ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1585 ท่าทีเปลี่ยนไปมาก (2)
เวินลั่วฉิงยังไม่มีการตอบสนองชั่วครู่ คนคนนี้ท่าทีเปลี่ยนไปเร็วมาก แต่ว่าทำไมเนี่ย?
หลิวหยิงในขณะนี้อึ้งไปทั้งหน้า เมื่อกี้ยังโยนโทรศัพท์อยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงให้เกียรติขนาดนี้แล้ว?
แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงฟังออกถึงความเคารพในน้ำเสียงของคุณชายหาน ดูเคารพยิ่งกว่าตอนที่เจอในโรงพยาบาลครั้งนั้น ทว่ารู้สึกบอกไม่ถูก เวินลั่วฉิงไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ
แต่ว่า ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามยอมคุยด้วย เวินลั่วฉิงก็รับพูดเรื่องหลัก “ครั้งที่แล้วหัวหน้าน้อยของพวกนายเปิดงานแถลงข่าวว่าจะจัดการกับคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องเจ้าหญิงปลอมขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกนายไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ครับ หัวหน้าน้อยของเราพูดเช่นนี้ครับ” ชัดเจนเลยว่าคุณชายหานคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าดูแปลกใจอย่างชัดเจน นัยน์ตาของคุณชายหานที่มองหัวหน้าน้อยในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว
หัวหน้าน้อยได้ยินเธอพูดถึงเขา ก็ดูตั้งใจฟังมากขึ้น ทว่ารู้สึกงงเล็กน้อยกับการที่เธอพูดถึงเรื่องนี้
หัวหน้าน้อยส่งสายตาบอกคุณชายหาน ถามเธอดูว่าหมายความว่าอะไร
“คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง นี่ท่านหมายความว่าอะไรครับ?” คุณชายหานถามด้วยความเคารพอีกครั้ง น้ำเสียงนั้นมีควายเป็นการไถ่ถามทั้งหมด
ฟังประโยคนี้ของเขาแล้ว เหมือนเวินลั่วฉิงมีความหมายยังไงพวกเขาก็จะทำตามความหมายของเวินลั่วฉิง
นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าเธอน่าจะเข้าใจความหมายของคุณชายหานผิดไป
“ฉันก็แค่อยากจะให้เบาะแสหนึ่งกับหัวหน้าน้อยพวกนาย” เวินลั่วฉิงนพความแปลกประหลาดของฝ่ายตรงข้ามไว้ข้างๆ ก่อน พูดเรื่องหลักก่อน ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยก็เป็นเรื่องที่กระชั้นชิดแล้ว
“ให้เบาะแสกับหัวหน้าน้อยพวกเรา?” คุณชายหานเลิกตาโตกว้าง ขณะนี้เขากำลังพูดซ้ำคำพูดของเวินลั่วฉิง จริงๆ แล้วคือพูดให้หัวหน้าน้อยฟัง
หัวหน้าน่าเหลือกตาขาวให้เขา จากนั้นก็รีบยื่นมือออกไป เปิดลำโพง
“คุณถัง ท่านพูด ท่านพูดเลยครับ ท่านจะให้เบาะแสอะไรครับ พวกเรา……กำลังฟังอยู่ครับ ผมจะนำไปบอกหัวหน้าน้อยแน่นอนครับ” ท่าทีของคุณชายหานนั้นดีมาก น้ำเสียงก็ให้ความเคารพมากๆ
เวินลั่วฉิงเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่าตำแหน่งของคุณชายหานในองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ต่ำ น่าจะสามารถคุยกับหัวหน้าน้อยได้ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่โทรเบอร์นี้
“ช่วงก่อนองค์กรโกสต์ซิตี้ต่อต้านตระกูลถังมาโดยตลอด เรื่องนี้นายคงจะรู้ใช่ไหม?” แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงไม่สามารถพูดตรงๆ ได้ ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้ เธอที่เป็นคนนอกรู้มากไป อย่างน้อยก็คงต้องการเหตุผลหนึ่ง
คุณชายหานได้ยินประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปเลย ยื่นมือออกมาเช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าผาก ดังนั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะมาคิดบัญชีกับพวกเขาเหรอ?
คุณชายหานเงยหน้าขึ้นมาหัวหน้าน้อย ครั้งนี้เขาไม่ต้องบอกต่อ โทรศัพท์ได้เปิดโหมดลำโพงแล้ว หัวหน้าน้อยได้ยินคำพูดของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าหัวหน้านี้ได้ยินประโยคนี้ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้วหมายความว่าอะไร?
