ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1599 คุณชายสามเย่พึงพอใจแล้ว (2)
“คุณไม่กลัวว่าฉันจะเกลียดคุณเลยเหรอ?” เวินลั่วฉิงอยากรู้มากว่าในหัวของคุณชายสามเย่ตอนนี้มันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?!
เธอคิดว่าตอนนี้ความคิดของคุณชายสามเย่มันผิดปกติไปหมดเลย!!
คุณชายสามเย่ตะลึงงันไป ดวงตาทั้งสองข้างได้จ้องมองตรงไปที่เธอ เหมือนกับว่าได้นิ่งอึ้งไปเลยชั่วขณะนึง ท่าทางดูช็อกนิ่งไปเล็กน้อย เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย
แต่ตอนนี้เวินลั่วฉิงได้พูดถึงเรื่องนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่กำลังครุ่นคิดถึงปัญหาข้อนี้ไปอย่างจริงจังขึ้นมาอีกที
เวินลั่วฉิงอยากจะหัวเราะออกไป อย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย ไม่อาจจะตั้งความหวังกับคนที่สติปัญญาติดลบมากเกินไปได้เลย
“ความหมายของคุณคือคุณจะเกลียดผมเพราะเรื่องไป๋ยี่รุ่ย?” หลังจากที่คุณชายสามเย่ได้สติกลับมาแล้ว ในดวงตาที่มองไปยังเวินลั่วฉิงเหมือนกับว่าจะดูมีอารมณ์ที่ผิดแปลกไปเพิ่มมาเล็กน้อย
“ในใจของคุณผมยังสำคัญสู้ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้?” น้ำเสียงของเย่ซือเฉินในตอนนี้ได้นิ่งขรึมไป เหมือนกับว่ามีหลากหลายอารมณ์ซ่อนอยู่ แต่ก็แยกแยะได้ไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไหร่นักอีกเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงแทบะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเลย แต่ว่าเธอก็ยังกลั้นไว้ เธอตีหน้านิ่ง มองไปอย่างจริงจังสุด ๆ “คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
“เวินลั่วฉิง พวกเรายังมีลูกอีกสองคนนะ” คุณชายสามเย่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงหลายที ตอนนี้ยังคงกัดฟันอยู่ แต่ก็ได้ลดความเกลียดชังเมื่อก่อนหน้านี้พวกนั้นลงไปแล้ว แต่ได้เพิ่มอารมณ์แบบอื่นขึ้นมาแทน เหมือนกับว่าจะมีความตึงเครียด แล้วก็มีความกังวลขึ้นมาด้วย
และตอนนี้คุณชายสามเย่ก็ได้เปลี่ยนคำเรียกไปหมดแล้ว ไม่ใช่ฉิงฉิง แต่เป็นเวินลั่วฉิง
และตอนนี้เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองพอ ดังนั้นแล้วจึงได้ย้ายลูกทั้งสองคนออกมาแล้วด้วย
“ไม่งั้น ฉันก็พาลูกทั้งสองคน…” เวินลั่วฉิงจงใจยั่วเย้าเขาต่อ สมองในตอนนี้มันไม่ทำงานเลยสักนิดแล้วจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย
“เวิน ลั่ว ฉิง” เย่ซือเฉินได้ก่นเสียงต่ำออกมาทันที คำที่พูดออกมาแต่ละคำมันมีความหมายเชิงข่มขู่กันแบบชัดเจนเสียจนไม่อาจชัดไปกว่านี้ได้แล้ว
เธอหมายความว่าอะไร? เธอยังคิดจะพาลูกทั้งสองคนไปแต่งงานใหม่กับไป๋ยี่รุ่ยด้วย?
อย่าแม้แต่จะคิด!!
“ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้น ฉันได้ยิน” เวินลั่วฉิงถูกการกู่ร้องเสียงต่ำออกมากะทันหันของเขาทำเอาตกอกตกใจไป ถึงแม้ว่าเสียงกู่ร้องของเขาจะไม่ได้ดังนัก แต่ตอนนี้เธออยู่ใกล้กับเขามาก
“หลังจากนี้ถ้าให้ผมได้ยินคำพูดอย่างนี้อีก ก็รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาด้วย” ดวงตาของคุณชายสามเย่ได้หรี่ลงเล็กน้อย ความหมายของการข่มขู่มันชัดเจนมาก
“งั้นคุณว่ามาฉันควรจะทำยังไง? ไม่งั้นคุณก็ช่วยฉันออกความคิดเห็นมาหน่อยสิ” เวินลั่วฉิงตัดสินใจว่าอย่าไปยั่วเย้าเขาอีกจะดีกว่า คุณชายสามเย่ที่สติปัญญาติดลบอันที่จริงมันก็อดไม่ได้ที่จะเย้าหยอกอยู่หรอก
“เวินลั่วฉิง คุณได้รับปากแล้วว่าจะไปจดทะเบียนสมรสกับผม ถ้าไม่เป็นเพราะเรื่องเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้พวกเราก็ได้จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว” เย่ซือเฉินลอบถอนหายใจออกมา ถอนหายใจออกมา พยายามทำให้ตัวเองสงบลงอย่างสุดกำลัง
ตอนนี้เธอหมายความว่าอะไรกัน?
นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะให้เขาออกความคิดให้เธอ?
หรือว่าเธอจะคิดว่าเขาช่วยให้เธอสมหวังกับไป๋ยี่รุ่ยได้งั้นเหรอ?
หรือว่าเธอจะคิดว่าเขาจะให้เธอได้คบกับไป๋ยี่รุ่ยอย่างนั้นเหรอ?
“ใช่แล้ว ฉันได้รับปากคุณไปแล้วว่าจะไปจดทะเบียนสมรสกับคุณ แต่ในใจของฉันถ้ามันยังมีคนอื่นอยู่ ฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกับคุณได้ยังไงกันล่ะ?” เวินลั่วฉิงมองไปยังเขา ในน้ำเสียงฟังไม่ออกถึงอารมณ์มากมายนัก แต่ความหมายของคำที่ได้พูดออกมามันก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว
แน่นอนว่า ก็ต้องดูด้วยว่าจะเข้าใจมันว่ายังไง
“คุณหมายความว่าอะไร?” สีหน้าของคุณชายสามเย่จู่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนไป น้ำเสียงก็ได้เปลี่ยนไปทันทีอย่างเห็นได้ชัด ความหมายนี้ของเธอคือนึกเสียใจภายหลังขึ้นมา?
ไม่อยากแต่งกับเขาแล้ว? อยากจะแต่งกับไป๋ยี่รุ่ย?
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเมื่อตอนนั้นเธอกับไป๋ยี่รุ่ยเลิกกันไปทั้งหมดล้วนเป็นกลอุบายของไป๋หยิงทั้งนั้น ไม่ใช่ความผิดไป๋ยี่รุ่ย ตอนนี้เธอก็เลยอยากจะกลับไปอยู่ข้างกายไป๋ยี่รุ่ยอีกครั้ง?
“ความหมายก็ตามที่พูดไป” เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายไป เธออยากจะลองดูว่าคุณชายสามเย่ยังจะเรียกสติปัญญาขั้นสุดยอดนั้นออกมาได้หรือเปล่า
“คุณอยากหย่า?” คุณชายสามเย่เงียบไปหลายนาที ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเธออีกครั้ง ดวงตาเหมือนกับว่าจะแดงออกมาด้วยเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงอึ้งไป หมดคำพูดไปชั่วขณะ ดังนั้นแล้วนี่ก็คือความเข้าใจของเขา ดังนั้นแล้วตอนนี้คุณชายสามเย่ก็ไม่เหลือสติปัญญาอยู่เลยสักนิดเดียวจริง ๆ
“ขอเตือนหน่อย พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะ?” เวินลั่วฉิงคิดว่าเธอยังมีความจำเป็นจะต้องเตือนสติคุณชายสามเย่ในเรื่องนี้สักหน่อย พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน ดังนั้นแล้วจึงไม่มีปัญหาในเรื่องการหย่ากันอยู่แล้ว
“…” คำพูดของคุณชายสามเย่สิ้นสุดลงไป ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่ชั่วขณะ เพียงแค่มองเวินลั่วฉิงอยู่อย่างนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขานึกไม่ถึงว่าการสนทนาของพวกเขาจะเปลี่ยนกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้
ใช่แล้ว พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกันเลย ดังนั้นแล้วความหมายเธอคือ ถ้าเธออยากจะคบอยู่กับไป๋ยี่รุ่ย ก็สามารถไปหาไป๋ยี่รุ่ยได้เลย
เขาไม่ได้พูดอะไร เวินลั่วฉิงเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเหมือนกัน เธอให้เวลาเขา รอให้เขามีการตอบสนองกลับมา
เวินลั่วฉิงรออยู่นาน คุณชายสามเย่เหมือนกับว่าจะเรียกสติกลับมาได้เสียที “คุณ? อยากจะคบอยู่กับไป๋ยี่รุ่ยจริง ๆ”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดที่เขาข่มกลั้นอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้ จิตใจหดหู่ขึ้นมาเลยทันที สมองนี่ของเขามันถูกประตูหนีบไปแล้วหรือไง?
