข้าไปตัวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้ พวกเขาจึงรู้สึกว่าแผนการของพวกเขาล้มเหลวในทันที
เพราะพวกเขารู้ในความสามารถของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง จะต้องจับแผนการของพวกเขาได้แน่นอน
ดังนั้นคุยไปคุยมา ไม่มีแผนการไหนที่สามารถปฏิบัติได้เลย ในตอนนี้พวกเขากำลังท้อแท้และหมดหวัง จู่ๆ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็โทรมา
นี่เป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิด
และตอนนั้นคุณชายหานเหลือเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เวินลั่วฉิงเอง ดังนั้น ณ ขณะนี้คุณชายหานมีสิทธิ์ร้องขอรางวัล
หัวหน้าน้อยดูชิวขึ้นมาทันที เขาเอนตัวมาทั้งคน ขณะนี้สีหน้าของหัวหน้าน้อยดูตื่นเต้นอย่างชัดเจน ยังมีความระมัดระวังแฝงด้วย
หัวหน้าน้อยไม่ได้พูดอะไร หัวหน้าน้อยไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังโทรมาในตอนนี้หมายความว่าอะไร ดังนั้นจึงไม่กล้าเอ่ยปากพูด
หัวหน้าน้อยสบตากับการร้องขอคำชมของคุณชายหาน นัยน์ตาที่ขอรางวัล เขาเมินไปเลย จากนั้นก็มองเขาอย่างเสียดสี บอกกับเขาผ่านสายตาว่าให้คุยเรื่องหลัก ถามก่อนว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังโทรมาทำไม
คุณชายหานได้สติกลับมา รีบถามต่อว่า “คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ท่านโทรมาหาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
ทันใดนั้นน้ำเสียงของคุณชายหานก็ดูให้เกียรติขึ้นทันที ใช้คำว่าท่านแล้วด้วย!!