สีหน้าของหัวหน้าน้อยในตอนนี้ค่อนข้างอึมครึม นัยน์ตาก็ดูเย็นชาลง เขาทำท่าภาษามือกับคุณชายหานไป
คุณชายหานเข้าใจความหมายของหัวหน้าน้อยทันที รีบอธิบายกับเวินลั่วฉิงทางโทรศัพท์ว่า “คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เข้าใจผิด เข้าใจผิดแล้วครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเราเลย หัวหน้าน้อยของเราไม่รู้เรื่องเลยครับ คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ในเมืองAเป็นคนทำในที่ลับครับ ที่ไม่ใช่ความหมายขององค์กรโกสต์ซิตี้เราเลยครับ”
“ฉันรู้” ตอนแรกเวินลั่วฉิงแค่อยากจะปูพื้นให้กับคำพูดต่อจากนี้ เธอคิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีการตอบสนองที่ใหญ่ขนาดนี้
“ครับ ครับ ท่านรู้ก็ดีแล้วครับ เข้าใจก็ดีแล้วครับ องค์กรโกสต์ซิตี้ของเราไม่มีความคิดร้ายกับตระกูลถังแม้แต่นิดเลยครับ และไม่ได้อยากต่อต้านตระกูลถังเลยแม้แต่นิดนะครับ” คุณชายหานแสดงท่าทีและจุดยืนขององค์กรโกสต์ซิตี้
“ฉันรู้ เรื่องพวกนั้นฉันสืบมาหมดแล้ว ฉันรู้ว่าเจิ้งฉงและไป๋หยิงเป็นคนทำ ตอนที่ฉันสืบเรื่องพวกนั้น สืบเจอว่าเจ้าหญิงปลอมของพวกนายก็มีความเกี่ยวข้องกับเจิ้งฉงและไป๋หยิง ดังนั้นฉันถึงได้โทรหาพวกนาย ให้เบาะแสกับหัวหน้าน้อยพวกนาย” เวินลั่วฉิงไม่ได้จะมาคิดบัญชีกับองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอก็แค่อยากหาเหตุผลที่เหมาะสมกับเรื่องที่เธอรู้
การตอบสนองของฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะใหญ่เกิดไป!!
“ห๊ะ?” คุณชายหานอึ้งไปเลย ยังไม่มีการตอบสนองชั่วครู่ ดังนั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังหมายความว่าอะไรกันแน่?
แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่คุณชายหานฟังเข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ได้มาคิดบัญชีกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ขอแค่ไม่ได้มาคิดบัญชีก็พอแล้ว คุณชายหานดูโล่งอกไปทีอย่างชัดเจน
“นายไม่เข้าใจความหมายของฉัน?” เวินลั่วฉิงได้ยินน้ำเสียงที่ดูตกใจของฝ่ายตรงข้ามแล้วก็อดถามกลับไปไม่ได้
“ห๊ะ? ห๊ะ!” ตอนแกนั้นคุณชายหานไม่เข้าใจ ทว่าคุณชายหานหันไปมองสีหน้าที่เย็นชาของหัวหน้าน้อยแล้วก็ได้สติกลับมาทันที ในที่สุดก็เข้าในความหมายของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว “เข้าใจ เข้าใจ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะให้เบาะแสกับหัวหน้าน้อย เจิ้งฉงและไป๋หยิงเป็นผู้บงการเรื่องของเจ้าหญิงตัวปลอม”
“อื้ม” เวินลั่วฉิงตอบกลับด้วยเสียงเบา ถือว่าพูดชัดเจนแล้ว เธอรู้สึกว่ายากจริงๆ
หัวหน้าน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าของคุณชายหานหรี่ตาลง จากนั้นก็ทำท่าภาษามือให้กับคุณชายหานอีกครั้ง
คุณชายหานเข้าในความหมายของหัวหน้าน้อยตนเองแล้วก็อดเบ้ปากไม่ไหว แต่ว่าในเมื่อเป็นความหมายของหัวหน้าน้อย งั้นเขาก็จะทำตาม
“คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ความหมายของคุณคืออยากให้หัวหน้าน้อยเราจัดการกับเจิ้งฉงและไป๋หยิงยังไงครับ” คุณชายหานถามเวินลั่วฉิงอีกครั้งตามความหมายที่หัวหน้าน้อยบอกเมื่อกี้
เวินลั่วฉิงอึ้งไปเลย เธอก็แค่มาให้เบาะแส จะจัดการยังไงนั่นเป็นเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา เธอมีความหมายอย่างไรสำคัญเหรอ?
ความหมายของเธอยังจะสามารถส่งผลกระทบต่อหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้เหรอ?