เวินลั่วฉิงโกรธจนยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่เขา “คุณไสหัวออกไปได้แล้ว”
“ทำไม?” เย่ซือเฉินเดิมทีก็โกรธมากอยู่แล้ว ตอนนี้มาได้ยินคำพูดเธออีก ก็ได้ตอบกลับไปทันที “ที่นี่เป็นห้องทำงานของผม”
“งั้นฉันไปเอง” เวินลั่วฉิงถูกเขาทำให้โกรธจัดจนยิ้มออกมา ผู้ชายคนนี้สุดยอดจริง ๆ เลย!!
แต่ว่าตอนนี้มือของเย่ซือเฉินยังโอบเอวของเธออยู่ ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงอยากจะเดินออกไปก็ไปไม่ได้ เพราะว่าคุณชายสามเย่ไม่ปล่อยมือไปเลย
“ถ้าคุณอยากจะคบอยู่กับไป๋ยี่รุ่ยจริง ๆ …” คุณชายสามเย่หายใจออกมาอย่างแรง ตอนที่เอ่ยปากพูดออกมาอีกครั้ง ในน้ำเสียงได้ประดับไปด้วยเสียงที่แหบพร่าออกมาด้วยเล็กน้อย
“หืม?” หางคิ้วของเวินลั่วฉิงได้เลิกออกมาเล็กน้อย ดวงตาทั้งสองข้างได้จ้องมองตรงไปยังเขา ถ้าเขากล้าพูดออกมาว่าจะช่วยให้เธอได้สมหวังกับไป๋ยี่รุ่ยแล้วล่ะก็ เธอจะไปทันที
“เว้นเสียแต่ว่าผมจะตายไป” สีหน้าของคุณชายสามเย่ได้เปลี่ยนไปกะทันหัน น้ำเสียงเองก็ได้เปลี่ยนทันที ประดับไปด้วยความเกลียดชังที่ชวนให้รู้สึกสั่นกลัวขึ้นมา
เวินลั่วฉิงลอบถอนหายใจออกมา โชคดีที่…
สติปัญญาของคุณชายสามเย่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าติดลบไปแล้ว แต่ความจองหองและความเอาแต่ใจของคุณชายสามเย่ทำให้เขาไม่มีทางจะยอมถอยไปเป็นอันขาด
“เย่ซือเฉิน คุณโง่หรือเปล่า” ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่รู้เลยว่าควรจะต้องพูดอะไรออกไป เธอนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคุณชายสามเย่จะมีตอนที่โง่ขนาดนี้อยู่เหมือนกัน นี่มันโง่สุด ๆ ไปเลยนะเนี่ย
คิ้วของคุณชายสามเย่ได้ขมวดออกมาเล็กน้อย มองเธอไปอย่างแฝงไปความรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อย “หมายความว่าอะไร?”
เมื่อกี้เขากำลังพูดเรื่องไป๋ยี่รุ่ยกับเธออยู่ ทำไมถึงได้โง่ไปแล้ว?
เขาก็แค่บอกว่าเธออยากอยู่กับไป๋ยี่รุ่ย เว้นเสียแต่ว่าเขาจะตายไป นี่เขาโง่?
หรือว่าจะให้เขาเห็นเธอคบอยู่กับไป๋ยี่รุ่ยไปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?
หรือว่ายังจะให้เขาอวยพรให้พวกเขาด้วยงั้นเหรอ?
นั่นมันเป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด!!
“ถ้าในใจฉันคิดถึงไป๋ยี่รุ่ยอยู่ คุณคิดว่าฉันจะคบกับคุณเหรอ?” เวินลั่วฉิงคิดว่าด้วยสติปัญญาในตอนนี้ของคุณชายสามเย่นั้นถ้าไม่พูดกับเขาไปตรง ๆ เขาจะต้องไม่มีวันจะเข้าใจแน่เลย
“ผมคิดว่าเป็นไปได้ ผมยอดเยี่ยมกว่าไป๋ยี่รุ่ย หน้าตาดีกว่าไป๋ยี่รุ่ย รวยกว่าไป๋ยี่รุ่ย” คุณชายสามเย่พยายามคิดอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วตอบกลับคำพูดของเวินลั่วฉิงไปอย่างจริงจังมาก
เวินลั่วฉิงได้ตกตะลึงไปเลย นี่คุณชายสามเย่ใช้ทฤษฎีอะไรกัน ในหัวของเขามันมีอะไรอยู่กันแน่