หลิวหยิงยิ่งฟังก็ยิ่งสับสน ยิ่งฟังก็ยิ่งตกใจ นี่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้กำลังถามฉิงฉิงอยู่ว่าจะจัดการกับไป๋หยิงและเจิ้งฉงยังไง
ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนเยอะเกินไปแล้วมั้ง?
อีกอย่างพวกเขายังถามความหมายของฉิงฉิงอีก ฉิงฉิงช่างเก่งกาจจริงๆ!!
“นี่คือเรื่องภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกนาย จะจัดการยังไงมีหัวหน้าน้อยของพวกเขาตัดสินใจ” ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงจะมีความสงสัย ทว่าก็ยังพูดความหมายของเธอไป
“หัวหน้าน้อยของเราบอกว่าฟังท่านครับ……” คุณชายหานสมองกระตุก ปากทะล้น หลุดพูดออกมาเลย
“หืม?” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเขาแล้วก็ขมวดคิ้ว ถึงแม้ตอนสุดท้ายคำพูดของคุณชายหานจะหยุดลงแล้ว ทว่าความหมายชัดเจนมากแล้ว เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดเพียงไหน แน่นอนว่าฟังออกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
หัวหน้าน้อยจ้องไปทางคุณชายหานเลย
คุณชายหานเบ้ริมฝีปาก ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย ทว่าชัดเจนเลยว่าตอนนี้เก็บไม่อยู่แล้ว คุณชายหานรู้ดีถึงความเก่งกาจของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ดังนั้นไม่ต้องปิดบังเลย
“ตอนนี้ผมอยู่กับหัวหน้าน้อยของเราครับ หัวหน้าน้อยของเราอยากลองฟังความหมายของท่าดูครับ ไม่ว่ายังไงแล้วเจิ้งฉงและไป๋หยิงก็ต่อต้านตระกูลถังมาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องนี้ท่านมีสิทธิ์ในการพูดครับ” ในเมื่อเรื่องราวถูกจับได้แล้ว คุณชายหานก็ไม่ปิดบังต่อ แต่ว่าเหตุผลที่ให้ออกมาในตอนสุดท้ายไหวพริบดีมากจริงๆ
“ความหมายของหัวหน้าน้อยคือเรื่องนี้สามารถส่งให้ตระกูลถังจัดการได้?” ใบหน้าของเวินลั่วฉิงดูหนักแน่นขึ้น เมื่อกี้เธอพึ่งสืบเรื่องทุกอย่างได้ชัดเจน เธอยังไม่ทันลงมือ ไป๋หยิงก็ตายแล้ว
ไม่ว่ายังไงแล้วเจิ้งฉงก็เป็นผู้รับผิดชอบในเมืองAขององค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่รีบลงมือ หากตระกูลถังลงมือแล้วหัวหน้าน้อยไม่ว่าอะไร งั้นแน่นอนว่าเธอก็ไม่มีอะไรจะต้องสนใจแล้ว จะต่อต้านกับเจิ้งฉงก็ไม่ได้ยาก
เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยก็จัดการได้เรียบร้อยแล้ว
“ห๊ะ นั่นแน่นอน……” คุณชายหานไม่มีปัญหาเลยกับจุดนี้ แค่เจิ้งฉงและไป๋หยิงเท่านั้นเอง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยากจัดการยังไงก็ได้
ทว่าคุณชายหานยังไม่ทันพูดจบ โทรศัพท์ในมือก็ถูกหัวหน้าน้อยแย่งไป หัวหน้าน้อยยังปิดลำโพงอีกด้วย
“คุณอยากจัดการพวกเขาสองคนอย่างไร?” หัวหน้าน้อยรูปหล่อ เสียงก็น่าฟังมาก
เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของหัวหน้าน้อยแล้วก็อึ้งไปชั่วครู่ ไม่เพียงแต่เพราะเสียง ยังเป็นเพราะคำถามนี้อีกด้วย
“ความหมายของหัวหน้าน้อยคือฉันอยากจัดการยังไงก็สามารถจัดการได้เหรอ?” เวินลั่วฉิงไม่ได้หลงตัวเองมากเกินไปจริงๆ คำพูดของหัวหน้าน้อยในมีความหมายเช่นนี้จริงๆ
“อื้ม คุณอยากจัดการอย่างไรก็จัดการอย่างนั้น” หัวหน้าน้อยพูดซ้ำอีกรอบ ถึงแม้น้ำเสียงจะไม่สูง ทว่าความหมายกลับชัดเจนมาก
“ห๊ะ ไม่หรอกมั้ง? เธอพูดแล้วได้ เธออยากจัดการยังไงก็จัดการยังไง? ฉิงฉิง คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้จะฟังเธอ? เขา เขาจะเป็นตัวปลอมหรือเปล่า?” หลิวหยิงในตอนนี้ตกใจมาก